นัดมอบตัว5พค.คดีละเมิดสาว17
‘ไฮโซลูกนัท’ ควง ‘แอนนา’ ภรรยา พร้อม 2 เหยื่อสาวเข้าให้ปากคำตร.ลุมพินีเพิ่มเติมคดี ‘ปริญญ์’อนาจาร-ขืนใจ พร้อมให้พฐ.เก็บดีเอ็นเอ เป็นหลักฐานในสำนวนคดี ‘พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ รองผบช.น.ยันสำนวนเสร็จไม่เกินฝากขังผัด 7 แน่นอน เผย 5 พ.ค.จะไปดูแลการมอบตัวคดีก่อเหตุกับสาว 17 ที่สน.ห้วยขวาง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 เม.ย. ที่สน.ลุมพินี น.ส.หทัยรัตน์ ธนากิจอำนวย หรือ “แอนนา” 1 ในเหยื่อคดีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ล่วงละเมิด พร้อม “ไฮโซลูกนัท” นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย สามี และน.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย เจ้าของคลิปเสียงที่ถูกเผยแพร่ก่อนหน้านี้ รายที่ 6 กับน.ส.บี (นามสมมติ) ผู้เสียหายถูกข่มขืนปี 2557 รายที่ 11 เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีที่นายปริญญ์ล่วงละเมิดและข่มขืนเหยื่อรวม 15 ราย และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เพื่อให้ปากคำ เพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่พฐ.ตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำไปประกอบสำนวนคดี (ปผ
น.ส.เอกล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวน นัดหมายให้มาเก็บดีเอ็นเอ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งที่ตรวจพบในห้องที่เกิดเหตุ และตนยังนำหลักฐานมามอบให้ตำรวจ เพิ่มเติมด้วย โดยเป็นหลักฐานการพูดคุยทางโทรศัพท์ ที่จะยืนยันได้ว่าตนพูดคุยกับอดีตรองหัวหน้าพรรคจริง โดยกรณีของตนไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่น คือมีการพูดคุยติดต่อกันเรื่องงาน ก่อนถูกล่อลวงให้ไปพบที่สำนักงาน เมื่อไปถึง กลับถูกลวนลามและล่วงละเมิดทางเพศ หลังเกิดเหตุ ตนรู้สึกเสียใจ แต่ตกใจ ยิ่งกว่าเมื่อทราบข่าวว่าไม่ใช่ตนเพียงคนเดียวที่ถูกกระทำเช่นนี้ ตอนแรกต้องการออกมาให้ปากคำในฐานะพยาน แต่เมื่อตำรวจแจ้งว่าต้องดำเนินคดี เพราะเป็นความผิดที่ยอมความไม่ได้ ตนก็พร้อมให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ และหากคดีไปถึงชั้นศาล ยืนยันว่าจะยังคงให้การเหมือนเดิม ขณะนี้ที่ผู้ต้องหายังไม่ถูกสั่งฟ้องก็มีความกังวลบ้าง แต่เชื่อว่าความจริงก็คือความจริง
“หลังเกิดเหตุ อดีตรองหัวหน้าพรรคไม่ได้ติดต่อมาหา จนถึงขณะนี้ยังไม่มีใครติดต่อมาเพื่อให้ยอมความหรือข่มขู่ ยังใช้ชีวิตได้ ตามปกติ ยอมรับว่าส่วนตัวมีความกังวลใจ เพราะไม่ทราบว่าคดีจะจบเมื่อไร กังวลว่า จะมีผลในระยะยาว แต่เชื่อว่าความจริงก็คือความจริง นอกจากนี้ยังขอเป็นกำลังใจให้กับผู้เสียหายรายอื่นๆ ซึ่งไม่สามารถจะบอกใครได้ว่าต้องทำอย่างไร เพราะแต่ละคนเจอเหตุการณ์มาไม่เหมือนกัน แต่อยากให้ผู้เสียหายออกมาเรียกร้องเพื่อตนเอง”
ด้านน.ส.แอนนาเปิดเผยภายหลังเข้าพบพนักงานสอบสวนว่า วันนี้ตนมาให้รายละเอียดเพิ่มเติม และตรวจดีเอ็นเอ คาดว่าเพื่อนำไปตรวจกับหลักฐานที่ตำรวจเก็บมาจากสถานที่เกิดเหตุ เข้าใจว่าตำรวจได้ทำตาม กระบวนการแล้ว ส่วนกระแสของคดีที่เงียบไปนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม ขณะนี้ตนกำลังทำโครงการที่จะสื่อว่าการกระทำ ลักษณะเกี่ยวกับนายปริญญ์เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น และผู้เสียหายไม่จำเป็นต้องอาย นับตั้งแต่เปิดเผยเรื่องราว ตนไม่เคยรู้สึกอับอาย เพราะไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนผู้เสียหายรายอื่นๆ ตนรู้ว่าชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การออกมาพูดและเปิดเผยว่าเป็นผู้เสียหายนั้นดีมากๆ ตนขอฝากกำลังใจ ให้มีความสุข ในทุกๆ วัน ส่วนกระบวนการยุติธรรม ตนอยากเป็นตัวแทนในการสู้เพื่อผู้เสียหาย จากนี้จะเดินหน้ารณรงค์เกี่ยวกับการล่วงละเมิด ทางเพศ และการใช้ความรุนแรงในครอบครัว อยากเปลี่ยนสังคมให้รู้ว่าคนที่อายต้องเป็นนายปริญญ์ ตอนที่ตนเปิดเผยตัวไม่ได้ต้องการแค่เพื่อให้ชนะคดี แต่ต้องการเปลี่ยนสังคม เพราะคิดว่าเรื่องลักษณะนี้ยังมีอยู่ โดยเฉพาะในองค์กรที่แตะต้องไม่ได้ ตนจึงต้องการเปลี่ยน สังคมให้มองว่าการล่วงละเมิดทางเพศ และการคุกคามเป็นเรื่องที่ไม่ดี
ขณะที่นายธนัตถ์กล่าวว่า ขณะนี้ภรรยาสภาพจิตใจดีกว่าตนเอง เหตุผลที่ภรรยา เลือกเปิดเผยตัวตนนั้นเป็นการต่อสู้เพื่อผู้อื่น เพื่อให้ผู้เสียหายรายอื่นสามารถสู้ในกระบวนการ ยุติธรรมได้อย่างสบายใจ และตนพร้อมจะสนับสนุน ไม่ต้องการแค่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับตนเองหรือเอาชนะคดี แต่ตั้งใจว่าจะไม่หยุด จนกว่าสังคมจะมีท่าทีต่อการล่วงละเมิดทางเพศเปลี่ยนไป อยากให้ติดตามประเด็นการล่วงละเมิดทางทางเพศ ทุกกรณี ถึงเวลาที่ผู้เสียหายต้องไม่เป็นเหยื่อของสังคมและรู้สึกอับอาย ส่วนเรื่องคดีความที่ด่าทอตำรวจ ตนไม่มีความกังวล และตั้งใจจะขอโทษ ทั้งนี้ยังไม่มีโอกาสได้พูดคุย กับผกก.สน.ลุมพินี แต่หากมีอะไรที่จะ รับผิดชอบได้ ก็ยืนยันที่จะรับผิดชอบ
ด้านพล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจทยอยเชิญผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติมในประเด็นที่คณะพนักงานสอบสวนมอบหมายให้ไปดำเนินการ อย่างผู้เสียหาย 3 รายนี้ เป็นการเชิญมาให้ปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น และเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอซึ่งในคดีกระทำอนาจารจะเป็นการเก็บเพื่อนำไปเปรียบเทียบกับ วัตถุพยานต่างๆ อาจจะทราบผลได้เร็วกว่า ส่วนคดีข่มขืนกระทำชำเรานั้น ต้องใช้เวลาอีกระยะในการส่งตรวจหาผลทางนิติวิทยาศาสตร์ แต่ยืนยันว่าทุกกระบวนการจะเสร็จสิ้นทันกำหนด ผัดฝากขังไม่เกินผัดที่ 7 แน่นอน ส่วนคดีที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายที่ตอนเกิดเหตุมีอายุแค่ 17 ปี ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง คดีดังกล่าวพนักงาน สอบสวนนัดหมายให้ผู้ต้องหามารับทราบ ข้อกล่าวหาในวันที่ 5 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ในวันดังกล่าว ตนจะไปดูการเข้ามอบตัวด้วย