เฮ้งโตไร้กล้วยแจกพรรคเล็ก

เพื่อไทยโวมีหมัดน็อก‘บิ๊กตู่’ กลางสภา ฉะรัฐบาลทำงบ ปี 66 ยังทุ่มซื้ออาวุธมากกว่าอนาคตเด็กไทย พรรคเล็กเมิน โดน ‘บิ๊กป้อม’ เทคิวเข้ารดน้ำขอพร หลัง ‘สุชาติ’ รับปากช่วยดูแล ‘เสี่ยเฮ้ง’ ยันไม่มีสวน ไม่แจกกล้วย คุยกันแบบสัจจะลูกผู้ชาย ‘อนุทิน’ ลั่นละครยัง ไม่จบ อย่าด่วนสรุปข่าวลือโหวตล้ม ‘บิ๊กตู่’ แต่ยืนยันภูมิใจไทยไม่เคยแตกแถว กมธ.กฎหมายลูกลงมติ ปรับไพรมารีโหวตเหลือแค่ 1 จังหวัด 1 ตัวแทน เอื้อพรรคเล็ก-พรรคใหม่แข่งขันเสรี

‘บิ๊กป้อม’เมินพรรคเล็กโวยถูกเท
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดตัวนายสมรักษ์ คำสิงห์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ขอนแก่น เขต 10 พรรคพลังประชารัฐ จะมีคนดังเข้ามาอยู่กับพรรคอีกหรือไม่ว่า ไม่รู้ ผู้สื่อข่าวถามว่าการเปิดตัวคนดังจะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้าเกิด แลนด์สไลด์มาที่พรรคพลังประชารัฐหรือไม่ พล.อ.ประวิตรส่ายหัว ไม่ตอบคำถาม

เมื่อถามว่าการที่พรรคเล็กร่วมรัฐบาล กินข้าวกลางวันเมื่อวันที่ 27 เม.ย. และช่วงเย็นนัดเข้ารดน้ำอวยพรพล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด แต่ทีมงานของพล.อ.ประวิตร แจ้งว่าติดเข้าพบอีกคณะหนึ่งไม่สามารถลงมาพบได้ จะทำให้เกิดความน้อยใจหรือไม่ พล.อ.ประวิตรไม่ตอบแต่ขึ้นรถกลับออกจากทำเนียบทันที

‘เสี่ยเฮ้ง’โต้แจกกล้วย-ไร้ดีลซักฟอก
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การที่พรรคเล็กไม่ได้เข้าพบ พล.อ.ประวิตร เพราะพล.อ.ประวิตร ไม่ได้นัด ส่วนพรรคเล็กเมื่อกินข้าวกลางวันเสร็จอยากจะไปหา แต่พล.อ.ประวิตร มีนัดพูดคุยหลายคณะ จึงไม่สะดวก ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ไปร่วมวงกินข้าวกับพรรคเล็กเมื่อวันที่ 27 เม.ย. นายสุชาติ กล่าวว่า เราอยู่ด้วยกันมาตั้ง 3 ปี การนัดเจอกันเป็นเรื่องปกติ เมื่อเขาโทร.มาสอบถาม เมื่อว่างจึงไปกินข้าวด้วยกัน 20-30 นาที ไม่ได้มีอะไร พรรคเล็กก็มานั่งกินกาแฟที่กระทรวงแรงงาน เป็นประจำ

ผู้สื่อข่าวถามว่าคุยเรื่องโหวตหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม หรือไม่ นายสุชาติกล่าว ว่า เขาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และยกมือให้เราทุกครั้งอยู่แล้ว ชัดเจนไม่มีอะไร ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันเพราะอยู่กันแบบครอบครัว ตนสนิทกับพรรคเล็กทั้งหมด แต่ที่ไม่ได้คุยเพราะไม่ได้มีหน้าที่ประสานงานตั้งแต่แรก เวลาคุยจึงคุยกันแบบสัจจะลูกผู้ชาย เราคุยกันตรงๆ ไม่ได้มีอะไรอ้อมค้อม ไม่มีกล้วย และไม่ได้มีสวนกล้วย

พรรคเล็กก็เลิกสน‘ลุงป้อม’
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทรักธรรม (ท.ธ.) ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องที่พรรคเล็กไม่ได้เข้าพบพล.อ.ประวิตร มีน้อยใจบ้างนิดหน่อยและ คงไม่พบแล้ว ถ้ามีอะไรสื่อถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม คงต้องผ่านไปทางนายสุชาติเพราะหลังข่าวออกไปว่า พล.อ.ประวิตรไม่ให้เข้าพบ นายสุชาติก็โทร.มาคุยด้วย บอกว่าจะเป็นคนประสานนายกฯ ให้

“เข้าใจลุงป้อมแต่ถ้าไม่ว่างก็น่าจะบอกกันตั้งแต่แรก พวกผมจะได้ไม่มา จะได้ขอท่านสุชาติตั้งแต่ในวงทานข้าวเรียบร้อยไปเลย ที่พวกผมต้องการเข้าพบลุงป้อมเพราะไม่อยากไปข้ามหน้าข้ามตา ถ้าเขาไม่รับนัดเราจะ หน้าด้านไปได้อย่างไร ส่วนการเข้าพบนายกฯ อยู่ที่นายสุชาติจะนัดให้ เป็นการไปคุยงาน ไปกินกาแฟกัน จากเดิมนัดไว้กลาง พ.ค. อยู่ที่นายสุชาติจะนัดได้เมื่อไร” นายพีระวิทย์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าฝ่ายค้านต้องการติดต่อพรรคเล็กเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นาย พีระวิทย์กล่าวว่า ยังไม่ได้ติดต่อมา มีแต่แจ้งทางสื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) บอกว่าถ้าจะล้มนายกฯ ต้องมี 30 เสียง คือจากพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) 16 เสียง พรรคเล็ก 14 เสียง แต่พรรคเล็กมีเกิน 14 เสียงที่ชัดเจนคือ 18 เสียง แต่ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ดูถูกดูแคลนว่าพรรคเล็กเรียกเงิน อย่างนี้ก็อย่ามาประสานเลย ผู้นำพรรคอยากดีลแต่ลูกน้องพูดไม่เหมาะสมก็อย่ามาเจอกันเลย แต่หากอยากเจอก็เจอได้เพราะอยากรู้ว่าฝ่ายค้านมีข้อมูลอะไรบ้าง เราก็เปิดใจหมด

หนุน‘บิ๊กตู่’ตามที่รับปากไว้
“พรรคเล็กยังขอฟังการอภิปรายก่อนจะยกมือสนับสนุนนายกฯ เพราะเรื่องที่ต่อรองคือเรื่องผู้สูงอายุ นายกฯ ก็เริ่มทำให้แล้วแม้จะไม่สำเร็จทั้งหมดถือว่าทำตามที่รับปาก ถ้าฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลหนักแน่นพอเราต้องทำตามที่รับปากนายกฯ” นายพีระวิทย์กล่าว

ด้านนายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน (ค.พ.ช.) กล่าวว่า ที่พล.อ.ประวิตร ไม่ให้เข้าพบไม่น้อยใจอะไร ที่ไปก็เพื่อจะไปรดน้ำดำหัวธรรมดา แต่เมื่อเห็นติดภารกิจก็ไม่ได้รอและกลับเลย ส่วนจะเข้าพบอีกครั้งหรือไม่นั้นถ้าได้ก็ไป แต่เลยช่วงสงกรานต์ไปแล้ว ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังตอบไม่ได้ว่าจะหนุนพล.อ.ประยุทธ์ต่อหรือไม่ ต้องรอฟังการอภิปรายก่อน

เมื่อถามถึงข่าวฝ่ายค้านดีลพรรคเล็กเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายปรีดากล่าวว่า พวกเราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต้องดู ผลงานของรัฐบาล หากฝ่ายค้านมีข้อมูลดีและรัฐบาลตอบไม่ได้ เราก็ลงมติไม่ไว้วางใจเป็นรายบุคคลไป ไม่ใช่เหมารวมทั้งหมด แต่หากฝ่ายค้านมาคุยด้วยตนก็คุย เพราะอยู่ในสภาเดียวกัน

‘พิเชษฐ’ตั้งวงถกเพื่อไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 18.30 น. นาย พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หัวหน้ากลุ่ม 16 ส.ส. ซึ่งเป็นพรรคเล็กที่ร่วมรัฐบาล ได้พบกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รวมทั้ง นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่ (ศม.) และนายดล เหตระกูล ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา(ชพน.) ร่วมรับประทานอาหารที่ร้าน เดอะ คอนเนอร์ ใน นิฮอนมาชิ สุขุมวิท 26 กทม.

นายพิเชษฐ ได้สอบถามถึงข้อมูลของพรรคฝ่ายค้านที่จะใช้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับการประมูลท่อส่งน้ำเข้าพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) เนื่องจากนายพิเชษฐระบุเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ แต่พลาดการประมูล ทำให้ไม่พอใจและต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ แก้ปัญหาเรื่องนี้ เพราะกลุ่ม 16 ส.ส. และพรรคเศรษฐกิจใหม่พูดคุยกันแล้ว เรื่องอื่นยอมได้แต่เรื่องนี้ไม่สามารถไว้วางใจได้

‘สมศักดิ์’เร่งฟื้นสามัคคีในพปชร.
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า เป้าหมายแรกของการทำหน้าที่ประธานยุทธศาสตร์พรรค จะทำให้พรรคแข็งแกร่ง สร้างความรักความสามัคคี กลมเกลียว เมื่อทำได้พรรคจะมีพลัง และอาจจะคิดถึงการมี ส.ส.จำนวนมาก มีคะแนนเสียงมาก แต่ตรงนี้คือปลายยอด แนวคิดของพรรคต้องโชว์ออกมาให้เห็น วันนี้พรรคเรายังเป็นรัฐบาล จะทำอย่างไรกับเวลาที่เหลืออยู่อีกเกือบ 1 ปี ให้ประชาชนรู้ว่าเราเป็นห่วง ต้องทำให้พวกเขาเห็นว่าเราสามารถทำอะไรได้บ้าง

“เราต้องรีบรวบรวมความรัก ความสามัคคีโดยเร็ว ไม่ได้ทำเพื่อกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เราต้องเปิดอกเปิดใจคุยกัน เราจะผลักดันนโยบาย ทำให้ได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความสามัคคี หากเราทะเลาะกันเอง คนจะพึ่งหวังจากเราไม่ได้ หากเราหลอมรวมกันได้ในระยะเวลาอันสั้น การเลือกตั้งจะไม่มีปัญหา” นายสมศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.อ.ประวิตร ได้กำชับอะไรบ้างหรือไม่ นายสมศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้เน้นย้ำอะไรเป็นพิเศษ อยากให้มาช่วยคิดนโยบายและยุทธศาสตร์ต่างๆ ที่ถูกใจประชาชน และรายงานให้ทราบเป็นระยะ

‘หนู’ลั่นอย่าด่วนสรุปลือโหวตล้มตู่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกระแสข่าวส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนจะรวมตัวโหวตคว่ำพล.อ.ประยุทธ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติกลางเดือนมิ.ย. ว่า ละครยังไม่จบอย่าเพิ่งไปด่วนสรุปอะไร เมื่อวานตนอ่านข่าว นายกฯ ก็ไม่ได้กังวล ยังบอกว่ามั่นใจในการชี้แจงตอบข้อสงสัย ข้อซักถามของพรรคฝ่ายค้าน ซึ่งรัฐมนตรีทุกคนต้องไปทำการบ้านเสริมข้อมูล หรือชี้แจงในส่วนที่หน่วยงานที่ตัวเองรับผิดชอบถูกพาดพิง

ผู้สื่อข่าวถามว่ามั่นใจหรือไม่ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยจะไม่แตกแถวตอนโหวต นายอนุทินถามกลับว่า “เคยไหมล่ะ” พร้อมกล่าวว่า เราให้อิสระกับลูกพรรคทุกคน แต่ความที่เป็นปึกแผ่นต้องมีการประชุมหารือก่อนจะลงมติ คนที่ห็นต่างเห็นแย้งก็ต้องมาชี้แจง และเคารพกติกาว่ามติของพรรคอย่างไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น

แจงคิวนายกฯสำรอง-มีขั้นตอนชัด
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีกระแสข่าวนายกฯ สำรอง จากปัญหาการตีความวาระนายกฯ 8 ปีของ พล.อ.ประยุทธ์ นายอนุทินกล่าวว่า ตนกังวลไม่ได้เพราะไม่เกี่ยวกับพวกตน แต่หากนายกฯ เป็นอะไรพวกตนก็ไปด้วย ถึงต้องประคับประคองกัน ถ้านายกฯ เป็นอะไรไปรัฐบาลจะหมดสภาพทันที นายกฯ อยู่ได้เราก็อยู่ อยู่ไม่ได้เราก็ไปพร้อมกับท่าน ส่วนกลไกในการคัดสรรบุคคลที่เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯ ต่อไปมีขั้นตอนมีกระบวนการ อยู่แล้ว

เมื่อถามว่ามีการคุยเรื่องนายกฯ สำรองหรือยัง เพราะทุกคนเล็งมาที่นายอนุทิน รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้คุย อีกกี่เดือนเองจะมีเลือกตั้ง อำนาจนายกฯ มีหลายอย่างในการแก้ไขปัญหาทางการเมือง คนเป็นนายกฯ สิ่งที่จะแสดงความเป็นนายกฯ ที่ไม่มีใครก้าวล่วงได้เลยคือการยุบสภา อยู่ที่นายกฯ คนเดียวจะเป็นผู้เสนอทูลเกล้าฯ เรื่องนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของทุกคนในรัฐบาล เราก็อย่าไปคิด นายกฯ มีดุลพินิจเช่นไรก็ต้องเคารพ

ปชป.จัดผู้สมัครอีสานแล้ว 95%
ด้านนายไชยยศ จิรเมธากร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ดูแลภาคอีสาน เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องตัว ผู้สมัคร ส.ส.ในส่วนของภาคอีสาน ว่า มีความพร้อมแล้ว 95% อีก 5% ที่เหลือรอความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะแบ่งเขตลือกตั้ง ซึ่งอาจมีเขตเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในพรรคที่ผ่านมา ยอมรับมีผลกระทบอยู่บ้าง แต่ประชาชนเข้าใจถึงวิธีการและการดำเนินการของพรรค ซึ่งแยกออกจากตัวบุคคล

ส่วนที่มีบุคลากรของพรรคแสดงความคิดเห็นต่างๆ ยืนยันไม่ใช่ความแตกแยกแน่นอน พรรคประชาธิปัตย์สอนให้เราเท่าเทียมกัน ให้กล้าแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นหลักสำคัญของประชาธิปไตย ทุกคนหวังจะทำให้พรรค เข้มแข็งขึ้น ซึ่งแตกต่างจากพรรคอื่นๆ เราเถียงกันก็จริง แต่เมื่อส่วนใหญ่ของพรรคคิดเห็นเป็นอย่างไร เรื่องนั้นๆ ก็จะยุติลง

มั่นใจพิษ‘ปริญญ์’ไม่ฉุดภาคใต้
นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวถึงกรณีที่ยังคงมีกระแสกดดันให้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบคดีฉาวของนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า มองว่าขณะนี้สถานการณ์ภายในพรรคเริ่มคลี่คลายลงแล้ว ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้ได้รับผลกระทบกับกรณีนี้น้อยมาก เพราะประชาชนในพื้นที่มีความเข้าใจเป็นอย่างดีว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ทุกสังคมย่อมมีทั้งคนดีและคนชั่ว คนใต้เข้าใจดีว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ในส่วนของกก.บห.คงจะมีการหารือร่วมกันอีกครั้งภายหลังการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 22 พ.ค.

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตามภารกิจ กล่าวว่า วันนี้สถานการณ์ในพรรคคลี่คลายลงแล้วหลังจากนายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรคออกมาให้คำแนะนำ ทุกฝ่ายก็ต้องรับฟัง และไตร่ตรองให้ดี ส่วนตัวคิดว่ากก.บห.ชุดนี้เหลือเวลาทำงานตามวาระอีกเพียงแค่ 8 เดือน ช่วงระยะเวลาที่เหลือไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นในสภาหรือไม่ ดังนั้นกก.บห.ต้องนำทัพไปสู่การเลือกตั้ง ให้ผลการเลือกตั้งเป็นเครื่องพิสูจน์

‘แรมโบ้’ไขก๊อกรทสช.
วันเดียวกัน นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ ได้ส่งข้อความถึงสื่อมวลชน แจ้งว่า ตามที่มีข่าวเรื่องคลิปเสียงตนกับนางจุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ และตนแสดงจุดยืนชัดเจนในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ เพื่อเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองโดยลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองแล้วนั้น เพื่อให้ภาพพจน์และการขับเคลื่อนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เป็นไปในทางที่ดีในสายตาพี่น้องประชาชน ไม่ให้เกิดความด่างพร้อยเสียหายต่อพรรค และความลำบากใจต่อกก.บห. จึงได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคต่อกกต. ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. เป็นต้นไป

นายเสกสกล ให้สัมภาษณ์ว่า นอกจากจะเป็นการแสดงจุดยืนพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ และเพื่อให้การขับเคลื่อนของพรรครวมไทยสร้างชาติเป็นไปในทางที่ดีในสายตาประชาชน ยังมีเจตนาเพื่อจะไปขับเคลื่อนชมรมเครือข่ายปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ร่วมกับนายอานนท์ แสนน่าน และอดีตกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่กลับตัวกลับใจ ตั้งหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย ในการปกป้องสถาบัน จะเดินหน้าขับเคลื่อนร่วมกับอดีตคนเสื้อแดงในการก่อตั้งชมรมดังกล่าว เพราะไม่ต้องการให้ใครคิดมาล้มล้างสถาบัน

‘เทือก’สยอง‘อุ๊งอิ๊ง’ขอแลนด์สไลด์
เวลา 15.00 น นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) เผยแพร่คลิปวิดีโอ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) ถึงกรณีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ระบุถ้าพรรคเพื่อไทยได้บริหารประเทศ 8 ปี จะไม่มีคนอยากย้ายประเทศ อีกทั้งจะทำให้ประเทศมั่งคั่งว่า จำได้หรือไม่ว่า นายทักษิณ ชินวัตร ผู้สถาปนาระบอบทักษิณ ได้เข้ามามีอำนาจบริหารประเทศติดต่อกันหลายปี ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา และได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศ สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนแสนสาหัส ได้รับฟังสิ่งที่น.ส.แพทองธารพูด อยากบอกว่าอย่าลืมความหลัง เพราะเพิ่งผ่านมาไม่นานนี้เอง ถ้าระบอบทักษิณไม่สร้างความเลวร้ายขึ้นในประเทศ บ้านเมืองจะเจริญและสุขสบายมากกว่านี้

“วันนี้ประเทศขาดงบในการบริหาร รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ทำงานหน้าเขียวหน้าแดง ทุกวัน เงินทองไม่คล่องมือ เพราะเหตุคนในระบอบทักษิณ ทุจริตฉ้อโกง โกงชาติโกงประชาชนไปทั้งสิ้น นี่ประกาศว่าเลือกตั้งคราวหน้าจะต้องแลนด์สไลด์ จะต้องเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวมาบริหารประเทศ ผมสยองเลย กลัวเลย เพราะเห็นมาแล้ว พี่ชายเป็นนายกฯ ก็โกง น้องสาวเป็นนายกฯ ก็โกง และถ้าลูกสาวมาเป็นนายกฯ อีก แล้วก็โกงอีกจะทำอย่างไร ผมไม่อยากเดินขบวนอีกแล้ว วันนี้เราต้องเปลี่ยนรูปแบบวิธีการต่อสู้ เขาต่อสู้โดยผ่านทางโซเชี่ยลมีเดีย พวกเราคนรักชาติบ้านเมืองก็ต้องสู้กันโดยโซเชี่ยลมีเดีย” นายสุเทพกล่าว

ฉะซื้ออาวุธ – นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงจี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตรวจสอบโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำจีน รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ และรถสะเทินน้ำสะเทินบก ซึ่งส่อเค้าผิดปกติ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.

‘โจ้’ซัดทร.-ทบ.จัดซื้อไม่โปร่งใส
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม รองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวเรื่องความไม่โปร่งใสในการจัดซื้อเรือดำน้ำและอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของรัฐบาลว่า ขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กำลังสั่งให้กองทัพเรือ (ทร.) แก้ปัญหานี้ก่อนจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยหน้า ตนยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี คำถามคือจีนเอาเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์มาขายรัฐบาลไทยหรือ

ที่ตนออกมาแฉว่าท่าจอดเรือดำน้ำที่ บริษัท CSOC เป็นคู่สัญญาแล้วไม่ได้ก่อสร้างเอง ไปสับช่วงให้ บริษัทไชน่า เรลเวย์หรือ CRCC ซึ่งทำเรื่องของรถไฟ ก็ไปสับช่วงต่อให้ บริษัท แสงเจริญฯ ปรากฏว่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.ร.ท.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ออกมาระบุว่าตนพูดข้อมูลไม่จริง ดังนั้นขอท้ามาดีเบตออกทีวีได้เลย เล่นสับช่วงงานต่อแบบนี้ความลับของประเทศหายหมด

ส่วนการจัดซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือ ยูเอวี 3 ลำ โดยกองทัพเรือตั้งงบประมาณปี 2565 ไว้ 4.1 พันล้านบาท ตกลำประมาณ 1.4 พันล้านบาท โดยซื้อจากประเทศอิสราเอล ใช้วิธีการคัดเลือก ไม่เปิดประมูลแบบทั่วไป แต่มีการเชิญเพียง 5 บริษัทมาร่วมประมูล บริษัทที่เป็นนายหน้าในการขายยูเอวี รุ่น Hermes 900 คือ บริษัท จันทร์เกษมอินเตอร์เนทชั่นแนล จำกัด ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับการขายชิ้นส่วนและอุปกรณ์ยานยนต์

ตนกังวลว่าจะเหมือนการจัดซื้อเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์หรือไม่ และบริษัทนี้ ขายของให้กับกองทัพเรือ โดยกองทัพเรือเพิ่งซื้อรถถังสะเทินน้ำสะเทินบกจากจีน ซึ่งบริษัท จันทร์เกษมฯ เป็นผู้ขาย ส่วนกองทัพบก (ทบ.) ซื้อรถถัง 1 ล็อต รุ่น VT4 จากบริษัทเดิม ตนท้า พล.อ.ประยุทธ์ ให้ซื้อยูเอวีของอิสราเอลเลย แล้วเจอกันวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ

คุยมีหมัดเด็ดน็อก‘บิ๊กตู่’กลางสภา
นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ส่วนการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 พรรคเพื่อไทยมีความพร้อม เพราะพล.อ.ประยุทธ์อยู่มา 8 ปี ไม่มีใครเอาแล้วคนสาปแช่ง ไล่กันทั้งบ้านทั้งเมือง เศรษฐกิจพัง คนตายเพราะโควิด-19 ร้อยกว่าคนทุกวัน แบบนี้พล.อ.ประยุทธ์สมควรเป็นนายกฯ ต่อหรือไม่ คุณบริหารประเทศ ล้มเหลว ขณะเดียวกันคุณซื้อเรือดำน้ำแบบรัฐต่อรัฐแต่เรือดำน้ำที่รัฐบาลจีนขายให้รัฐบาลไทยเป็นเรือดำน้ำที่ไม่มีเครื่องยนต์ แล้วจะรู้กันว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของประเทศจีนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน นี่แค่หนังตัวอย่าง ไว้เจอกันในสภาน็อกอยู่แล้ว

“ฝากไปถึงส.ส.พรรคเล็กกลุ่ม 16 ว่าฟังข้อมูลของพรรคฝ่ายค้านแล้วคุณยกมือให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อไม่ได้หรอก” นายยุทธพงศ์กล่าว

เมื่อถามว่าอภิปรายครั้งนี้จะล้มรัฐบาลได้แน่หรือไม่ นายยุทธพงศ์กล่าวว่า ฝ่ายค้านยกมือไม่ชนะรัฐบาลหรอก แต่ผลงานของพรรคเพื่อไทยทั้งเรื่องรถไฟฟ้าสายสีเขียวมูลค่า 4 แสนล้านบาท ถึงตอนนี้ยังไม่ได้ต่อสัญญาเลย หรือกรณีการซื้อเรือดำน้ำถ้าไม่ใช่ผลงานพรรคเพื่อไทยแฉ จะรู้หรือไม่ว่าซื้อเรือดำน้ำไม่มีเครื่องยนต์ เป็นจีทูจีเก๊ แน่จริง ขอให้ฟ้องตนมาเลย ตนจะฟ้องกลับด้วย

ซัดงบปี 66 ซื้ออาวุธไม่แผ่ว
ด้านน.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 ที่กำลังจะเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต้นเดือนมิ.ย.นี้ มีวงเงินรวม 3,185,000 ล้านบาท เพิ่มจาก งบประมาณปี 2665 เกือบ 85,000 ล้านบาท แต่ดูเหมือนว่าภายใต้การบริหารงานของพล.อ.ประยุทธ์ การจัดสรรงบจะยังคงฉายหนังวนซ้ำ คือไม่ได้มุ่งเน้นประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน เพราะอิงกับความเคยชินในการจัดทำงบโครงการเดิมของปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะงบของกระทรวงศึกษาธิการปี 2566 ลดลงถึง 4,526 ล้านบาท หรือลดลง 1.37% เมื่อเทียบกับปีก่อน

แม้ในช่วงปี 2563-2566 จะมีการปรับลดงบ กระทรวงกลาโหมลงในภาพรวม เพราะเกิดกระแสต่อต้านจากประชาชน เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่เมื่อพิจารณาในรายละเอียดแต่ละกองทัพ กลับพบว่ากองทัพอากาศยังคงได้รับการอนุมัติงบ ซื้อเครื่องบินขับไล่รุ่นใหม่จำนวน 4 ลำ วงเงินกว่า 13,800 ล้านบาท โดยเป็นงบผูกพันงบประมาณปี 2566-2569 ยิ่งตอกย้ำว่าอาวุธสำคัญมากกว่าอนาคตของเด็กไทย

‘โรม’ขยี้ปัญหาค้ามนุษย์
นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการค้ามนุษย์ว่า เราต้องตามเรื่องนี้ โดยใช้เครื่องมือเท่าที่มีคือ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ส่วนท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ไม่มีการตอบสนองเชิงบวกมีแต่การตั้งคำถามกลับ และหลังการแถลงข่าวของตนเมื่อ 27 เม.ย. การตอบสนองของพล.อ.ประยุทธ์ถือว่าแย่มาก หากเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างแท้จริงจะไม่ยอมให้เรื่องการค้ามนุษย์เกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำเรื่องนี้ไปเป็นประเด็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องรอดูต่อไป แต่แน่นอนว่าประเด็นการค้ามนุษย์ที่พล.ต.ต.ประวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตรองผบช.ภ. 8 และอดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์โรฮิงยา ออกมาเปิดเผย อยู่ในประเด็นที่พรรคให้น้ำหนักมาก

ทั้งนี้ถ้ารัฐบาลมั่นใจในความบริสุทธิ์ ก็สามารถตั้งคณะกรรมการที่มีความโปร่งใสและทีมงานที่ได้รับการยอมรับมาสอบ พล.อ.ประวิตรได้ เมื่อสอบสวนเรียบร้อยและมีหลักฐานชัดก็อาจได้รับการยอมรับและลบล้างในสิ่งที่ตน พล.ต.ต.ประวีณ และสำนักข่าวอัลจาซีรา เสนอได้

กมธ.ลดสเป๊กสมาชิกพรรค
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ และนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ… แถลงภาพรวมการทำงาน

นายรงค์กล่าวว่า วันนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ประเด็นแก้ไขเพิ่มเติมคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของสมาชิกพรรคการเมืองตามมาตราที่ 24 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 และลงมติแล้ว โดยคุณสมบัติของสมาชิกพรรคการเมืองและคุณสมบัติของ ผู้สมัครรับเลือกตั้งจะไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างพระกับเณรที่ถือศีลไม่เท่ากัน ถือเป็นกระบวนการมีส่วนร่วมทางการเมือง หากกำหนดคุณสมบัติไม่สูงจนเกินไป คนก็จะเดินเข้ามา ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยมีพรรคการเมืองจำนวนมากและควรมีคนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค การเมืองจำนวนมากเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงมติประเด็นนี้พบว่า กมธ.เสียงข้างมาก 23 เสียง ต่อ 21 เสียง และงดออกเสียง 2 เสียง เห็นชอบให้แก้ไข ปรับให้เป็นมาตราที่เพิ่มขึ้นใหม่ และเขียนเนื้อหาเพื่อลดลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองลง โดยเฉพาะการให้สิทธิบุคคลที่เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดหรือจำคุก แต่ให้รอการลงโทษในคดีทำผิดในตำแหน่งหน้าที่ราชการ งานยุติธรรม กฎหมายว่าด้วยการทำผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ หรือความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา

ปรับไพรมารีโหวตเอื้อแข่งเสรี
ด้านนายสมคิดกล่าวว่า ที่ประชุมได้มีมติแก้ไขเพิ่มเติมมาตราที่ 35 ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ซึ่งเป็นขั้นตอนการทำไพรมารีโหวต ที่ได้รับการแก้ไขจากเดิมที่จะต้องทำไพรมารีโหวตทุกเขตเลือกตั้งจำนวน 400 เขต ทำให้พรรคใหม่และพรรคเล็กมีปัญหา จึงแก้ไขให้ 1 จังหวัด มี 1 ตัวแทนจังหวัด เช่น จ.นครศรีธรรมราช มี 10 เขต ก็ใช้ตัวแทนประจำจังหวัดเพียงแค่ 1 เขตเลือกตั้ง เพื่อส่งผู้สมัครทั้ง 10 เขตเลือกตั้งได้ เพื่อเปิดช่องให้ทุกพรรคการเมือง โดยเฉพาะพรรคใหม่และพรรคเล็กส่งผู้สมัครและแข่งขันกันเสรีอย่างเต็มที่ มีความสะดวกและง่ายมากขึ้น ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น หมายความว่าการทำไพรมารีโหวตยังมีอยู่ ซึ่ง 77 จังหวัดจะมีเพียง 77 ตัวแทนประจำจังหวัดเท่านั้น

กมธ.จะสรุปทุกอย่างของร่างกฎหมายทั้งสองฉบับในวันที่ 23 พ.ค. และจะยื่นต่อรัฐสภาในวันที่ 24 พ.ค. ยืนยันว่าเมื่อเปิดสมัยประชุมสภา กมธ.พร้อมที่จะเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมวาระ 2-3 ต่อไป

‘ดร.เอ้’ใจเกินร้อยลุยหาเสียง
สำหรับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.และสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) และนายกเมืองพัทยา และสมาชิกสภาเมืองพัทยา (สม.) ในวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. บรรดาผู้สมัครต่างลงพื้นที่หาเสียงกันอย่างต่อเนื่อง

เวลา 06.00 น. ที่ตลาดวัดรวก เขตบางพลัด นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 4 เดินแนะนำตัวขอเสียงสนับสนุนและทักทาย ชาวชุมชนตลาดวัดรวก อย่างเป็นกันเอง

นายสุชัชวีร์กล่าวว่า “ผมมีใจเกินร้อยเพราะยิ่งเดินยิ่งมั่นใจ ได้พบปะพี่น้องประชาชนตั้งแต่เช้าจนถึงค่ำ และต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนจริงๆ ที่ให้กำลังใจ ให้การสนับสนุน บอกได้เลยว่า สุชัชวีร์ เบอร์ 4 จะเป็นผู้ว่าฯ ที่ดี ไม่ทำให้พี่น้องประชาชน ผิดหวัง และผมมีนโยบายปากท้องชัดเจน ตั้งใจทำให้เศรษฐกิจในชุมชนเฟื่องฟูขึ้น”

‘ชัชชาติ’สำรวจระบบรถ-ราง-เรือ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมาบเลข 8 ลงพื้นที่หาเสียงเขตภาษีเจริญและเขตตลิ่งชัน เดินทักทายประชาชนที่ตลาดเช้าวัดชัยฉิมพลีและตลาดไผ่เหลือง จากนั้นไปสำรวจพื้นที่ว่างบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบางหว้า สำรวจท่าเรือบางหว้าเพื่อดูปัญหาการเดินทางเชื่อมต่อ รถ-ราง-เรือ

นายชัชชาติกล่าวว่า ภายหลังยุติให้บริการเรือโดยสาร กทม.ต้องเข้ามาดูแลชุมชนที่อาศัยริมคลอง เนื่องจากขาดแคลนทางเลือกในการเดินทางเข้า-ออกที่อยู่อาศัย โดยเราเสนอพัฒนาทางเดินเลียบคลองให้มีความต่อเนื่องและครบถ้วน รวมถึงดูแลทางเดินให้มีความปลอดภัย มีแสงสว่าง รั้ว และติดตั้งกล้องวงจรปิดตามทางเดิน ควบคู่กับการพิจารณา เส้นทางเดินเรือโดยสาร ทั้งเส้นทางเดิมและเส้นทางใหม่ที่เหมาะสม เพิ่มตัวเลือกในการเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะ ให้ประชาชนมีความสะดวกในการเดินทางมากขึ้น

เมื่อเวลา 09.00 น. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล หมายเลข 1 ล่องเรือสำรวจเส้นทางและความเป็นไปได้ในการผลักดันเรือเมล์ ในพื้นที่เขตจอมทองและจุดเชื่อมต่อร่วมกับคลองบางกอกใหญ่ในเขตธนบุรี

บุกหนองคาย – คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวนายพิชชาวุธ เหล่าศิริวิจิตร น.ส.ทศพร จันทร์ศรี และนายธนพล ไลละวิทย์มงคล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หนองคาย เป็นนักธุรกิจหนุ่มสาวรุ่นใหม่ไฟแรง ประกาศสร้างความเปลี่ยนแปลง พลิกฟื้นเศรษฐกิจ ที่เวทีปราศรัย อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน