คณะแพทย์แถลงยัน เถระดังมี 10โรครุมเร้า เป็นอัลไซเมอร์ระยะ1 สภาทนายตั้งสอบด่วน ฟันหมอความทีมล่อซื้อ
หมอปลาพาเมีย-ทนายไพศาล พร้อมทีมงานตั้งโต๊ะขมาหลวงปู่ที่บ้านเพชรบุรี ส่วนกรณีลูกศิษย์หลวงปู่ให้ไปขมาต่อหน้า ยืนยันพร้อม แต่อ้างมีบางคนไม่อยากให้เข้าพื้นที่ ทีมแพทย์แถลงยืนยัน ‘หลวงปู่แสง’อาพาธอัลไซเมอร์ ส่งผลทำให้การแสดงออกทางพฤติกรรมและอารมณ์มีความผิดปกติ เผยหลวงปู่มี 10 โรครุมเร้า ขณะที่สภาทนายความตั้งกรรมการสอบมรรยาททนายความร่วมทีมวางแผนล่อซื้อ
เมื่อวันที่ 14 พ.ค. นพ.เศวต ศรีศิริ ผอ.ร.พ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี พร้อมคณะแพทย์ผู้รักษาหลวงปู่แสง ญาณวโร มากว่า 20 ปี ประกอบด้วย นพ.สมฤทธิ์ เวียงสมุทร นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ ร.พ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ นพ.ปิยวัฒน์ จิรัปปภา รองผอ.ร.พ.พริ้นซ์ และนพ.พงษ์พัฒน์ พิมพ์สะ นายแพทย์ชำนาญการ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าอาการอาพาธของหลวงปู่แสง จาก อัลไซเมอร์ ที่ห้องแถลงข่าวชั้น 2 ร.พ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี
นพ.เศวต กล่าวในฐานะแพทย์ผู้เคยรักษาอาการอาพาธ ระบุว่า คณะศิษยานุศิษย์ มอบหมายให้คณะแพทย์ผู้รักษาอาการอาพาธของหลวงปู่แสงมากว่า 20 ปี ให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสุขภาพของหลวงปู่แสง คณะแพทย์วินิจฉัยว่า มีภาวะอัลไซเมอร์ ระยะที่ 1 มีโอกาสที่ผู้ป่วยจะมีความจำถดถอยบ้างถามซ้ำๆ พูดซ้ำๆ เรื่องเดิม แต่ยังสื่อสารและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ส่วนจะเป็นอัลไซเมอร์ ระยะที่ 2 หรือไม่นั้น แพทย์เฉพาะทางยังต้องวินิจฉัยเพิ่มเติม ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบพบว่า หลวงปู่แสงมีประวัติไข้มาลาเรียขึ้นสมอง ในทางการแพทย์ หากการตรวจเชื้อซิฟิลิส (TPHA Test) อาจพบเชื้อลวง ควรตรวจซ้ำเพื่อยืนยัน หรืออาจเคยติดเชื้อซิฟิลิสมาก่อนก็เป็นได้ หากสงสัยจริงๆ อาจใช้วิธีเจาะน้ำไขสันหลังตรวจสอบเพิ่มเติม
ขณะที่นพ.สมฤทธิ์ แพทย์ผู้ให้การดูแลรักษาอาการอาพาธหลวงปู่ใกล้ชิด กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นที่เริ่มเข้าไปดูแลอาการอาพาธของหลวงปู่แสง มีอาการติดเชื้อที่ปอด (ปอดอักเสบ) อาการปวดหลังร้าวลงขา ร่วมกับขาทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง เกิดจากสาเหตุกระดูก สันหลังทับเส้นประสาทและมีอาการของโรคเกาต์ร่วมด้วย การรักษาส่วนใหญ่แพทย์ไปวัดที่หลวงปู่แสงจำพรรษา ส่วนการรักษาที่ โรงพยาบาลเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะหลวงปู่แสงไม่ประสงค์เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลและไม่ชอบฉันยา
ช่วงกลางปี 2561 พระอุปัฏฐากโทร.ปรึกษาถึงอาการอาพาธของหลวงปู่แสงที่มีอาการผิดปกติ มีพฤติกรรมแปลกไป คือมีการถูกเนื้อต้องตัวลูกศิษย์ที่เข้าไปกราบ จึงให้ คำปรึกษาทางการแพทย์ว่า เนื่องจากอายุมากอาจมีภาวะสมองฝ่อตามวัย หากบริเวณที่ฝ่อเกี่ยวข้องกับส่วนที่ทำหน้าที่ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม อาจส่งผลทำให้การแสดงออกทางพฤติกรรมและอารมณ์มีความผิดปกติ โดยที่ความทรงจำยังเป็นปกติอยู่ เพราะสมองส่วนที่ทำงานนั้นคนละส่วนกัน ต่อมาทางคณะศิษย์ได้นิมนต์ไปเข้าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ที่ร.พ.กรุงเทพเชียงใหม่ ทำให้ทราบว่ามีภาวะของอัลไซเมอร์
ทั้งนี้ ช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 กำลังระบาด ทีมลูกศิษย์ที่ดูแลท่านสับเปลี่ยนหมุนเวียนเปลี่ยนไปจึงไม่ทราบว่าอาการพฤติกรรมที่ผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้นได้รับการรักษาแล้วหรือไม่ แต่เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา คณะแพทย์เข้าเยี่ยมและตรวจอาการอาพาธเป็นที่เรียบร้อย และจะให้การดูแลรักษาอาการอาพาธของท่านต่อไป
สรุปอาการอาพาธของหลวงปู่แสง ญาณวโร จากประวัติการรักษาของคณะแพทย์ 1.การทำงานของทางเดินอาหารผิดปกติ (GI vasculopathy) 2.โรคหัวใจที่เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจห้องล่างซ้ายผิดปกติ (CHF c Cardiomypathy LVH) 3.โรคความดันโลหิตสูง (HT) 4.โรคต่อมลูกหมากโต (BPH) 5.ปวดหลังเนื่องจากกระดูกสันหลังคด (Low back pain c Scoliosis) 6.ข้อเข่าเสื่อมทั้ง 2 ข้าง (OA both khee) 7.โรคกระดูกพรุน (Osteoporosis) 8.โรคนอนหลับยาก (Elderly c Insomnia) 9.สมองเสื่อมและอัลไซเมอร์ ระยะที่ 1 (dementia c Alzheimer’s) และ 10.ภาวะพฤติกรรมอารมณ์ที่ผิดปกติที่เกี่ยวกับสมองเสื่อม (BPSD = behavioral and psychological symtoms of dementia)
ด้านนายเฉลิมชัย จันทะโคตร อายุ 43 ปี ลูกศิษย์หลวงปู่แสง ที่มาร่วมฟังแถลงข่าวอาการป่วยของหลวงปู่ที่โรงพยาบาลพริ้นซ์ กล่าวถึงการทำงานของสื่อมวลชนในอนาคตว่า อยากให้มีการไตร่ตรอง หรือวิเคราะห์แล้วใช้ความระมัดระวังก่อนนำเสนอมากขึ้น ส่วนที่ทางวัดโดนคือ สุดท้ายแล้วหลวงปู่ท่านเมตตาอโหสิกรรมให้ทุกท่าน หมอปลา ทีมงานอยากมากราบหลวงปู่แสง หลวงปู่แสงให้ความเมตตา ยินดีต้อนรับสู่จังหวัดอำนาจเจริญ โดยประสานผ่านตนหรือทีมงานที่อยู่กับหลวงปู่แสง
Advertisement
“ส่วนน้องนักข่าวที่ถูกให้ออกจากงานรู้สึกตกใจและเสียใจ เพราะเมื่อวานน้อง เดินทางมาขอขมาหลวงปู่ จึงรู้สึกเห็นใจน้อง นักข่าว สำหรับที่มีนักกฎหมายเสนอว่า การ กระทำของหมอปลาและนักข่าวเข้าข่ายความผิดหลายข้อนั้นคณะลูกศิษย์ไม่ติดใจและอโหสิกรรมให้มีเมตตาตามที่หลวงปู่บอกไว้ สำหรับอาการของหลวงปู่ขณะนี้ยังไม่ แข็งแรง มีอาการเหนื่อยล้า หลังถูกจู่โจมมาคาดคั้นในครั้งนั้น ซึ่งคณะศิษยานุศิษย์และ ทีมแพทย์ได้ดูแลหลวงปู่อย่างใกล้ชิดแล้ว” นายเฉลิมชัยกล่าว
ส่วนที่วัดป่าอรัญญาวิเวก ต.ไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ สถานที่จำวัดในปัจจุบันของหลวงปู่แสง ชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงบรรดาลูกศิษย์จากทั่วสารทิศเข้าถวายภัตตาหารอย่างต่อเนื่อง โดยทางวัดอนุญาตให้เฉพาะญาติโยมที่นำของมาถวายหลวงปู่และพระลูกวัดเข้าไปภายในวัดได้ ยังไม่ให้นักข่าวหรือบุคคลอื่นๆ เข้าไป เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นการรบกวนหลวงปู่ที่อยู่ในช่วงพักผ่อนและรักษาตัว โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจัดกำลังเข้าดูแลความเรียบร้อยภายในและรอบวัด และจัดอสม.ตรวจคัดกรองญาติโยมที่เข้ากราบหลวงปู่แสงอย่างเข้มงวด ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยของหลวงปู่
นายสมบูรณ์ ศาสตราไชย อายุ 71 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่เข้ามาถวายภัตตาหารหลวงปู่แสงในเช้าวันนี้ เปิดเผยว่า หลังจากทราบเรื่องนักข่าวคนดังกล่าวถูกปลดออกแล้ว เชื่อว่าต้นสังกัดทำถูกต้องแล้วเพราะต้องพิจารณาตามเรื่องราว และกรรมได้ทำหน้าที่ของมันแล้ว เหล่าบรรดาลูกศิษย์และชาวบ้านทุกคนต่างให้อภัยในสิ่งที่นักข่าวคนนั้นได้ทำลงไป เพราะคิดว่านักข่าวคนนั้นยังเด็กและยังต้องมีอนาคตไปข้างหน้าอีก ไม่ได้ถือโทษแต่อย่างใด และเชื่อว่าหลวงปู่เองไม่ได้ถือโกรธเหมือนกัน ส่วนตัวอยากให้หมอปลาเข้ามาขอขมาหลวงปู่ที่วัด ไม่ใช่ผ่านการไลฟ์สดอยู่บ้าน เพราะหลวงปู่เองคงอยากให้เข้ามาหาหลวงปู่ด้วยจะได้พูดคุยกัน
วันเดียวกัน กองบรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์หลายช่อง ต่างออกประกาศขออภัยต่อความผิดพลาดที่เกิดขึ้นในการนำเสนอข่าวที่ไม่เหมาะสม มีความหมิ่นเหม่ต่อหลักจรรยาบรรณการทำหน้าที่สื่อมวลชน นำเสนอข่าวสารไม่ครบถ้วนรอบด้าน พร้อมมีคำสั่งปลดและพักงานผู้สื่อข่าวภาคสนามที่ร่วมมีส่วนเกี่ยวข้อง
วันเดียวกัน กองบรรณาธิการข่าวเวิร์คพอยท์ เผยแพร่ประกาศปลดนักข่าวสาวที่แสดงกิริยาไม่เหมาะสมต่อหลวงปู่แสงพ้นสภาพการเป็นผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ โดยระบุความผิดดังนี้ 1.มีกิริยาไม่เหมาะสมไม่เคารพต่อแหล่งข่าว 2.แสดงความไม่เป็นกลางในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน 3.ตัดสินใจร่วมกับสื่อสำนักอื่นและแหล่งข่าวในการสร้างหลักฐาน โดยไม่ขออนุญาตผู้บังคับบัญชาหรือรายงานต้นสังกัด
ส่วนสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เผยแพร่ ประกาศสำนักข่าว ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่า นายจีระพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้ขอให้ผู้สื่อข่าวหญิงไปร่วมหาหลักฐาน ที่สำนักสงฆ์ดงสว่างธรรม อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร จนกลายเป็นคลิปภาพที่ปรากฏในข่าว จากกรณีดังกล่าว สำนักข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ได้สอบถาม ผู้สื่อข่าวภาคสนามที่ติดตามทำข่าวหมอปลา โดยได้รับชี้แจงว่า ได้รับรู้ว่ามีการถ่ายคลิปภาพผู้สื่อข่าวหญิงจริง แต่ไม่ได้แจ้งให้ต้นสังกัดทราบถึงกระบวนการได้มาซึ่งภาพข่าว ซึ่งมีความล่อแหลมต่อหลักจรรยาบรรณการทำหน้าที่สื่อมวลชน ที่อาจนำไปสู่การนำเสนอข่าวที่ไม่ครบถ้วน หรือผิดไปจากข้อเท็จจริง
สำนักข่าวสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ตระหนักถึงจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน และดำเนินการสอบสวนทันที เมื่อได้ทราบประเด็นปัญหากรณีคลิปข่าวดังกล่าว ผลการสอบสวนเบื้องต้นตักเตือนผู้สื่อข่าวคน ดังกล่าว และสั่งพักงานเป็นเวลา 15 วัน เพื่อตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพิ่มเติมรวมถึงการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องและ หัวหน้างาน ก่อนจะมีการกำหนดบทลงโทษที่เหมาะสมต่อไป
ขณะที่กองบรรณาธิการข่าว สถานีโทรทัศน์อมรินทร์ทีวี ออกประกาศสั่งพักงานผู้สื่อข่าว 15 วัน พร้อมตั้งกรรมการสอบจริยธรรมเพื่อกำหนดบทลงโทษต่อไป เช่นเดียวกับสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวีพักงานผู้สื่อข่าวภาคสนามที่ปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าว ดังกล่าวเพื่อสอบสวนเป็นเวลา 7 วัน และได้ตั้งกรรมการตรวจสอบผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงหัวหน้างานตามลำดับสายงาน ก่อนจะมีการพิจารณาถึงบทลงโทษอื่นๆ ต่อไป
ขณะที่ นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการสภาทนายความ ในฐานะโฆษกสภาทนายความฯ ให้ความเห็นกรณีข่าวเดียวกัน และมีทนายความร่วมอยู่ด้วยในช่วงเกิดเหตุ โดยปรากฏความภายหลังว่ามีการวางเเผนลักษณะล่อซื้อว่า สภาทนายความรับทราบเรื่อง ดังกล่าวเเล้วเเละไม่ได้นิ่งนอนใจ ตรวจสอบกรณีคนอาชีพทนายความถูกกล่าวหาว่าไปร่วมทำเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวโดยเตรียมจะส่งให้คณะกรรมการมรรยาททนายความพิจารณา เเละหากพบว่าการกระทำดังกล่าวมีการกระทำความผิดตามมรรยาททนาย ความจริง กรรมการมรรยาทจะลงโทษตามระเบียบข้องบังคับเเละกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สภาทนายความเตรียมที่จะเเถลงการณ์เรื่องนี้ต่อสาธารณชนต่อไป
วันเดียวกัน นายจีระพันธ์ หรือ หมอปลา เพชรขาว พร้อม น.ส.รภัสรณ์ หรือ น้ำฟ้า ฤทธิธนไพบูลย์ ภรรยา นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ พร้อมทีมงานร่วมกันทำพิธี ขอขมาหลวงปู่แสง ที่บ้านของหมอปลา จ.เพชรบุรี โดยมีนายไพรวัลย์ วรรณบุตร หรืออดีตพระไพรวัลย์ เป็นผู้กล่าวนำต่อหน้ารูปหลวงปู่แสง และนายสมปอง นครไธสง อดีตพระสมปองร่วมพิธีด้วย
นายจีระพันธ์กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผู้เสียหายมาร้องเรียนว่าถูกพระเกจิดังจับเนื้อต้องตัวลักษณะคล้ายกับลวนลาม แต่ว่าไม่มีหลักฐานจึงให้ไปครั้งที่สอง แต่ ผู้เสียหายทั้งสองคนมีความรู้สึกกลัว เพราะมีพระผู้ชายและต้นไม้เยอะ ตนจึงวานให้น้องนักข่าวสาวเข้าไปเป็นเพื่อนผู้เสียหายด้วย โดยที่ตัวนักข่าวไม่รู้เรื่องอะไรเลย แต่ปรากฏว่าพอไปถึงแล้วเขาเรียกน้องนักข่าวเข้าไปแทน มันจึงเป็นภาพที่ปรากฏตามในคลิป ยืนยันว่าไม่ได้มีการไปสร้างหลักฐานใดๆ ทั้งสิ้น
“พอรู้ว่านักข่าวสาวโดนไล่ออกจึงโทร.ไปหาผู้บริหารคนหนึ่งเพื่ออธิบายให้ฟัง แต่ เขาไม่ฟังจึงบอกไปว่าผมต้องแสดงความ รับผิดชอบเพราะเกิดจากหมอปลาคนเดียว ไม่ได้เกิดจากตัวสื่อ ผมจึงบอกไปว่างั้นขอแสดงสปิริตจะไม่ขอร่วมเกี่ยวข้องกับช่องสถานีนั้นอีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นรายการใดรายการหนึ่ง ผมไม่สามารถร่วมงานกับช่องคุณได้ ผมรู้สึกว่าบทลงโทษนี้รุนแรงเกินไปเพราะตนได้อธิบายในมุมของคนไปแล้ว น้อมรับผิดชอบทุกอย่าง เจตนาของผมเป็นแบบนี้จริงๆ ไม่ได้มาเพื่อปกป้องใคร ผมพูดความจริง ผมยอมรับพลาดที่คิดตื้นว่าพระป่วยต้องรักษาไม่คิดว่าท่านจะป่วยจริงๆ เลยวันที่กำหนดพื้นที่ จึงพยายามสอบถามพระลูกศิษย์ จึงเกิดเหตุการณ์ตามคลิปที่ปรากฏ ถ้าคำพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมวันนี้ทีมงานหมอปลาพร้อมขอขมาด้วยใจอย่างยิ่ง เพราะเราเพิ่งรู้ตอนนั้นจริงๆ” หมอปลากล่าว
นายจีระพันธ์กล่าวยืนยันว่า ที่ออกมาพูด ไม่ได้ปกป้องสื่อ แต่พูดความจริงต้องให้ความเป็นธรรมกับสื่อที่ไม่รู้เรื่องอย่ากดดัน ตนแสดงสปิริตแล้ว กรณีลูกศิษย์บางคนต้องการให้ไปขอขมาหลวงปู่แสงยินดีที่จะไปแต่ขอเวลาหน่อยเพราะจังหวัดที่จะไปนั้นค่อนข้างไกล ไปแน่นอนหากหลวงปู่ให้เข้าไป ตอนนี้มีกระแสมากมายเราไม่ต้องการปะทะทุกคนอยากไป แต่มีลูกศิษย์บางคนไม่ต้องการให้เราเข้าพื้นที่