เกิดอุบัติเหตุอื้อ ส่งศาล459คดี เพิ่มโบกี้อีสาน ลงเรือสวมชูชีพ
วันแรก 7 วันอันตรายสงกรานต์ตาย 26 บาดเจ็บ 238 ราย สาเหตุอันดับหนึ่งขับซิ่ง-เมาแล้วขับ จยย.มากสุด สุพรรณบุรีแชมป์ดับ 3 ราย นครศรีธรรมราชเกิดอุบัติเหตุมากสุด 12 ครั้ง บาดเจ็บสูงสุด 14 ราย ศาลสั่งคดีแล้ว 459 คดี เฉพาะเมาขับ 328 คดี ศปถ.คุมเข้มเส้นทางสายหลัก จุดเสี่ยงอุบัติเหตุ ทางโค้งขึ้น-ลงเขา ถนนมิตรภาพจราจรคล่องตัว เหตุคนทยอยเดินทางกลับล่วงหน้า มีทางเลี่ยงเพิ่มขึ้น ‘บิ๊กตู่’อวยพรขอให้ประชาชนเริ่มต้นที่ดีปีใหม่ไทย บอกเสียใจ ทุกครั้งที่มีการสูญเสีย บิ๊กปั๊ดชี้กวดขันจราจร ส่งผลให้อุบัติเหตุวันแรกลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว รถไฟสายอีสานแน่นทุกเที่ยว เพิ่มขบวน ทั่วประเทศจัดสรงน้ำพระเข้มโควิด ลำปางอัญเชิญพระเจ้าแก้วมรกตให้สรงน้ำสงกรานต์ แห่เที่ยวทะเลตรังแน่น กรมเจ้าท่ากำชับลงเรือ-ออกทะเลเข้มสวมชูชีพ บุรีรัมย์สรงน้ำหลวงพ่อโต ด่านเจดีย์สามองค์ เมือง กาญจน์ก็คึกคัก

ออกกรุง – ยวดยานออกจากกทม.กลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว หลังทำงานวันสุดท้ายก่อนหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ทำให้การจราจรคับคั่งบนถนนพหลโยธินขาออก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเย็นวันที่ 12 เม.ย.

วันแรกดับ 26 เจ็บ 238 คน
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี (ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์) เปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ.2565 โดยปภ.และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่าย ได้รวบรวม สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 11 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของการรณรงค์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” โดย เกิดอุบัติเหตุแล้ว 237 ครั้งผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้บาดเจ็บ 238 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 32.91 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 21.94 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.90 ส่วนใหญ่เกิดบนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 44.73 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 30.38 บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นทางตรง ร้อยละ 83.97 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 11.01-12.00 น. ร้อยละ 8.44 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 23.86 โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด นครศรีธรรมราช 12 ครั้ง บาดเจ็บสูงสุด นครศรีธรรมราช 14 คน ผู้เสียชีวิตสูงสุด สุพรรณบุรี 3 ราย ได้จัดตั้ง จุดตรวจหลัก 1,902 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 56,343 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 350,748 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 64,343 ราย มีความผิดฐานไม่มีใบขับขี่ 18,275 ราย ไม่สวมหมวกนิรภัย 17,748 ราย

ขับซิ่ง-เมาแล้วขับอันดับ 1
นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีปภ. ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กล่าวว่า จากข้อมูลสถิติพบว่าจำนวนอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตลดลงกว่าร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันแรกของการรณรงค์ย้อนหลัง 3 ปี แต่สาเหตุหลักยังคงเกิดจากการขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับ ขณะที่พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้ผู้ประสบเหตุเสียชีวิต คือการขับขี่รถจักรยานยนต์โดย ไม่สวมหมวกนิรภัย ศปถ. จึงได้ประสานจังหวัดเข้มงวดกวดขันการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัยของผู้ขับขี่ เพื่อลดอัตราการบาดเจ็บเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ทั้งนี้ หากประชาชนที่ประสบหรือพบเห็นอุบัติเหตุ แจ้งเหตุได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 หรือแจ้งเหตุทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน ไลน์ไอดี @1784DDPM เพื่อประสานการช่วยเหลือ

สั่งคุก 459 คดี-นนท์แชมป์
ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า สถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติ วันแรกของการรณรงค์ป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ มีคดีทั้งสิ้น 459 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 328 คดี คิดเป็นร้อยละ 71.46 คดี ขับรถประมาท 8 คดี คิดเป็นร้อยละ 1.74 และคดีขับเสพ 123 คดี คิดเป็นร้อยละ 26.8 จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ นนทบุรี 55 คดี อุบลราชธานี 47 คดี และพระนครศรีอยุธยา 44 คดี

นอกจากนี้ ทางกรมได้จัดกิจกรรมสนับสนุน ณ จุดบริการประชาชน ด่านตรวจค้น และด่านชุมชน จำนวน 25 จุด โดยมีอาสาสมัครคุมประพฤติ เครือข่ายยุติธรรมชุมชน ผู้ถูกคุมความประพฤติ ประชาชน และภาคีเครือข่าย จำนวนทั้งสิ้น 803 คนเข้าร่วมกิจกรรม พร้อมทั้งจัดกิจกรรมรณรงค์ประชาสัมพันธ์ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ “เมาขับ จับติด EM” และทำงานบริการสังคมตามจุดเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุทางถนน เช่น การทำความสะอาดป้ายจราจรและท้องถนน และการตัดแต่ง กิ่งไม้เพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทย โดยศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามแผนบูรณาการลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้แนวคิด “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนเข้มมาตรการโควิด ไม่สาดน้ำใส่กัน ห้ามจัดกิจกรรมปาร์ตี้โฟม ประแป้ง ดื่มหรือจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพี่น้องประชาชนพบเห็นสิ่งใดที่เป็นอันตราย หรือต้องการ ขอความช่วยเหลือในทุกเรื่อง โทร.สายด่วนศูนย์ดำรงธรรม 1567 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อ ผวจ. นายอำเภอ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ จิตอาสา และอาสาสมัคร เข้าให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที

ตรวจจราจร – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลจุดบริการประชาชนขามทะเลสอ หลังขึ้น ฮ.บินตรวจเส้นทางจราจรช่วงสงกรานต์ จากกรุงเทพฯ ถึง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 12 เม.ย.

ผบ.ตร.พอใจกวดขันจราจร
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ดูแลงานด้านจราจร เปิดเผยรายงานสถิติการกวดขันวินัยจราจร เพื่อลดอุบัติเหตุ โดยบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหา ตามมาตรการรณรงค์เพื่อการขับขี่ปลอดภัยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2565 ในชื่อแคมเปญ “10 ร ส ข ม”

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 4-10 เม.ย. ซึ่งเป็นสัปดาห์ก่อนเข้าสู่ 7 วันควบคุมเข้มข้น หรือ 7 วันอันตราย 11-17 เม.ย. มีดังนี้ 1.ไม่สวมหมวกนิรภัย 7,920 ราย 2.มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 5,053 ราย 3.เมาแล้วขับ 1,467 ราย 4.ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 1,580 ราย 5.ไม่มีใบขับขี่ 22,475 ราย

6.ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 167,469 ราย 7.ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 4,947 ราย 8.ขับรถย้อนศร 1,210 ราย 9.แซงในที่คับขัน 100 ราย และ 10.ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 110 ราย รวมการจับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายจราจรใน 10 ข้อหาหลักจำนวน 212,331 ราย

“พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พอใจกับผลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอำนวยการจราจรและบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน โดยในวันแรกของช่วง 7 วันควบคุมเข้มข้น สถิติในภาพรวมเมื่อเทียบกับวันเดียวกับสงกรานต์ปีก่อน ลดลงทุกตัวเลข ข้อมูลสถิติของวันที่ 11 เม.ย.2565 เกิดอุบัติเหตุ 237 ครั้ง วันเดียวกันปี 2564 อุบัติเหตุ 345 ครั้ง สถิติลดลง 108 ครั้ง คิดเป็น 31.30% มีผู้บาดเจ็บ 238 ราย ลดจากวันเดียวกันของปีที่แล้ว 105 คน คิดเป็นลดลง 30.61% ผู้เสียชีวิต 26 คน ลดจากวันเดียวกันของปีที่แล้ว 10 ราย คน คิดเป็น 27.78%” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าว

ขณะที่วันที่ 11 เม.ย. ซึ่งเป็นวันแรกของช่วงควบคุมเข้มข้น มีผู้ฝ่าฝืนกฎจราจรจำนวน 47,643 ราย จำแนกเป็น ไม่สวมหมวกนิรภัย 6,717 ราย, มอเตอร์ไซค์ไม่ปลอดภัย 1,218 ราย, เมาแล้วขับ 1,162 ราย, ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย 2,012 ราย, ไม่มีใบขับขี่ 9,311 ราย, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด 25,207 ราย, ฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร 1,195 ราย, ขับรถย้อนศร 546 ราย, แซงในที่คับขัน 81 ราย และใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 194 ราย

‘บิ๊กตู่’เสียใจอุบัติเหตุ-สูญเสีย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันที่ 13 เม.ย. จะเริ่มวันหยุดสงกรานต์ขอให้เป็นสงกรานต์ที่ปลอดภัยเป็นไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ต้อง เตรียมพร้อมตนเองให้ดี ขับรถอย่าดื่มสุรา พักผ่อนให้เพียงพอ และตรวจสอบยานพาหนะ โดยวันนี้อุบัติเหตุลดน้อยลง แต่หากไม่เกิดน่าจะดีกว่า เพราะไม่อยากให้เกิดการสูญเสีย โดยได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัย การอำนวยความสะดวก หลักการป้องกันโควิด-19 ให้มีการกวดขัน ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ในพื้นที่จะต้องช่วยกันรักษาให้มีความปลอดภัย เพื่อจะได้เดินทางไปมาหาสู่กันมากขึ้น ในส่วนของรัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข และศบค. ได้มีการหารือกับบุคลากรทางการแพทย์ในการเตรียมเวชภัณฑ์ จำนวนมากขึ้นให้เพียงพอหากมีผู้ติดเชื้อมากขึ้น ขอให้ทุกคนมีความสุขกับวันหยุดพักผ่อน ใช้เวลาให้มีคุณค่ากับครอบครัว ปลอดโรค ปลอดภัยทุกคน

“ผมขอเน้นย้ำให้ทุกคนดูแลชีวิตตนเองและชีวิตคนอื่นด้วย ไม่มีใครดูแลได้ตลอด 24 ช.ม. ผมเสียใจทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ และการสูญเสีย ไม่เคยสบายใจเรื่องเหล่านี้ โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ที่มีคนแออัด ดังนั้น ขับรถเร็วมากไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมามีบาดเจ็บสูญเสียทุกครั้ง และผมได้ย้ำเตือนมาตลอด” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ทางเลี่ยงช่วยระบายถ.มิตรภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจร เวลา 14.00 น. บนทางหลวงหมายเลข 2 ถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าเข้า จ.นครราชสีมา เริ่มมีปริมาณรถหนาแน่นมากขึ้น ซึ่งคาดว่า ประชาชนจำนวนมากที่เริ่มได้หยุดเทศกาลสงกรานต์ ต่างเร่งเดินทางกลับภูมิลำเนาในพื้นที่ภาคอีสาน ให้ทันไปร่วมเฉลิมฉลองและทำบุญเสริมสิริมงคล รับวันมหาสงกรานต์ของปี ในวันที่ 13 เม.ย. ส่งผลให้การจราจรบนถนนมิตรภาพเริ่มหนาแน่น แต่ยังคล่องตัว ใช้ความเร็วได้ 70-90 ก.ม.ต่อชั่วโมง มีชะลอตัวในบางช่วง โดยเฉพาะบริเวณทางขึ้นและลงเนินเขาที่มีความลาดชันสูง บริเวณ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา และก.ม.ที่ 53-55 บ้านมอบันไดม้า ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง ก่อนถึงด่านกักสัตว์นครราชสีมา ซึ่งเป็นทางโค้งลงเนินลาดชัน ถือเป็นจุดเสี่ยงจุดอันตรายอีกจุดหนึ่งบนถนนมิตรภาพ ที่ทำให้รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง เสียหลักหลุดโค้ง เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และยังเปิดจุดกลับรถในช่วงเทศกาล เพราะรถบรรทุกจากโรงโม่หินส่วนใหญ่ จะใช้เป็นจุดกลับรถตัดข้ามถนน คาดการณ์ว่า ช่วงค่ำจนถึงช่วงดึกวันเดียวกันปริมาณรถจะเพิ่มมากขึ้นอีก

ส่วนที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 โชคชัย-เดชอุดม ช่วงอ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นอำเภอที่รองรับรถจากทั้งภาคกลาง และภาคตะวันออก เชื่อมต่อกับถนนสาย 348 นางรอง-โนนดินแดง มีรถสัญจรหนาแน่น

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี มอบของขวัญวันสงกรานต์และช่วยแบ่งเบาลดภาระประชาชนที่ต้องใช้บริการทางด่วนกลับบ้านช่วงสงกรานต์ด้วยการเปิดให้ขึ้นทางด่วนฟรี 5 เส้นทาง รัฐบาลโดยการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กระทรวงคมนาคม ร่วมกับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

ส.ภัตตาคารตรึงราคาอาหาร
ด้านนายวัฒนศักดิ์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้าและบริการภายในสถานีขนส่งหมอชิต โดยเฉพาะการจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ พบว่าร้านอาหารปรุงสำเร็จทั้งในส่วนของฟู้ดคอร์ต ร้านค้าสวัสดิการ และร้านค้าทั่วไป ยืนยันว่ายัง ไม่ปรับขึ้นราคาจำหน่าย และยังคงปริมาณการจำหน่ายเท่าเดิม รวมทั้งร้านให้บริการรับฝากกระเป๋า ยังคงเก็บอัตราค่าบริการเท่าเดิม โดยร้านค้าส่วนใหญ่มีการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าและบริการที่ใหญ่กว่าเดิม ทำให้ประชาชนสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ โดยปีนี้พบว่ามีปริมาณการเดินทางไม่สูงเท่าสงกรานต์ปีก่อน และ มีจำนวนคนเดินทางมากกว่าช่วงปีใหม่ราว 10% ทั้งนี้ คน.ได้ประสานความร่วมมือไปยังสมาคมภัตตาคารไทย ขอให้ตรึงราคาจำหน่ายอาหารภายในร้านของสมาชิกสมาคมที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน

บวงสรวงพระธาตุ-เทวดาฯ
ที่ศาลาสำราญมุขมาตย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ นายพนมบุตร จันทรโชติ รองอธิบดีกรมศิลปากร เป็นประธานในพิธีบวงสรวงสมโภชพระธาตุและเทวดานพเคราะห์ เพื่อนำออกให้ประชาชนสักการะและสรงน้ำขอพรเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 12-14 เม.ย. เวลา 09.00-16.00 น. โดยมีผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร และประชาชนร่วมในพิธีจำนวนมาก ภายใต้มาตรการโควิด-19 ของสธ.อย่างเคร่งครัด โดยมีจุดคัดกรองบริเวณทางเข้า-ออก ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้ร่วมกิจกรรมต้องแสดงผลการรับวัคซีนโรคโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม หรือแสดงผลการตรวจหาเชื้อไม่เกิน 24 ชั่วโมง และสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา

นายพนมบุตรกล่าวว่า กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) โดยพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ พระนคร สำนักพิพิธภัณฑ สถานแห่งชาติ จัดกิจกรรมสรงน้ำพระธาตุและเทวดานพเคราะห์เป็นประจำทุกปี โดยได้อัญเชิญพระธาตุในพระกรัณฑ์ ซึ่งเดิมทีประดิษฐานในก้านพระรัศมีของพระพุทธ สิหิงค์ พระพุทธรูปองค์สำคัญ ซึ่งประดิษฐาน ณ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ พระราชวังบวรสถานมงคล มาเป็นประธานในพิธี และเทวดา นพเคราะห์ทั้ง 9 องค์ มาให้ประชาชนได้ สักการะและสรงน้ำขอพร ณ ศาลาสำราญ มุขมาตย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต อันเป็นวาระแห่งการเริ่มต้นศักราชใหม่ ของไทย

คาดแห่นั่งบขส. 4 หมื่นคน
ด้านนายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า วันเดียวกัน คาดการณ์ว่าจะมี ผู้โดยสารเดินทางออกจากกรุงเทพฯ สูงสุด ประมาณ 40,000 คน เนื่องจากเป็นวันสุดท้ายของการทำงานก่อนที่จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยบขส. ได้จัดรถโดยสาร (รถ บขส., รถร่วม, รถตู้) ประมาณ 3,800 เที่ยวไว้รองรับ

ส่วนข้อมูลการเดินทางเมื่อวันที่ 11 เเม.ย. มีผู้โดยสารใช้บริการรถโดยสารธารณะเข้า-ออก กรุงเทพฯ จำนวน 57,142 คน ใช้รถโดยสาร ได้แก่ รถบขส. รถร่วม และรถตู้ จำนวน 5,193 เที่ยว โดยเป็นการเดินทาง ขาออก จำนวน 2,615 เที่ยว จำนวน 32,290 คน ส่วนการเดินทางขาเข้ากรุงเทพฯ จำนวน 2,578 เที่ยว จำนวน 24,852 คน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้โดยสารที่ยังไม่ได้จองตั๋วล่วงหน้า เผื่อเวลาเดินทางมายังสถานีขนส่งผู้โดยสาร โดย บขส. และรถร่วมฯ ได้จัดเตรียมรถโดยสารเที่ยวปกติและเที่ยวเสริมไว้รองรับประชาชนอย่างเพียงพอ มั่นใจจะไม่มีผู้โดยสารตกค้าง และยืนยันว่าบขส.เข้มมาตรการโควิด

สรงน้ำพระเจ้าแก้วมรกต
ส่วนบรรยากาศเทศกาลสงกรานต์ในพื้นที่ต่างๆ ที่ จ.ลำปาง ได้มีพิธีอัญเชิญพระเจ้าแก้วมรกตดอนเต้า พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของ จ.ลำปาง ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก เพื่อให้ประชาชนชาวลำปางและนักท่องเที่ยวได้ร่วมสรงน้ำสงกรานต์กันอย่างคึกคัก หลังงดจัดพิธีนี้มานาน 2 ปี เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยพระครูพิธาน นพกิจ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุลำปางหลวง อ.เกาะคา นายสิธิชัย จินดาหลวง ผวจ.ลำปาง นายนิมิตร จิวะสันติกา นายกเทศมนตรีนครลำปาง หัวหน้าส่วนราชการ และข้าราชการจากทุกสังกัดหน่วยงาน ทั้งฝ่ายพลเรือน ประชาชนชาวลำปางทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมกันทำพิธีไหว้ขอขมา อัญเชิญพระเจ้าแก้วมรกตดอนเต้า ลงจากแท่นประดิษฐาน ออกจากกุฏิพระแก้ว วัดพระธาตุลำปางหลวง ขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก ร่วมขบวนแห่ไปตามถนนสายลำปาง-เกาะคา เคลื่อนตัวเข้าสู่ตัวเมืองลำปาง ไปตามถนนเส้นทางสายต่างๆ รอบตัวเมือง เพื่อให้ประชาชนชาวลำปางและนักท่องเที่ยวได้ร่วมสรงน้ำในงานประเพณีเทศกาลมหาสงกรานต์ ก่อนนำมาประดิษฐานยังแท่นประดิษฐานชั่วคราว ที่ข่วงนครลำปาง ห้าแยกหอนาฬิกา เพื่อให้ประชาชนชาวลำปางและนักท่องเที่ยวได้สักการบูชาอย่างใกล้ชิด โดย 1 ปีมีเพียงครั้งเดียว

เที่ยวปลอดภัย – นักท่องเที่ยวจำนวนมากทยอยขึ้นเรือไปเที่ยวเกาะแก่งต่างๆ ในทะเลตรัง ช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานอำนวยความสะดวกและตรวจเข้มมาตรการความปลอดภัย ที่ท่าเรือปากเมง อ.สิเกา จ.ตรัง เมื่อวันที่ 12 เม.ย.

เกาะทะเลตรังแน่น
ขณะที่ จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจน้ำ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง เจ้าหน้าที่อุทยานฯ หาดเจ้าไหม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจเข้มเรือทัวร์ เรือหางยาว เสื้อชูชีพ และอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ลงเรือ เพื่อเดินทางไปยังพื้นที่ทะเลตรัง เกาะ แก่งต่างๆ โดยบรรยากาศที่บริเวณท่าเรือปากเมง มีกลุ่มนักท่องเที่ยวเดินทางมาลงเรือเพื่อท่องเที่ยวทะเลตรังกันอย่างคึกคัก ซึ่งส่วนใหญ่เลือกทริป วันเดย์ทัวร์ เพราะเที่ยวชมความสวยงามของธรรมชาติได้หลายเกาะและมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ดำน้ำดูปะการังและปลาสวยงาม

นายศรีอนันต์ พุ่มเกื้อ นักวิชาการขนส่งชำนาญการ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาตรัง กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์มีการเตรียมความพร้อมก่อนช่วงเทศกาล ตรวจความมั่นคง ตรวจท่าเทียบเรือสภาพเรือ ส่วนนายท้ายเรือ คนขับเรือ ต้องมีใบประกาศนียบัตร ซึ่งเจ้าท่ามีเจ้าหน้าที่มาตั้งจุดอำนวยความสะดวกบริเวณท่าเทียบเรือปากเมง ตรวจตราเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้เรือ ผู้โดยสาร โดยสุ่มตรวจเรือ ผู้ขับเรือ และห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขอฝากนักท่องเที่ยวต้องสวมเสื้อ ชูชีพเมื่อลงเรือทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง ทั้งนี้มีการควบคุมผู้ขับเรือห้ามดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด หากพบเจอจะดำเนินตามกฎหมาย

หาดใหญ่เหงา-จองโรงแรม15%
ด้านนายศิวัฒน์ สุวรรณวงศ์ นายกสมาคมโรงแรม จ.สงขลา กล่าวว่า สงกรานต์ปีนี้ห้องพักถูกจอง 10-15% จากนักท่องเที่ยวในประเทศเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ที่ผ่านด่านพรมแดนสะเดามีบ้าง เป็นกลุ่มครอบครัว และนักธุรกิจ เดินทางต่อไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างจังหวัดเช่น จ.กระบี่ พังงา ภูเก็ต หรือเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ขณะที่โรงแรมที่ปิดกิจการชั่วคราวไปเกือบ 2 ปี มีประมาณร้อยละ 60 ยังไม่เปิดให้บริการ เพราะ ผู้ประกอบการแบกรับภาระต้นทุนไม่ไหว ทั้งโควิดและน้ำมันแพง อาจเปิดให้บริการอีกครั้งประมาณเดือนก.ค.ปีนี้ หวังว่าสถานการณ์โควิดดีขึ้น

นายธนวัฒน์ พูนศิลป์ ประธานหอการค้า จ.สงขลา กล่าวว่า กิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ ที่นักท่องเที่ยวเข้าร่วมที่ย่านเมืองเก่าสงขลา คงไม่มากนัก เพราะคนระดับกลางและระดับล่างไม่มีกำลังซื้อ แต่ จ.สงขลาโชคดีที่มียางพารากับปาล์มน้ำมัน อุตสาหกรรมอาหารทะเลพอที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปได้บ้าง หากพึ่งการท่องเที่ยวอย่างเดียวไม่ไหว

ส่วนที่วัดประชาภิรมย์ อ.เมือง จ.นราธิวาส นายบรรเจิด พลาศัย รองนายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส เปิดงานประเพณีสงกรานต์ ประจำปี 2565 ในรูปแบบนิวนอร์มัล มีเพียงกิจกรรมสรงน้ำพระพุทธรูป ระหว่างวันที่ 12-17 เม.ย. เวลา 09.00-16.30 น. พร้อมขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสรงน้ำพระ เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัว

เพิ่มโบกี้รถไฟสายอีสาน
ด้านสถานีรถไฟขอนแก่นมีประชาชนเดินทางมากับขบวนรถไฟทุกขบวนอย่างคึกคัก โดยนายศักรินทร์ แสงอรุณ นายสถานีรถไฟขอนแก่นกล่าวว่า วันนี้มีผู้โดยสารที่เดินทางมากับขบวนรถไฟหนาแน่นมากกว่าช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา และคาดว่าจะหนาแน่นมากยิ่งขึ้นไปจนถึงวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะขบวนสายยาว กรุงเทพฯ-หนองคาย และขอนแก่น-แก่งคอย ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ได้เน้นหนักในมาตรการป้องกันโควิด-19 อย่างเข้มงวด โดยผู้โดยสารต้องเตรียมเอกสาร ฉีดวัคซีนให้เจ้าหน้าที่ตั้งแต่การใช้ในการ ซื้อตั๋ว และผ่านจุดตรวจที่กำหนด

“แม้ว่าจะยังคงมีการแพร่ระบาดของ โควิด-19 แต่เมื่อรัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการลง ทำให้จำนวนผู้ใช้บริการรถไฟจึงเพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้เดิมรฟท.ให้บริการขบวนรถโดยสาร ต้นทางกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ที่มีจุดรับและส่ง จ.ขอนแก่น รวม 12 ขบวน แยกเป็น ขอนแก่น-แก่งคอย ไปและกลับ 2 ขบวน, นครราชสีมา-หนองคาย ไปและกลับ 2 ขบวน, นครราชสีมา-อุดรธานี ไปและกลับ 2 ขบวน และกรุงเทพฯ-หนองคาย ไปและกลับ 6 ขบวน แต่ในช่วงเทศกาลได้เพิ่มขบวนเสริมรองรับการเดินทาง ประกอบด้วยวันที่ 12 เม.ย. คือ ขบวน 967 ออกจาก กรุงเทพฯ ในเวลา 21.15 น. ถึงขอนแก่นเวลา 07.03 น. และถึงจ.อุดรธานี เวลา 08.10 น. และวันที่ 17 เม.ย. ขบวน 936 ออกจากจ.อุดรธานีเวลา 21.10 น. ถึงขอนแก่นเวลา 22.45 น. และถึงกรุงเทพฯ เวลา 07.30 น. เพื่อรองรับ ผู้โดยสารเดินทางกลับบ้านและเดินทางกลับช่วงเทศกาลสงกรานต์ มั่นใจไม่มีผู้โดยสารตกค้าง

โคราชอัญเชิญ‘สารีริกธาตุ’
ส่วนที่สถานีขนส่งแห่งที่ 3 จ.ขอนแก่น พบว่าประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะเส้นทางเดินรถสายยาวขอนแก่น-หนองคาย, เชียงใหม่, นครพนม และบุรีรัมย์-สุรินทร์ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ประชาชนใช้บริการมากที่สุด ขณะที่การเดินทางบนถนนมิตรภาพมีปริมาณรถหนาแน่น โดยทาง เจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกและจัดการจราจรให้เป็นไปอย่างคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

ที่จ.นครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า กิจกรรมงานประเพณีสงกรานต์ ปีนี้มีขึ้นในวันที่ 13 เม.ย. ตั้งแต่ช่วงเช้าเวลา 06.30 น. ที่บริเวณคูเมือง ข้างลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี จะเป็นพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์จำนวน 60 รูปทางน้ำ จากนั้นเวลา 13.00 น. มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุที่ประดิษฐานในพระเจดีย์และอัญเชิญพระคันธารราฐซึ่งประดิษฐานอยู่ในวิหารหลวงมาประดิษฐานบนราชรถที่ตกแต่งริ้วขบวนแบบประเพณีไทยอย่างสวยงาม

ร้านค้ายิ้มออกแห่ซื้อ
ขณะที่บรรยากาศร้านค้าต่างๆ มีความคึกคักกันมาก โดยเฉพาะร้านขายพวงมาลัยดอกมะลิที่คนไทยนิยมนำไปไหว้และรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ขายดีเป็นพิเศษ อย่างเช่น ที่ร้านแม่บุญช่วย ภายในตลาดแม่กิมเฮง อ.เมือง จ.นครราชสีมา บรรยากาศมีลูกค้า มาเลือกซื้อพวงมาลัยดอกมะลิกันอย่างคึกคักจนต้องเร่งร้อยพวงมาลัยกันตลอดทั้งวัน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

สืบประเพณี – วัดกลาง (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จัดสืบสานประเพณีก่อเจดีย์ทราย เทศกาลสงกรานต์ เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยทรายจากการก่อเจดีย์จะใช้ก่อสร้างบูรณะซ่อมแซมถาวรวัตถุ เมื่อวันที่ 12 เม.ย.

บุรีรัมย์สรงน้ำหลวงพ่อโต
ที่บริเวณลานโพธิ์ วัดกลาง (พระอารามหลวง) ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พระภิกษุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนต่างช่วยกันนำทรายกองใหญ่มาเตรียมพร้อมสำหรับจัดงานสืบสานประเพณีก่อเจดีย์ทราย เทศกาลสงกรานต์ สรงน้ำหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดกลาง (พระอารามหลวง) โดยมีชาวบ้านจากชุมชนต่างๆ มาช่วยกัน ก่อเจดีย์ทรายในรูปทรงต่างๆ ทั้งทรงระฆังคว่ำ รูปย่อมุม และตกแต่ง ประดับประดาด้วยดอกไม้และธิวธงให้สวยงาม โดยทางวัดจะ เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกหมู่เหล่ามาร่วม ก่อเจดีย์ทรายได้ตั้งแต่ 12-15 เม.ย. และทางวัดยังได้เปิดให้ประชาชนร่วมปิดทองหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวัดกลางด้วย ส่วนในวันที่ 15 เม.ย.จะมีพิธีบวงสรวงศาลพระหลักเมือง ซึ่งจะมีนางรำจากชุมชนต่างๆ มาร่วมรำบวงสรวงด้วย

ด่านเจดีย์สามองค์คึกคัก
ที่บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ชายแดนไทย- เมียนมา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของอำเภอสังขละบุรี บรรยากาศการท่องเที่ยวเริ่มคึกคัก นักท่องเที่ยวเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวเลือกซื้อสินค้าที่ระลึก เช่น ผ้าพื้นเมือง ของประดับ ขณะที่ส่วนราชการทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุข ตำรวจ ทหาร ผู้นำชุมชน และ อสม.ร่วมกันจัดระเบียบการท่องเที่ยว โดยจัดให้มีทางเข้าออกทางเดียว เข้มมาตรการโควิด ประกาศงดจำหน่ายดอกไม้ ธูป เทียน ให้นำไปไหว้เจดีย์สามองค์ พระสยามเทวาธิราช รวมทั้งงดจัดกิจกรรมรดน้ำดำหัวผู้สูงอายุเหมือนที่ เคยจัดทุกปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงวันหยุดยาวประเพณีสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยว เดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน