ทั่วปท.เรียน‘ออนไซต์’ สธ.ย้ำ-การ์ดอย่าตก ห่วงนำเชื้อกลับมาบ้าน ป่วยลดเหลือ3.8พัน
เปิดเทอมคึกคัก เรียนออนไซต์วันแรก ทั้งครู นักเรียน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ตื่นเต้น แห่ส่งลูกหลานไปโรงเรียนในรอบ 2 ปี ‘บิ๊กตู่’ ปลื้มภาพรวมโรงเรียนขานรับคุมเข้มมาตรการโควิด ‘บิ๊กเด่น-ดำรงศักดิ์’ นำทีมให้กำลังใจตำรวจ ตรวจการระบายจราจรหน้า 2 โรงเรียนดังกลางกรุง สธ.แจง 3 หมื่นโรงเรียนผ่านประเมินโควิดแล้ว จี้ภายใน พ.ค.ต้องผ่านครบ 100% หากพบติดเชื้อทำตามแผนเผชิญเหตุ ไม่ต้องปิดทั้งโรงเรียน อนุทินเชื่อคนเข้าใจ รู้วิธีลดความเสี่ยง คาดระบาดใหญ่หลังเปิดเทอมน้อยลง ย้ำเปิดเรียนแล้วในบ้านยิ่งเพิ่มความเสี่ยง วอนกลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดเข็มกระตุ้น ยอดป่วยโควิดรายวันต่ำกว่าหมื่น 16 วันรวด ลดเหลือ 3.8 พันราย เสียชีวิตเหลือ 38 ราย เศร้าคร่าทารก 11 เดือน กทม.ต่ำกว่าพันวันแรก ป่วยเกินร้อยเหลือ 7 จังหวัด
โควิดลด 3.8 พัน-ตาย 38
เมื่อวันที่ 17 พ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวัน ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเหลือจำนวน 3,893 ราย ซึ่งถือว่าต่ำกว่าหมื่นรายต่อเนื่อง 16 วัน ติดเชื้อสะสม 4,382,977 ราย หายป่วย 7,323 ราย สะสม 4,290,090 ราย เสียชีวิต 38 ราย สะสม 29,550 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 63,337 ราย อยู่ร.พ.สนาม เอชไอ ซีไอ 39,049 ราย และอยู่ในร.พ. 24,288 ราย จำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 1,245 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 607 ราย อัตราครองเตียงระดับ 2-3 หรือสีเหลืองสีแดงอยู่ที่ 16% สำหรับการติดเชื้อมาจากเรือนจำพบ 4 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 3 ราย มาจากญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
ผู้เสียชีวิต 38 ราย มาจาก 24 จังหวัด เป็นชาย 21 ราย หญิง 17 ราย อายุ 11 เดือน-95 ปี อายุเฉลี่ย 72 ปี โดยเป็นผู้สูงอายุและโรคประจำตัวรวม 95% โดยจ.เลย เสียชีวิตสูงสุด 4 ราย, กทม. นครราชสีมา น่าน จังหวัดละ 3 ราย, อุดรธานี หนองคาย สุรินทร์ ลำปาง เพชรบุรี จังหวัดละ 2 ราย และหนองบัวลำภู ศรีสะเกษ สกลนคร กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ เชียงใหม่ กำแพงเพชร สุราษฎร์ธานี กาญจนบุรี ชลบุรี อุทัยธานี นครสวรรค์ ลพบุรี และสิงห์บุรี จังหวัดละ 1 ราย ภาพรวมยังมาจากภาคอีสานสูงสุด 19 ราย
ป่วยไม่ถึงร้อย 67 จว.
สำหรับ 10 จังหวัดที่มีรายงานติดเชื้อรายใหม่สูงสุดคือ 1.กทม. 865 ราย 2.บุรีรัมย์ 198 ราย 3.สุรินทร์ 160 ราย 4.ชลบุรี 139 ราย 5.อุบลราชธานี 132 ราย 6.ร้อยเอ็ด 118 ราย 7.สมุทรปราการ 110 ราย 8.มหาสารคาม 95 ราย 9.นนทบุรี 95 ราย และ 10.ขอนแก่น 92 ราย
ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อไม่ถึง 100 ราย มี 67 จังหวัด จำนวนนี้เป็นจังหวัดที่ติดเชื้อน้อยกว่า 10 ราย มี 12 จังหวัด ได้แก่ ตรัง 9 ราย, น่าน 8 ราย, ระนอง 7 ราย, หนองบัวลำภู 7 ราย, สมุทรสงคราม 6 ราย, กระบี่ 5 ราย, เชียงราย 5 ราย, แพร่ 5 ราย, ชัยนาท 3 ราย, พังงา 2 ราย, สตูล 2 ราย และแม่ฮ่องสอน 1 ราย ส่วนจังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม มี 3 จังหวัด คือ นราธิวาส ลำปาง และลำพูน
ด้านการฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อวันที่ 16 พ.ค.2565 จำนวน 25,923 โดส สะสม 135,697,195 โดส เป็นเข็มแรก 56,526,942 ราย คิดเป็น 81.3% เข็มสอง 51,977,479 ราย คิดเป็น 74.7% และเข็ม 3 ขึ้นไป 27,192,774 ราย คิดเป็น 39.1% ภาพรวมผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ฉีดเข็ม 3 แล้ว 42.9% ส่วนเด็กอายุ 5-11 ขวบ ฉีดเข็มแรกแล้ว 2.87 ล้านคน คิดเป็น 55.9% และเข็มสอง 1.15 ล้านคน คิดเป็น 22.4%
‘ฮู’ตั้งสนง.รับมือโควิดที่ไทย
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า การผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง ด้าน การแพทย์และสาธารณสุขของโลก ล่าสุด ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นที่ตั้งของสำนักงานเลขาธิการของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่ ซึ่งจะเปิดสำนักงานฯ ในเดือนส.ค.นี้ นอกจากนี้องค์การอนามัยโลก (ฮู) ให้การยอมรับและชื่นชมประเทศไทยที่สามารถรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ได้ดีที่สุด ถือเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งประเทศไทยได้เปรียบ มีความพร้อม ที่ทั่วโลกยอมรับ เช่น เรามีบุคลากรด้านการแพทย์ที่มีคุณภาพ มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง มีการใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีชั้นสูง ในการให้บริการรักษา เรามีโรงพยาบาล และศูนย์การแพทย์ ที่ได้รับรองมาตรฐานระดับสากลถึง 58 แห่ง ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นอันดับ 4 ของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่เราน่าภาคภูมิใจที่บุคลากรทางการแพทย์ของไทยไม่แพ้ใคร ในโลก และเชื่อว่าเราจะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่ง ในประเทศชั้นนำด้านการแพทย์ของโลก ในอนาคตได้อย่างแน่นอน
นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงการประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นจะเสนอเข้าสู่ที่ประชุมครม. เมื่อใด ว่า เรื่องนี้ยังไม่นำพิจารณาเข้าครม.โดยขณะนี้สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เริ่มดูดีขึ้นเรื่อยๆ และมีสัญญาณลดลง ทั้งผู้ป่วยปอดอักเสบและผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังติดตามข้อมูลผู้ติดเชื้อหลังเดือนเม.ย.ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแต่ตัวเลขลดลง ดังนั้นหากเข้าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 4-5 เกณฑ์ คืออัตราการเสียชีวิตต่ำกว่า 0.01% แต่ขณะนี้อยู่ที่ประมาณ 0.1% ถ้าเทียบกับอัตราการติดเชื้อและการฉีดวัคซีน ถ้าอยากผ่านเกณฑ์และตัวเลขลดลงแผนการประกาศเป็นโรคประจำถิ่น ก็จะไม่สะดุด แต่ก็ต้องติดตามสถานการณ์การติดเชื้อในเกาหลีเหนือด้วย เพราะยังมีข้อมูลไม่ชัดเจนและมีความกังวลถึงการกลายพันธุ์ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องระบุว่าเป็นไปได้ แต่ขณะนี้พบว่ายังไม่มีปัญหาอะไร
ก่อนเข้าเรียน – เจ้าหน้าที่ตรวจเอทีเค นักเรียนโรงเรียนเมืองนครราชสีมา เพื่อควบคุมป้องกันโรคโควิด ในวันเปิดเรียนออนไซต์เต็ม รูปแบบวันแรก ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก วันเปิดเทอมทั่วประเทศ เมื่อวันที่ 17 พ.ค.
เปิดเทอมออนไซต์วันแรกคึกคัก
ส่วนบรรยากาศการเปิดเทอมออนไซต์วันแรกเป็นไปด้วยความคึกคัก พ่อแม่ผู้ปกครองต่างมาส่งบุตรหลานเข้าเรียนกัน ขณะที่เด็กนักเรียนก็ดีใจที่ได้กลับมาเรียนในโรงเรียนหลังจากต้องปรับรูปแบบการเรียนในรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะออนไลน์ อีกทั้งได้กลับมาเรียนมาพบปะพูดคุยกับเพื่อนๆ หลังห่างหายการจัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนมานานเกือบ 2 ปีการศึกษา ด้วยสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะที่โรงเรียนต่างยึดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กันอย่างเคร่งครัด ทั้งการให้ครูและนักเรียนสวมแมสก์ การเว้นระยะห่างของโต๊ะในห้องเรียน และในโรงอาหาร การตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าเรียน มีจุดตั้งวางเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ทำความสะอาดต่างๆ
กลุ่มเสี่ยงฉีดแล้วไม่กักตัว
ที่โรงเรียนราชบพิธ เขตพระนคร นายขจิต ชัชวานิชย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมของโรงเรียนในการเปิดเรียนแบบออนไซต์วันแรก โดยมีผู้บริหารกรุงเทพมหานคร สำนักการศึกษา สำนักเทศกิจ สำนักงานเขตพระนคร และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจเยี่ยม นายขจิตกล่าวว่า แนวปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุตามมาตรการป้องกัน โควิด-19 ของสถานศึกษา กรณีนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ให้เปิดเรียนตามปกติ โดยปฏิบัติตามมาตรการ Universal Prevention และประเมิน Thai Save Thai (TST)
ส่วนกรณีนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร และ ผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง หากเป็นผู้ไม่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ตามแนวทางปัจจุบัน ทั้งผู้มีอาการและไม่มีอาการ แนะนำให้กักตัวเป็นเวลา 5 วัน และเฝ้าระวังอาการอีก 5 วัน และหากเป็นผู้ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดส ถ้าไม่มีอาการไม่แนะนำให้กักกัน ควรพิจารณาให้ไปเรียนได้ หากมีอาการ ตรวจ คัดกรองหาเชื้อด้วย ATK โดยให้ตรวจทันที กรณีนักเรียน ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา และผู้ปฏิบัติงานในโรงเรียนเป็นผู้ติดเชื้อยืนยัน ให้ปิดห้องเรียนที่พบผู้ติดเชื้อ ไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาด ตามมาตรการของสธ. แล้วให้เปิดใช้ห้องเรียนได้ ห้องเรียนอื่นที่ไม่พบผู้ติดเชื้อเปิดเรียน ออนไซต์ตามปกติ งดกิจกรรมรวมกลุ่มกัน โดยเฉพาะระหว่างห้องเรียน
นายขจิตกล่าวอีกว่า ในส่วนของการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ข้อมูล ณ วันที่ 6 พ.ค.2565 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากทม. มีจำนวน 14,493 คน ได้รับวัคซีนแล้ว 14,291 คน คิดเป็นร้อยละ 98.61 ยัง ไม่ได้รับวัคซีน 202 คน คิดเป็นร้อยละ 1.39 นักเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครระดับชั้นอนุบาล 1-ระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 222,213 คน ได้รับวัคซีนแล้ว 108,144 คน คิดเป็นร้อยละ 48.67 ยังไม่ได้รับวัคซีน จำนวน 114,069 คน คิดเป็นร้อยละ 51.33 ระดับชั้นม.1-ม.6 จำนวนนักเรียนทั้งสิ้น 38,947 คน ได้รับวัคซีนแล้ว 33,180 คน คิดเป็นร้อยละ 85.19 ยังไม่ได้รับวัคซีน จำนวน 5,767 คน คิดเป็นร้อยละ 14.81
ด้านพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุวิชชา จินดาคำ ผบก.จร. พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 ลงพื้นที่ตรวจการจราจรรับเปิดเทอมบริเวณหน้าโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ซึ่งเป็นโรงเรียนตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการจราจรหนาแน่น เพื่อประเมินสภาพการจราจรในช่วงเปิดเทอมวันแรกในเขตพื้นที่ กทม. พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกว่า 4 พันนาย คอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรบริเวณหน้าสถานศึกษาและพื้นที่ต่อเนื่อง พร้อมรับรถเข้าเร่งระบายออกเมือง และบริหารสัญญาณไฟจราจรให้มีความสัมพันธ์กับปริมาณรถ และสภาพการจราจร
เปิดเทอม – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. พูดคุยกับเด็กนักเรียนระหว่างตรวจการจราจรวันเปิดเทอมวันแรกที่โรงเรียนสตรีวิทยา 2 โดยระดมตำรวจกว่า 4 พันนายอำนวยความสะดวกด้านการจราจรทั่วกทม. เมื่อวันที่ 17 พ.ค.
‘บิ๊กเด่น’กำชับแผนจราจร
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลโดย พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมเปิดภาคการเรียนรูปแบบออนไซต์ ในวันนี้ โดยมอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เป็นหน่วยหลักในการอำนวยความสะดวกการจราจร ที่มีการเปิดภาคเรียนของสถานศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศ
ด้าน พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 มอบหมายให้ พล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒนชัย ผบก.ภ.จว. เชียงใหม่ พ.ต.อ.ไพศาล นันตา รองผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ (รับผิดชอบงานจราจร) และ พ.ต.อ.เจน โสภา ผู้กำกับกลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้กลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ และสถานีตำรวจพื้นที่เขตติดต่อเมืองปฏิบัติหน้าที่งานจราจร ชุดเคลื่อนที่เร็ว และอาสาจราจร จำนวนกว่า 400 นาย พร้อมรถยก และอุปกรณ์เครื่องมือ พร้อมแก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกการจราจร
เชียงใหม่จัดทีมตรวจสุขภาพจิต
ที่โรงเรียนนวมินทราชูทิศพายัพ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผวจ.เชียงใหม่ ดร.ยุพิน บัวคอม ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ และพญ.เสาวนีย์ วิบุลสันติ ผอ.สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมด้านมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
ด้าน ดร.ยุพิน บัวคอม ศึกษาธิการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า การกลับมาเปิดเรียนออนไซต์นั้น ทางโรงเรียนจะประเมิน พื้นฐานของนักเรียน หากพบว่านักเรียนคนใดมีพื้นฐานการเรียนอ่อนจะมีการสอนเสริมให้แก่เด็กเพิ่มเติม ขณะเดียวกันจะตรวจสอบสุขภาพกายและสุขภาพจิตด้วย ประกอบกับการเรียนรู้ของเด็กในช่วงแรกของการเรียนการสอนด้วย ในส่วนสถานศึกษาที่เข้าสู่การประเมินเพื่อเปิดเรียนนั้น อาจจะมีโรงเรียนบางส่วนที่ต้องมีการปรับปรุง เช่น พนักงานขับรถรับ-ส่ง นักเรียน การจัดเตรียมอาหาร เป็นต้น เพื่อให้พร้อมแก่การเปิดเรียนมากที่สุด
ปลอบฟันน้ำนมยังไม่ชินร.ร.
ส่วนเส้นทางเข้าเมืองหาดใหญ่การจราจรติดขัด โดยที่โรงเรียนเทศบาล5 (วัดหาดใหญ่) ที่บริเวณประตูทางเข้าโรงเรียนมีบรรดา ผู้ปกครองที่ไปส่งลูกหลานไปเรียนวันแรก โดยเฉพาะเด็กชั้นอนุบาลไปยืนดูลูกหลานและส่งลูกเข้าห้องเรียนด้วยความห่วงใย และมีเด็กชั้นอนุบาลหลายคนที่ยังไม่คุ้นชินกับการไปโรงเรียนและร้องไห้ระงมคุณครูต้องคอยอุ้มและคอยปลอบขวัญ
ครูโคราชก็ตื่นเต้น
ส่วนที่ถนนโพธิ์กลาง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้านหน้าโรงเรียนสุขานารี การจราจรค่อนข้างติดขัดเนื่องจากมีรถของ ผู้ปกครองแห่มาส่งลูกหลานเข้าเรียน ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคักของ ผู้ปกครองและนักเรียนที่ได้มาเริ่มเรียนแบบ ออนไซต์เต็มรูปแบบครั้งแรก โดยนักเรียนได้มีการร่วมทำกิจกรรมหน้าเสาธงซึ่งจะสลับกันมาร่วมกิจกรรมวันละ 2 สายชั้น โดยร่วมกันร้องเพลงชาติ และสวดมนต์ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้ปฏิบัติมาเลยตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
นายศุภณัฏฐ์ ศุภรานนท์ ผอ.โรงเรียนสุขานารี กล่าวว่า สำหรับการเปิดเรียนวันแรกวันนี้ถือว่าคึกคักมากจากการที่ตนได้ไปรอรับเด็กทั้งประตูหน้าและประตูด้านหลังของโรงเรียนได้มีโอกาสคุยกับผู้ปกครองซึ่งตัวผู้ปกครองเองก็มีความตื่นเต้น รวมไปถึงตัวนักเรียนเองด้วยเพราะจะได้มาเจอเพื่อน นอกจากผู้ปกครองและนักเรียนแล้วบรรดาครูเองก็มีความตื่นเต้นเช่นกันพากันมาที่โรงเรียนแต่เช้าเพื่อมาเตรียมตัวรับนักเรียนของการเปิดเรียนวันแรก
3 หมื่นร.ร.ผ่านประเมินโควิด
ด้านนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์การเปิดภาคเรียนที่ 1/2565 เป็นวันแรก ว่า ขณะนี้โรงเรียนกว่า 3.8 หมื่นโรงจากทุกสังกัด เข้าสู่ระบบการประเมินดังกล่าวแล้วกว่า 3 หมื่นโรง ทำให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขและศึกษาธิการในพื้นที่ทราบข้อมูลและลงไปกำกับติดตามให้ดำเนินการตามมาตรการ ซึ่งครอบครัว ชุมชน หน่วยงานต่างๆ ก็ต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนดูแลด้วย คาดว่าอีกไม่กี่วันก็น่าจะครบ 100% โดยจะต้องประเมินและปรับปรุงมาตรการให้ผ่านเกณฑ์ภายใน พ.ค.นี้
เมื่อถามถึงข้อกังวลว่าเด็กมาเรียนแล้วจะมีการรวมตัว ทำให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้น นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า เหตุผลในการเปิดเรียนแบบออนไซต์ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาเรื่องปฏิสัมพันธ์ เด็กสามารถการเติบโตไปอยู่กับผู้คนได้ ซึ่งเรียนออนไลน์อย่างเดียวไม่สามารถตอบโจทย์ทั้งหมด ขณะเดียวกันสถานการณ์ โควิดปัจจุบันคลี่คลายลงตามลำดับ มีการฉีดวัคซีนโควิดมากขึ้น มีความรู้ความเข้าใจของครอบครัวและชุมชนดีขึ้นตามลำดับ ดังนั้น เมื่อให้มาเรียนในโรงเรียนจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะไม่ให้เขาสุงสิงกัน แต่เราจะดำเนินการผ่าน 4 กรณีเพื่อเพิ่มความปลอดภัย คือ
1.เตรียมสภาพแวดล้อมเพื่อป้องกันหรือลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดในโรงเรียนหรือระหว่างเดินทางมาเรียน 2.ทำให้เด็กลดความเสี่ยงมากที่สุด สำคัญคือการฉีดวัคซีน ซึ่งเด็กกลุ่มอายุ 5-11 ขวบเริ่มฉีดภายหลังเด็กโต ผู้ปกครองยังกังวลเรื่องวัคซีน ย้ำว่าวัคซีนทุกชนิดมีความปลอดภัย ผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับประโยชน์ก็พบว่าลดความรุนแรงได้ โดยเด็กที่มีโรคประจำตัวขอให้อยู่ดุลพินิจของแพทย์ 3.การฉีดวัคซีนให้แก่คนรอบข้างของเด็ก เมื่อเด็กยังฉีดวัคซีนไม่ครบถ้วน และ 4.ทำแผนเผชิญเหตุเมื่อมีการติดเชื้อ เพราะแม้จะมีมาตรการลดความเสี่ยง ทั้งเว้นระยะห่างให้เหมาะสม ลดความแออัด การจัดวัสดุอุปกรณ์ ทำความสะอาด ก็ยังมีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อหรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้
นพ.สุวรรณชัยกล่าวว่า สถานการณ์ไม่เหมือนเดิม เราจะไม่ย้อนกลับไปเหมือนตอนเจอติดเชื้อหรือสัมผัสเสี่ยงสูง 1 คน แล้วปิดทั้งโรงเรียน ซึ่งแผนเผชิญเหตุจะมีการกำหนดว่าเจอผู้ติดเชื้อต้องทำอย่างไร เช่น เจอในคนฉีดวัคซีนครบและไม่ครบก็มีการดำเนินการแตกต่างกัน หรือโรงเรียนประจำจัด สคูล ไอโซเลชั่น ให้เด็กติดเชื้อเรียนได้ หรือครูติดเชื้อทำงานได้ หรือโรงเรียนไปกลับอาจจัดการเรียนออนไลน์เสริม กรณีสัมผัสเสี่ยงสูงฉีดวัคซีนครบไม่มีอาการ ก็จัดการแบบหนึ่ง กลุ่มนี้เราไม่อยากให้กักตัวเด็ก 100% ก็ต้องจัดระบบและสถานที่ให้เด็กไปเรียนและลดความเสี่ยงแพร่เชื้อ ทั้งหมดเป็นหลักการ แต่ละโรงเรียนมีบริบทต่างกัน จึงกระจายอำนาจให้พื้นที่ดำเนินการแนะนำดูแล
‘บิ๊กตู่’พอใจเปิดเทอมวันแรก
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี พอใจภาพรวมการเปิดภาคเรียน วันแรก ในภาคเรียนที่ 1/2565 ให้นักเรียนได้กลับมาเรียนในห้องเรียน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยนายกฯ ขอบคุณประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันปฏิบัติ ตามมาตรการสาธารณสุข ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอบคุณทีมแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 จนมีจำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบและเสียชีวิตลดต่ำลง
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า สถานการณ์โควิดแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง เราจึงต้องปรับมาใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงปกติที่สุด โดยกรมควบคุมโรคมีแนวทางแผนเผชิญเหตุให้สถานศึกษาเพื่อปฏิบัติกรณีพบการติดเชื้อในโรงเรียน โดยเน้นย้ำประเมินความเสี่ยง เพื่อลดการปิดโรงเรียนให้มากที่สุด ตรวจ ATK เฉพาะที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีอาการ หากไม่มีปัจจัยเสี่ยงไม่จำเป็นต้องตรวจ ทุกสัปดาห์ แต่ทุกอย่างต้องอยู่บนฐานความเข้าใจของทุกฝ่าย ทั้งผู้ปกครอง นักเรียน ครู เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนรับมือที่เตรียมไว้ ทั้งนี้ ขอย้ำเรื่องวัคซีนโควิด 19 ยิ่งเด็กเปิดเรียนแล้ว ผู้ใหญ่ในบ้านจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ขอให้กลุ่มเสี่ยง 608 มารับวัคซีนเข็มกระตุ้นตามกำหนด เพื่อให้ทุกคนปลอดภัย ลดความเสี่ยงให้มากที่สุด
เมื่อถามถึงข้อกังวลว่าอาจจะมีการระบาดเพิ่มขึ้น นายอนุทินกล่าวว่า มาถึงจุดนี้แล้ว ประชาชนมีความเข้าใจโรคมากขึ้น ทุกคนปฏิบัติอย่างเข้าใจว่า ถ้าไม่อยากติดเชื้อก็ต้องเลี่ยงความเสี่ยง สวมหน้ากากอนามัยเสมอ
