‘บิ๊กเด่น’นำทีมตำรวจพีซีทีร่วมกระทรวงดิจิทัลฯ ลุยเมืองเขมรประสานตำรวจกัมพูชา บุก 5 จุด ทลาย 4 แก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ ล็อกผู้ต้องหาตุ๋นคนไทย 74 ราย หนึ่งในนั้นเป็นตัวการสำคัญแอบอ้างเป็นผกก.สภ.แหลมฉบัง เผยออกหมายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้วถึง 237 หมายจับ จับได้แล้ว 138 หมาย ที่เหลืออยู่ระหว่างร่วมกับตำรวจเขมรไล่ล่า

วันที่ 11 ก.ค.65 ที่กรุงพนมเปญ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ศปอส.ตร. (พีซีที-PCT) เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ให้เดินทางมาพร้อมกับคณะของนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อร่วมหารือและทำบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ในการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมาทางไซเบอร์ แบบทวิภาคีกับรัฐบาลกัมพูชา รวมทั้งติดตามผลการปฏิบัติการจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 4 แก๊งใหญ่ ผู้ต้องหา 74 คน เพื่อนำตัวไปดำเนินคดียังประเทศไทย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ส่งชุดปฏิบัติการพีซีที กว่า 20 นาย ชุดแรกนำโดย พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.ภ.8 เป็นหัวหน้าชุด, พล.ต.ต.ธนิต ไทยวัชรามาศ ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.สอบสวน บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.1 บก.สส.สตม.

บินกัมพูชา – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. บินไปประเทศกัมพูชา นำทีมตำรวจไทยประสานทางการกัมพูชา บุกทลายอีก 4 รังใหญ่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้ผู้ต้องหารวม 74 คน คุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 ก.ค.

อีกชุดนำโดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เป็นหัวหน้าชุด, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน บก.ภ.จว.ระยอง พร้อมกำลังเข้ามาประสานงานตำรวจกับพูชาให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จนนำไปสู่ปฏิบัติการเข้าตรวจค้นจำนวน 5 จุด

ประกอบด้วย จุดที่ 1 วันที่ 21 มิ.ย. โรงแรม จิงเฉิง อาคาร 12 ชั้นถ.สองธนู เมืองพระสีหนุ จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 21 หมายจับ ใช้รูปโปรไฟล์คนหน้าตาดีผ่านแอพพลิเคชั่นหาคู่ Tinder หลอกลวงให้หลงรัก และชวนลงทุนใน MetaTrader 5 (ฟอเร็กซ์) หรือซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล โดยให้เทรด การวิเคราะห์ทางเทคนิค ตามคำแนะนำ และชักชวนให้ลงทุนกับโบรกเกอร์ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกให้ลงเงิน แต่ไม่มีการลงทุนจริง, จุดที่ 2 วันเดียวกัน กาสิโนโป๋ไหล ถ.ปุโลไว 300 เมืองพระสีหนุ ไม่พบผู้ต้องหา

จุดที่ 3 วันที่ 6 ก.ค. ประตูแดง เมืองพระสีหนุ จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นตำรวจ สภ.แหลมฉบัง จ.ชลบุรี 18 หมายจับ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล ที่น่าสนใจสามารถจับกุมตัวนายจิรายุ เพิ่มชื่น แอบอ้างเป็น ผกก.สภ.แหลมฉบัง ถือเป็น ผู้ต้องหาสำคัญในคดี, จุดที่ 4 วันเดียวกัน จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้กู้เงินออนไลน์ สภ.เมืองจันทบุรี จำนวน 10 หมายจับ ที่เมืองพระสีหนุ จุดที่ 5 วันที่ 7 ก.ค. จับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นบริษัทส่งพัสดุดีเอชแอล และตำรวจสภ.ท่าใหม่ จำนวน 25 หมายจับ ที่เมืองปอยเปต

รวมจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 74 คน โดยขณะเข้าตรวจค้นพบคนไทยกำลังทำงานร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหา จึงนำตัวออกมาสอบสวนดำเนินคดีอีก 15 คน รวมควบคุมตัว ทั้งสิ้น 89 คน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั้ง 4 แก๊งนี้ ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสถานเอกอัคร ราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ผู้ช่วยทูตตำรวจ และตำรวจกัมพูชา วันนี้เป็นการเดินทางมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชาเท่านั้น เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการดำเนินคดีตามกฎหมายกัมพูชา เช่น กฎหมายคนเข้าเมือง

“เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว กัมพูชา จะส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดให้กับไทย ผมและเจ้าหน้าที่พีซีที จะเดินทางมารับตัวที่ จ.สระแก้ว นำตัวไปสอบสวนดำเนินคดีต่อไป ที่ผ่านมาเราสามารถออกหมายจับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้จำนวน 237 หมายจับ จับกุมได้แล้ว 138 หมาย และอยู่ระหว่างประสานงานติดตามจับกุมอีก 99 หมาย เนื่องจากเป็นปัญหาที่สร้างความเสียหายให้กับประชาชนอย่างมากในขณะนี้ โดยมอบหมายให้กระทรวง ดิจิทัลฯ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติร่วมกันหามาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง” รอง ผบ.ตร. กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน