วันที่ 20 มิ.ย. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และผอ.ศปอส.ตร. (PCT) เปิดเผยว่า พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ร่วมกับพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บชน. แกะรอยสืบสวนล่าตัวขบวนการลักรถจักรยานยนต์โดยชุดสืบสวนระดมไล่กล้องวงจรปิดกว่า 100 ตัว เพื่อเชื่อมโยงหาตัวคนร้าย ตามโครงการกล้องวงจรปิดสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 ของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จับกุมนายเอกลักษณ์ เชื้อกลางใหญ่ ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยเอกมัย 30 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลาง ปืนพกขนาด .38 พร้อมกระสุน 6 นัด และอุปกรณ์งัดแงะ
หัวโจก – พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 นำตำรวจพีซีทีแกะรอยกล้องวงจรปิดโครงการสมาร์ทเซฟตี้โซน 4.0 จากแนวคิดของพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ตามจับนายเอกลักษณ์ เชื้อกลางใหญ่ หัวหน้าแก๊งตูมตาม แก๊งลักจยย.รายใหญ่ ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยเอกมัย เขตวัฒนา กทม. เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เปิดเผยต่อว่า การจับกุมครั้งนี้ได้แบบคาหนังคาเขา ขณะกำลังเข็นรถ ที่ขโมยมาไปซ่อนในห้องพัก และจากการตรวจค้นห้องพักพบว่า นายเอกลักษณ์ทำทะเบียนปลอมปรินต์ด้วยกระดาษนำมาใส่ในกรอบสวมรถที่ขโมยมา รวมไปถึงการปลอมเล่มทะเบียนด้วยเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ และจากการขยายผลพบว่าเคยก่อเหตุมาทั้งหมด 34 จุด ทั่วกรุงเทพฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า ลีด 125 สีแดง คันหมายเลขทะเบียน 4ขบ 6240 กทม. โดยจอดทิ้งไว้บริเวณทางขึ้นสถานีบีทีเอส พหลโยธิน 59 ซึ่งจอดทิ้งไว้ก่อนไปก่อเหตุและถูกตำรวจจับกุม และเมื่อตรวจสอบรถคันดังกล่าวพบว่ามีการใช้ทะเบียนปลอมแบบกระดาษใส่กรอบไว้ สอดคล้องกับพยานหลักฐานการปลอมที่ค้นพบ ในคอมพิวเตอร์ภายในห้องพักของนายเอกลักษณ์
สำหรับนายเอกลักษณ์ เชื้อกลางใหญ่ เป็นหัวหน้าแก๊งตูมตาม ในอดีตเมื่อปี พ.ศ.2553 เป็นกลุ่มคนร้ายที่ออกอาละวาดตระเวนลักรถจักรยานยนต์ เฉพาะปี 2553 ดังกล่าวกลุ่มนี้ ลักรถไปกว่า 100 คัน จนกระทั่งเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2553 ถูกจับกุมเนื่องจากก่อเหตุโจรกรรมรถจักรยานยนต์ในลานจอดรถชัชวาลย์อพาร์ทเม้นท์ ซอยรามอินทรา 34 ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าของอพาร์ตเมนต์ได้รับบาดเจ็บและบุตรชายเจ้าของเสียชีวิต จนหายไปจากวงการอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งสืบพบว่าเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนธ.ค.2564 กลับมาขโมยจยย.อีกครั้ง
