16 จว.อ่วมพายุลูกเห็บ ปภ. สรุปบ้านพัง 415 หลัง ฟ้าฝนเริ่มกระหน่ำเย็นยันเช้ามืด ไม้ใหญ่ล้มเกลื่อน นครปฐมท่วมขัง ถนนจม 30-40 เซนติเมตร ยาว 3 กิโลเมตร รอบพระปฐมเจดีย์ก็ไม่รอด

เมื่อวันที่ 29 เม.ย. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุม ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้ ขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 28-29 เม.ย. ส่งผลให้เกิดวาตภัยในพื้นที่ 16 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ตาก พิจิตร สระบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี มุกดาหาร กาฬสินธุ์ มหาสารคาม สกลนคร บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา และจันทบุรี รวม 30 อำเภอ 48 ตำบล 93 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 415 หลัง มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ที่จ.กาฬสินธุ์ ไม่มีผู้เสียชีวิต

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.แม่ฮ่องสอนว่า ผลจากพายุตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 28 เม.ย. ทำให้ต้นไม้ล้มพาดสายไฟและกีดขวางเส้นทางทางหลวงหมายเลข 108 และถนนภายในหมู่บ้าน บ.ป่าปุ๊ ต.ผาบ่อง อ.เมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และทหาร ต้องระดมกำลังช่วยตัดต้นไม้เพื่อเปิดเส้นทางการจราจร สำหรับสถานการณ์พายุลูกเห็บ เคยตกลงมาอย่างหนักเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ในพื้นที่บ้านหัวแม่เมือง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน จนทำให้หมู่บ้านบนยอดเขาห่างไกลขาวโพลนราวกับมีหิมะปกคลุม จนดังไปทั่วโซเชี่ยล

ที่จ.แพร่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำของวันที่ 28 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองและพายุลมร้อนพัดกระหน่ำ 5 หมู่บ้านในอ.ลอง ร่วม 100 หลังคาเรือน ความเสียหายจากพายุฤดูร้อน ต.บ้านปิน มีความเสียหายที่บ้านหมู่ 5 บ้านปิน และบ้านบนนา ม.4 เทศบาลตำบล บ้านปิน รวมทั้งอีก 3 หมู่บ้านในเขตตำบลห้วยอ้อ อ.ลอง หลังคาบ้านถูกลมพัดพังเสียหาย ที่ชาวบ้านต่างหลบฝนและหนีตายกันจ้าละหวั่น พร้อมทั้ง แจ้งให้ อบต.บ้านปิน ทราบเพื่อให้มาช่วยเหลือ เนื่องจากพายุที่พัดมาในครั้งนี้ มีทั้งลมและลูกเห็บ นับเป็นพายุ ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี ที่เกิดขึ้นใน ต.บ้านปิน

ที่จ.พิษณุโลก ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้เข้าสำรวจความเสียหาย หลังเกิดพายุพัดถล่มพื้นที่ต.มะขามสูง ต.บึงพระ ต.ดอนทอง ต.หัวรอ อ.เมือง ในช่วงเมื่อคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้ในหลายพื้นที่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย มีต้นไม้หักโค่นกีดขวางถนนหลายจุด ขณะที่บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบอย่างหนัก มีบ้านพังเสียหายไม่ต่ำกว่า 50 หลังคาเรือน ส่วนหมู่ 14 บ้านหินลาด ต.ดอนทอง มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายมากกว่า 20 หลังคาเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพิจิตร ว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุฝนตกลงมาอย่างหนักและมีลมพายุพัดมาอย่างรุนแรง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนหลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย สังกะสีปลิวว่อน ปลิวไปกับสายลม ต้นไม้ในหมู่บ้านหักโค่น ไฟฟ้าดับ จาการสำรวจของความเสียหาย เบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนประชาชนพังเสียหายในพื้นที่ 5 อำเภอประกอบไปด้วย อ.โพทะเล อ.ทับคล้อ อ.ตะพานหิน อ.ดงเจริญ อ.บางมูลนาก รวม 12 ตำบล 25 หมู่บ้าน บ้านพังเสียหาย 84 หลังคาเรือน หนักสุดคือ อำเภอบางมูลนากบ้านเรือนพัง 26 หลังคาเรือน

ที่จ.ขอนแก่น นายพีระพงศ์ หมื่นผ่อง หัวหน้า ปภ.จ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากรายงานความเสียหายของทางอำเภอต่างๆ ที่ได้รับ ผลกระทบจากพายุลูกเห็บเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา เบื้องต้นทราบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายรวมแล้วกว่า 200 หลังคาเรือน ประกอบด้วยอำเภอแวงใหญ่ซึ่งได้รับความ เสียหายหนักสุดกว่าร้อยหลังคาเรือน อ.บ้านไผ่, หนองเรือ และอ.หนองสองห้อง รวมๆ แล้วกว่า 200 หลังคาเรือน และยังอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติมในช่วงเช้าวันนี้ และจะได้เข้าไปให้การช่วยเหลือทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อ.แวงใหญ่ จ.ขอนแก่น เกิดพายุลูกเห็บและพายุฝนพัดถล่ม จ.ขอนแก่น ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่ม.1 และ ม.14 ต.ใหม่นาเพียง ซึ่งเป็นสองหมู่บ้านติดกัน พบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่ต่างเร่งขนย้ายข้าวของและทรัพย์สินไว้ในที่ปลอดภัย เนื่องจากเกรงว่าพายุจะพัดถล่มอีกครั้ง








Advertisement

นางพรพรรณ จำปา อายุ 50 ปี ชาวบ้านใหม่นาเพียง กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาขณะนั้นตนเองและครอบครัวอยู่ในบ้าน ก็มีพายุหมุนมาพร้อมลูกเห็บ ลมพัดมาอย่างแรงจนต้องเรียกทุกคนมาหาที่หลบในบ้าน เพราะกลัวว่าสังกะสีจะปลิวไปโดนคนในบ้าน ขณะนั้นได้ยินแต่เสียงลมและฝน ทั้งอยากจะดูลูกเห็บแต่ก็ไม่กล้าออกไป ก่อนที่พายุจะสงบและพบว่าหลังคาได้ปลิวหายไปดังกล่าว ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนมาสำรวจความเสียหายรายงานไปยังทางจังหวัดได้เข้ามาช่วยเหลือ

“พายุลูกเห็บครั้งนี้รุนแรงมาก ทุกคนต่างตกใจและกลัวต้องอยู่อย่างผวา เพราะภายหลังจากช่วงเย็นที่มีพายุลูกเห็บพัดหมุนมาอย่างรุนแรงแล้ว กล่างดึกที่ผ่านมาก็มีฝนตกลงมา ซ้ำอีกรอบ ต้องหาที่หลบฝน และหากใน วันนี้มีฝนกระหน่ำลงมาอีกก็ต้องไปอาศัย บ้านญาติชั่วคราวเพื่อหาที่หลบและรอทาง หน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลืออีกครั้ง”

ที่จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์วาตภัยแจ้งว่า จากเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่ม ในพื้นที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ว่า มีบ้านเรือนประชาชนในหลายอำเภอ ตลอดจนสิ่งปลูกสร้าง ถูกลมพายุพัดกระโชกอย่างรุนแรงได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยที่อ.บัวใหญ่ พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านเรือนประชาชนพังเสียหาย ต้นไม้หักโค่น รวมถึง เสาหลักเมืองที่ทางเทศบาลเมืองบัวใหญ่ได้ประกอบพิธีเพื่อเตรียมที่จะสร้างศาลหลักเมืองบัวใหญ่ ก็ถูกลมพายุพัดเต็นท์และเสาหลักเมืองเอียงได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน และจากการสำรวจความเสียหายเบื้องต้น มีบ้านเรือนใน ต.กุดจอก, ต.บัวใหญ่, ต.ด่านช้าง, ต.เสมาใหญ่, ต.หนองแจ้งใหญ่, ต.หนองบัวสะอาด และต.ขุนทอง ในอ.บัวใหญ่ บ้านพักอาศัย สิ่งปลูกสร้าง ได้รับความเสียหายจำนวนมาก ขณะที่อ.พิมาย ก็ถูกพายุพัดถล่มในพื้นที่หมู่ 1, 9, 12, 17 ต.รังกาใหญ่ เบื้องต้นมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลัง และที่บ้านตะบอง ต.กุดโบสถ์ ต้นไม้ล้ม กีดขวางการจราจร ส่วน อ.แก้งสนามนาง ที่บ้านนาแค ม.7 ต.โนนสำราญ และบ้านไทยสามัคคีธรรม ม.11 เบื้องต้นมีบ้านเรือนเสียหาย 5 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ส่วนที่บ้านศาลาหนองขอน ม.5 ต.บึงพะไล ถนนสายบ้านหนองขามนาดี-บ้านศาลาหนองขอน มีต้นไม้ใหญ่ล้มทับเสาไฟฟ้าทำให้รถสัญจรไปมาไม่ได้

ที่จ.ยโสธร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำ วันที่ 28 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนพัดเข้าถล่ม บ้านเรือนชาวบ้านเสียหายหลังคาถูกพายุหมุนหอบเอาหลังคาปลิวหาย มีที่บ้านนาคำ หมู่ 8 ตำบลเดิด และบ้านนาสะไมย์ หมู่ 3 ตำบล นาสะไมย์ อ.เมืองยโสธร

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สระบุรี ว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 28 เม.ย. เกิดพายุฤดูร้อนพัดกระหน่ำ ซึ่งมีทั้งฝน และลมกระโชกแรง นานหลายชั่วโมง ส่งผลให้หลายหมู่บ้านในพื้นที่ อ.เสาไห้ ได้รับความเสียหาย 10 หลังคาเรือน บ้านเรือนหลังคาเปิดปลิวไปกับกระแสลมพายุ ต้นไม้ล้มทับบ้านเรือนประชาชน และถังน้ำประปาหมู่บ้านทรุดตัวล้มลงทับหลังคาบ้าน ซึ่งพื้นที่ ที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ ม.3 ต.ท่าช้าง เสียหาย 5 หลังคาเรือน ม.14 ต.บ้านยาง บ้านหลังคาเปิด 2 หลังคาเรือน ม.1 ต.เริงราง 3 หลังคาเรือน และ ม.3 ต.ศาลารีไทย

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดลมพายุฤดูร้อน ฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ในหลายพื้นที่ ทั้ง 16 อำเภอ ตั้งแต่ช่วงเย็นจนถึงค่ำส่งผลกระทบทำให้บ้านเรือน ประชาชน โรงเรียน วัด ป้ายโฆษณา ขนาดใหญ่ ต้นไม้ล้ม เสาไฟฟ้าล้ม ไฟฟ้าดับนานหลายชั่วโมง โดยที่วัดท่าโขลง ต.วัดตูม อ.พระนครศรีอยุธยา ต้นคาง ขนาดใหญ่สูง 12 เมตร ที่อยู่ใกล้กับกุฏิพระสงฆ์ของวัดท่าโขลง ถูกลมพายุพัดจนต้นไม้ลมลงมาทับกุฏิ ซึ่งเป็นกุฏิปูนสองชั้น หลังค้าไม้ทรงไทย ได้รับความเสียหายทั้งหลัง หลังคาถูกกิ่งไม้ทะลุ ข้าวของภายในกุฏิได้รับความเสียหายทั้งหมด พระอารมณ์ สันตมโน อายุ 78 ปี ที่จำวัดอยู่ในกุฏิ เปิดเผยว่า หลังต้นไม้ล้มทับทำให้ไฟฟ้าดับและหลังคากุฏิพังต้องรีบหนีออกมา

เวลา 02.00 น. วันที่ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าว รายงานจากจ.ปราจีนบุรี ว่า ที่บ้านเลขที่ 135 บ้านหนองตอ ม.3 ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี ถูกพายุฝนพัดหลังคาบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จ หายทั้งแถบ เจ้าของบ้านต้องกางร่มนอน ตากฝนทั้งคืนจนรุ่งสาง

จมบาดาล – ถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครนครปฐมกลายเป็นคลอง หลังพายุฝนถล่มหนักทั้งคืนถึงเช้ามืด ทำให้ระบายน้ำไม่ทันเกิดท่วมขัง ส่งผลให้มีรถยนต์ที่ขับลุยน้ำจอดเสียจำนวนมาก เมื่อวันที่ 29 เม.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานมาจาก จ.นครปฐม เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 29 เม.ย.65 ที่ผ่านมา หลังจากที่เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักยาวนานหลายชั่วโมง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังฉับพลัน น้ำท่วมหนักจนไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างสะดวก เป็นเหตุให้ผู้ใช้รถใช้ถนนได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครนครปฐม หลังจากที่เมื่อคืนที่ผ่านมามีพายุ พัดถล่มตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น. ไปจนถึงเวลา 02.00 น. กลางดึก โดยด้านหน้าโรงเรียนราชินีบูรณะมุ่งหน้ามาถึงสภ.เมืองนครปฐมและสิ้นสุดไปยังด้านหน้าบริเวณมหาวิทยาลัยศิลปากร ระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตรนั้น มีน้ำท่วมขังสูง 30-40 เซนติเมตร ขณะเดียวกันที่บริเวณถรอบรั้วองค์พระปฐมเจดีย์ เกิดน้ำท่วมขังสูง และหน้าโรงแรมเวล ถนนราชวิถี เกิดน้ำท่วมขังสูงเช่นกันเนื่อจากในพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ต่ำ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้าเพราะ มีบ้านติดริมถนน เมื่อรถวิ่งผ่าน น้ำก็จะพัด เข้าสู่บ้านเรื่องประชาชน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน