ขอขมาเจ้าของร้าน ตร.ล่าลูกน้องที่ยังหนี
ตำรวจลำพูนนำเสี่ยรียูสทำแผนปล้น ขณะเสี่ยสำนึกผิดก้มกราบเจ้าของร้านทอง ขอให้ยกโทษให้ด้วย ขณะสภ.เหมืองจี้ออกหมายจับคนร้ายอีก 1 ที่ร่วมก่อเหตุ พร้อมเร่งล่าตัว ส่วนทองคำที่ถูกปล้นตามคืนมาได้ 19 เส้น หนัก 48 บาท รวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท ยังขาดอยู่อีก 1 เส้น คาดคนร้ายที่ยังหลบหนีนำไปด้วย

จากกรณี 2 คนร้ายใส่ชุดพรางคล้ายทหารบุกปล้นทองร้านทองนริศรา สาขาตลาดจตุจักรลำพูน จ.ลำพูน กวาดทองคำไป 8 ถาดแล้วขับรถกระบะอีซูซุ สีขาว คลุมด้วยผ้าใบสีฟ้า หลบหนี โดยตำรวจสภ.เหมืองจี้ ได้ติดตามจนพบว่าคนร้ายขับรถไปซ่อนในห้างหุ้นส่วนจำกัดรี-ยูส รับซื้อขยะรีไซเคิล บ้านหนองซิว ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน ซึ่งต่อมาได้จับกุมนายศุภกร เกิดมาก อายุ 64 ปี เจ้าของห้าง สารภาพเป็นหนี้พนันจึงตัดสินใจก่อเหตุร่วมกับลูกน้องอีกคนตามข่าว

ทำแผนฯ – ตำรวจคุมตัวนายศุภกร เกิดมาก เสี่ยโรงงานขยะ ทำแผนฯปล้นทองห้างทองนริศรา สาขาตลาดจตุจักร อ.เมือง จ.ลำพูน พร้อมตามล่าจับนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด(ภาพเล็ก) คนร้ายอีกคนที่ยังหลบหนี เมื่อวันที่ 25 เม.ย.

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 25 เม.ย. พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี รองผบช.ภ. 5 พร้อมด้วยพล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.ลำพูน นำตัวนายศุภกร มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ร้านทองนริศรา โดยนายศุภกรให้การว่า ตนพร้อมอาวุธปืนยาวและนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด ผู้ต้องหาอีก 1 คนใช้ปืนสั้นลงจากรถ แล้วเข้าไปปล้นร้านทองตามคลิปกล้องวงจรปิด จากนั้นตนเป็นคนนำทองไปเก็บไว้หลังรถถึง 2 ครั้ง และขับรถหลบหนีไปที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดรี-ยูส รับซื้อขยะรีไซเคิล เพื่อเปลี่ยนรถแล้วหลบหนี จนกระทั่งลูกสาวติดต่อเจ้าหน้าที่และมอบตัว ระหว่างที่ทำแผนฯ นายศุภกรได้ก้มกราบขอขมาเจ้าของร้านทองพร้อมกับพูดออกมาว่า ตนสำนึกผิดกับการกระทำ และขอให้ยกโทษให้ด้วย

หลังจากทำแผนฯ ที่ร้านทองเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ก็นำไปทำแผนฯ ที่โรงงานขยะรีไซเคิล ซึ่งเป็นจุดนำรถที่ใช้ก่อเหตุและทองคำที่ปล้นมาไปซ่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถติดตามทองรูปพรรณคืนมาได้ 19 เส้นรวมน้ำหนัก 48 บาท มูลค่า 1,536,000 บาท หายไป 1 เส้นคาดว่า นายนพรัตน์จะนำติดตัวไป จากนั้นนำตัวฝากขังที่ห้องขังสภ.เหมืองจี้ โดยไม่ให้ประกันตัว

จากการสอบสวนพบว่า นายศุภกรมีปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากติดการพนันหลายล้านบาท จึงเป็นแรงจูงใจให้ก่อเหตุปล้นครั้งนี้ โดยมีคนงานในร้านร่วมปล้นด้วยอีก 1 คนคือนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด ซึ่งเป็นญาตินายศุภกร หลังก่อเหตุนายศุภกรได้ส่งนายนพรัตน์ขึ้นเครื่องบินหลบหนีไปกรุงเทพฯ ส่วนนายศุภกรได้กลับมาที่บ้านเพื่อนำรถที่ก่อเหตุมาเปลี่ยนป้ายทะเบียนเดิมคือ ยง 8548 เชียงใหม่ และแกะผ้าใบที่คลุมกระโปรงรถออก ก่อนจะขับรถยนต์โตโยต้าสปอร์ตไรเดอร์ ทะเบียน กบ 9699 เชียงใหม่ หลบหนีไป ก่อนจะเปลี่ยนใจเข้ามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่สุด

ด้านสภ.เหมืองจี้ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลออกหมายจับนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด คนร้ายที่ยังหลบหนีแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน