สภาเริ่มวันนี้ระเบิดศึกซักฟอก 3ป.ถกแกนนำ-เช็กเสียงรัฐบาล ปชป.วุ่น-สส.ประกาศหักรมต.
ฝ่ายค้านเปิดเขียงวันนี้ ระเบิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำคิวชำแหละ ‘ตู่’ คนสุดท้าย จัดเต็มเหยียด 30 ชั่วโมง ประยุทธ์-ประวิตรโชว์หวานออกสื่อ ยันไว้ใจกันและกัน นายกฯ เช็กเสียงรัฐบาลรายพรรค ภท.-ชทพ.ยันไร้ปัญหา ปชป.รับมีแค่ 2-3 คนคุมไม่ได้ ‘ป้อม’ ขู่พปชร.อย่าแตกแถว แกนนำพรรคจี้ปรับเก้าอี้มท.1 หลังซักฟอก อนุทินมั่นใจรัฐบาลรวมเสียงได้ไม่ต่ำกว่า 270 ชัยวุฒิ-จุรินทร์ ดักคอส.ส.รัฐบาลต้องโหวตทิศทางเดียวกัน ‘ธรรมนัส’ ยืนยันไม่โหวตหนุนนายกฯ-รมต.ทุกคน ยกเว้นบิ๊กป้อม ‘ไชยยศ’ขอสวนมติ ปชป. โหวตคว่ำรมต.พรรคบางคน ส.ส.ตรังเปิดศึกแย่งส่งผู้สมัครเขต 4 ผบ.เหล่าทัพตบเท้าแจงงบกลาโหม
ตู่-ป้อมโชว์หวานออกสื่อ
วันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล หลังการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม พักผ่อนอิริยาบถและพูดคุยกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่ห้องรับรองตึกสันติไมตรี สองต่อสองอย่างอารมณ์ดีประมาณ 10 นาที จากนั้นพล.อ.ประวิตร เดินนำหน้าพล.อ.ประยุทธ์ ไปยังทางเชื่อมระหว่างตึกสันติไมตรีและตึกไทยคู่ฟ้า และพล.อ.ประยุทธ์ได้เรียก “พี่ป้อมๆ สวัสดีครับ” พล.อ.ประวิตรหันมารับไหว้และเดินเข้าไปตบไหล่ให้กำลังใจซึ่งกันและกันต่อหน้าสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก หลังถูกยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก่อนที่พล.อ.ประวิตรจะเดินแยกไปขึ้นรถยนต์ และพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นโพเดียมให้สัมภาษณ์
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจตนได้หารือกับทุกพรรคร่วมรัฐบาล หัวหน้าพรรค เลขาฯพรรค รวมทั้งใน ครม.ด้วย “ผมเพียงแต่พูดว่าขอให้ทุกคนเตรียมข้อมูลต่างๆ ให้เกิดความชัดเจน สามารถชี้แจงได้ และผมก็เชื่อมั่นทุกคนจะสามารถตอบคำถามได้ในทุกประเด็นที่มีความสำคัญและเป็นข้อเท็จจริง”
โชว์หวาน – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สวัสดีทักทายพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หลังประชุมครม.เสร็จสิ้น โดยพล.อ.ประวิตรยกมือไหว้ตอบเและตบไหล่พล.อ.ประยุทธ์แล้วเดินไปด้วยกันอย่างอารมณ์ดี เมื่อวันที่ 18 ก.ค.
ตู่ยันมั่นใจ-ไว้ใจกันและกัน
เมื่อถามว่ากังวลต่อการเคลื่อนไหวของพรรคเล็กหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “เคยบอกแล้วว่าผมทำงานด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ของผม และผมเชื่อมั่นว่าทุกคนก็ทำงานมาอย่างนั้น เพราะเป้าหมายคือประชาชนและประเทศชาติ ผมก็มีความ เชื่อมั่น เพราะฉะนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นผมก็รับได้ทุกเรื่อง”
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรให้ความมั่นใจอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ไม่จำเป็นต้องมาให้ความมั่นใจกับตนในตอนนี้ “ผมมั่นใจกับท่านมาตลอดชีวิตที่ผมผ่านมา ต่างคนต่างไว้ใจซึ่งกันและกันอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่เป็นปัญหาก็มาหารือ มาหาทางแก้ไขร่วมกัน ผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับท่าน และท่านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับผม”
เมื่อถามว่าเชื่อมั่นการอภิปรายครั้งสุดท้ายนี้จะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็พูดไปแล้ว ก็พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ พูดในสิ่งที่เป็นข้อเท็จจริง พูดในเรื่องที่ไม่บิดเบือน พูดในเรื่องที่ไม่เกิดความเสียหายต่อชาติ ไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย ต้องระมัดระวังอย่างที่สุดต่อการอภิปรายในครั้งนี้ ประเทศชาติสำคัญกว่าอย่างอื่น
พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธตอบคำถามกรณีได้คุยพล.อ.ประวิตร รวมทั้งการตั้งพรรคสำรองรวมไทยสร้างชาติ โดยนายกฯ ส่ายหัว และเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทันที
นายกฯเช็กเสียงพรรคร่วม
รายงานข่าวเผยว่า ก่อนประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ได้หารือนอกรอบที่ห้องสีเหลือง โดยมีหัวหน้า เลขาฯ พรรค และแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมหารืออย่างพร้อมเพรียง ประมาณ 30 นาที พล.อ.ประยุทธ์ ถามหัวหน้าพรรครายคนแต่ละพรรคจะโหวตอย่างไร ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) บอกว่า “ภูมิใจไทยมาครบครับ ไม่มีปัญหา”
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุ “มีปัญหาอยู่แค่ 2-3 คน นอกนั้นเต็มที่” นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันว่า “ชาติไทยพัฒนาไม่มีปัญหา” พล.อ.ประวิตรบอกกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลว่า ให้ไปช่วยกันเช็กเสียงดูแลให้เรียบร้อยในแต่ละพรรค และอยากให้คะแนนแต่ละคนออกมาเท่าๆ กัน โดยในวงหารือ ไม่ได้นับเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ส่วนพรรคเล็กก็ดูแลกันไป
รมต.รวมกลุ่มถกวิษณุ
ทั้งนี้ การประชุมครม.มีเพียง 9 วาระ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเศษ เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ แจ้งสำนักงานเลขาธิการครม.ล่วงหน้าให้บรรจุวาระประชุมน้อย เพื่อเหลือเวลาให้รัฐมนตรีไปเตรียมตัวชี้แจงการซักฟอก โดยเฉพาะนายกฯ ที่ต้องทำการบ้าน เนื่องจากเตรียมสไลด์ประกอบคำชี้แจงจำนวนมาก ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าขอบคุณและให้เตรียมชี้แจงตอบคำถามประชาชนให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังครม.ประชุมเสร็จ รัฐมนตรีหลายคนยังคงจับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ภายในห้องประชุม ก่อนแยกย้าย น่าสังเกตว่ารัฐมนตรีที่มีชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ จับกลุ่มพูดคุยกับนายวิษณุ เครืองาม รอง นายกฯ นานกว่า 1 ชั่วโมง อาทิ นายจุรินทร์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมวงพูดคุย ช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์เดินผ่านกลุ่มรัฐมนตรีดังกล่าวได้ทักทายพูดคุยเล็กน้อย โดยนายสุชาติยกมือไหว้ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์เดินฝ่าวงสนทนาไปยังห้องสีเหลือง พร้อมหันมายกนิ้วโป้งให้กลุ่มรัฐมนตรี คาดเป็นการให้กำลังใจ
โดย พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ แยกตัวมาพูดคุยกันต่อที่ห้อง สีเหลือง โดยมีรัฐมนตรีเข้าไปพูดคุยด้วยหลายคน ทุกคนต่างแสดงความมั่นใจในการรับศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะเกิดขึ้น
ชัยวุฒิไม่ซีเรียส-ข้อมูลพร้อม
นายสุริยะกล่าวว่า เป็นการพูดคุยแบบสัพเพเหระ ไม่ได้พูดคุยกันเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส กล่าวว่า นายวิษณุเล่าประสบการณ์สมัยเป็นเลขาฯ ครม.มานาน ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียด ที่ยืนคุยกันนานเพราะรอรับประทานอาหารกลางวัน ส่วนเรื่องเสียงรัฐบาลที่ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์มีการประสานและเช็กเสียงของแต่ละพรรคแล้ว น่าจะมีความพร้อม ทุกพรรคร่วมรัฐบาลมั่นใจและจะช่วยกัน โดยหลักการเสียงไว้วางใจแต่ละคนควรเท่าๆ กัน แต่ขึ้นอยู่กับการอภิปรายด้วย ขณะที่ตนให้ทุกหน่วยงานในกระทรวงเตรียมข้อมูลที่จะชี้แจงไว้แล้ว มั่นใจเพราะเตรียมข้อมูลไว้เรียบร้อยแล้วไม่ซีเรียส
ป้อมไล่ถาม‘ธรรมนัส’ปมโหวต
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงการพูดคุยกับกลุ่ม 16 และแกนนำพรรคเล็ก เมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมา ได้รับการยืนยันว่าจะสนับสนุน นายกฯ และรัฐมนตรี 11 คนหรือไม่ ว่า “คุยกันธรรมดา คุยกันธรรมดา”
เมื่อถามถึงการพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) เมื่อ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัสพร้อมยกมือสนับสนุนรัฐบาลหรือไม่ว่า “ต้องไปถามผู้กองดู มาถามอะไรผม” เมื่อถามว่าเป็นห่วง พล.อ.อนุพงษ์ 1 ใน 3 ป.ที่ถูกอภิปรายหรือไม่ พล.อ.ประวิตร เงียบไปพักใหญ่ และไม่ตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถออกจากทำเนียบ
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาฯ พปชร. กล่าวถึงการพูดคุยกับนายวิษณุ ว่า ไม่ได้คุยอะไร แค่ทานข้าวกันเฉยๆ เมื่อถามว่า เป็นห่วงการอภิปรายหรือไม่เพราะฝ่ายค้านจ้องเล่นงาน นายสันติกล่าวว่า “ไม่หรอกครับ ตอบได้ๆ ไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า ความคืบหน้าการเตรียมข้อมูลเรื่องการประมูล ท่อส่งน้ำในโครงการอีอีซี 2.5 หมื่นล้านบาท นายสันติกล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร
อนุทินเย้ยทีเซอร์ฝ่ายค้านแค่สีสัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข หัวหน้า ภท. ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านโหมโรงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้กังวลหรือไม่ ว่า ขอให้ฟังการอภิปรายก่อนว่าจะอภิปรายตนเรื่องอะไร แต่พร้อมชี้แจง ส่วนทีเซอร์ของพรรคเพื่อไทย (พท.) และโปสเตอร์ของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ทำออกมาเพื่อชวนให้ประชาชนติดตามการอภิปรายเป็นเพียงสีสัน แต่ตนขอดูเนื้อหาที่เป็นสาระดีกว่า อะไรที่ไม่เป็นสาระก็ไม่ต้องสนใจ
เมื่อถามว่ากังวลคะแนนเสียงของศท. และพรรคเล็ก 16 เสียงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่กังวลและมั่นใจว่าชี้แจงได้ โดยเฉพาะตนพร้อมชี้แจงความรับผิดชอบทั้งหมดของกระทรวงสาธารณสุข เช่น การบริหารจัดการโควิด รวมทั้งนโยบายกัญชา เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวส.ส.ศท. 3 คนมาอยู่กับ ภท.แล้ว นายอนุทินย้อนถามว่าใครแถลง ผู้สื่อข่าวจึงตอบว่าเป็นกระแสข่าว นายอนุทินกล่าวว่า “กระแส เดี๋ยวรอแถลง รอให้เป็นเรื่องจริงก่อน ยังไม่รู้เลยเพราะเป็นเพียงกระแส”
มั่นใจรัฐบาลรวมเสียง 270 อัพ
เมื่อถามว่าอภิปรายรอบนี้จะมีสมาชิก พท.โหวตให้ฝ่ายรัฐบาลเพิ่มขึ้นจาก 7 เสียงเดิม ที่โหวตให้ตอนร่างพ.ร.บ.งบประมาณหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ทราบ ถ้าหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคสามารถรับผิดชอบ ส.ส.ในพรรคตัวเองก็ถือว่าเสียงเพียงพอจะ ประคับประคองรัฐบาลนี้ไปได้ ส่วนตัว รับผิดชอบ ภท. ตอนแรกเข้า 51 เสียง มีจากพรรคที่ถูกยุบไปมาเพิ่มรวมประมาณ 60 เสียง และหยุดทำหน้าที่ไป 2-3 คน ที่แน่นอนก็ 50 กว่าเสียง ตนคิดว่า ภท.ก็รับผิดชอบในส่วนนี้ได้
เมื่อถามว่าเมื่อรวมส.ส.จากพรรคอื่นที่สนับสนุน ภท.มีเสียงถึง 80 เสียงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ภท.เข้ามา 51 เสียง เมื่อถามว่ายังมั่นใจเสียงสนับสนุนรัฐบาลไม่น้อยกว่าการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา นายอนุทิน กล่าวว่า ครั้งที่ผ่านมาเสียงไว้วางใจรัฐบาล 278 เมื่อถามว่าการลงมติครั้งนี้จะได้ไม่น้อยกว่า 270 นายอนุทินกล่าวว่าหากหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทำหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ก็ต้องมั่นใจ และรูปแบบรัฐบาลในขณะนี้จะขาดพรรคใดพรรคหนึ่งไม่ได้
ศักดิ์สยามปัดตอบได้งูเห่าหนุน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการ ภท. ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจเรื่องเสียงสนับสนุนรัฐมนตรีที่ถูกซักฟอกว่า รอฟังรายละเอียดจากผู้อภิปราย ส่วนตัวสามารถตอบได้ทุกเรื่อง และไม่ได้เก็งข้อสอบ ก็รอฟังว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายเรื่องอะไรบ้าง
เมื่อถามว่าคิดว่าเสียงที่สนับสนุนของ ภท. และพรรคพันธมิตรจะมีเท่าไร นายศักดิ์สยามกล่าวว่า ภท. 100 เปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลคงมีมติหลังจากฟังการอภิปราย ส่วนงูเห่าจากพรรคอื่นที่จะมาช่วยโหวตสนับสนุนมีหรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า เดี๋ยวรอดูดีกว่า เมื่อถามถึงส.ส.จาก ศท.ที่มีข่าวว่าจะย้ายมาอยู่ จะปรากฏตัวในการโหวตครั้งนี้หรือไม่ นายศักดิ์สยามกล่าวว่า รอดูดีกว่า
จุรินทร์ดักคอส.ส.รัฐบาลโหวตหนุน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ หัวหน้าปชป. ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่ม 16 ประกาศจะไม่ไว้วางใจนายจุรินทร์ กังวลใจหรือไม่ ว่า ต้องรับฟังทุกคน ปชป.ให้เกียรติทุกพรรคและทุกคนเสมอในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
เมื่อถามว่ากรณีพล.อ.ประวิตร พบปะ พูดคุยกับกลุ่มส.ส.พรรคเล็ก นายจุรินทร์กล่าวว่า ในฐานะ พปชร.เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีหน้าที่ที่ต้องทำอย่างนั้นอยู่แล้ว และเป็นเรื่องดีที่พล.อ.ประวิตร พูดคุยกับส.ส.กลุ่มดังกล่าว เมื่อถามว่า การลงมติของส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นไปในทิศทางที่ดีหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลก็คงต้องโหวตไปในทิศทางเดียวกัน เพราะอยู่ร่วมรัฐบาลด้วยกัน
นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการชี้แจงว่า ทำการบ้านมา 2 ปีกว่าแล้ว 19 ก.ค.จะมีการตรวจสอบข้อสอบปากเปล่า เมื่อถามว่าเตรียมพร้อมสบายมากใช่ไหม นายจุติกล่าวว่า ก็พยายามทำการบ้านให้หนัก จะพยายามตอบคำถามให้ได้มากที่สุด เมื่อถามว่าหนักใจหรือไม่ นายจุติกล่าวว่า ทำการบ้านมาพอสมควรแล้ว มีอะไรติชมก็ว่ากันได้
วิษณุชี้คะแนนตกเก้าอี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลเสียง ปริ่มน้ำว่า ไม่เห็นว่ามีใครห่วง แต่ในความรู้สึกของสื่อและประชาชนจะไปจับตาดูว่าคะแนนไว้วางใจมีเท่าไรแล้วเอามาเปรียบเทียบ แต่ในรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ไม่ได้ให้เทียบเช่นนั้น รัฐมนตรีจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อได้รับคะแนนไม่ไว้วางใจเกินกว่ากึ่งหนึ่งข ซึ่งวันนี้สภามี 477 คน ต้องคอยดูคะแนนแต่ละคนเป็นอย่างไร ตอนนี้รู้อยู่ว่าฝ่ายค้าน 206-207 เสียง บางคนยังบอกว่ามีฝากเลี้ยง มีงูเห่า ตัวเลข 239 ถือเป็นตัวเลขหลักที่อยากให้ทำความเข้าใจกับประชาชน ต้องดูที่ 239 เสียง
เมื่อถามว่าใครได้คะแนนไม่ไว้วางใจสูงต้องรับผิดชอบอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า โดยมารยาทไม่มีปัญหา ผ่านไป 7 วันก็ลืมกันแล้ว ถ้าใครได้ไม่ถึง 239 ก็อยู่ไป
พท.เขย่าขวัญซักฟอก
เวลา 11.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) แกนนำพรรค ประกอบด้วย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ โฆษกพรรค ร่วมแถลงถึงความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 19-22 ก.ค.
นพ.ชลน่านกล่าวว่า เราต้องยุติหยุดยั้งการบริหารราชการแผ่นดินของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม และรัฐมนตรีรวม 11 คน การอภิปรายไม่ไว้วางใจนี้เป็นมาตรการหนักในการตรวจสอบในระบบรัฐสภา ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” เพราะ ครม.ชุดนี้ใช้อำนาจไม่ชอบธรรมเข้าสู่อำนาจและต้องการสืบทอดอำนาจ รวบรวม ส.ส.พรรคร่วมใช้กลไกบิดเบี้ยวทำลายระบอบประชาธิปไตย ให้อามิสสินจ้างหรือใช้เงินจนเป็นสภากินกล้วย เป็นนั่งร้านค้ำจุ้นนายกฯ เราต้องเด็ดหัวและเอานั่งร้านให้ได้
การลงมติในสภายากมากที่เอาชนะได้ เว้นแต่มีหลักฐานทำให้ส.ส.และประชาชนเห็น ขอบคุณประชาชนที่ให้ความสนใจโปสเตอร์และคลิป เราจะไม่ทำให้ผิดหวัง ขอให้ช่วยติดตามการอภิปรายวันแรกจนถึงวันสุดท้าย
เปิดช่องประชาชนลงมติไล่
นายประเสริฐกล่าวว่า เรามุ่งมั่นทำให้ประชาชนเห็นธาตุแท้ของเครือข่ายประยุทธ์ ที่ประคับประคองกันอยู่ด้วยความเชื่อมโยงของผลประโยชน์และการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยเฉพาะช่วงปลายอายุขัยรัฐบาล แต่ละพรรคมุ่งกอบโกยงบฯโจ๋งครึ่ม หวังสะสมเป็นกระสุนดินดำสำหรับเลือกตั้งครั้งต่อไป พท.มั่นใจในข้อเท็จจริง เอกสารและหลักฐานในมือ ที่จะนำไปสู่การเอาผิดผู้ทุจริตและตัวการทุกคนทั้งหมด ขอเชิญชวนร่วมกันติดตามการอภิปราย และขอเรียกร้องให้เพื่อนสมาชิกรับฟังเสียงประชาชน พิจารณาลงมติโดยเห็นแก่ประชาชนเป็นที่ตั้ง
พท.ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งสุดท้ายของรัฐบาลประยุทธ์ ผ่านช่องทาง LINE OA เพื่อไทย @pheuthai หรือสแกนคิวอาร์โค้ด และมีส่วนร่วมผ่านริชเมนู (Rich Menu) ได้ดังนี้ 1.ลงมติไล่ประยุทธ์: ร่วมลงมติประชาชนไม่ไว้วางใจประยุทธ์และพวก พร้อมฝากข้อความสั้นๆ ถึงพล.อ.ประยุทธ์และรัฐมนตรีในรัฐบาล ผ่านระบบ LINE OA เพื่อไทย 2.เสียงประชาชน กดปุ่มเพื่อแสดงความเห็นในประเด็นต่างๆ ส่งเสียงจากประชาชนถึง ส.ส.พท.ในสภาได้ตลอดการอภิปราย ร่วมคิดเดินหน้าเปลี่ยนรัฐบาล ร่วมคิดนโยบายเพื่อคืนความหวัง สร้างชีวิตใหม่
เปิดคิวเชือด-ชำแหละเดี่ยวตู่ 30 ช.ม.
นายสุทินกล่าวว่า การอภิปรายจะเริ่มวันที่ 19 ก.ค. เวลา 08.30 น. ผู้นำฝ่ายค้านแถลงญัตติและอภิปรายขยายญัตติ และเข้าสู่การอภิปรายรัฐมนตรีเป็นกลุ่ม วันแรกเริ่มจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข นาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ตามด้วย นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ตามด้วย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันที่ 20 ก.ค.เริ่มอภิปรายนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ตามด้วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย โดย พล.อ.ประวิตรและพล.อ.อนุพงษ์จะเป็นการอภิปรายแบบคิวเดี่ยว จากนั้นเป็นการอภิปรายชุด 3 ป. ตามด้วย พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงค่ำ โดยจะใช้เวลากับ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งหมด 30 ชั่วโมง
จี้ศท.พิสูจน์จุดยืน-โหวตคว่ำนายกฯ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พท. กล่าวว่า 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนพิพากษาแล้วว่าไม่ผ่านการทดลองงาน ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลอย่าโหวตเพราะกล้วย ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลยังคงเอ็นจอยกับการเป็นนั่งร้านให้รัฐบาลประยุทธ์สืบทอดอำนาจต่อไป วันเลือกตั้งมีโอกาสสูงที่จะ ไม่เอ็นจอยกับผลคะแนนเลือกตั้ง พรรคไหนจะกอดรัฐบาลประยุทธ์จนนาทีสุดท้ายต้องคิดให้ดี การกระทำมีน้ำหนักมากกว่าคำพูด ของจริงดูกันที่การโหวตไม่ใช่การเคลื่อนไหวต่อรองผลประโยชน์ทางการเมืองรายวัน
“พรรคศท.ต้องโหวตคว่ำรัฐบาลประยุทธ์ ประชาชนถึงจะยอมรับถึงความตั้งใจจริงว่ายืนอยู่ข้างประชาชน ไม่ยอมเป็นนั่งร้านให้รัฐบาลประยุทธ์สืบทอดอำนาจอีกต่อไป ไม่ใช่เคลื่อนไหวเพื่อหวังสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองเพราะรู้ว่ารัฐบาลไปต่อไม่ได้” นายอนุสรณ์กล่าว
นิโรธเชื่อ 11 รัฐมนตรีฉลุย
ที่รัฐสภา นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.พปชร. ประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์กรณี ศท. ถอนตัวจากรัฐบาล จะกระทบเสียงโหวตซักฟอกหรือไม่ ว่า ศท.จะค้านหรือโหวตอย่างมีคุณภาพ ต้องฟังเป็นเรื่องๆ ไป ตนมั่นใจว่า ศท.ดีเอ็นเอเป็นฝ่ายรัฐบาลและทั้งหมดอยู่ที่บารมีของ พล.อ.ประวิตร ที่จะพูดคุยเรื่องเสียง เพราะพื้นฐานของส.ส.ศท. ก็มาจาก พปชร. แต่ต้องไม่เป็นการไปก้าวก่าย ซึ่งตามข่าวพล.อ.ประวิตร ก็ระบุให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
เมื่อถามถึงเสียงของพรรคเล็กโดยเฉพาะกลุ่ม 16 มีผลต่อรัฐบาลหรือไม่ นายนิโรธกล่าวว่า ทุกเสียงมีผลกับรัฐบาล ส่วนจะควบคุมได้หรือไม่นั้น กลุ่มพรรคเล็กทั้งหมดยังเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่ผ่านมาก็มีการไปพบกับผู้หลักผู้ใหญ่ ดังนั้นก็ต้องฟังดูบารมีของท่าน
เมื่อถามว่า ส.ส.พรรคเล็กหลายคนจะไม่โหวตให้รัฐมนตรี พปชร. และพรรคร่วมหลายคน นายนิโรธกล่าวว่า เท่าที่ได้รับฟังพรรคเล็กยังไม่ได้ยืนยันหรือระบุหนักแน่นขนาดนั้น จะไม่มีอุบัติเหตุ เสียงลงมติเกินกึ่งหนึ่งและเชื่อมั่นว่า รัฐมนตรีทั้ง 11 คน จะผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ไปได้
เมื่อถึงกรณี พท. และ ก.ก. เผยแพร่ภาพและทีเซอร์ให้ติดตามการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายนิโรธ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ตนจะหาซื้อบัตรยังซื้อไม่ได้เลย เพราะไม่รู้จองที่ไหน บัตรราคาเท่าไร การปล่อยทีเซอร์หรือ คลิปวิดีโอต่างๆ ของฝ่ายค้านเป็นการแสดง เอาเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาเป็นเรื่องล้อเล่น ไม่เหมาะสม เรื่องนี้เป็นเรื่องของประเทศชาติ จะทำเป็นเรื่องสนุกหรือตลกคาเฟ่ คิดว่าไม่ใช่
ป้อมขู่พปชร.ห้ามแตกแถว
รายงานข่าวจาก พปชร.เผยว่า เวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตรเรียกประชุมแกนนำ ส.ส.พปชร. ไปที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อทำความเข้าใจก่อนการซักฟอก ใช้เวลา 20 นาที
พล.อ.ประวิตรนั่งประชุมอย่างอารมณ์ดี และกำชับส.ส.ให้ลงมติให้รัฐมนตรีทั้ง 11 คน ไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมแจ้งว่า ร.อ.ธรรมนัส กับ ศท.ไม่ได้อยู่ร่วมรัฐบาลแล้ว ควบคุมอะไรไม่ได้แล้ว ดังนั้นส.ส.อย่าโหวตสวนแนวทางพรรค อย่าโหวตอย่างอื่น ถ้าทำอย่างอื่นต่อไปหมดสิทธิ์ จะไม่ดูแลอีกแล้ว
บางช่วง พล.อ.ประวิตรพูดกับ ส.ส.ถึงกระแสย้ายพรรคว่า “ใครอยากอยู่กับพรรคพลังประชารัฐต่อไป ขอให้ยกมือขึ้น” พร้อมหันไปแซวนายวัชระ ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส ที่ยกมือไม่ค่อยสูงว่า “วัชระยกมือสูงๆ หน่อย” ที่ประชุมหัวเราะชอบใจ และหันไปแซวนายมณเฑียร สงฆ์ประชา ส.ส.ชัยนาท ว่า “แดง อยู่ด้วยกันนะ” นายมณเฑียรได้แต่ยิ้มตอบ
จี้ปรับเก้าอี้มท.1 หลังซักฟอก
นอกจากนี้ ผู้บริหารพรรคคนหนึ่งเปิดประเด็นเกี่ยวกับการปรับครม.หลังซักฟอก โดยเฉพาะเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ให้พล.อ.ประวิตร มาเป็นแทน พร้อมถาม กับส.ส.ว่า ใครเห็นด้วยขอให้ยกมือขึ้น มี ส.ส. 4-5 คน ที่ปกติไม่ค่อยแสดงความคิดเห็นลุกขึ้นสนับสนุนให้ปรับรมว.มหาดไทย โดยอ้างว่าไม่เอื้อต่อการเลือกตั้ง ทำให้ พล.อ.ประวิตรปรามว่า “ถือเป็นการแสดงความคิดเห็น ไม่เป็นไร หลังโหวตค่อยว่ากัน ผมจะลองคุยกับนายกฯ ดู แต่ตอนนี้ต้องโหวตให้เหมือนกัน 11 คน”
ธรรมนัสลั่นไม่โหวตให้ตู่
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้า ภท. เผยถึงเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ว่า พล.อ.ประวิตร ขอร้องให้ ศท.ยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ รวมถึงรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้งหมด แต่ตนตอบปฏิเสธ เนื่องจากวันนี้สถานะของ ศท.คือพรรคฝ่ายค้าน ไม่ใช่พรรคร่วมรัฐบาลต่อไปแล้ว
“ถึงแม้พรรคเศรษฐกิจไทยจะไม่ได้ร่วมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพราะฝ่ายค้านได้จัดสรรแบ่งเวลากันไว้หมดแล้ว แต่เราจะโหวตตามมติของพรรคฝ่ายค้าน ทุกคนในพรรคจะโหวตไปในทางเดียวกัน ยกเว้น การโหวตให้ พล.อ.ประวิตร ที่พรรคยังสนับสนุนการทำหน้าที่ของท่าน เนื่องจากยังไม่เห็น ข้อบกพร่องและการทุจริตใดๆ เกิดขึ้น” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ไม่แย่งเวลา6พรรคชำแหละ
นายไผ่ ลิกค์ เลขาฯศท. เผยว่า พรรคคงไม่ได้เวลาอภิปราย เนื่องจากพรรคร่วมฝ่ายค้านได้จัดสรรเวลาไว้หมดแล้ว เรามาตอนหลังจะไปแย่งเวลาของพรรคใดพรรคหนึ่งมาเป็นสิ่งที่ไม่สมควร สิ่งที่พรรคเศรษฐกิจไทยจะทำได้คือการอยู่ร่วมประชุมสภา และฟังการอภิปราย ส่วนบทบาทของพรรคในการอภิปรายขอให้รอดูวันแรกของการเปิดอภิปราย เมื่อกลไกต่างๆ ขับเคลื่อนไปแล้วน่าจะลงตัว ส่วนการโหวตเรามีข้อมูลอยู่แล้ว ยืนยันจะออกมาในทิศทางเดียวกันตามที่ทุกคนรู้กันแล้วในฐานะฝ่ายค้าน จะเป็นอย่างอื่นไม่ได้
ทั้งนี้ ร.อ.ธรรมนัสจะพูดคุยกับส.ส.กลุ่ม 16 ในห้องประชุมสภา 19 ก.ค. เกี่ยวกับท่าทีทางการเมือง และการโหวต
ไชยยศลั่นโหวตคว่ำรมต.ปชป.
เวลา 13.30 น. ที่ทำการ ปชป. มีการประชุม ส.ส.พรรค เตรียมความพร้อมซักฟอก มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ประธานส.ส. เป็นประธานการประชุม เปิดโอกาสให้ ส.ส.และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย แสดงความคิดเห็น นายนิพนธ์ บุญญามญี รมช.มหาดไทย ย้ำว่าเตรียมข้อมูลไว้แล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ขณะที่นายไชยยศ จิรเมธากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กล่าวว่า รู้สึกอัดอัดใจที่จะพูดเนื่องจากมีสื่อมวลชนร่วมติดตามทำข่าวด้วย แต่ขอแจ้งให้ทราบว่า จะขอใช้สิทธิ์ลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีของพรรคบางคน
ทั้งนี้ นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ได้เข้าร่วมประชุม ที่ผ่านมาทั้ง 2 คน ลงมติสวนแนวทางของพรรคมาตลอด
ปลุกขวัญ – นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รับมอบรูปปั้นท้าวสุรนารี หรือย่าโม จากนายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก อดีตส.ส.นครราชสีมา ที่ย้ายมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อเป็นกำลังใจในการสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.
ลูกพรรคมอบย่าโมให้อู๊ดด้าชนะศึก
เวลา 15.00 น. นายจุรินทร์ หัวหน้าพรรค รับมอบรูปปั้นท้าวสุรนารี หรือย่าโม จากนายประชาธิปไตย คำสิงห์นอก อดีต ส.ส. นครราชสีมา หลายสมัย ที่ล่าสุดย้ายมาสังกัด ปชป. เพื่อเป็นกำลังใจในการสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะย่าโมถือเป็นสัญลักษณ์การต่อสู้ที่ได้รับชัยชนะ โดยนายจุรินทร์กล่าวว่า ขอรับไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล สำหรับพรรคและสมาชิกพรรคทุกคน และหวังว่าย่าโมจะคุ้มครองชาว ปชป. พี่น้องชาวอีสาน พี่น้องคนไทย มั่นใจว่าเสียง ส.ส.พรรคจะลงมติไปในทิศทางเดียวกัน เพราะถือว่าร่วมรัฐบาลเดียวกัน
ส่วนที่นายไชยยศประกาศจะลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีบางคนของพรรค นายจุรินทร์กล่าวว่า มั่นใจว่าจะโหวตไปในทางเดียวกัน รวมถึงรัฐมนตรีของพรรคร่วมรัฐบาล เพราะมาร่วมรัฐบาลด้วยกัน ทำงานด้วยกันก็ต้องไว้วางใจกันและกัน เป็นหลักในระบบรัฐสภา
ศึกในปะทุ-ส.ส.ตรังฟาดกันเดือด
ผู้สื่อข่าวรายงานความขัดแย้งการจัดวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคใต้ของปชป. ว่า ยังเกิดความไม่ชัดเจนในหลายเขตและหลายจังหวัด ทั้ง นครศรีธรรมราช พังงา พัทลุง หรือแม้แต่ จ.ตรัง โดยหลังกกต. มีมติให้ จ.ตรัง มีส.ส.เพิ่ม 1 คน คือเขต 4 โดยที่นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล อดีตส.ส.ตรัง แสดงความจำนงขอลงสมัคร แต่น.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ ส.ส.ตรัง เขต 3 และนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ตรัง บิดาของน.ส.ณัฐชา ประกาศสนับสนุนนายกาญจน์ ตั้งปอง ส.ท.เมืองกันตัง สมัครเขต 4
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง แสดงท่าทีสนับสนุนนายสมบูรณ์ว่าเหมาะสมลงเขต 4 เพราะปี 2562 จ.ตรัง พื้นที่ลดลงจาก 4 เขต เหลือ 3 เขต นายสมบูรณ์เสียสละไปลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่นายสมชายคัดค้านอย่างหนัก นอกจากให้ข่าวพาดพิงนายสมบูรณ์และนายสาทิตย์ พร้อมหนุนนายทวี สุระบาล ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ตรัง เขต 2 พปชร. ที่ลงแข่งขันกับนายสาทิตย์ ส่วน น.ส.สุณัฐชา ก็ส่งข้อความในไลน์กลุ่มพรรคโจมตีนายสมบูรณ์และนายสาทิตย์อย่างดุเดือด พร้อมขึ้นป้ายในเขต 4 โพสต์ภาพแบนเนอร์ใน เฟซบุ๊กส่วนตัวประกาศสนับสนุนนายกาญจน์เป็นผู้สมัครส.ส.เขต 4
ทำโพลชี้ขาด4เขตภาคใต้
นายสมบูรณ์ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ทำให้ประชาชนเขต 4 สับสน และพรรคคู่แข่งหยิบยกปัญหาที่เกิดขึ้นไปสร้างกระแสโจมตีพรรค กระทบการทำงานในพื้นที่ของตน นายชวน ทราบดีว่าตนเป็นอดีตส.ส.พื้นที่นี้ และครั้งนี้ต้องการลงสมัคร นายชวนจึงให้ตนลงไปทำงานในพื้นที่อย่างเต็มที่ จึงอยากให้หัวหน้าพรรค กก.บห. หรือคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครเร่งสร้างความชัดเจนตรงนี้
นายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลา รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคใต้ กล่าวว่า ตนได้หารือกับนายชวน นายจุรินทร์ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาฯพรรค จะทำโพลช่วงกลางส.ค.นี้ เพื่อตัดสินเรื่อง ดังกล่าวโดยตนเป็นผู้ดูแลเอง จะไม่ให้ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามายุ่งเกี่ยว ซึ่งทั้ง 3 คนเห็นด้วยกับวิธีนี้ โดยเฉพาะนายชวนบอกกับตนว่าต้องทำโพล ใช้วิทยาศาสตร์มาวัดกัน “การทำโพลเพื่อตัดสินตัวผู้สมัครส.ส.ภาคใต้ จะมีขึ้นในพื้นที่ที่ยังมีปัญหา ทั้งเขต 4 จ.ตรัง และเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช จะทำโพลกลางส.ค. จากนั้นช่วงปลาย ส.ค. จะทำโพลตัดสินกรณีของเขต 1 จ.ระนอง และเขต 2 จ.พังงา ตั้งเป้าว่าจะประกาศตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคทั้ง 58 เขตเลือกตั้งของภาคใต้ในปลาย ส.ค.นี้”
ผบ.เหล่าทัพตบเท้าแจงกมธ.
เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2566 พิจารณางบของกระทรวงกลาโหม วงเงิน 197,292,732,000 บาท โดยมี ผบ.เหล่าทัพ ได้แก่ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. เข้าร่วมชี้แจง
กมธ.สอบถามหลายประเด็น อาทิ นาย พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.พท. สอบถามกรณีเครื่องบินทหารเมียนมารุกล้ำเขตประเทศไทย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการการสื่อสารและการรณรงค์นโยบาย ก.ก. ซักถามว่า ถึงแผนปรับลดกำลังพล รวมถึงงบลับ 469,955,000 บาท เปิดเผยรายละเอียดได้หรือไม่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย พุ่งเป้าไปที่ค่าใช้จ่ายของนายทหารระดับสูง รวมทั้งค่าเช่ารถยนต์ให้ผู้บริหารระดับสูง 36 คน เช่น ปลัดกลาโหม รองปลัด ผบ.เหล่าทัพ และที่ปรึกษากองทัพ เป็นรถเบนซ์ S500 และ S400 นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส..พท. สอบถามกรณีการซื้ออากาศยานไร้คนขับหรือยูเอวีของกองทัพเรือ และการแก้ปัญหาเรือดำน้ำที่ไร้เครื่องยนต์ งบซื้อเครื่องบินรบแบบยุทธศาสตร์ F-35 A ของกองทัพอากาศ ต้องได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสของสหรัฐ การที่สภาตั้งงบไปก่อนสภาครองเกรสหรือ และจะเบิกจ่ายงบได้ทันหรือไม่
พล.อ.วรเกียรติ ปลัดกลาโหม กล่าวว่า กลาโหมได้รับงบสัดส่วนลดลงทุกปี สถานการณ์โลกผันผวนและเสี่ยงนำไปสู่ความขัดแย้งโดยการใช้กำลังทหาร กลาโหมตระหนักข้อจำกัดงบประเทศและจัดลำดับความสำคัญ งบกลาโหมปี 66 ไม่สูงเมื่อเทียบภารกิจ แม้ไม่ส่งเสริมเศรษฐกิจแต่สร้างความมั่นคงด้านการลงทุน กองทัพมีแสนยานุภาพเข้มแข็งเพื่อใช้ต่อรองนโยบายการเมืองได้เช่นเดียวกัน
ไม่กระตุ้นศก.แต่คนอยู่รอด
พล.อ.เฉลิมพล ผบ.ทสส. กล่าวว่า แม้ความมั่นคงที่ประเมินเป็นตัวเลขไม่ได้แต่ก็คือความอยู่รอดของประเทศ ส่งผลถึงเศรษฐกิจความเป็นอยู่ประชาชน นโยบายจะซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เน้นการปรับปรุง ยืดอายุการใช้งาน การซ่อมบำรุง ยืนยันกลาโหมใช้งบประหยัด คำนึงสภาพเศรษฐกิจประเทศ ความเดือดร้อนของประชาชน ปัจจุบันกองทัพไทยมียุทโธปกรณ์คิดเป็นเงินรวม 500,000 ล้านบาท การจัดหาทดแทนและซ่อมบำรุงคิดเป็น 1 หมื่นล้านบาทต่อปี หรือ 2% เพื่อดูแลรักษาให้คงสภาพ หากกองทัพไทยเข้มแข็งสามารถรองรับภารกิจต่างๆ เช่น โควิด สถานการณ์วิกฤต ภัยพิบัติต่างๆ
จากนั้น พล.อ.วรเกียรติ ชี้แจงอีกครั้งว่า ทุกเหล่าทัพมีนโยบายชัดเจนที่จะลดกำลังพล เริ่มตั้งแต่ 1 ต.ค.2563 ตั้งเป้าภายในปี 2570 อัตราผู้ทรงคุณวุฒิต้องลดลงครึ่งหนึ่ง กำลังพลทั่วไปจะลดลง 5% ของอัตราบรรจุจริง การเกณฑ์ทหารดลงอย่างต่อเนื่อง ปีนี้เรียกประจำการเพียง 8 หมื่นกว่าคน ส่วนรถประจำตำแหน่งจ่ายให้เฉพาะระดับรองนายพลที่เทียบเคียงรองเจ้ากรมขึ้นไป ไม่ใช่พันเอก (พิเศษ) ทุกคน พันเอก (พิเศษ) เทียบรอง เจ้ากรม ได้ค่ารถประจำตำแหน่ง 25,400 บาทต่อเดือน เทียบเท่าพลตรีตำแหน่งหลัก 31,800 บาท พล.ท.และพล.อ.ตำแหน่งหลัก 41,000 บาท ซึ่งไม่ใช่งบรถประจำตำแหน่ง แต่เป็นรถควบคุมสั่งการทางการสื่อสาร ใช้งบปกติ ไม่ใช่งบลับ ส่วนการซื้อยูเอวี ตรวจการณ์ชายฝั่งกองทัพเรือเป็นไปตามระเบียบ
เลี่ยงแจงงบรถเบนซ์
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กล่าวว่าตามที่ชี้แจงหมายความว่า นายพลแต่ละคนจะมีรถ 2 คัน คือ รถประจำตำแหน่งและรถควบคุม แล้วรถเบนซ์ S500 และ S400 เป็นรถซื้อหรือรถเช่า ใช้งบส่วนใด และที่พล.อ.ประยุทธ์ เปลี่ยนรถยนต์และทะเบียนบ่อยครั้ง เกี่ยวข้องกับรถยนต์และงบส่วนนี้หรือไม่ เหลื่อมล้ำกับกระทรวงอื่นหรือไม่
พล.อ.วรเกียรติไม่ได้ตอบคำถามเกี่ยวกับรถประจำตำแหน่ง แต่ชี้แจงเรื่องเรือดำน้ำ ว่าจะหาวิธีเจรจาให้เหมาะสม ส่วนการซื้อ F-35 ต้องตั้งงบก่อนที่สภาคองเกรสสหรัฐจะอนุมัติไม่ใช่ซื้อแบบปากเปล่า จากนี้ต้องรอกระบวนการจากสหรัฐว่าจะผ่านความเห็นชอบได้เร็วแค่ไหน ทางกองทัพอากาศจะมีแผนรองรับ
