เมื่อวันที่ 8 พ.ค. พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศอ.ปส. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ปส. สั่งการให้พล.ต.ต.พรศักดิ์ สุรสิทธิ์ ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ อํามาตย์โยธิน รอง ผบก.ปส.4 พ.ต.อ.อภิรัตน์ โทจำปา ผกก.3 บก.ปส.4 นำกำลังจับกุมนายอับดุลรอพี หรือแบดี หรือบังดี หรือธวัชชัย อุแม หรือเบญมะอูเซ็ง อายุ 54 ปี ชาวจ.ปัตตานี ตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 25 ม.ค.65 ข้อหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ชนิดร้ายแรง (เฮโรอีน) โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เป็นการกระทำเพื่อการค้าฯ และสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด โดยจับกุมได้ที่ท่าเรือปากบารา ม.2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล
พล.ต.ท.สรายุทธเปิดเผยว่า นายอับดุลรอพีเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ลำดับที่ 11 ตามบัญชีนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ 2565 สำนักงานป.ป.ส.ตั้งเงินรางวัลนำจับไว้สูงถึง 1.5 ล้านบาท ที่ผ่านมาบช.ปส.เร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดรายสำคัญมาตลอด แต่ด้วยความชำนาญพื้นที่ของผู้ต้องหา มักข้ามไปมาระหว่างประเทศเพื่อนบ้านเป็นประจำ ตำรวจชุดจับกุมจึงใช้ระบบฐานข้อมูล (Big Data) วิเคราะห์ข้อมูลและเฝ้าติดตาม แกะรอยสืบสวนเรื่อยมา จนพบความเคลื่อนไหวของผู้ต้องหาจะข้ามเรือกลับมาที่ท่าเรือปากบารา จึงวางแผนเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
หนีไม่รอด – ตำรวจปส.จับกุมนายอับดุลรอพี หรือบังดี อุแม เอเยนต์ยาเสพติด รายใหญ่ของภาคใต้ ค่าหัว 1.5 ล้านบาท ระหว่างหลบหนีข้ามเรือมาที่ท่าเรือปากบารา ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล เมื่อวันที่ 8 พ.ค.
สำหรับนายอับดุลรอพี หรือแบดี อุแม เป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ เมื่อเดือนก.พ.2558 ว่าจ้างให้นายอดุลย์ เสริมศาสน์ อายุ 56 ปี นายสุกีลฮารง หรืออารง หะมะ อายุ 44 ปี และนายอัสมา หรือซาฮา สามะ อายุ 30 ปี มารับเฮโรอีน 31 ถุง น้ำหนัก 12.080 ก.ก. มูลค่า 20 ล้านบาท เพื่อนำไปส่งให้ลูกค้า ก่อนจะถูกตำรวจบช.ปส.จับได้ ส่วนนายอับดุลรอพีหลบหนีไปได้
นอกจากนี้ยังพัวพันคดียาเสพติดอีกหลายคดี ส่วนใหญ่จะข้ามไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้านทำให้ยากต่อการจับกุม จนถูกประกาศเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ลำดับ 11 เงินรางวัลนำจับสูงถึง 1.5 ล้านบาท รวมทั้งมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับนายอุสมาน สะแลแมง นักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ขณะนี้ด้วย
