‘ชบาแก้ว’แพ้ได้แค่เงิน แม่นปืน-ยกเหล็กก็เจ๋ง วันนี้ส่งท้าย65เหรียญ มวย-แบด-จักรยานคึก
เชียร์วันนี้ ‘ช้างศึก’ ชิงเจ้าภาพ เวียดนาม ฟุตบอลชายซีเกมส์ เผยสถิติทีมไทยข่ม เจอกัน 19 ครั้ง ชนะได้ 10 ครั้ง แพ้แค่ 3 ครั้ง ขณะที่ทัพกีฬาไทยกวาดเหรียญทองเพิ่ม ทั้งยกน้ำหนัก ยิงปืน แอโรบิก ตะกร้อ เทนนิส ทัพ “ชบาแก้ว”แพ้สาวเจ้าภาพเวียดนาม ได้แค่เหรียญเงิน ส่วนวันนี้ชิงอีก 65 เหรียญทองส่งท้าย ไทยลุ้นจากมวยสากล ยกน้ำหนัก จักรยาน แบดมินตันหญิงเดี่ยวชิงกันเอง

‘ทองผาภูมิ’คว้าทองปืนยาว 3 ท่า
เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าวกีฬาข่าวสดรายงานการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ว่ามีชิงทั้งหมด 37 เหรียญทอง โดยยิงปืนประเภทปืนยาว 3 ท่า 50 เมตร บุคคลชาย รอบชิง เหรียญทอง “อัส” นภิศ ต่อตั้งพานิช และ “หมุน” ทองผาภูมิ วงศ์สุขดี 2 นักแม่นปืนไทยลงชิงชัย ผลปรากฏว่าทั้งสองคนยิงทำแต้มได้ดีเกาะกลุ่มนำในการยิงท่านั่งและท่านอน และยังทำได้ดีต่อเนื่องในท่ายืน

ส่วนการยิงแบบคัดออก ปรากฏว่าทองผาภูมิยังยิงได้แม่นยำ แม้จะโดนตัด 2 คะแนนเพราะใส่กระสุนก่อนเสียงสัญญาณ 1 นัด แต่ยังคว้าเหรียญทองไปครอง ยิงได้ 445.3 คะแนน ขณะที่ ฟาตูร์ กุสตาเฟียน ของอินโดนีเซีย ได้เหรียญเงิน 445.0 คะแนน ส่วนนภิศคว้าเหรียญทองแดง 434.1 คะแนน

การแข่งขันรอบชิงเหรียญทองแดง นพดล สุทธิวิรัช และ ธันยพร พฤกษากร ดวลกับคู่ของเวียดนาม ผลปรากฏว่าคู่ทีมชาติไทยยิงได้แม่นกว่า ชนะไปได้ 16-10 คว้าเหรียญทองแดง

ทองยิงปืน – ณัฐพันเลิศ เอื้ออภิญญกุล จับคู่ชิดชนก หิรัญเพิ่ม ทีมนักแม่นปืนไทยยิงชนะเมียนมา คว้าเหรียญทอง ปืนสั้นอัดลมทีมผสม ศึกกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

‘ณัฐพันเลิศ-ชิดชนก’ทองปืนสั้น
ส่วนประเภทปืนสั้นอัดลมคู่ผสม 10 เมตร ทัพแม่นปืนไทยผ่านเข้าชิงเหรียญทองและเหรียญทองแดง

โดยณัฐพันเลิศ เอื้ออภิญญกุล กับชิดชนก หิรัญเพิ่ม ชิงชนะเลิศกับนอง เย ตุน และ นิว ชิต โซ จากเมียนมา ทั้งสองคู่สู้กันอย่างสูสี ผ่านไปครึ่งทางเสมอกัน 8-8 หลังจากนั้นทั้งสองทีมยังสู้กันสูสี แต่สุดท้าย นักแม่นปืนทีมชาติไทยยิงได้แม่นกว่าชนะไปได้ 16-12 คว้าเหรียญทองได้สำเร็จ

หลังคว้าเหรียญทอง ทั้งณัฐพันเลิศและชิดชนกกล่าวว่า “รู้สึกดีใจมากที่คว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ ตอนแรกที่โดนนำ 0-4 โค้ชเข้ามาบอกให้โฟกัสอยู่กับปืนของเรา โฟกัสกับเกมของเรา ก็ช่วยเตือนสติให้กลับ มาได้ ต้องขอบคุณกัน และเป็นคู่ที่ดีช่วยเหลือกันมาอย่างดีทั้งการซ้อมและการแข่งจริง เหรียญทองนี้ขอมอบให้คนไทยทุกคน”

ส่วนรอบชิงเหรียญทองแดง นพดล สุทธิวิรัช และธันยพร พฤกษากร ดวลกับคู่ของเวียดนาม ผลปรากฏว่าคู่ทีมชาติไทยยิงได้แม่นกว่าชนะไปได้ 16-10 คว้าเหรียญ ทองแดง

‘ลักษิกา’คว้าทองเทนนิส
การแข่งขันเทนนิส ที่สนามฮานากา บั๊ก นิงห์ เมืองบั๊ก นิงห์ รอบชิงชนะเลิศ ประเภทหญิงเดี่ยว นักหวดสาวไทยชิงกันเอง “ลัก” ลักษิกา คำขำ นักหวดวัย 28 ปี มือวางอันดับ 4 ของรายการ และมือ 450 ของโลก ที่เคยคว้าเหรียญทองหญิงเดี่ยวซีเกมส์ครั้งที่ 29 ที่มาเลเซีย ปี 2017 พบ “ออมสิน” อัญชิสา ฉันทะ นักหวดสาวรุ่นน้อง วัย 19 ปี จากจ.ประจวบคีรีขันธ์ มือ 703 ของโลก เจ้าของเหรียญทองแดงหญิงเดี่ยวซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ปี 2019

ทั้งสองสาวสู้กันอย่างเต็มที่และสูสี ต้องเล่นถึง 3 เซ็ตเพื่อตัดสิน ก่อนที่ลักษิกาจะชนะ 2-1 เซ็ต 5-7, 6-3 และ 6-3 คว้าเหรียญทองซีเกมส์สมัยที่ 2 ส่วนอัญชิสาได้เหรียญเงิน ขณะที่เหรียญทองแดง ชาเนลล์ ฟาน เหวียน จากเวียดนาม และอเล็กซานดร้า เอล่า จากฟิลิปปินส์

‘ชนกพล’เจ๋งซิวทองแอโรบิก
ส่วนการแข่งขันยิมนาสติก แอโรบิก ที่ก๋วน เงอะ สปอร์ต พาเลซ กรุงฮานอย มีชิง 2 เหรียญทอง ประเภทแอโรบิก ชายเดี่ยว “น้องติน” ชนกพล เจียมสุขใจ นักยิมนาสติกวัย 20 ปีจากกาญจนบุรีโชว์ลีลายอดเยี่ยม คว้าเหรียญทองไปครอง ทำได้ 19.600 คะแนน ชนะ พาน เต เกีย เฮือน จากเวียดนาม เจ้าภาพที่ทำได้ 18.800 คะแนน ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของกัมพูชา

การคว้าเหรียญทองครั้งนี้เป็นเหรียญที่ 2 ของทัพยิมนาสติกไทยในซีเกมส์ครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้เหรียญทองในยิมนาสติกศิลป์ ประเภทฟลอร์เอ็กเซอร์ไซส์ไปแล้ว

ขณะที่ประเภททรีโอ (3 คน) ทีมไทยส่ง 3 สาวลงแข่งขันประกอบด้วย สุภัสสร วัชราภรณ์, ไอรดา ปานท้าว, ยุพวัลย์ ภูษณะ พงษ์ โชว์ลีลาได้อย่างยอดเยี่ยมแข่งกับชาติอื่นๆ ที่ใช้ผู้ชายลงแข่งขัน คว้าเหรียญทองแดงมาครอง ทำได้ 16.553 คะแนน ส่วนเหรียญทองเป็นของเวียดนาม ทำได้ 20.487 คะแนน และเหรียญเงิน กัมพูชา 19.300 คะแนน

คว้าทอง – ‘มิค’ ณัฐวุฒิ สืบสวน จอมพลังหนุ่มไทยคว้าเหรียญทองยกน้ำหนักรุ่น 81 ก.ก. ด้วยสถิติท่าสแนตช์ 155 ก.ก. ท่าคลีนแอนด์เจิร์ก 200 ก.ก. น้ำหนักรวม 355 ก.ก. ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 21 พ.ค.

‘ณัฐวุฒิ’คว้าทองยกน้ำหนัก
การแข่งขันยกน้ำหนักรุ่น 81 ก.ก.ชาย ไทยส่ง “มิก” ณัฐวุฒิ สืบสวน จอมพลังหนุ่มวัย 25 ปีขึ้นชิงชัย โดยท่าสแนตช์หนุ่มไทยยกทำสถิติ 155 ก.ก. เป็นอันดับ 2 ส่วนริซกี้ จูเนียซยา จอมพลังอินโดนีเซีย แชมป์เยาวชนโลก 2022 รุ่น 73 ก.ก. เป็นคู่แข่งคนสำคัญ ยกได้ 157 ก.ก. รั้งอันดับ 1

ส่วนท่าคลีนแอนด์เจิร์กณัฐวุฒิต้องบี้ทำน้ำหนักเหล็กแข่งกับจอมพลังจากอินโดนีเซีย โดยหนุ่มไทยออกมายกน้ำหนักเหล็ก 190 ก.ก. และ 195 ก.ก. ผ่านฉลุย และครั้งที่ 3 ฮึดสุดพลังยกน้ำหนักเหล็ก 200 ก.ก. เพื่อกดดันจอมพลังหนุ่มอิเหนาและก็ยกผ่านสำเร็จ

ขณะที่นักยกเหล็กอินโดนีเซียยกครั้งสุดท้ายด้วยน้ำหนัก 200 ก.ก. ปรากฏว่ายก ไม่ผ่าน ทำให้ณัฐวุฒิคว้าเหรียญทอง สถิติ น้ำหนักรวม 355 ก.ก. เฉือนชนะริซกี้ จูเนียซยา ของอินโดฯ เพียง 1 ก.ก.ได้เหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดง เหงือน คว็อก ธวน จากเวียดนาม ยกได้รวม 340 ก.ก.

นับเป็นเหรียญทองที่ 4 ของทีมจอมพลังไทยในซีเกมส์หนนี้ ต่อจากรุ่น 45 ก.ก.หญิง, 49 ก.ก.หญิง และ 67 ก.ก.ชาย

ตะกร้อ 4 คนชายก็แชมป์
เซปักตะกร้อ ประเภทตะกร้อ 4 คนชาย รอบชิงชนะเลิศ ทีมตะกร้อชายไทยพบอินโดนีเซีย โดยเกมนี้ไทยปรับทัพเล็กน้อย ส่งภูตะวัน โสภา ลงมาฟาดแทน โดยมี กฤษณะพงษ์ นนทะโคตร, “โทนี่” พรเทพ ถิ่นบางบน เป็นตัวคุมหลัง และราชัน วิพันธ์ รับบทตัวชง

เซ็ตแรกทีมตะกร้อหนุ่มไทยกับอินโดนีเซีย เปิดเกมฟาดแลกกันอย่างดุเดือด ทำให้ช่วงต้นเซ็ตแต้มบี้กันอย่างสนุกสุดมัน แต่ทีมตะกร้อหนุ่มไทยมีเกมฟาดที่เฉียบขาดกว่าชนะไปได้ก่อน 21-13 ขึ้นนำ 1-0 เซ็ต

เซ็ตสองตะกร้อหนุ่มไทยที่มีความมั่นใจมากขึ้นยังคงอาศัยชั้นเชิงเพลงฟาดลูกตะกร้อที่เด็ดขาดของภูตะวัน โสภา ฟาดทำแต้มอินโดนีเซียได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนชนะอินโด นีเซียได้อีก 21-7 ทำให้ทีมไทยชนะอินโดนีเซีย 2-0 เซ็ต 21-13, 21-7 คว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ เป็นเหรียญทองที่ 3 ของทัพตะกร้อไทยในซีเกมส์ครั้งนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้

ทีม4คนหญิงก็คว้าทอง
ประเภททีม 4 คน หญิง รอบชิงชนะเลิศ ทีมตะกร้อสาวไทย ดวลกับ “เจ้าภาพ” เวียดนาม โดยเกมนี้ไทยส่งมัสยา ดวงศรี เป็นตัวชง และมีศศิวิมล จันทสิทธิ์, สมฤดี ปรือปรัก เป็นตัวฟาดคู่ และวิภาดา จิตพรวน คุมหลัง โดยมีแก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว และ ศศิวิมล จันทสิทธิ์ เป็นสำรอง

เซ็ตแรก รูปเกมเป็นไปอย่างสนุกสูสี ชนิดที่แฟนทั้งสองทีมลุ้นกันก้นไม่ติดเก้าอี้ ก่อนที่ช่วงท้าย ศศิวิมลจะโชว์บล็อกทำแต้มให้ไทยปิดเซ็ต ชนะไปแบบหวุดหวิด 21-18 ขึ้นนำ 1-0 เซ็ต

เซ็ตสอง รูปเกมยังคงเป็นไปอย่างสนุกสูสี ผลัดกันฟาดทำแต้มแลกกันแบบสนุก แต่ช่วงท้ายเซ็ต เวียดนามมาใช้ซื้อบล็อกทำคะแนนได้ 3 แต้มติด จนขึ้นแท่นนำ 20-19 แต่ไทยยังโชคดีจังหวะเตะไปติดบล็อกเวียดนาม ไทยขอชาเลนจ์ เป็นลูกโอเวอร์เน็ต ทำให้ไทยได้แต้มตามมาตีเสมอ 20-20 ก่อนที่ในอีก 2 แต้มถัดมา เวียดนามจะมาเล่นกันผิดพลาดกันเอง ทำให้ไทยได้แต้ม ชนะไปได้ 22-20 จบเกมตะกร้อหญิงไทย ชนะเวียดนาม 2-0 เซ็ต 21-18, 22-20 คว้าแชมป์ตะกร้อ 4 คนไปครอง เป็นเหรียญทองที่ 3 ของทีมหญิง ต่อจากทีมชุดหญิงและทีมเดี่ยวหญิง

สรุปผลงานทัพตะกร้อทีมชาติไทยทั้งชายและหญิงส่งร่วมแข่งขัน 6 ประเภท คว้าได้ทั้งหมด 6 เหรียญทอง ประกอบด้วย ทีมชุดชาย-หญิง, ทีมเดี่ยวชาย-หญิง และทีม 4 คนชาย-หญิง

‘ชบาแก้ว’พ่ายเวียดนามได้แค่เงิน
ฟุตบอลหญิง รอบชิงชนะเลิศ ทัพ “ชบาแก้ว” ทีมชาติไทย เจ้าของเหรียญทอง 5 สมัย พบทีมชาติเวียดนาม เจ้าภาพ และแชมป์เก่า 2 สมัยล่าสุด ที่สนามคัม ภา เมืองก๋วง นินห์

สำหรับรายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทีมชาติไทย ประกอบด้วย วราภรณ์ บุญสิงห์ (ผู้รักษาประตู), กาญจนาพร แสนคุณ, พรพิรุณ พิลาวัน, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี (กัปตันทีม), นิภาวรรณ ปัญโญสุข, วารุณี เพ็ชรวิเศษ, สุนิสา สร้างไธสง, ณัฐวดี ปร่ำนาค, กัญญาณัฐ เชษฐบุตร, อรพินท์ แหวนเงิน และ ธนีกานต์ แดงดา

เริ่มเกมครึ่งแรกสาวเวียดนามเดินหน้าบุกเข้าใส่หวังทำประตูออกนำทันที และมีจังหวะจบสกอร์น่าได้ประตูหลายครั้ง แต่วราภรณ์ บุญสิงห์ ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยยังป้องกันได้ ขณะที่ทีมไทยได้ลุ้นแบบจะแจ้งในนาทีที่ 19 จากการยิงของธนีกานต์ แดงดา ผู้รักษาประตูเวียดนามต้องปัดออกหลัง จากนั้นไม่มีจังหวะหวาดเสียวมากนัก จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลัง นาที 59 เกมรับของไทยพลาดจากการเสียบอลในแดนกลาง ฟัม ไฮ เยิน จ่ายทะลุช่องผ่านแนวกองหลังให้ ฮุย นุย กองหน้าตัวเก่งหลุดเดี่ยวแตะหลบผู้รักษาประตูยิงง่ายๆ ให้เวียดนามขึ้นนำก่อน 1-0

หลังจากเสียประตูไทยพยายามตั้งเกมบุกเพื่อโอกาสตีเสมอ แต่มักจะทำเสียบอล ในแดนตัวเองให้เวียดนามได้โต้กลับสร้างจังหวะจะบวกประตูเพิ่มหลายครั้ง ส่วนทีมสาวไทยได้ลุ้นแบบจะแจ้งจากการยิงของธนีกานต์ ในนาที 72 บอลพุ่งหลุดกรอบออกหลัง

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย เวียดนามครองบอลกดดันเข้าใส่สาวไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ทีมหญิงไทยจะได้ลุ้นจากฟรีคิกของธนีกานต์ แต่ผู้รักษาประตูเวียดนามป้องกันไว้ได้ สุดท้ายไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกมสาวไทยแพ้เวียดนามหวุดหวิด 0-1 เวียดนามคว้าเหรียญทอง เป็นแชมป์สมัยที่ 7 ขณะที่ไทยได้เพียงเหรียญเงิน

ส่วนเกมนัดชิงเหรียญทองแดงฟิลิปปินส์ ชนะเมียนมา 2-1

วันนี้ชิงอีก 65 ทองส่งท้าย
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันซีเกมส์ประจำวันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. มีชิงส่งท้ายรวมทั้งหมด 65 เหรียญทอง ก่อนจะมีพิธีปิดการแข่งขันในวันที่ 23 พ.ค. โดยมีชิงชัยมวยสากล 13 เหรียญทอง มวย 10 เหรียญทอง โววีนั่ม 9 เหรียญทอง ฟินสวิมมิ่ง 6 เหรียญทอง แบดมินตัน 5 เหรียญทอง ยกน้ำหนัก 4 เหรียญทอง ยิมนาสติก เทนนิส กีฬาละ 3 เหรียญทอง บาสเกตบอล บิลเลียด- สนุ้กเกอร์ จักรยาน วอลเลย์บอล กีฬาละ 2 เหรียญทอง และอีสปอร์ต ฟุตบอลชาย ยูโด ยิงปืน กีฬาละ 1 เหรียญทอง

ไฮไลต์ทัพนักกีฬาไทยได้ลุ้นเหรียญทองเหรียญใหญ่จากฟุตบอลชาย รอบชิงชนะเลิศ “ช้างศึก” ทีมชาติไทยปะทะแข้งเจ้าภาพ เวียดนาม เริ่มเวลา 19.00 น. ส่วนวอลเลย์บอลหญิง รอบชิงชนะเลิศเช่นกัน ทีมตบลูกยางสาวไทยลงสนามล่าแชมป์สมัยที่ 15 พบกับเจ้าภาพ เวียดนาม เริ่มเวลา 17.00 น.

นอกจากนี้ ยังได้ลุ้นจากมวยสากล แบดมินตัน ยกน้ำหนัก และจักรยาน เริ่มจากมวยสากลผ่านเข้าชิงชนะเลิศ 6 คน รุ่น 57 ก.ก.ชาย สมชาย วงศ์สุวรรณ์ พบ ฟาร์รานด์ ปาเพนดัง จากอินโดนีเซีย, รุ่น 69 ก.ก.ชาย บรรจง สินศิริ พบ สาโรฮาตัว ลุมเบงโตบิง จากอินโด นีเซีย, รุ่น 81 ก.ก.ชาย อนวัช ถองกระโทก พบ มิเคล โรเบิร์ต มุสกิตา จากอินโดนีเซีย, รุ่น 91 ก.ก.ชาย จักรพงศ์ ยมโคตร พบ เพียร์ อ๋อง จากกัมพูชา, รุ่น 48 ก.ก.หญิง จุฑามาศ รักสัตย์ พบ คีอู ตรินห์ ธี เดียม จากเวียดนาม และรุ่น 57 ก.ก.หญิง นิลาวัลย์ เตชะสืบ พบ ธิ วี วอง จาก เวียดนาม โดยรอบชิงชนะเลิศ เริ่มเวลา 14.00 น.

แบดหญิงเดี่ยวชิงกันเอง
แบดมินตัน ไทยเข้าชิงชนะเลิศ 3 ประเภท พร้อมจองเหรียญทองหญิงเดี่ยวไว้แล้ว โดยรอบรองชนะเลิศ เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ชายเดี่ยว “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือวาง 2 ของรายการ มือ 18 ของโลก ชนะ เจีย เฮง เจสัน จากสิงคโปร์ 2-0 เกม 21-11, 21-12 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

หญิงเดี่ยว “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือวางอันดับ 1 ของรายการ มือ 10 ของโลก ชนะ พูตรี กุสุมา วาร์ดานี จากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 21-16, 21-9 ผ่านเข้าชิงชนะเลิศไปพบรุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติ “จิว” พิทยาภรณ์ ไชยวรรณ มือ 21 ของโลก ที่ชนะ เกรกอรี่ มาริสกา ตุนจุง จากอินโดนีเซีย 2-0 เกม 21-18, 21-15

หญิงคู่ เบญญาภา เอี่ยมสอาด กับ นันทกานต์ เอี่ยมสอาด คู่มือ 28 ของโลก ชนะ เซีย ยี ซี กับ เซีย ซู ฮุย จากมาเลเซีย 2-0 เกม 21-16, 21-6 เข้าชิงชนะเลิศไปพบอพริยานี ราฮายู กับ สิติ ฟาเดีย ซิลวา รามาดานติ จากอินโดนีเซีย โดยรอบชิงชนะเลิศเริ่มเวลา 12.00 น.

ยกน้ำหนัก จอมพลังไทยได้ลุ้นอีก 3 คน พชรเมธี ธารพันธ์ รุ่น 89 ก.ก.ชาย เริ่มเวลา 10.00 น., ดวงอักษร ใจดี รุ่นมากกว่า 71 ก.ก.หญิง เริ่มเวลา 12.00 น. และ รุ่งสุริยา ปัญญะ รุ่นมากกว่า 89 ก.ก.ชาย เริ่มเวลา 14.00 น.

ขณะที่จักรยานมีโอกาสจากโรดเรซทีมหญิง มีร้อยเอกหญิงจุฑาธิป มณีพันธุ์, สิบโทหญิงศุภักษร นันตะนะ, สิบตรีหญิงเพชร ดารินทร์ สมราช, สิบตรีหญิงชนิภรณ์ บัตริยะ, น.ส.กมลรดา ขาวปลอด เริ่มเวลา 09.00 น.

แฟนกีฬาติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ผ่านทางช่อง T Sports 7 ช่อง PPTV HD ช่อง 3 HD และ TrueID ได้ตลอดวัน เริ่มตั้งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นไป

เชียร์‘ช้างศึก’ดวลชิงทองเจ้าภาพ
ส่วนทัพ “ช้างศึก” ฟุตบอลชายทีมชาติไทย จะชิงชนะเลิศกับทีมเวียดนาม เจ้าภาพและแชมป์เก่า ที่หมีดิ่ญ สเตเดียม กรุงฮานอย วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสด ทาง TV5 HD1

ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 21 พ.ค. ที่หัง เดย์ สเตเดียม ฟุตบอลชายทีมชาติไทยลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้าย ใช้เวลา 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยเน้นที่การแก้ไขข้อผิดพลาดและฟื้นฟูร่างกายเป็นหลัก

สำหรับสภาพความพร้อมเกมนี้ นักเตะทั้ง 20 คนฟิตสมบูรณ์พร้อมลงชิง จะขาดเพียงแค่วิลเลียม กาเบรียล ไวเดอร์เฌอ กองกลาง ลูกครึ่งไทย-สวีดิชที่ติดโทษแบนเพียงรายเดียวเท่านั้น

ส่วน 11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม ระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตูและกัปตันทีม) กองหลัง นาคิน วิเศษชาติ, โจนาธาร เข็มดี, ชนภัช บัวพันธ์, อิรฟาน ดอเลาะ กองกลาง วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ชยพิพัฒน์ สุพรรณเภสัช, เบนจามิน เจมส์ เดวิส, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ กองหน้า พาตริก กุสตาฟส์สัน

สำหรับสถิติไทยกับเวียดนาม เจอกันมาในซีเกมส์ทั้งหมด 19 นัด แบ่งเป็นไทยชนะ 10 นัด เสมอ 6 นัด และเวียดนามชนะได้ 3 นัด ไทยยิงได้ 32 ประตู ส่วนเวียดนามยิงได้ 22 ประตู โดยนัดสุดท้ายที่เจอกันคือการเจอกันในรอบแรก ซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งจบลงที่เสมอกัน 2-2

อย่างไรก็ตาม ครั้งสุดท้ายที่เวียดนามสามารถเอาชนะไทยได้ต้องย้อนไปซีเกมส์ ครั้งที่ 4 เมื่อปี 1967 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งเวียดนามใต้เอาชนะได้ 5-0 ทำให้ไทยได้อันดับ 3 ส่วนเวียดนามไปแพ้ในรอบชิง ชนะเลิศ ได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น

หากนับเฉพาะการเจอกันในรอบชิง ชนะเลิศ 5 ครั้ง ไทยเอาชนะได้ 4 ครั้ง ในปี 1995 ที่จ.เชียงใหม่, ปี 1999 ที่บรูไน, ปี 2003 ที่เวียดนาม และปี 2005 ที่ฟิลิปปินส์ ส่วนเวียดนามคว้าเหรียญทองได้ 1 ครั้งใน ปี 1959 ที่กรุงเทพฯ โดยทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองมาครองได้ทั้งหมด 16 สมัย มากที่สุดในอาเซียน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน