ขณะเล่นน้ำกะตะน้อยรพ.ลำปางยกคนกล้า

ร.พ.ลำปางเศร้า ‘หมอโต’ช่วยนักท่องเที่ยวจมทะเลภูเก็ต จนเสียชีวิตทั้งคู่ ขณะลุงแม่กลองหวิดม้วย หลังน้ำทะเลหนุนสูง ท่วมพัดลม ทำไฟดูดหวิดดับเพื่อนบ้านมาเจอช่วยปั๊มหัวใจไว้ทัน กรมอุทกศาสตร์ชี้น้ำทะเลหนุนสูงถึง 20 ก.ค. ‘ป่าสัก’เอ่อล้นตลิ่ง ท่วมเพชรบูรณ์ รองผวจ.ลุ้นไม่มีฝนซ้ำ ระบายน้ำได้จนปกติ ขณะที่ตราดมีน้ำป่าหลากท่วม อ.บ่อไร่

ปภ.สรุปพายุถล่ม11จว.
เมื่อวันที่ 15 ก.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณ ภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากสถานการณ์มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กําลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกําลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทําให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ในระหว่างวันที่ 9-15 ก.ค.ส่งผลให้เกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ ดังนี้ อุทกภัย มีสถานการณ์ในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุรินทร์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มุกดาหาร จันทบุรี และระนอง รวม 20 อำเภอ 42 ตำบล 115 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 56 หลัง ผู้เสียชีวิต 1 ราย (นครราชสีมา)

ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 10 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ระดับน้ำทรงตัว วาตภัย มีสถานการณ์ในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน จันทบุรี ชลบุรี ตราด สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง สตูล ระนอง นราธิวาส รวม 48 อำเภอ 132 ตำบล 358 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1,576 หลัง ผู้ได้บาดเจ็บ 2 ราย (ชลบุรี นครศรีธรรมราช) ผู้เสียชีวิต 1 ราย (ชลบุรี) ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือ ผู้ประสบภัย และสำรวจประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ต่อไป ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ประชาชนยังสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยได้ที่แอพพลิเคชั่น “THAI DISASTER ALERT”

ป่าสักเอ่อท่วมเพชรบูรณ์
ที่จ.เพชรบูรณ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ประกอบกับน้ำป่าที่ไหลเข้าท่วมหลายหมู่บ้านในพื้นที่อ.หล่มเก่า และอ.ด่านซ้าย จ.เลย ไหลบ่าลงมาสมทบ ทำให้แม่น้ำป่าสักมีปริมาณสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว จนเอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วม 3 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก และเริ่มเข้าสู่ย่านเศรษฐกิจคือ ชุมชนบ้านไร่ ชุมชนท่า กกโพธิ์ ชุมชนวัดทุ่งจันทร์สมุทร ทำให้อาคารร้านค้า สถานที่ราชการ โรงเรียน และวัดวาอาราม รวมทั้งบ้านเรือนราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 300 หลังคาเรือน ถนนผดุงราษฎรซึ่งเป็นถนนสายหลักถูกน้ำท่วมขังเป็นช่วงๆ แต่ละช่วงระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร (ซ.ม.) ยาวหลายกิโลเมตร รถยนต์ขนาดเล็กสัญจรวิ่งผ่านไปมาด้วยความยากลำบาก นอกจากนั้น ยังได้เอ่อล้นไหลเข้าท่วม 7 หมู่บ้าน ที่อยู่ในเขตเทศบาลตำบลตาลเดี่ยว ที่เชื่อมต่อกับเทศบาลเมืองหล่มสัก บ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากการถูก น้ำท่วมจำนวนกว่า 500 หลังคาเรือน ขณะที่ถนนสายหล่มสัก-บ้านติ้ว และถนนเลียบคลองชลประทาน บริเวณสี่แยกร่องไผ่ ก็ถูกน้ำท่วมสูง 30-50 เมตร เกือบทั้งสาย

ล่าสุดสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก และในเขตเทศบาลตำบล ตาลเดี่ยวเริ่มทรงตัว และเพิ่มสูงขี้นเรื่อยๆ ในที่ลุ่ม ซึ่งคาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีก ภายใน 1-2 วัน ระดับน้ำคงลดลง และสถานการณ์คงจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

กำชับนอภ.หล่มสักเฝ้าระวัง
นายชัชวาล เบญจสิริวงศ์ รองผวจ.เพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์หลังลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์น้ำบริเวณต้นน้ำในอ.หล่มเก่าและอ.หล่มสัก ว่า ตามการพยากรณ์อากาศได้แจ้งว่าพายุฝนจะหมดในวันนี้ ขณะที่ระดับน้ำบริเวณต้นน้ำเข้าสู่ภาวะปกติแล้วจึงมั่นใจได้ว่าหากไม่มีฝนตกลงมาอีก จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำป่าสักลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในขณะนี้ ณ จุดชุมชนวัดศรีสะอาดซึ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมหนักสุด ระดับน้ำได้ลดลงกว่า 20 ซม.แล้ว และมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ด้กำชับให้นายอำเภอหล่มสักเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในชุมชนศรีสะอาดซึ่งเป็นจุดที่น้ำท่วมซ้ำซาก 4-5 ครั้งต่อไป และแต่ละครั้งก็ท่วมนานประมาณ 3 วัน แต่ครั้งนี้ระดับน้ำลดลงอย่างช้าๆ หากเกิน 3 วันทราบว่าทางอำเภอก็ได้มีแผนในการรองรับแล้วทั้งการทำโรงครัวและการเดินทางที่มีทั้งทหารและกู้ภัยคอยอำนวยความสะดวกให้

รองผวจ.เพชรบูรณ์กล่าวอีกว่า ในขณะเดียวกันได้แจ้งเตือนไปยังประชาชนที่อยู่พื้นที่ตอนล่างที่มีบ้านเรือนอยู่ริมฝั่งแม่น้ำป่าสักให้เฝ้าระวังและเก็บข้าวของขึ้นสู่ที่สูงซึ่งก็คาดว่าน้ำจะท่วมสูงประมาณ 50 ซ.ม. แต่อย่างไรก็ตามหากมีประชาชนที่ต้องการจะอพยพออกจากพื้นที่ ทางจังหวัดก็ได้ประสานกับสำนัก งานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ไว้แล้วในการจัดเตรียมหาสถานที่รองรับ รวมทั้งงบประมาณในการดำเนินงาน

ท่วมเร็ว – ทหารเรือเข้าช่วย ชาวบ้านต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ จ.ตราด ขนย้ายข้าวของไปไว้ในพื้นที่สูง หลังถูกน้ำป่าทะลัก เข้าท่วมอย่างรวดเร็วช่วงกลางดึก ส่งผลให้ชาวบ้านหลายตำบลได้รับความเดือดร้อนหนัก เมื่อวันที่ 15 ก.ค.

น้ำป่าไหลหลากจมตราด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.ตราดว่า ที่ซอยสัมพันธ์ไมตรี 10 ถนนด่านชุมพล อ.บ่อไร่ น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนกว่า 20 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วม ระดับความสูงตั้งแต่ 30-130 ซ.ม. ทำให้ทรัพย์สินในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้รับความเสียหาย รถยนต์ 2 คันจมน้ำ ขณะที่ถนนด่านชุมพลระดับน้ำสูงและไหลเข้าท่วม อบต.ด่านชุมพล และบ้านเรือนบางส่วนในระดับความสูง 20 ซ.ม. นอกจากนี้ยังมีสวนผลไม้ สวนยางพาราจำนวนมากถูกน้ำท่วม ส่วนที่บ้านฉางเกลือ และบ้านทุ่งพีด ต.ห้วยแร้ง อ.เมือง ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจาก คลองห้วยแร้ง และคลองฉางเกลือ ระดับน้ำสูงขึ้นและไหลท่วมบ้านเรือนบางส่วนที่อยู่ติดลำคลอง ประชาชนได้ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยชุด ต.ห้วยแร้ง ให้เข้ามาช่วยขนย้ายสิ่งของ

นายกมล กิจจานนท์ นายกอบต.ด่านชุมพลกล่าวว่า ฝนตกหนักมาหลายวัน กระทั่งกลางดึกมีน้ำป่าไหลเข้ามายังหมู่บ้านห้วงไม้หอม และบ้านเขาขาด น้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ซอยสัมพันธ์ไมตรี 10 จำนวน 20 หลังคาเรือน มีทรัพย์สินต่างๆ ได้รับความเสียหาย หากวันนี้ฝนไม่ตกลงมาอีก ระดับน้ำจะลดลงและกลับมาสู่ภาวะปกติในเวลา 2-3 ชั่วโมง ส่วนอบต.ด่านชุมพล ระดับน้ำลดลง เริ่มสู่ภาวะปกติ ไม่มีอะไรได้รับความเสียหาย และขอบคุณทางหน่วยทหารที่เข้ามาช่วยเหลือ

ทะเลหนุนจนไฟชอร์ตหวิดดับ
วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม รับแจ้งมีผู้ถูกไฟ ชอร์ต จึงเร่งเข้าช่วยเหลือ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังหนึ่งในซอยบางจะเกร็ง 3 ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม พบนายสมศักดิ์ อายุ 68 ปี ถูกไฟฟ้าชอร์ต ภายในบ้าน ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวใต้ถุนสูง เนื่องจากพัดลมที่ตั้งบนพื้นบ้าน ถูกน้ำทะเลหนุนสูงท่วมเกือบมิด ทำให้ไฟฟ้ารั่วชอร์ต เพื่อนบ้านช่วยปั๊มหัวใจ และประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า

ทั้งนี้นายสมศักดิ์นอนหลับบนเตียงใต้ถุนบ้านตามลำพัง เนื่องจากคนในครอบครัวไปงานศพที่วัดศรัทธาธรรม เมื่อกลับจากงานศพพบว่าน้ำทะเลหนุนสูงท่วมสูงถึงหัวเข่า เห็นนายสมศักดิ์นอนตัวแข็งอยู่บนเตียงสภาพขาทั้ง 2 ข้างแช่น้ำอยู่ และข้างเตียงมีพัดลมวาง อยู่บนพื้น จมน้ำอยู่ครึ่งตัว จึงรีบตัดไฟ และเข้าช่วยเหลือ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยเพื่อนบ้านช่วยปั๊มหัวใจนายสมศักดิ์จน ฟื้นคืนสติ กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมารับตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้าทำการรักษาต่อไป คาดว่านายสมศักดิ์ตื่นมาเห็นน้ำท่วมจึงรีบลงจากเตียง ทำให้ไฟชอร์ตหมดสติก็เป็นได้ โชคดีที่เพื่อนบ้านให้ความช่วยเหลือจึงปลอดภัย

อุทกศาสตร์ชี้หนุนสูงถึง 20ก.ค.
ที่จ.สมุทรปราการ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีน้ำทะเลหนุนสูงไหลบ่าเข้าท่วมตลาดปากน้ำ รวมทั้งในหลายพื้นที่ตั้งแต่ช่วง 22.00 น.ของวันที่ 14 ก.ค. จนพ่อค้า และชาวบ้านต้องเก็บของหนีน้ำกันทั้งคืน โดยถนนสุขุมวิทสายเก่า จากตลาดปากน้ำมุ่งหน้าไปยังอ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา มีปริมาณน้ำทะเลท่วมขังเป็นบางช่วง บางจุดน้ำสูง 15-20 ซ.ม. ส่วนชุมชนริมชายฝั่งย่านบางปูหลายชุมชนถูกน้ำทะเลหนุนไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนสูงกว่า 80 ซ.ม. สร้างความเสียหายให้กับทรัพย์สินมีค่าภาย ในบ้าน รวมถึงรถยนต์รถจักรยานยนต์ที่หนีน้ำกันไม่ทัน

ขณะที่กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ระบุการคำนวณระดับน้ำทะเลหนุนสูงพบว่า น้ำทะเลจะขึ้นสูงสุดที่ 3.9 เมตร ในวันที่ 15 ก.ค. นี้ และจะขึ้นสูงสุดไปต่อเนื่องจนถึง 20 ก.ค.นี้ จึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมรับมือน้ำทะเลที่จะขึ้นสูง

นาทีชีวิต – ภาพหน่วยกู้ชีพปั๊มหัวใจ ‘หมอโต’ นพ. สุรสิทธิ์ พงษ์เลาหพันธุ์ แพทย์ร.พ.ลำปาง ที่ลงไปช่วยนักท่องเที่ยวต่างชาติจมทะเลภูเก็ตท่ามกลางคลื่นลมแรง แต่สุดท้ายเสียชีวิต ทั้งคู่ สร้างความสลดอาลัย แก่วงการแพทย์

หมอลำปางช่วยฝรั่งจมดับ
วันเดียวกัน ร.ต.อ.กิตติพงศ์ หนูเพ็ง รอง สว.(สอบสวน) สภ.กะรน จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 ก.ค. มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติลงเล่นน้ำและจมน้ำรวม 2 คน บริเวณหาดกะตะน้อย แม้จะช่วยเหลือขึ้นมาได้ทั้ง 2 คน แต่อาการสาหัสทั้ง 2 ราย โดยรายแรกไม่รู้สึกตัวไม่มีชีพจร แต่ยังหายใจจึงประสานการช่วยเหลือจากหน่วย EMS Advance ของ ร.พ.ฉลองเข้าช่วยเหลือ ก่อนส่งต่อนักท่องเที่ยวไปรักษาที่โรงพยาบาลฉลองเป็นการด่วน ระหว่างทางไป ร.พ.ฉลอง นักท่องเที่ยวได้ เสียชีวิตทั้ง 2 รายในเวลาต่อมา รายแรกคือ นพ.สุรสิทธิ์ พงษ์เลาหพันธุ์ หรือ หมอโต อายุ 55 ปี นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานเวชกรรมสังคม โรงพยาบาลลำปาง เข้าพักที่โรงแรมกะตะธานี ส่วนรายที่ 2 คือนาย อาลี มูฮัมหมัด เมียน เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ อายุ 34 ปี มาฮันนีมูน เข้าพักที่โรงแรมกะตะธานี และลงเล่นน้ำโดยฝ่าฝืนธงแดงจนถูกคลื่นซัดจมหาย นพ.สุรสิทธิ์พยายามเข้า ช่วยเหลือจนถูกคลื่นซัดจมหายไปด้วยกัน เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดได้เข้าช่วยเหลือทั้งคู่ขึ้นมาริมหาดแต่อาการสาหัสและเสียชีวิตในเวลา ต่อมา ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (TAC) ได้ประสานสถานทูตอังกฤษประจำกรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว

ส่วนที่หาดกะตะบีช เจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดช่วยเหลือนักท่องเที่ยวจมน้ำขึ้นมาได้ทันเวลา เบื้องต้นบาดเจ็บ 2 ราย รายแรกเป็นหญิง อายุประมาณ 30-40 ปี รู้สึกตัวเมื่อเรียก อยู่ในอาการสับสน จึงให้การช่วยเหลือจัดท่าผู้ป่วย ช่วยให้หายใจ รายที่ 2 เป็นชาย อายุประมาณ 30-40 ปี รู้สึกตัวดี มีอาการสำลักน้ำ ให้การช่วยเหลือจัดท่าผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ราย นำส่ง ร.พ.ฉลอง รักษาต่อไป ขณะที่หาดป่าตองในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ไลฟ์การ์ดได้เข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 3 รายโดนคลื่นซัดจมลงในทะเลและสามารถช่วยชีวิตขึ้นมาได้ปลอดภัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่โรงพยาบาลศูนย์ลำปาง รู้สึกช็อกและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยหลังทราบเหตุทางเพื่อนร่วมงานและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลำปาง ต่างโพสต์ข้อความและรูปภาพแสดงความไว้อาลัยแก่นพ.สุรสิทธิ์ หรือหมอโต เนื่องจากนายแพทย์เป็นคนที่พูดจาไพเราะ ใจดี น่ารักกับทุกคน มีฉายาว่า หมอนักวิ่ง ชอบที่จะวิ่งออกกำลังกายเป็นประจำ และยังเคยเป็นอดีตประธานชมรมวิ่งของโรงพยาบาลลำปางอีกด้วย โดยคุณหมอโตได้อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ แก่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นการเสียสละอันยิ่งใหญ่ สำหรับร่างของนพ.สุรสิทธิ์ได้นำกลับมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดสวนดอก อ.เมือง จ.ลำปาง โดยจะถึงจ.ลำปาง ในวันที่ 16 ก.ค. โรงพยาบาลลำปางเป็น เจ้าภาพสวดพระอภิธรรม จากนั้นวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ค. เวลา 09.30 น. จะมีพิธีส่งร่างนายแพทย์สุรสิทธิ์ ไปเป็นอาจารย์ใหญ่ โดยมี เจ้าหน้าที่จากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่มารับร่างต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน