ผบก.เพชรบุรีสอบเค้น รับสิ้นโดนรุ่นน้องหมิ่น
จับแล้วมือยิงในงานบวช ผู้การเพชรบุรี ชี้เกิดจากความเมา คนตายที่เป็นรุ่นน้องไปตบหัวหน้าเวที เหมือนหมิ่นศักดิ์ศรี เลยกลับบ้านไปคว้าปืนมายิงดับ แล้วหนีไปซ่อนตัวที่กระท่อมเชิงเขา เช้ามาหายเมาสำนึกผิด เลยประสานผู้นำชุมชนพาเข้า มอบตัวที่สภ.หนองหญ้าปล้อง พร้อมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
จากเหตุคนร้ายยิงนายสำรวย พูลพิพัฒน์ อายุ 39 ปี เสียชีวิตในงานบวช หมู่ที่ 1 ต.ไร่โคก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ขณะที่นายอุเทนหรือเทน ศรีถม มือปืน ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามข่าว
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่บก.ภ.จว.เพชรบุรี พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.เพชรบุรี พ.ต.อ.กานต์ ธรรมเกษม รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี แถลงจับกุมนายอุเทนหรือเทน ศรีถม อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเพชรบุรี ที่ 139/2565ลง 12 มิ.ย. 65 ฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดย ไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้พาอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนหรือสมควรแก่พฤติการณ์ โดยไม่มีเหตุอันสมควร”
พร้อมของกลาง อาวุธปืนสั้น แบบลูกโม่ ขนาด .38 สเปเชี่ยล ไม่ปรากฏยี่ห้อ ไม่ปรากฏหมายเลขทะเบียนไม่ปรากฏหมายเลขประจำปืน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน ขนาด .38 สเปเชี่ยล 2 นัด บรรจุอยู่ในโม่ และมีปลอกกระสุนปืน ขนาด .38 สเปเชี่ยล 4 ปลอก บรรจุอยู่ในโม่ รองเท้าหนังหุ้มข้อ 1 คู่ เสื้อ กางเกง ที่ผู้ต้องหาสวมใส่ ในขณะเกิดเหตุ 1 ชุด จักรยานยนต์ ฮอนด้า คลิก สีแดง ทะเบียน ออย 441 กรุงเทพมหานคร มาแถลงข่าว
พล.ต.ต.อุทัยกล่าวว่า นายอุเทนมาช่วยเสิร์ฟอาหารในงานอุปสมบท ขณะนั้นมีการแสดงดนตรี มีการเต้นสนุกสนาน ก็มีข้อ ขัดแย้งทางผู้ตายที่ไปตบหัวผู้ต้องหาที่บริเวณหน้าเวที ซึ่งนายอุเทนมีอายุมากกว่า รู้สึกว่าเสียหน้าก็เลยกลับบ้านไปนำอาวุธปืนมายิงนายสำรวย เหตุเกิดเพราะความมึนเมาไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อเหตุหรือว่าผู้ตาย หลังจากยิงแล้ว ได้ขับรถหลบหนีทางแยกห้วยท่าช้าง เลี้ยวไปทาง อ.หนองหญ้าปล้อง มุ่งหน้าไปบ้านท่าตะคร้อเพื่อไปหมู่บ้านท่าเสลา เมื่อมาถึงบ้านหนองเปาะ ได้เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้ม อาวุธปืนและรองเท้าหลุดหายในที่เกิดเหตุ ส่วนตัวนายอุเทนสลบไป เมื่อฟื้นขึ้นมามีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหนองหญ้าปล้อง จะพาไปรักษา แต่นายอุเทนปฏิเสธและขับรถจยย.หนีไปจอดทิ้งไว้ในสวนปาล์ม แล้วเดินเท้าต่อไปพักในกระต๊อบในป่าเชิงเขาที่เคยพักอยู่เป็นประจำ
ต่อมาวันที่ 12 มิ.ย. เวลาประมาณ 09.00 น. นายอุเทนตื่นขึ้นมาได้สำนึกผิด จึงประสานผู้นำชุมชนให้พาเข้ามอบตัวที่สภ.หนองหญ้า ปล้อง ซึ่งนายอุเทนรับสารภาพตลอดข้อ กล่าวหา
พล.ต.ต.อุทัยกล่าวต่อว่า เบื้องต้นจะพาไปทำแผน แต่ทางผู้ต้องหาไม่อยากไปเพราะญาติของผู้ตายเยอะเกรงว่าจะเกิดความไม่ปลอดภัย แต่ในชั้นนี้ผู้ต้องหาได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในเรื่องของการฆ่าคนตาย ใช้อาวุธปืน และนำอาวุธปืนและมอเตอร์ไซค์มามอบให้ตำรวจ พนักงานสอบสวนจะใช้ผลตรวจนิติเวชประกอบคดีต่อไป