กองทุนเจ๊ง-แสนล้าน ตู่ถกเครียดสมช.-ทีมศก.จัดแผนรับวิกฤต5ด้าน ห้ามไฟดับ-พลังงานขาด

‘บิ๊กตู่’ ถกเครียดสมช.-รมต.เศรษฐกิจ จัดแผนรับมือ 5 ปัญหาใหญ่ ทั้งการเมืองความมั่นคงระหว่างประเทศ, เศรษฐกิจโลก, การค้าการลงทุนต่างประเทศพลังงาน, การเงินการธนาคาร และผลกระทบท่องเที่ยว ตั้งกรรมการขึ้นมา 2 ชุด คล้ายครม.เศรษฐกิจ มีนายกฯ นั่งเป็นประธานโดยตำแหน่ง จัดแผน 3 ระยะ 3 เดือน 6 เดือน และ 1 ปีขึ้น ช่วยกลุ่มเปราะบางรายได้น้อยต่ออีกถึงก.ย. ลั่นไฟห้ามดับ พลังงานไม่ขาดแคลน ยันตอนนี้ ยังมีสำรองอยู่ แต่ขอร้องให้ช่วยกันประหยัดพลังงาน เล็งเจรจาพื้นที่ศก.ทางทะเลกับประเทศ เพื่อนบ้านแก้วิกฤต หาทางเลือกเจรจาซื้อแหล่งพลังงานใกล้ๆ ด้านมติบอร์ดกองทุนน้ำมันให้ตรึงราคาดีเซล ลิตร 35 บาท 3 เดือนยาวถึงก.ย. ขณะที่กองทุนขาดทุนบักโกรก 1.07 แสนล้าน ส่วนพาณิชย์จี้ผู้ค้าปุ๋ยลดราคาหลังยูเรียนำเข้าเริ่มราคาลงแล้ว

‘บิ๊กตู่’ถกแผนสู้วิกฤตพลังงาน
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 4 ก.ค. ที่ห้องประชุมวิจิตรวาทการ ชั้น 3 สำนักงานสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) โดยเป็นการประชุมเต็มคณะ ทั้งกระทรวงด้านความมั่นคงและกระทรวงด้านเศรษฐกิจ อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เข้าร่วม ทั้งนี้เพื่อพิจารณาแผนและมาตรการเพื่อรองรับวิกฤตพลังงานและอาหาร ในการช่วยบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับประชาชน สืบเนื่องจากสถานการณ์ การสู้รบที่ยาวนานระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลต่อราคาพลังงานในตลาดโลกที่ยังทรงตัวในระดับสูงและมีความผันผวน ส่งผลต่อเนื่องมายังประเทศไทยทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยรัฐบาลได้อุดหนุนราคาพลังงาน ทั้งน้ำมันดีเซลและแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ขณะที่กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ติดลบ กว่า 1 แสนล้านบาทแล้ว

รับมือ 5 เรื่องใหญ่ยืดเยื้อ
ต่อมา เวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมยาวถึง 20 นาทีว่า ได้หารือสิ่งที่ได้รับผลกระทบที่มีการวิเคราะห์กันในขณะนี้ เพื่อนำไปสู่การจัด ทำแผนเตรียมพร้อม คือ 1.เรื่องการเมือง ความมั่นคงระหว่างประเทศ 2.เศรษฐกิจโลก การค้าการลงทุนต่างประเทศ 3.พลังงาน 4.เรื่องการเงินการธนาคาร และ 5.ผลกระทบด้านการท่องเที่ยว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า วันนี้มีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม โดยที่ประชุม ได้กำหนดมาตรการและวิเคราะห์สถานการณ์ต่างๆ จากสาเหตุที่เกิดขึ้นในเวลานี้ผลกระทบที่เกิดจากสงคราม และหากยืดเยื้อจากนี้ไป 3-6 เดือน หรือเกิน 6 เดือนไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น โดยสรุปวันนี้คือ การเตรียมมาตรการ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย. ต่ออายุเพิ่มเติมให้ หลังจากนั้น 3 เดือนต่อไป ต.ค.-ธ.ค. จะทำอะไรได้ต่อหรืออะไรที่ทำไม่ได้แล้ว ถ้าทำแล้วจะเกิดปัญหาต่อระบบการเงินการคลังก็ต้องไปดูอีก เป็นเรื่องของหนี้สาธารณะเพราะปัจจุบันตัวเลขพุ่งขึ้นตามลำดับ ต้องระมัดระวังให้มากที่สุด และหากการสู้รบอีกยาวไปจนถึงปีหน้า อีก 3 เดือน ต้องพิจารณาว่าเราจะทำอย่างไรได้บ้าง หลายอย่างเราทำได้แต่หลายอย่าง ก็ต้องลดลงและไปดูเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนโดยเรียงลำดับมากไปหาน้อย จึงต้องพิจารณาตามระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 1 ปี แล้ว ถ้าหากนานกว่านั้นก็ต้องต่อออกไปอีก ถือเป็นการวางแผนระยะยาวและเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์

ตั้งกก. 2 ชุดเทียบครม.ศก.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การเรียกประชุมวันนี้เพราะมีปัจจัยเกี่ยวข้องด้านความมั่นคงด้านเขตแดน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้วยก็ต้องใช้กลไกเพื่อตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 2 ชุด โดยมีนายกฯ เป็นประธานโดยตำแหน่ง คือ คณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อบริหารสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจ คล้ายครม.เศรษฐกิจ และคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อติดตามประเมิน ผลวิเคราะห์ผลกระทบและจัดทำข้อเสนอ ในการแก้ปัญหาทุกมิติและวางแผนรองรับ ในทุกด้านตามวิกฤตการณ์ในอนาคต โดยได้นำข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาพิจารณาทั้งหมดว่ามีอะไรบ้างอะไรทำได้หรือไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากความคิดเห็นในที่ประชุมและข้อเสนอต่างๆ ได้มีการหารืออย่างรอบคอบคณะกรรมการ ที่ตั้งขึ้นมาก็จะพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งหมดเมื่อพิจารณาแล้วส่วนหนึ่งที่จะมีการปฏิบัติก็ต้องเข้าสู่ที่ประชุมครม. ซึ่งทั้งหมด จะนำเข้าหารือกับภาคเอกชนว่ามีความต้องการ หรือเดือดร้อนตรงไหนทั้งเรื่องของการเกษตร อุตสาหกรรม ทุกอย่างมีข้อมูลเกือบหมดแล้วก็จะมาดูกันว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง

ลั่นไฟห้ามดับ-พลังงานพอ
“วันนี้สิ่งที่ต้องเตรียมรับคือเรื่องของพลังงาน ซึ่งต้องไม่มีคำว่าขาดแคลน และวันนี้เราอยู่ ในเกณฑ์ที่ยังไม่ขาดแคลน แต่ยอมรับว่าราคาสูง ทั้งราคาของน้ำมันและแก๊ส ซึ่งเราต้องดูราคาในความเป็นจริงจากต่างประเทศด้วยเพราะมาจากมาตรฐานตัวเดียวกันจากราคาต้นทุนน้ำมัน ในส่วนของค่าการกลั่นมีกฎหมายดูแลและควบคุมอยู่ทุกฉบับ ซึ่งทางคณะกรรมการกฤษฎีกา คงออกมาชี้แจงอีกครั้งว่าอะไรทำได้หรือทำไม่ได้ ยืนยันไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อใคร ทำไมจะไปเอื้อประโยชน์ให้ใคร สิ่งแรกวันนี้คือ ไฟต้องไม่ดับ พลังงานต้องมีเพียงพอ วันนี้รับทราบแล้วว่าอัตราสำรองพลังงานยังใช้ได้ระยะหนึ่ง แม้ถ้าจะไม่มีการนำเข้าอีกจะใช้ได้อีกเท่าไหร่ เราจะอยู่ได้กี่วันได้มีการหาข้อมูลกันไว้ทั้งหมดแล้ว และได้มีการเตรียมแผนไว้ว่าถ้าขาดแล้วจะทำอย่างไร ถ้านำเข้าอีกไม่ได้มันก็จะเป็นปัญหา” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ส่วนเรื่องของอาหาร ในส่วนของประเทศไทย ไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนอาหาร แต่วันข้างหน้าต้องเตรียมความพร้อมเมื่อเราต้องการจะเป็นแหล่งอาหารโลก จะต้องมีการพัฒนาในภาคการเกษตร และต้องมาดูในส่วนที่มันเป็นปัญหาต่างๆ ทั้งต้นทุนปุ๋ยหรืออาหารสัตว์ต่างๆ จะต้องเร่งสร้างความมั่นคงให้เกิดขึ้น ซึ่งต้องเจรจากับต่างประเทศด้วยในเรื่องของวัตถุดิบต่างๆ ซึ่งในส่วนของเกษตรกรยอมรับว่ามีความเป็นห่วงซึ่งปัจจุบันมีหลายมาตรการในการดูแลอยู่แล้วก็ต้องมาดูว่าจะมีการเพิ่มเติม มาตรการอะไรได้ตรงไหน ถ้าไม่ได้จะทำอย่างไร

“วันนี้สิ่งที่ได้หารือคือการบรรเทาค่าครองชีพ ของประชาชน เรื่องพลังงาน อาหาร ผลผลิตทางการเกษตรและปัจจัยการผลิต กลไกการตลาด ภาคการขนส่ง ทั้งทางรถและทางราง สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องรู้ราคาพลังงานอย่างแท้จริงในโลก ทั้งภูมิภาคและอาเซียน ซึ่งประเทศไทยสามารถรักษาไว้ได้ในราคาเท่านี้ แต่ก็ใช้เงินไปจำนวนมหาศาล 100,000 กว่าล้านในขณะนี้ ถ้าเราใช้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ จะไหวหรือไม่ ก็ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วย ถ้าเรามีงบประมาณเพียงพอผมยินดี แต่ก็ต้องระมัดระวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ขอให้ช่วยประหยัดกันหน่อยได้ไหม คือการประหยัดใช้พลังงานขอให้ใช้เท่าที่จำเป็น ได้หรือไม่ ถ้าเราประหยัดค่าต่างๆ ก็จะลดลงเยอะ ค่าไฟฟ้าลดค่าเอฟทีก็ลด ถ้าเราใช้มากเหมือนเดิมก็ลำบาก ผมก็ได้แต่ขอร้องไปบังคับ พวกท่านไม่ได้อยู่แล้ว ผมเองก็ใช้รถเท่าที่จำเป็นเช่นกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

แจงไม่เปิดศึกกับเพื่อนบ้าน
ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งคณะกรรมการชายแดน พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นการพูดถึงการหาแหล่งพลังงานในพื้นที่อื่นจะได้หรือไม่ เช่น อ่าวไทย อันดามัน จะขุดเจาะน้ำมันเพิ่มได้หรือไม่ จะมีการร่วมมือพื้นที่พัฒนาร่วม (เจดีเอ) ได้หรือไม่ซึ่งก็ต้องมีการหารือกัน เพราะวันหน้าเราจะพึ่งพลังงานจากประเทศไกลๆ คงไม่ได้แล้ว วันนี้พลังงานก็รู้กันดีว่าน้ำมัน แก๊ส มาจากไหน รอบบ้านเราทั้งนั้น ถ้ามีปัญหารอบบ้านแล้วจะเกิดอะไรขึ้น การค้า ชายแดนจะมีปัญหาหรือไม่จะพันกันไปหมด เรื่องเศรษฐกิจความมั่นคงมันพันกัน รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ฉะนั้นการจะทำ อะไรก็ตามต้องระมัดระวังอย่างที่สุด ตนถึงได้บอกย้ำสิ่งสำคัญในวันนี้มูลค่าการค้าชายแดน สูงขึ้นมากเป็นแสนๆ ล้าน ดังนั้นถ้ามีปัญหากันมากๆ คนเดือดร้อนคือใครก็รู้อยู่

เมื่อถามว่าในแผน 3 เดือนข้างหน้าจะกู้เงินหรือไม่ และมีแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 อย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้ามันไม่ได้แล้ว จะกู้เงินหรือไม่ ควรต้องทำไหม จะปรับเปลี่ยน พฤติกรรมคนใช้รถใช้ถนนได้หรือไม่มันเกี่ยวข้อง กันหมด

“อย่าไปคิดว่าเราโยนความรับผิดชอบให้ใคร ผมเจ็บปวด ไม่อยากพูด ผมเดือดร้อนกับท่านไปด้วย ไม่ใช่สบาย ผมเดือดร้อนในเรื่องการบริหาร ไม่สบายใจ แต่พยายามจะทำให้ประชาชนมากที่สุดเท่าที่สามารถจะทำได้ และต้องนึกด้วยว่าถ้าทำไปแล้วผิดจะทำอย่างไร ลองศึกษาดูกฎหมายมีอยู่ทุกตัว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องประหยัดพลังงานนอกจากการขอร้องแล้วจะออกเป็นกฎหรือมาตรการออกมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ฝ่ายกฎหมายพิจารณาและบอกว่าการออกกฎหมายมาต้องจำเป็นเด็ดขาดเท่านั้นถึงจะทำได้ มันมีความเสี่ยงสูง

เล็งถกพื้นที่ศก.ทางทะเล
เมื่อถามว่าจะมีรณรงค์เรื่องการประหยัดพลังงานอะไรออกมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้พูดไปหลายครั้งแล้ว หลายคน ก็ย้อนกลับมาว่านายกฯ ไม่ลำบาก นายกฯ มีรถประจำตำแหน่ง เติมน้ำมันฟรี ตนไม่ได้เติมน้ำมันฟรีเลย เมื่อถามว่า โครงการพลังงานหาร 2 จะกลับมาอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กำลังดูเรื่องเครดิตพลังงาน จะมีแท็กเครดิต ก็ต้องหาเงินมาอีกจะเอาจากที่ไหน ซึ่งต้องขอความร่วมมือกันอีกตรงนั้น

เมื่อถามว่าจะพิจารณามาตรการเวิร์ก ฟรอมโฮมกลับมาอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็เป็นสไตล์ดี แต่ปัญหาต้องเช็กว่าเวิร์ก ฟรอมโฮมที่บ้านจริงหรือเปล่า ไม่เช่นนั้น มีปัญหาหมด บางครั้งการทำงานต้องอยู่ที่ศูนย์สั่งการที่กระทรวง ที่ทำเนียบก็สำคัญ เพราะเป็นศูนย์การสั่งการข้อมูลเอกสารอยู่ในนี้หมด การทำงานข้างนอกก็เป็นครั้งคราวกับเจ้าหน้าที่ บางส่วนต้องประกอบกัน 2 อย่างจะทำอย่างใด อย่างหนึ่งไม่ได้ ยกเว้นเรื่องธุรกิจเขาพอทำได้ แต่ถ้าเป็นศูนย์ราชการลำบาก

เมื่อถามว่า จะมีการพิจารณาเรื่องพื้นที่ ทับซ้อนระหว่างไทยกับกัมพูชาเพื่อหาแหล่งพลังงานหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องหารือกัน เราอย่าไปใช้พื้นที่อย่างนั้นเลย เราจะหาทางคุยกันได้หรือไม่ในลักษณะพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษทางทะเลได้หรือไม่ เพื่อเดินหน้าไปสู่การเจรจาพูดคุยให้เป็นเรื่องเป็นราว อย่าเอาไป พันกับเรื่องเขตแดนเดี๋ยวจะเป็นปัญหาใหญ่ทั้งหมด

ขอห้าง-สนามกอล์ฟประหยัดไฟ
เมื่อถามว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะเร่งประชุมภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เดี๋ยวเขาทำเอง แนวทางอยู่ในช่วง 3 เดือนนี้อยู่แล้ว ค่าน้ำค่าไฟอะไรต่างๆ จะทำได้ถึงเดือนธ.ค.หรือไม่ หรือจะเพิ่มอะไรได้บ้าง ต้องดูกระเป๋าซ้ายกระเป๋าขวา ตนยืนยัน จะดูแลให้เต็มที่มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ถ้าเปรียบเทียบหลายประเทศมีปัญหามากกว่าเรา ถ้าเรามองแต่ตัวเราก็จะรู้สึกว่าเราแย่ที่สุด มันไม่ใช่ คิดว่าทุกรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหา แม้ประเทศมหาอำนาจก็เจอปัญหาพลังงานเหมือนกัน เพราะเขาก็สั่งอะไรไม่ได้เหมือนกัน ลองตามดู

รายงานข่าวระบุว่า การขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ประหยัดพลังงาน เช่น การปิดไฟดวงที่ไม่จำเป็น ห้างสรรพสินค้าให้ปิดไฟก่อนเวลาห้างปิด 1 ชั่วโมง ปิดไฟป้ายโฆษณา สนามกอล์ฟ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสม และถอดสูท

ยูเรียเริ่มลด-จี้ค้าปุ๋ยหั่นราคา
ด้านร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรม การค้าภายใน (คน.) กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า สัปดาห์ก่อนได้เชิญ สมาคมการค้าปุ๋ยและธุรกิจการเกษตร ผู้ผลิต และผู้นำเข้าปุ๋ยเคมี มาหารือถึงสถานการณ์ปริมาณ และราคาปุ๋ยเคมี พบว่าปุ๋ยยูเรียนำเข้าราคาปรับ ลดลงแล้ว ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา คือปรับจาก กว่า 900 ดอลลาร์/ตัน เป็นกว่า 600 ดอลลาร์/ตัน

เบื้องต้นได้กำชับให้ผู้ประกอบการปรับลดราคาจำหน่ายปุ๋ยลงตามต้นทุนที่ลดลง ด้วย แต่ทั้งนี้จะต้องดูสต๊อกปุ๋ยของแต่ละราย หากสต๊อกเก่าหมด และนำสต๊อกใหม่มาขายต้องปรับลดราคาจำหน่ายลง

นอกจากนี้ คน.เตรียมทำโครงการพาณิชย์ลดราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร โดยขอความร่วมมือไปยังสมาคม เข้าร่วมโครงการจำหน่ายปุ๋ยราคา ลดพิเศษให้แก่เกษตรกร ซึ่งทางสมาคม จะกลับไปรวบรวมข้อมูลก่อนว่า มีผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมกี่ราย รวมทั้ง จะนำปุ๋ย ชนิดใดมาลดราคาบ้าง และให้ส่วนลดเท่าไหร่ โดยจะแจ้งกลับมาภายในสัปดาห์นี้ คาดว่า จะเริ่มโครงการพาณิชย์ลด ราคาปุ๋ยช่วยเกษตรกร ได้ภายในเดือนก.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ คน.เคยจัดทำโครงการปุ๋ยราคาถูกช่วยเหลือเกษตรกร มาแล้ว โดยขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการปรับลดราคา 20-50 บาท/กระสอบ (50 ก.ก.)

ส่วนสถานการณ์ราคาจำหน่ายปลีกอาหารสด ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ วันที่ 3 ก.ค. เปรียบเทียบกับวันที่ 2 ก.ค. 2565 ว่าพบว่าผักบางชนิดมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นต่อก.ก. ได้แก่ ผักกาดหอม คัด ปรับขึ้น 5 บาท เป็น 60-65 บาท, ผักคะน้า คัด ปรับขึ้น 5 บาท เป็น 35-40 บาท และผักคะน้า คละ ปรับขึ้น 5 บาท เป็น 25-30 บาท

ขณะที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ชื่นชมโครงการ “ข้าวแกงกำลังใจ อิ่มหนึ่ง 25 บาท” โดยสมาคมภัตตาคารไทย ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรร้านอาหารในเครือข่าย กว่า 100 แห่ง ในการจำหน่ายข้างแกงราคา 25 บาท ถือว่ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับร้านค้า ในท้องตลาดทั่วไป และมีให้เลือกมากกว่า 15 เมนู เพื่อช่วยเหลือประชาชนในช่วงภาวะวิกฤต ซึ่งได้เปิดร้านเป็นโมเดลต้นแบบไป เมื่อวันที่ 25-29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ ศูนย์การค้า เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ได้รับความสนใจตอบรับจากประชาชนให้การอุดหนุนเป็นอย่างมาก โดยจะมีการเปิดตัวโครงการอย่างเป็นทางการช่วงปลายเดือนก.ค.นี้ เบื้องต้นจะจำหน่าย ในสถานีบริการน้ำมัน และแก๊สรถยนต์ พีที ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 100 จุด เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้บริโภค ซึ่งจะช่วย ประชาชนได้วันละ 50,000 คน และจะทยอยเพิ่มจำนวนผู้ผลิตและสถานที่จำหน่ายต่อไปอีก 1,000 จุดทั่วประเทศ

ปลื้มโครงการข้าวแกง 25 บาท
นายธนกรกล่าวว่า การดำเนินงานโครงการ ข้าวแกงกำลังใจ ทางสมาคมภัตตาคารไทย จะประสานจัดวัตถุดิบที่มีคุณภาพให้กับ ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการในราคาต้นทุน เพื่อช่วยให้ร้านค้าควบคุมต้นทุน ซึ่งร้านในโครงการจะได้รับการอุดหนุน เช่น ค่าเช่าพื้นที่ราคาถูกพิเศษ สนับสนุนแก๊สหุงต้มราคาพิเศษ โดยลดราคาถังละ 20-30 บาทจากราคาท้องตลาด ซื้อน้ำมันพืชได้ในราคาพิเศษ และยังซื้อข้าวสารจากวิสาหกิจเพื่อสังคมชาวนาไทยในราคาพิเศษ

“นายกรัฐมนตรี ยกให้โครงการข้าวแกงกำลังใจ เป็นตัวอย่างหนึ่งในการช่วยเหลือประชาชนและสังคมท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตเศรษฐกิจและโควิด-19 ชื่นชม พร้อมขอบคุณสมาคมภัตตาคารไทยและหน่วยงานพันธมิตร ที่ร่วมมือกันจัดทำโครงการ ข้าวแกง กำลังใจ อิ่มหนึ่ง 25 บาท ถือเป็นตัวอย่างที่ดีอย่างยิ่งในการช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหาร ภัตตาคาร พ่อค้าแม่ขายในตลาด เกษตรกร ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-19 และจากสถานการณ์เศรษฐกิจที่ต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งสูงขึ้นจากราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งช่วยประคับประคอง กำลังซื้อของผู้บริโภคภายในประเทศที่มีอย่างจำกัด ให้ประชาชนมีอาหารอิ่มท้องได้ทุกวันในราคาประหยัดด้วย” นายธนกรกล่าว

ยันตรึงดีเซล 35 บาทถึงก.ย.
ด้านนายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผอ.สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ได้พิจารณาทบทวนราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลประจำสัปดาห์ โดยมีมติให้คงราคาน้ำดีเซลไว้ที่ลิตรละ 34.94 บาท เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของประชาชนในช่วงเวลานี้ โดยเป็นการตรึงราคาต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ ที่ 3 เพื่อให้เป็นไปตามมติครม. เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2565 ได้ออกมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชนรอบใหม่ โดยในส่วนของราคาน้ำมันดีเซลมีมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซล 50% ในส่วนที่ราคาขายสูงกว่า 35 บาท/ลิตรเป็นเวลา 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.2565)

“ล่าสุดประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปัจจุบัน ณ วันที่ 3 ก.ค.2565 ติดลบ 107,601 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 69,718 ล้านบาท และบัญชีแก๊สหุงต้ม (แอลพีจี) ติดลบ 37,883 ล้านบาท” นายวิศักดิ์กล่าว

ทั้งนี้ สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในตลาดโลกยังมีความผันผวนค่อนข้างสูง โดยราคาน้ำมันดีเซลเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. อยู่ที่ 172.77 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากความต้องการ มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่องจากสหรัฐ และการผ่อนคลายมาตรการของจีนที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ในเมืองเซี่ยงไฮ้และปักกิ่งกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และกลุ่มโอเปก เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันมากกว่าเดิม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน