ผู้การนครปฐมสั่งสอบ ไหว้ขอโทษพ่อแม่เด็ก
‘ผบช.ภาค 7’ สั่งเด้ง 2 ตร.สามพรานตื้บ 3 โจ๋ขณะหนีวัยรุ่นอริไล่แทงมาขอความช่วยเหลือ กลับถูกตร.เหยียบหัวจับใส่กุญแจมือ บังคับนอนกับพื้น สั่งตั้งกก.สอบข้อเท็จจริง ให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ‘ผู้การตำรวจนครปฐม’ ไหว้ขอโทษสังคม พ่อแม่เด็กที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทำผิด

จากกรณีวัยรุ่น 3 คนขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ หลังขี่รถมาหาแฟนสาว แต่ไปเจอกลุ่มคู่อริยกพวกทำร้ายและไล่แทง บริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษาวิลล์ 44 ถนนบรมราชชนนี ต.บางเตย อ.สามพราน จ.นครปฐม แต่ตำรวจไม่ฟัง สั่งให้ยกมือขึ้นและให้นั่งถอดเสื้อ ก่อนตรวจค้นเจออาวุธปืนพกสั้น จากนั้นตำรวจดังกล่าวใช้เท้าเหยียบหัว จับใส่กุญแจมือบังคับให้นอนลงกับพื้น และทำร้ายร่างกาย พร้อมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองและพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดย ไม่ได้รับอนุญาต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 21 พ.ค. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 เปิดเผยว่า สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องหาว่าทำร้าย คือร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ ร้อยเวร 20 ส่วนผู้ถูกทำร้ายคือนายพัสวเรศ อายุ 20 ปี ของกลางที่พบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด โดยวันเกิดเหตุ ตำรวจออกตรวจพื้นที่ พร้อมพลขับได้รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีการรวมตัวกลุ่มวัยรุ่นและขี่รถย้อนศรไปมาบริเวณหน้าหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จึงเดินทางไปตรวจสอบ แต่ไม่พบกลุ่มวัยรุ่น ร.ต.อ. ไชยะพจน์ จึงจอดรถเปิดสัญญาณไฟป้องกันเหตุ ระหว่างนั้นนายพัสวเรศขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาพร้อมกับพวกอีก 2 คน จึงเรียกตรวจค้นพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน จึงจับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ต่อมาพ่อของนายพัสวเรศแจ้งว่าลูกถูกตำรวจทำร้ายร่างกาย โดยการเตะและกระทืบจนได้รับบาดเจ็บ

ขอโทษ – พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.นครปฐม ไหว้ขอโทษกรณีร.ต.อ.และส.ต.ต. สังกัดสภ.สามพราน ทำร้ายและสับกุญแจมือ 3 วัยรุ่นขี่จยย.ย้อนศรหนีคู่อริ ล่าสุด ผบช.ภาค 7 สั่งย้าย 2 ตำรวจ พร้อมดำเนินคดีอาญาและสอบวินัย

พล.ต.ท.ธนายุตม์กล่าวต่อว่า ในวันนี้ เวลา 16.00 น. ตนเรียกรองผบช.ภ.7 ที่รับผิดชอบพื้นที่ พร้อมทั้งผบก.ภ.จว.นครปฐม, รองผบก., ผกก.สภ.สามพราน พร้อมตำรวจที่เกี่ยวข้องมาประชุมสรุปหาข้อเท็จจริงเพื่อให้ประชาชนได้ทราบและให้เกิดความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ขอยืนยันว่าหากผลการสอบสวนข้อเท็จจริงพบว่าการกระทำของตำรวจทั้งสองนายว่าผิด จะดำเนินการทั้งวินัย และอาญาอย่างเด็ดขาด เบื้องต้นอยากขอโทษต่อสังคมถึงกรณีดังกล่าวหากผู้ใต้บังคับบัญชาตนกระทำความผิด แต่ก็ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่าได้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

ด้านพล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า เบื้องต้นอยากขอโทษต่อสังคมถึงกรณีดังกล่าวที่ ผู้ใต้บังคับบัญชาของตนกระทำความผิด แต่ต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงว่ากระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามภ.จว.นครปฐมมีคำสั่งให้ร.ต.อ.ไชยะพจน์ โคตรสำราญ และส.ต.ต.พนาดร ช่างเขียน ผบ.หมู่ (ทำหน้าที่ปฏิบัติการป้องกันปราบปราม) สภ. สามพราน หยุดปฏิบัติหน้าที่ และไปประจำศปก.ภ.จว.นครปฐม พร้อมทั้งมีคำสั่งตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ขณะเดียวกันสภ.สามพรานติดตามผลการชันสูตรบาดแผล เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

“เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 29 เม.ย.ต่อเนื่องวันที่ 30 เม.ย.65 ในพื้นที่ใกล้เคียงหลายจุด มีเหตุการณ์เกิดขึ้นรุนแรง โดยเราต้องป้องกันและควบคุมพื้นที่ของเราให้ดี ปัญหาที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนส่วนใหญ่เป็นปัญหาของกลุ่มเด็กแว้น แข่งรถซิ่ง ออกสู่ช่วงเวลากลางคืนเป็นประจำ โดยนโยบายของรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพล.ต.ท. ธนายุตม์เน้นย้ำให้ออกตรวจตราเป็นประจำเกี่ยวกับเรื่องเด็กแว้นแข่งรถซิ่งมาตลอด และจุดดังกล่าวจะมีการแข่งรถอยู่เป็นประจำ จึงวางจุดสกัดตามแผนจับกุมตามปกติ แต่เมื่อเราทำงานและเกิดข้อผิดพลาดหรือภาพข่าวที่ ไม่เหมาะสม ผมในฐานะผู้บังคับบัญชาต้องขอโทษพ่อแม่ พี่น้อง กับฝ่ายของเด็ก ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดต่อเด็ก ผู้เสียหายมาพบ ต้องรอการสอบปากคำเพิ่มเติม ส่วนของตำรวจทั้ง 2 นาย หากพบว่ามีความผิดข้อหาใดก็ต้องดำเนินคดี ต้องมีการสอบสวนตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือใดๆ”

พล.ต.ต.ชมชวิณกล่าวต่อว่า ขณะนี้ตำรวจ 2 นายถูกย้ายแล้ว และให้ตั้งกรรมการสืบสวนต่อข้อเท็จจริงและคดีอาญาต้องพิจารณารายละเอียดต่อไปว่าเข้าข่ายเรื่องใดบ้าง หากหนักกว่านั้น หรือศาลลงโทษต้องดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย เพราะตำรวจที่ก่อเหตุ อายุจะ 60 ปี และจะเกษียณในปีนี้ หากถูกออกจากราชการ ก็จะไม่ได้รับบำเหน็จหรือบำนาญ แต่ผมจะทำงานอย่างเต็มที่เพราะภาพที่ออกไปมันเสีย ผมเห็นก็รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะตำรวจเราเองยังสงสัยว่าเหตุที่เกิด เกิดขึ้นได้อย่างไร ตำรวจใกล้จะเกษียณอีกไม่กี่วันทำไมถึงกระทำการที่ไม่ได้ใช้ปัญญา เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้ว แทนที่จะระมัดระวังให้มากกว่าเดิม ถึงแม้ผู้ต้องหาจะมีปืน ก็ต้องใช้ความละมุนละม่อมให้มากกว่านี้ แต่ทั้งนี้จะต้องสอบปากคำจากเด็กเพิ่มเติมอีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน