จับลูกชายเค้นจนรับ มีดแทงคอเอาศพทิ้งข้างถนน

หนุ่มทรพีมีดจ้วงแทงพ่อขณะหลับ ตื้บซ้ำจนดับอนาถ ก่อนลากศพไปทิ้งข้างทางอำพรางคดีเป็นอุบัติเหตุ ตร.พบพิรุธทั้งบาดแผล-รอยเลือดลากยาวเป็นทางไกล 4-5 ก.ม.ไปถึงบ้านผู้ตาย จับลูกชายคนเล็กวัย 28 เค้นสอบ สารภาพอ้างรำคาญพ่อดุด่าเรื่องไม่หางานทำ ก่อนเกิดเหตุยังเมามาแล้วไล่ออกจากบ้านเลยลงมือ พี่ชายคนโตรู้ข่าวปรี่เข้าใส่ ตร.ต้องกันตัววุ่น ลั่นไม่มีวันให้อภัย เผยประวัติสุดแสบขนาดพี่สาวยังออกปากอยากฆ่าให้ตาย เมียคนตายรอดหวุดหวิดผัวเตือนอันตรายไม่ให้ไปด้วย สุดท้ายต้องถึงฆาตด้วยเงื้อมมือลูกในไส้

เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 29 มิ.ย. ร.ต.ท. จิรายุ ตาจงราช รองสว.(สอบสวน) สภ. ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งพบศพชายสูงอายุนอนหงายเสียชีวิตในลักษณะขาพาด อยู่บนรถเข็นของ บริเวณริมถนนทางหลวงหมายเลข 24 สายโชคชัย-เดชอุดม ช่วงทางโค้งบ้านไพศาล ต.ไพศาล ฝั่งขาเข้า อ.ประโคนชัย จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.ประโคนชัย และ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบ้านสองเมือง

ที่เกิดเหตุพบศพนายเขมา โสเพียร อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 บ้านละลมพะนู ต.ไพศาล นอนหงายในลักษณะขาท่อนล่างจนถึงหัวเข่าพาดอยู่บนรถเข็นของสีฟ้า สวมเสื้อแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำถูก ถลกลงจากเอวจนเห็นกางเกงใน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีเทา ทะเบียน ขวต 653 ชลบุรี ล้มคว่ำอยู่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวชน โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ไม่ได้รับความเสียหาย

แพทย์ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้นพบบาดแผลบริเวณศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนกะโหลกเปิด ใบหน้าคล้ายถูกของมีคมเฉือนหลายแผล ลำคอและท้ายทอยมีรอยถูกของมีคมแทงอีก 2 แผล จากสภาพศพและที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าไม่น่าจะเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ แต่ถูกทำร้ายร่างกายแล้วนำศพมาทิ้งอำพราง จึงให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยนำศพส่งให้แพทย์ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่บ้านของ ผู้เสียชีวิตพบความผิดปกติหลายอย่าง ทั้งรอยคล้ายคราบเลือดตามพื้นดิน แต่ถูกขุดเอาดินตรงที่มีหยดเลือดออก ทั้งพบรอยครูดกับพื้นดินคล้ายกับมีการลากอะไรบางอย่าง ทั้งยังพบที่นอนของผู้ตายถูกเผาทิ้งบริเวณหลังบ้าน และพบมีดปลายแหลมอีก 2 เล่ม อยู่ภายในบ้าน แต่ไม่มีคราบเลือดจึงเก็บไปตรวจสอบ นอกจากนั้นยังเจอคราบเลือดหยดตั้งแต่ถนนลาดยางหน้าบ้านไปจนถึงจุดเกิดเหตุระยะทางประมาณ 4-5 กิโลเมตร จากร่องรอยที่พบทำให้เชื่อได้ว่าผู้ตายถูกฆาตกรรมที่บ้านพัก จากนั้นฆาตกรนำศพไปทิ้งให้ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุอำพรางคดี

เจ้าหน้าที่พบนายชัชวาล หรือ ปู โสเพียร อายุ 28 ปี ลูกชายคนที่ 5 ที่อาศัยอยู่บ้านหลังดังกล่าวกับผู้ตายเพียง 2 คน ส่วนลูกอีก 4 คนแยกย้ายไปมีครอบครัวและอาศัยอยู่ที่อื่น เบื้องต้นนายชัชวาลปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนทำร้ายพ่อหรือทำให้พ่อเสียชีวิต แต่อ้างว่าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา พ่อเป็นคนลากที่นอนของตัวเองออกมาวางไว้ที่หลังบ้าน แล้วตอนประมาณตี 3 พ่อจุดไฟเผาที่นอนหลังดังกล่าว แล้วบอกให้ตนคอยดูเดี๋ยวไฟจะลามไหม้บ้าน จากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ออกไปข้างนอก แต่ไม่รู้ว่าไปไหน มารู้อีกทีตอนมีเจ้าหน้าที่มาที่บ้านว่าพ่อเสียชีวิตแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนฆ่าพ่อ แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อจึงคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ประโคนชัย

ฆ่าพ่อ – นาทีตำรวจสภ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ จับกุมนายชัชวาล โสเพียร อายุ 28 ปี ก่อนสอบข้ามคืนจนรับสารภาพเป็นคนฆ่านายเขมา โสเพียร บิดาอายุ 75 ปี อำพรางเป็นอุบัติเหตุนำศพทิ้งข้างถนนโชคชัย-เดชอุดม เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.

ระหว่างนั้นเอง นายวีรวัฒน์ โสเพียร อายุ 50 ปี พี่ชายคนโตซึ่งเดินทางไปดูศพพ่อที่เกิดเหตุและมาที่บ้านด้วย พุ่งเข้าไปชกต่อยนายชัชวาลด้วยความโมโห เจ้าหน้าที่ต้องช่วยแยกตัวออกไป แล้วรีบนำนายชัชวาลขึ้นรถตำรวจไปยังสภ.ประโคนชัยทันที ขณะที่นายวีรวัฒน์ให้การว่า เชื่อว่าน้องเป็นคนฆ่าพ่ออย่างแน่นอน เพราะพ่อเคยเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับน้องชายบ่อยครั้ง และน้องชายเคยพยายามจะทำร้ายพ่อด้วย จนระยะหลังตนจะแวะเวียนมาดูพ่อที่บ้านเรื่อยๆ แต่ยังไม่รู้ว่าสาเหตุที่น้องจะฆ่าพ่อเป็นเพราะอะไร

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะนายชัชวาลหาสารเสพติด เนื่องจากมีประวัติเสพยาเสพติดมาก่อน แต่ไม่พบ หลังถูกเจ้าหน้าที่เค้นสอบปากคำไม่นาน นายชัชวาลรับสารภาพว่า ก่อเหตุปิตุฆาตเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ด้วยการใช้มีดปลายแหลมแทงคอขณะพ่อนอนหลับ แต่จำไม่ได้ว่าแทงไปกี่ครั้ง แล้วใช้เท้ากระทืบซ้ำอีกหลายครั้งจนพ่อแน่นิ่งไป จากนั้นลากศพพ่อใส่รถเข็นพ่วงท้ายรถจักรยานยนต์ขับไปทิ้งข้างทางให้เหมือนว่าพ่อประสบอุบัติเหตุแล้วก็เดินกลับมาบ้าน

ผู้ต้องหาอ้างว่าสาเหตุที่ฆ่าพ่อตัวเอง เพราะรำคาญที่พ่อชอบดุด่าเรื่องที่ไม่ทำงาน และล่าสุดคืนเกิดเหตุพ่อดื่มเหล้าเมาแล้วไล่ตัวเองออกจากบ้านทำให้รู้สึกโมโห พอตกกลางดึกตอนพ่อนอนหลับจึงลงมือฆ่าพ่อ เมื่อถามว่าอยากขอโทษพ่อหรือไม่ผู้ต้องหาบอกว่าไม่อยากขอโทษ เพราะโกรธพ่อ

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ. ประโคนชัย ลงพื้นที่หาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติมและไล่กล้องวงจรปิดตามเส้นทาง พบกล้องวงจรปิดบริเวณร้านค้าชุมชนแห่งหนึ่งห่างจากบ้านประมาณ 4 ก.ม. สามารถบันทึกภาพขณะที่ผู้ต้องหานำศพของพ่อใส่รถเข็นเพื่อไปทิ้งอำพรางที่ข้างถนน ช่วงเวลา 02.14 น. แล้วขากลับก็เดินกลับมาบ้านทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ซึ่งสอดคล้องกับคำให้การของนายชัชวาล ผู้ต้องหา ส่วนที่นอนที่เอาไปเผา เพราะอยากเผาเท่านั้น ไม่ได้ต้องการทำลายหลักฐาน แต่อย่างใด เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง ข้อกล่าวหา 2 ข้อหา คือฆ่าบุพการี และ ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพ เตรียมส่งฝากขังต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ ใน วันที่ 30 มิ.ย.

ด้านนายวีรวัฒน์พี่ชายผู้ก่อเหตุ บอกว่า ช่วงอายุประมาณ 22 ปี นายชัชวาลติดทหารเกณฑ์ได้ไปประจำการที่ จ.ชลบุรี แต่อยู่ไม่ครบกำหนดเหลืออีก 6 เดือน ก็หนีทหารออกมาแล้วไม่กลับไปอีก จนถูกจำหน่ายออกก่อนจะปลดประจำการ จากนั้นกลับมาอยู่บ้านเริ่มมีอาการสมองไม่ปกติ เก็บตัว ไม่ค่อยพูดกับใคร และเคยจะทำร้ายญาติที่อยู่ใกล้บ้านด้วย ไม่รู้ว่าน้องก่อเหตุฆ่าพ่อเพราะสาเหตุอะไร แต่ส่วนตัวไม่ขออโหสิกรรมให้เพราะลงมือฆ่าพ่อบังเกิดเกล้าตัวเองอย่างโหดเหี้ยม ปล่อยให้รับโทษตามกฎหมาย

ด้านนางสมาน เดชมา อายุ 65 ปี ภรรยาผู้ตาย เล่าว่า เป็นภรรยาใหม่ของผู้ตาย อยู่กินกันมาร่วม 30 ปี ฝ่ายสามีจะมาอยู่ด้วยกันที่บ้านของตน แต่มักแวะไปเยี่ยมบ้านเป็นครั้งคราว ช่วงที่ผ่านมานายชัชวาลเหมือนมีอาการทางประสาท สามีจะไปแวะหาบ่อยขึ้นด้วยความเป็นห่วง ก่อนหน้านี้ลูกสาวของสามีโทรศัพท์มาหาคุยกันแล้วได้ยินว่า พี่สาวนายปูเอ่ยปากว่าอยากจะฆ่าน้องชายทิ้ง เพราะเกรงว่าจะทำร้ายพ่อ แต่สามีได้บอกผ่านทางโทรศัพท์ว่า ทำไม่ได้เพราะเป็นลูกในไส้ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ที่ผ่านมา สามีจะไปหานายชัชวาลตนบอกว่าจะไปด้วยแต่สามีห้ามไม่ให้ไปบอกคำเดียวสั้นๆ ว่า อันตราย สุดท้ายสามีถูกลูกชายตัวเองฆ่าตายเหมือนที่เคยระแวงไว้ไม่มีผิด

ด้านนายสมัคร บุญสวัสดิ์ อายุ 61 ปี น้าเขยผู้ก่อเหตุ เล่าว่า นายชัชวาลเป็นลูกคนสุดท้องจากทั้งหมด 5 คน ของผู้ตาย เคยเป็นทหารเกณฑ์ แต่หนีทหารก่อนจะปลดประจำการประมาณ 6 เดือน และมีอาการซึมไม่เหมือนเดิมเหมือนมีอาการทางจิตจนไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพยายามแจ้งให้ญาติให้ระวัง สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากอาการทางประสาท

ด้านนางกี เสริมชื่อ อายุ 60 ปี น้าสาวของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ที่ผ่านมาหลังจากหลานหนีทหารมาไม่ค่อยอยู่บ้าน เคยเสพยาเสพติดจนเพี้ยน พอไปทหารกลับมายิ่งเพี้ยนหนัก คงจะเป็นเวรกรรมของพ่อเขาที่มาเจอเหตุแบบนี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน