ชี้มีผลกระทบอันตรายหญิงท้อง-แม่ให้นมลูกทั้งสูบใน‘ที่สาธารณะ’หากฝ่าฝืนก็มีความผิด จดทะเบียนผลิตภัณฑ์กว่า 8.1 แสนราย ชี้ช่อดอกปรุงอาหารได้ ไม่ห้าม ใช้ 1-2 ช่อในหม้อต้ม อย่าใส่เกิน หากปริมาณเกินก็เป็นยาเสพติดผิดกฎหมาย ด้านวิษณุแนะบูรณาการกฎหมายต่างๆ ที่มีอยู่ ทั้งอาญาและพาณิชย์จับกุมและป้องปราม

วันที่ 16 มิ.ย. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดประชุมมอบนโยบายและชี้แจงแนวทางการควบคุม กำกับ การใช้กัญชาอย่างเหมาะสมและปลอดภัยต่อสุขภาพ ตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ว่า เรื่องการใช้กัญชากัญชงในประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ วันนี้เข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ได้รับการตอบสนองในเชิงบวกอย่างมากจากประชาชน ข้อมูลล่าสุดมีประชาชนเข้าแอพพลิเคชั่นปลูกกัญแล้ว 32 ล้านครั้ง มีการขอจดแจ้งปลูกในครัวเรือนและจดทะเบียนผลิตสินค้ากับ อย. รวม 8.5 แสนราย อย.อนุมัติ 8.1 แสนราย ผู้คนให้ความสนใจอย่างมาก

ส่วนความเป็นห่วงเรื่องการเข้าถึงกัญชาของเยาวชน เด็กวัยเรียน การใช้ผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะการเสพสูบ นายอนุทินกล่าวย้ำว่านโยบายกัญชาเสรีของ สธ. มีเจตนาให้ก่อประโยชน์ทางสุขภาพ การแพทย์ รักษาพยาบาล และสินค้าสุขภาพ อุปโภคบริโภคเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันในเชิงอุตสาหกรรม ไม่มีแนวทางแม้แต่น้อยส่งเสริมให้ใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะการใช้สารสกัดจากกัญชาหรือมวนคล้ายบุหรี่แล้วสูบเสพ ซึ่งก่อให้เกิดโทษไม่ต่างจากของมึนเมาอื่นๆ ขอให้สร้างความเข้าใจว่าการสูบเสพกัญชาไม่ควรกระทำอย่างยิ่ง จะก่อให้เกิดความรำคาญรบกวนผู้อื่น มีความผิดตามกฎหมาย โทษทั้งจำและปรับ เพื่อให้เกิดความสบายใจและมั่นใจว่าระหว่างกำลังรอสภาพิจารณากฎหมาย ซึ่งมีการตั้งกรรมาธิการประชุมแปรญัตติแล้ว กรมอนามัยก็ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว มีผลบังคับใช้ เรื่องกำหนดกลิ่นและควันกัญชาเป็นเหตุรำคาญ

“นอกจากนี้ กรมการแพทย์แผนไทยฯ ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) ภายใต้อำนาจ พ.ร.บ.คุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาทางการแพทย์แผนไทย ซึ่งปลัด สธ.ในฐานะประธานคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาฯ ก็ได้เสนอร่างมาแล้ว เอกสารอยู่ในห้องทำงานแล้ว ถ้าวันนี้ผมพิจารณาแล้วไม่ขัดข้องก็จะลงนามต่อไป” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า ร่างประกาศดังกล่าวออกมาเพื่อให้คุ้มครองเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร ดังนี้ 1.ให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม 2.ให้ผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปสามารถใช้ประโยชน์กัญชาได้ยกเว้นการใช้ประโยชน์ดังต่อไปนี้ 1) การใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะ และ 2) การใช้ในหญิงมีครรภ์หรือหญิงให้นมบุตร 3.ให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากกัญชาในการบำบัดรักษาผู้ป่วยของตน และ 4.ประกาศฉบับนี้ใช้บังคับนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้น

“คิดว่าประกาศกระทรวงทั้ง 2 ฉบับ ซึ่งจริงๆ เป็นกฎหมายอยู่แล้ว ไม่ต้องประกาศก็มีผลบังคับใช้ได้ แต่ออกมาเพื่อสร้างความมั่นใจและลดข้อวิตกกังวลของคนที่เข้าใจว่ากัญชาเป็นพืชที่มีแต่โทษ จริงๆ เราพยายามแยกให้เห็นว่ามีโทษและประโยชน์อย่างไร ส่วนที่เป็นโทษทุกการกระทำสุ่มเสี่ยงต่อการผิดกฎหมายทั้งสิ้น ไม่ควรไปทางนั้น ควรใช้ทางที่เป็นประโยชน์เท่านั้น มีหลักฐานการวิจัยศึกษามากมายทั้งการแพทย์ เภสัชกรรมที่ระบุให้เห็นถึงประโยชน์กัญชงกัญชาในการมารักษาผู้ป่วย พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ป่วย นำมาปรุงอาหาร” นายอนุทินกล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า วันนี้กัญชาเสรีแล้วไม่ใช่พืชผิดกฎหมาย ร้านค้าสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบปรุงอาหาร โดยใช้อย่างเข้าใจ กรมอนามัยออกประกาศว่าร้านใดใช้กัญชงกัญชามาปรุงอาหาร ให้ติดป้ายให้ผู้บริโภคทราบ และผู้บริโภคมีสิทธิถามว่าผสมกัญชาหรือไม่ เพื่อตัดสินใจว่าจะรับบริการหรือไม่ การนำมาประกอบอาหารไม่ใช่สารสกัดจากกัญชา เอาใบมาตำส้มตำ ทำแกงต่างๆ ไม่มีปัญหาแน่นอน เพราะใบไม่มีสารก่อให้เกิดฤทธิ์จิตประสาท ช่อดอกถ้านำไปต้มในปริมาณพอเหมาะพอสมก็ทำให้รสชาติอาหารดีขึ้น เป็นเทคนิคในการเรียกลูกค้า ไม่ก่อให้เกิดโทษถ้าใส่ปริมาณถูกต้อง ถ้าใส่ 300 ช่อก็อย่าไปกิน เพราะเกินปริมาณ ถ้าบอกใส่นิดหน่อยพอมองเห็น เราใช้วิจารณญาณในการรับประทาน คิดว่าประชาชนมีความเข้าใจดีอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าช่อดอกถ้านำไปปรุงอาหาร เช่น ต้ม ผัด ทำให้เกิดสารสกัด ซึ่งไม่สามารถตรวจได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน อาจทำให้เป็นอันตราย นายอนุทินกล่าวว่า เราไม่ได้ห้ามช่อดอก ห้ามสารสกัด จะนำไปใช้ก็ใช้อย่างพอเหมาะ ร้านใดที่ใช้เกินปริมาณก็จะมีโทษด้วย ร้านอาหารเองก็ต้องติดป้ายแจ้งให้ลูกค้าทราบ วิเคราะห์ปริมาณกัญชาที่จะใช้ในอาหาร เช่นช่อดอกก็ไม่ควรเกิน 1-2 ดอกในหม้อต้ม ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีปัญหาในการใช้ แต่ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการเสพสูบ นำสารสกัดกัญชาไปใช้มากเกินไป แต่การนำไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ต้องมีการขออนุญาตจากอย.อยู่แล้ว ซึ่งต้องเน้นย้ำว่า ร้านอาหารจะต้องห้ามใส่เกินปริมาณ








Advertisement

ด้าน นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัยกล่าวว่า ตัวกฎหมายหลักจะระบุเรื่องปริมาณสาร THC เกินกำหนดไม่สามารถทำได้อยู่แล้ว ซึ่งจะทราบได้อย่างไรว่าเกิน เราดำเนินการ 2 อย่าง คือ 1.กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบ พนักงานต้องผ่านการอบรม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับสัดส่วนอาหารที่รับประทาน อย่างคำแนะนำหากกินหมดทั้งจาน ก็ไม่ควรกินเกินวันละ 2 เมนู และส่งเสริมให้กินหลากหลายครบหมู่อาหาร เพื่อไม่ให้ปริมาณสารเกิน 2.ควบคุมที่ร้านให้ติดป้ายและคำเตือนแจ้งประชาชน พร้อมแสดงเมนูที่ผสมกัญชา ทั้งนี้ ทางสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหารก็ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบเรื่องนี้ด้วย

ส้มตำกัญชา – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ทดลองชิมส้มตำผสมกัญชา 2 ใบ ที่ลงมือตำ ปรุงเอง พร้อมลงนามประกาศกระทรวงให้กัญชาเป็นสมุนไพรควบคุม ห้ามใช้ในผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี หญิงตั้งครรภ์ หญิงให้นมลูก และห้ามใช้ในที่สาธารณะ ที่กระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนให้สัมภาษณ์ นายอนุทินได้ลงมือปรุงอาหารเมนูส้มตำ ที่มีส่วนผสมของใบกัญชาสด 2 ใบ พร้อมน้ำปลาร้าที่ไม่มีส่วนผสมกัญชา เพื่อเป็นตัวอย่างเมนูอาหารที่ร้านควรจะปรุงให้เหมาะสม ตามประกาศของกรมอนามัย ที่ระบุให้ใส่ส่วนผสมกัญชาอย่างเหมาะสม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณี กทม.ออกประกาศให้โรงเรียนในสังกัดกทม.เป็นเขตปลอดกัญชา กัญชง จะแย้งกับนโยบายเรื่องกัญชาเสรี หรือไม่ ว่า ไม่ทราบ ตอบในเรื่องนี้ไม่ถูก ไม่แน่ใจ

เมื่อถามว่ากระทรวงสาธารณสุขจะออกกฎระเบียบมาบังคับใช้เกี่ยวกับกัญชา กัญชง ได้เมื่อไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการกลางมาพิจารณาในเรื่องนี้ โดยที่กระทรวงสาธารณสุข อาจมีคณะกรรมการชุดอื่นที่บริหารกฎหมายของเขา และมีการคุยกันว่ากระทรวงสาธารณสุข คงต้องนำกฎหมายทุกฉบับที่มีมาใช้ทดแทน ระหว่างที่ยังไม่ประกาศใช้พระราชบัญญัติกัญชา กัญชง อาทิ ประมวลกฎหมายอาญา ในหมวดความผิดลหุโทษ พ.ร.บ.การสาธารณสุข ด้านกระทรวงพาณิชย์ มีกฎหมายหลายอย่างที่นำมาปรับใช้ในเรื่องนี้ได้ ในลักษณะของการควบคุมการจำหน่ายสินค้า ควบคุมราคา ในแง่กฎหมายอาญา มีประมวลกฎหมายอาญาบัญญัติควบคุมไว้ เช่น หากเมากัญชาแล้วขับขี่ยานพาหนะ และการก่อเหตุรำคาญ เป็นต้น

นายวิษณุกล่าวต่อว่า มาตรการเหล่านี้ อาจดีกว่าสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุข กำลังคิดออกมา เพราะหากมีผู้ร้องเรียนเรื่องก่อเหตุรำคาญ ตำรวจสามารถเข้าไปจับกุมได้ แต่หากเป็นกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข จะต้องเข้าไปปรามก่อน หากไม่ฟัง จึงจะดำเนินคดีอาญาต่อไป

เมื่อถามว่าจะปิดช่องเรื่องการออกเป็นพระราชกำหนดเข้ามาควบคุม หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้ปิดประตู เมื่อร่างพ.ร.บ.ค้างอยู่ในสภา จะมาออกพ.ร.ก.มาซ้อนคงไม่เหมาะ แต่ถ้าการพิจารณาพ.ร.บ.ล่าช้า แล้วพบว่ามีอันตรายเกิดขึ้นเห็นได้เป็นที่ประจักษ์ และเข้าข่ายจำเป็นออกพ.ร.ก.อาจจะพิจารณาได้

เมื่อถามว่ากระทรวงศึกษาธิการเตรียมออกประกาศให้โรงเรียนในสังกัดกระทรวง เป็นเขตปลอดกัญชา กัญชง เช่นเดียวกัน นายวิษณุกล่าวว่า ทำได้ แต่ไม่ทราบว่าประกาศจะออกมาอย่างไร ส่วนโรงเรียนในกทม.ก็ทำได้ เช่นกัน เมื่อถามว่าการประกาศให้กัญชา และกัญชง ถูกกฎหมาย แต่ในสถานที่ของหน่วยงานต่างๆ สามารถออกข้อกำหนด ห้ามนำมาใช้ได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า หน่วยงานนั้นๆ สามารถทำได้ สถานศึกษาก็สามารถออกกฎระเบียบ ห้ามนำมาจำหน่ายในโรงเรียนได้ ถือเป็นเรื่องดีและถูกต้อง

เมื่อถามว่าโรงเรียนที่ไม่ได้สังกัดกทม.และกระทรวงศึกษาฯ สามารถออกระเบียบมาควบคุมได้หรือไม่ เพราะหลายฝ่ายเป็นห่วง ว่ากัญชาจะมีผลต่อเยาวชน รองนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ว่ามีความเสี่ยงมากขนาดไหน วันนี้มีโรงเรียนในสังกัดอื่น ทั้งเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นานาชาติ น่าเป็นห่วงทั้งหมด ต้องค่อยๆ ดูไปว่าเสี่ยงแค่ไหน หากเขาจะไปออกคำสั่งที่อยู่ในขอบเขตของตัวเอง เช่นโรงเรียนจะออกคำสั่งห้ามภายในโรงเรียนได้ แต่ไปบังคับใช้นอกพื้นที่ไม่ได้ และถ้ายังไม่เสี่ยงเกินไปก็อย่าเพิ่งไปแตะ

ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สั่งการกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงมหาดไทย รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสื่อสาร ทำความเข้าใจกับเด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไปถึงการใช้กัญชาที่ถูกต้อง รวมไปถึงอันตรายและโทษของกัญชาหากถูกนำไปใช้ผิดวิธีหรือมากเกินความจำเป็น รวมทั้งการสนับสนุนให้สถานศึกษาทุกระดับเป็นพื้นที่ปลอดกัญชา

นายธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังย้ำถึงการปลดล็อกกัญชาเพื่อ 3 วัตถุประสงค์หลัก คือ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ เพื่อประโยชน์ทางด้านเศรษฐกิจ และเพื่อประโยชน์ทางด้านสุขภาพ และขอให้ประชาชนให้ความร่วมมือตามวัตถุประสงค์ดังกล่าวในช่วงสุญญากาศทางกฎหมายระหว่างรอร่างพระราชบัญญัติ กัญชา กัญชง พ.ศ. … ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเร่งรัดในกรรมาธิการ โดยสธ.กำลังเร่งประชุมพิจารณาให้กัญชาเป็น “สมุนไพรควบคุม” ป้องกันการเข้าถึงของเยาวชน

นายธนกรกล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังฝากขอความร่วมมือร้านค้า ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม ที่นำส่วนของกัญชามาใช้ในการทำ ประกอบ หรือปรุงอาหาร ต้องแจ้งข้อมูล ปริมาณการใช้ เพื่อให้ผู้บริโภครับทราบเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค หลีกเลี่ยงส่งผลกระทบต่อสุขภาพที่จะตามมา

นายธนกรกล่าวว่า การปลดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติด มีเจตนารมณ์ที่สำคัญเพื่อการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพ โดยกระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัยได้ออกข้อแนะนำในการใช้กัญชาและกัญชง ให้ระวังผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นหากบริโภคอย่างไม่เหมาะสม และห้ามจำหน่ายแก่บุคคล 3 กลุ่ม ได้แก่ เด็กและเยาวชน สตรีมีครรภ์ มารดาที่ให้นมบุตร เพื่อคุ้มครองไม่ให้กลุ่มเปราะบางเหล่านี้เกิดผลข้างเคียง เด็กและเยาวชนที่มีโอกาสเสพติดมากกว่าผู้ใหญ่ และยังส่งผล กระทบต่อพัฒนาการของสมอง ระดับสติปัญญา ขณะที่ในหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร สารสกัดจากกัญชาอาจส่งผลต่อเด็กในครรภ์หรือทารกได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเย็นวันเดียวกัน นายอนุทินได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2565 ซึ่งจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยมีสาระสำคัญ คือ กัญชา เป็นสมุนไพรที่มีค่าต่อการศึกษาหรือวิจัย มีความสำคัญทางเศรษฐกิจ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 4 มาตรา 44 มาตรา 43(3) และ (5) แห่ง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย พ.ศ.2542 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้

ข้อ 1 ให้กัญชาหรือสารสกัดจากกัญชาซึ่งเป็นพืชในตระกูล แคนนาบิส (Cannabis) เป็นสมุนไพรควบคุม

ข้อ 2 ให้ผู้ที่อายุ 20 ปีขึ้นไปสามารถครอบครองใช้ประโยชน์ ดูแล เก็บรักษา ขนย้าย จำหน่ายสมุนไพรควบคุมตามข้อ 1 ได้ ยกเว้นการใช้ประโยชน์ดังต่อไปนี้ (1) การใช้ประโยชน์ในที่สาธารณะ (2) การใช้ประโยชน์ในหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร (3) การจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์หรือสตรีให้นมบุตร

ข้อ 3 อนุญาตให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ ผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนจีน และหมอพื้นบ้านตามกฎหมายว่าด้วยวิชาชีพการแพทย์แผนไทย สามารถใช้ประโยชน์จากสมุนไพรควบคุมตามข้อที่ 1 ให้กับผู้ป่วยของตน และ ข้อ 4 ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดไปจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน