บิ๊กเด่นขยายผล เคส‘ลูกอนุทิน’บุกรวบอีก6คน
‘บิ๊กเด่น’ สั่งการนำทีมตร. ลุยขยายผลจับอีก 6 คน เครือข่ายแก๊งแฮ็กไลน์ ‘ลูกรอง นายกฯ อนุทิน’ หลอกยืมเงินคนรู้จัก มีหน้าที่จัดหาบัญชี ถอนเงินที่เหยื่อโอนมาให้ เตรียมออกจับล่าตัวอีก 7 คน แฉในรอบ 3 เดือนก่อเหตุมาแล้วกว่า 900 คดี รวมมูลค่ากว่า 50 ล้านบาท พฤติการณ์เชื่อมโยง แก๊งยาเสพติดรายใหญ่สิงห์บุรี ใช้วิธีการ โยกย้ายเงินเหมือนกัน จนทำให้ขบวนการเติบโตรวดเร็ว
เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือพีซีที พล.ต.อ.ปรีชา เจริญสหายานนท์ ที่ปรึกษาพิเศษตร. พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภาค 5 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภาค 2 ในฐานะหัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 พีซีที พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปอท. พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผบก.ตอท. และพล.ต.ต.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.เชียงใหม่ ร่วมแถลงจับกุมแก๊งแฮ็กไลน์ มีผู้เสียหายจำนวนมาก มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วย เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยมีผู้แจ้งความผ่านระบบออนไลน์ในคดีถูกแฮ็กไลน์หลอกยืมเงินเข้ามามากผิดปกติ และเกิดขึ้น ทั่วประเทศ จึงสั่งการทุกหน่วยสืบสวนสอบสวน หาตัวคนร้าย โดยพล.ต.ต.ธีรเดช หัวหน้าชุดปฏิบัติการ 5 พีซีที พล.ต.ต.ศารุติ ผบก.ปอท. และ พล.ต.ต.ธวัชชัย ผบก.เชียงใหม่ นำทีมสืบสวนจนทราบว่าเครือข่ายแฮ็กไลน์จะส่งลิงก์ แฝงโปรแกรมไปยังกลุ่มต่างๆ เช่น เว็บไซต์จองที่พัก กลุ่มขายกระเป๋าแบรนด์เนม เมื่อมีเหยื่อหลงกลกดเข้าไป จะเข้าสู่หน้าให้กรอกข้อมูล หากกรอกข้อมูลลงไปแล้ว คนร้าย จะสามารถเข้าไปล็อกอินระบบไลน์ของเหยื่อได้ทันที จากนั้นจะทักไปยืมเงินเพื่อนในไลน์ของผู้เสียหาย
ต่อมาวันที่ 1 มิ.ย. หน่วยหนุมานกอง ปราบปรามบุกจับกุมนายสมพร หรือแหลม อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาระดับหัวหน้าขบวนการ และเป็นมือแฮ็กเกอร์ ในข้อหาร่วมกัน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการ ที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง และร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น จากคดีที่นายสมพรแฮ็กไลน์ลูกชายคนเล็กของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข จากการตรวจสอบ ประวัติอาชญากรรมยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้เคยก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง
ภัยออนไลน์ – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ในฐานะผอ.ศูนย์ปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือพีซีที แถลงจับแก๊งแฮ็กไลน์ลูกชายนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข พร้อมระดมล่าคนร้าย แฮ็กไลน์ตุ๋นเหยื่อกว่า 900 คดีในช่วง 3 เดือน เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.
รองผบ.ตร.กล่าวว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงาน รวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายจับผู้ต้องหา อีก 6 ราย คือ นายณัฐพงษ์ อายุ 36 ปี, นายเกียรติศักดิ์ อายุ 24 ปี, นายเดี่ยว อายุ 30 ปี, นายมณฑล อายุ 39 ปี, นายนฤนาท อายุ 31 ปี และนายอำนาท อายุ 23 ปี ทั้งหมดมีหน้าที่จัดหาบัญชีและถอนเงินที่เหยื่อโอนเข้ามา นอกจากนี้ยังพบพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดอีกหลายรายการ เตรียมขยายผลออกหมายจับผู้ร่วมขบวนการอีก 7 ราย
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวอีกว่า แก๊งนี้ นายสมพร หรือแหลม เป็นแฮ็กเกอร์ เคยถูกจับกุมมาแล้ว อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี อีกทั้งนายสมพรยังมีพฤติกรรมเกี่ยวพันยาเสพติด จึงเข้าไปพัวพันกับนายบัณฑิต หรืออ้น อวยชัย ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ใน จ.สิงห์บุรี ซึ่งถูกตำรวจ บช.ปส.จับกุมไปเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. นายสมพรจึงรวมตัวกันสร้างขบวนการแฮ็กไลน์ขึ้นใหม่ พัฒนากรรมวิธีการเดินบัญชี โดยใช้กลุ่มบัญชีม้า ของผู้ค้ายาเสพติดกลุ่มนายบัณฑิตช่วยเดินบัญชี ขยายเครือข่ายจัดหาบัญชีม้า และสอนรูปแบบการเดินบัญชี เพื่อหลีกเลี่ยงถูก ตรวจสอบให้กับเครือข่าย ซึ่งทุกคดีจะมีแผนประทุษกรรมการโยกย้ายเงินเหมือนกัน กับกลุ่มค้ายาเสพติด ทำให้ขบวนการเติบโตอย่างรวดเร็ว
รองผบ.ตร.กล่าวว่าจากการบูรณาการปฏิบัติการครั้งนี้สมบูรณ์แบบ เพราะจับกุมตั้งแต่ระดับล่างไปจนถึงระดับหัวหน้าขบวนการ ยึดและอายัดเงินในบัญชี 32 บัญชี ซึ่งจะเข้าสู่ กระบวนการเพื่อนำคืนให้ผู้เสียหายต่อไป จากสถิติคดีเดือนมี.ค.-พ.ค.2565 มีผู้เสียหายถูกหลอกไปแล้วกว่า 900 คดี มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท แต่ละรายที่ถูกหลอก จะเสียเงินเป็นจำนวนมาก หากผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงไปแล้วให้รีบแจ้งความเข้าระบบออนไลน์ไว้ เพื่อจะได้เร่งติดตามยึดทรัพย์สินนำคืนให้ผู้เสียหายโดยเร็วที่สุด
