โหวตเขย่าเก้าอี้อนุพงษ์-สันติ ตู่เย้ยซักฟอกวันแรกก็เดิมๆ ชลน่านตั้งฉายารัฐบาล608 พท.-กก.รุมถล่มยับกัญชาเสรี

ซักฟอกเดือด ‘หมอชลน่าน’ ฉะรัฐบาล 608 ทำประเทศพังพินาศ ‘ตู่’ ไร้ความสามารถ ขาดวิสัยทัศน์ นายกฯ โต้ลั่น ข้อกล่าวหาไม่ใช่ข้อเท็จจริง แขวะอดีตนายกฯกลับมาให้ได้ เพื่อไทย-ก้าวไกล รุมถล่มกัญชาเสรี ‘สุทิน’ เปิดพิรุธผลประโยชน์ทับซ้อน ‘หมอวาโย’ ชี้จงใจเร่งปลดล็อกให้เกิดสุญญากาศ ‘เสี่ยหนู’ ยันไม่มีช่องโหว่กฎหมาย อ้างคลิปหาเสียงพี้กัญชาในบ้าน แค่พูดติดตลก ศักดิ์สยามก็อ่วม ปมเขากระโดง-ตั้งนอมินีถือหุ้น ฝ่ายค้านให้เกาะติด จัด 30 ขุนพลเตรียมถลกนายกฯ 30 ชั่วโมง สะพัดส.ส.ไถรัฐมนตรี 1-2 ล้าน แลกเสียงโหวตหนุน ธรรมนัสเปิดดีลกลุ่ม 16 เขย่า ‘อนุพงษ์’ คะแนนรั้งบ๊วย เจ้าตัวเคลียร์ใจส.ส.พปชร.แล้ว กลุ่มราษฎรเมินสภาห้ามตั้งแคมป์ฟังซักฟอก

ตู่พยักหน้า-พร้อมสู้ซักฟอก
เวลา 08.10 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่รัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางถึงเพื่อเข้าร่วมประชุมพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในวันแรก เมื่อมาถึง นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานวิปฝ่ายค้าน ซึ่งมาถึงก่อนไม่นานได้ทักทายสวัสดี พล.อ.ประยุทธ์ ยกมือรับไหว้พร้อมแตะแขนทักทาย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าพร้อมรับศึกอภิปรายหรือไม่ นายกฯ พยักหน้า ด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ขณะที่เพจสนับสนุนนายกฯ และรัฐบาล มีความเคลื่อนไหวหลังก่อนหน้านี้เพจฝ่ายค้านโปรโมตให้จับตาศึกอภิปรายจนฮือฮาในโลกโซเชี่ยล โดยเพจเชียร์ลุงขึ้นภาพ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีบางส่วนที่ถูกอภิปราย พร้อมข้อความ “จับตา 4 วัน อภิปรายไม่ไว้วางใจ ระวัง! ซ้ำรอยไอ้โม่ง ส่งข้อมูลใต้โต๊ะทำลายคนกันเอง”

เพจเชียร์ชูเจมส์บอนด์-ไม่ตาย
เพจ เปรี้ยง เผยแพร่ภาพกราฟิกชุดทีมเจมส์บอนด์ 008 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย เป็นภาพพล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรีที่ถูกอภิปราย พร้อมข้อความว่า “No Time to die 008 พยัคฆ์ร้ายไม่มีวันตาย 19-22 ก.ค.65 #สู้ทุกปัญหา”

ส่วนเพจ “ลุงตู่ตูน” โพสต์เชิญชวนแฟนเพจส่งกำลังใจให้ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐมนตรี และโชว์ 3 ผลงานที่ระบุชิ้นโบแดง

อนุทินไม่ตอบเซอร์ไพรส์โหวต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์นายกฯ มั่นใจหรือไม่ทุกพรรคพร้อมสนับสนุนรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า หัวหน้าพรรคแต่ละพรรคต้องรับผิดชอบให้ลูกพรรคลงมติ ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลและโดยหลัก ถ้าชี้แจงข้อกล่าวหาได้ก็ต้องไว้วางใจเพราะเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้และมีหลักฐานเด่นชัดว่าปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ทุจริต ไร้ความสามารถ ไร้ประสิทธิภาพ ก็ต้องแล้วแต่ส.ส. เพราะทุกคนมีเอกสิทธิ์ใช้วิจารณญาณตัวเอง

เมื่อถามว่าจะมีเซอร์ไพรส์ที่พรรคอื่น หรือพรรคฝ่ายค้านมาลงคะแนนให้รัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ไม่ทราบ ผมไม่มีเซอร์ไพรส์ ผมมีแต่สไปรท์”

นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมช.เกษตรฯ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงความมั่นใจในการลงมติว่า คะแนนเสียงไม่มีปัญหา เมื่อถามว่า ปชป.จะโหวตให้รัฐมนตรีกี่เสียง นายเฉลิมชัยกล่าวว่า เต็มนั่นแหละ”

ฝ่ายค้านจัด 30 สส.ถลกตู่ 2 วันครึ่ง
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพท. ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ถึงทิศทางการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า ฝ่ายค้านจะใช้เวลาอภิปรายวันละ 11 ชั่วโมง ในส่วนของพล.อ.ประยุทธ์ จะให้เวลาตรงนี้ 2 วันครึ่ง ซึ่งมีผู้อภิปรายประมาณ 30 คน จะโดนทุกประเด็นทั้งเรื่องเศรษฐกิจ พลังงาน การปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต การต่างประเทศ แม้จะให้เวลาการอภิปรายนายกฯ 2 วันครึ่ง แต่จะไม่ทำให้คนเบื่อหน่าย

เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายรัฐบาลออกโปสเตอร์ฆ่าไม่ตาย นายสุทินกล่าวว่า เป็นสีสันที่ลอกธีมของฝ่ายค้าน แม้พยัคฆ์ร้ายฆ่าไม่ตายแต่จะน่วม เมื่อถามกรณีภาคประชาชนชุมนุมหน้ารัฐสภา เป็นการกดดันรัฐบาลอีกทางหรือไม่ นายสุทินกล่าวว่า ถือเป็นความคิดที่ดีเพราะมือในสภาอาจไม่ใช่อย่างเดียว ต้องฟังนอกสภาด้วย และการชุมนุมไม่ได้ผิดกฎหมาย แต่สะท้อนให้รัฐบาลได้รับฟังเสียงของประชาชน

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพท. ให้สัมภาษณ์ว่าขอให้ติดตามการประชุมทั้ง 4 วัน รับรองมีเรื่องที่ตื่นเต้นและสนุกทุกวันโดยเฉพาะวันสุดท้ายที่เป็นวันสรุปโดย นายสุทินจะเป็นผู้สรุปจบข้อมูลที่สมาชิกร่วมอภิปรายตามยุทธ์การเด็ดหัวสอยนั่งร้าน ไม่ตายในสภาก็ไปตายในสนามเลือกตั้ง

ซักฟอก – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงตอบโต้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำ ฝ่ายค้าน อภิปรายเปิดญัตติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และ 10 รัฐมนตรี ที่อาคารรัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.

ชลน่านเปิดฉากซักฟอก
เวลา 08.30 น. รัฐสภามีการประชุมสภา ผู้แทนฯ โดยมีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรทำหน้าที่ประธาน พิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จำนวน 11 คน ตามที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กับคณะ 186 คน เป็นผู้เสนอ ภายใต้ยุทธการ “เด็ดหัว สอยนั่งร้าน” โดยนัดประชุมเวลา 08.30 น. แต่เมื่อถึงเวลาองค์ประชุมยังไม่ครบกึ่งหนึ่ง คือ 239 คน ยังไม่สามารถเปิดการประชุมได้ กระทั่งเวลา 09.25 น. องค์ประชุมครบกึ่งหนึ่ง นายสุชาติจึงเปิดการประชุมได้

เวลา 09.25 น. เริ่มเข้าสู่ระเบียบวาระ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ผู้นำฝ่ายค้านแถลงเหตุผลญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตลอด 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ผิดพลาดล้มเหลว แก้ปัญหาไม่ได้ กลายเป็นต้นตอปัญหาที่ขยายวงกว้างรุนแรงยิ่งขึ้นทุกมิติ ไม่มีภาวะผู้นำที่แท้จริง ไม่มีจิตสำนึกรับผิดชอบ ความเสียหายทั้งหมดกระทำโดยให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้าเป็นนั่งร้านสนับสนุน ที่เปรียบเสมือนเห็บเหาปรสิตร่วมกับพล.อ.ประยุทธ์คอยสูบเลือดประเทศและประชาชน ถึงเวลาเด็ดหัวสอยนั่งร้าน ตัดวงจรเห็บเหาปรสิต และมีที่มาไร้ความชอบธรรม เข้าสู่อำนาจด้วยการรัฐประหาร เป็นรัฐบาลเถื่อน ฉีกรัฐธรรมนูญและรักษาอำนาจด้วยกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญที่น่าอดสูใจ เขียนรัฐธรรมนูญเพื่อสร้างกองกำลังในสภา

ฉะรัฐบาล 608 อมโรค
เป็นผู้นำไร้ความสามารถ ขาดวิสัยทัศน์ ใช้ปากบริหารประเทศ รู้จักแต่กองกำลังในค่ายทหารจึงเลือกคนที่คุ้นเคยเข้ามาทำงานแบบผิดฝาผิดตัว สร้างความพินาศล้มเหลวให้ประเทศ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง คอร์รัปชั่น ดึงสถาบันมาเป็นคู่ขัดแย้ง กล่าวหาคนเห็นต่างไม่จงรักภักดี ทั้งที่จริงตัวเองแอบอิงใช้ประโยชน์เพื่อต้องการอยู่ในอำนาจ สถาปนาสภากล้วย จงใจเป็นปฏิปักษ์ทำลายระบบรัฐสภาและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข เรื่องนี้ถึงศาลแน่นอน และยังครอบงำชี้นำพรรคการเมือง ก้าวก่ายแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติสั่งการสูตรคำนวณส.ส.หาร 500 เพื่อทำลายพรรคคู่แข่งให้การยึดอำนาจไม่เสียของ เหมือนจับหมูตัวเดียวแต่เผาบ้านตัวเอง เราสร้างแม่มันเป็นวัวแต่แอบไปผสมพันธุ์จนออกลูกมาเป็นควาย

“ขอร้องเพื่อนสมาชิก เรามาจากประชาชนต้องคำนึงถึงความต้องการของประชาชน เพื่อชาติและบ้านเมือง หวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้มาเจอกัน ณ แห่งนี้ และหวังว่าคนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ควรไปจากสภาแห่งนี้ ไปได้แล้วครับ อย่าอยู่เพื่อเป็น 608 ทำลายประเทศชาติ” นพ.ชลน่านกล่าว

ช่วงที่ผ่านมารัฐบาลไม่สามารหารายได้เข้าประเทศได้ แต่กลับตั้งตนเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจมีวิสัยทัศน์ในลักษณะเสพติดอำนาจ ชาวบ้านบอกว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาล 608 อมโรค ป่วย การบริหารราชการทำให้เศรษฐกิจพังพินาศ สถานะการคลังเข้าขั้นวิกฤติ ความสามารถการแข่งขั้นลดลงต่อเนื่อง

ตู่ท้าพาอดีตนายกฯ กลับไทย
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ชี้แจงว่าตั้งโจทย์เยอะแยะแต่ไม่ฟังว่ารัฐบาลทำอะไรบ้าง ฟังไม่ครบหรือฟังโดยใช้อวัยวะข้างเดียว ไม่ได้ฟังสองข้าง นายกฯ ไม่ใช่คนรู้ทุกเรื่อง เก่งทุกเรื่อง หรือฉลาดที่สุด เหมือนบางคนที่บอกเขาฉลาดที่สุดแต่ว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ทุกความสำเร็จพิสูจน์ได้ด้วยตัวเลข วิสัยทัศน์ ความเป็นผู้นำประเทศ ตนก็ไม่ได้ด้อยค่าไปกว่านายกฯ คนอื่นๆ หรืออดีตนายกฯ ของท่าน ความขัดแย้งของคนในชาติ 10 กว่าปีมาแล้ว ตนไม่ใช่คนที่ทำให้เกิดความขัดแย้ง ย้อนกลับไปดูพฤติกรรม ความผิดและดูคนที่ติดคุก ตนไม่ใช่คนที่ต้องการให้แบ่งพวกแบ่งฝ่าย

บอกตนพูดถึง 2 ปี อยากอยู่ต่อ ตนพูดว่าอีก 2 ปีจะผลิดอกออกผล ไม่ได้บอกว่าขออยู่อีก 2 ปี การใช้กลไกทหารทำงาน ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ถ้าจำเป็นก็ต้องใช้ แล้วออกสมัยใครเป็นนายกฯ ถ้าไม่ละเมิดคนอื่นก็ใช้ประโยชน์ได้ทั้งนั้น บริหารไม่เป็นเอง ไม่ใช้เพราะไม่ไว้ใจทหาร ทุกวันนี้ถ้าไม่มีทหาร ตำรวจดูแล จะนั่งอยู่ตรงนี้ได้หรือไม่ “ท่านลองมองด้วยสายตา 2 ข้าง หู 2 หู จะได้เห็นอะไรที่ดีๆ บ้าง สรุปที่พูดไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง ผ่านมาชั่วโมงเต็มๆ ไม่ใช่ข้อเท็จจริงเลย ผมทราบดีว่าท่านคงชื่นชมหลายคนที่เคยทำงานมาก่อนว่าดีกว่าผม แต่ไม่เป็นไร ก็เอากลับมาให้ได้ก็แล้วกัน”

สุทินถลกนายกฯ-อนุทินกัญชาเสรี
เวลา 11.25 น. นายสุทิน คลังแสง ส.ส.พท. อภิปรายประเด็นกัญชาเสรีว่า นายอนุทินและพล.อ.ประยุทธ์ร่วมกันกำหนดนโยบายให้มีกัญชาเสรี นำมาซึ่งการละเมิดกติกาโลก รัฐธรรมนูญ และมติรัฐสภาไทย ละเว้นไม่ออกมาตรการควบคุมกัญชาในสิ่งที่ควรจะมีและควรจะเป็น วันนี้กระทรวงสาธารณสุขเลยเถิดไปถึงอุตสาหกรรมและสันทนาการ เรื่องเศรษฐกิจไม่คุ้ม สังคมเละ แล้วแบบนี้หวังอะไร

มีประโยชน์ทับซ้อนท่านถึงทำแบบนี้ ประโยชน์แรก เรื่องการเมือง เพราะไปพูดกับประชาชนแล้วต้องทำให้ได้ ทำเพื่อให้ได้คะแนนเสียง นายกฯ เองก็ทำเพื่อการเมืองอยากอยู่ต่อ ถ้ามีภาวะผู้นำต้องแลกว่าไม่เอา ที่มีการบอกว่ามีนักการเมืองใหญ่ไปทำไร่กัญชาที่ประเทศลาวเป็นหมื่นเป็นแสนไร่ วันนี้บริษัทยักษ์ใหญ่วางระบบธุรกิจไว้หมด หลังปลดล็อก 9 มิ.ย.2565 ดอกกัญชาวางขายในร้านสะดวกซื้อแบบนี้วางแผนไว้หรือไม่ และยังมีกระซิบมาว่ามีบริษัทยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นแอบมาตกลงกับนักการเมืองไทยเรื่องนี้

แฉผลประโยชน์ทับซ้อน
ล่าสุดเครือซิโน-ไทยลุยธุรกิจกัญชงเต็มที่ เป็นการเปลี่ยนแปลงธุรกิจในตลาดหลักทรัพย์ บริษัท เอสทีพี แอนด์ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI จากทำธุรกิจเหล็กจะมาทำธุรกิจกัญชงแล้ว ตั้งแต่ปี 2564 ผู้ถือหุ้นเยอะคือครอบครัวชาญวีรกูล รัฐมนตรีไม่เกี่ยวเพราะโอนหุ้นไปหมดแล้ว ที่โอนไป บลจ.เกียรตินาคินภัทร ปรากฏว่าบลจ.เกียรตินาคินภัทรไปถือหุ้นในเอสทีพีแอนด์ไอ รัฐมนตรีคงไม่ได้ไปครอบงำสั่งการ ส่วนจะไหปบริหารทางอ้อมอย่างไรก็เหมือนซิโน-ไทย ถ้าได้กำไรจะตกถึงรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าถึงเป็นประโยชน์ทับซ้อน ถ้านายกฯ ไม่ให้ทำก็ทำไม่ได้ จะมาโทษแต่นายอนุทินก็ไม่ได้

ฝากถึงผู้ปลูกกัญชา รัฐวิสาหกิจชุมชน พท.ไม่ได้คัดค้านกัญชา แต่ทำกันดีๆ ขออนุญาตยูเอ็นว่าขอทำแค่ทางการแพทย์ วิจัย และตั้งองค์กรขึ้นมาควบคุม เป็นการทำธุรกิจบนพื้นฐานที่ควรจะเป็น แต่วันนี้สายเสียแล้วเพราะดูเจตนาจะเป็นอย่างอื่น จึงไม่วางใจว่าท่านอยู่ต่อไปกัญชามันจะเตลิดไปไกลกว่านี้ แค่นี้ก็วิตกแบบขนหัวลุก

‘วาโย’ซัดจงใจให้มีสุญญากาศ
นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายโดยเปิดคลิปนายอนุทินปราศรัยเรื่องกัญชา ท่อนหนึ่งระบุ “กัญชาเป็นยาพารวย ปลูกได้คนละ 6 ต้น พี้ในบ้านได้แต่ห้ามไปขายนอกบ้าน” พร้อมกล่าวว่า ตนและพรรคสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ แต่ต้องควบคุมให้ถูกต้อง เหมาะสม รัฐต้องดูแลสุขภาพคนเสพ คนไม่ได้เสพ ข้อมูลจากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ฯ ระบุชัดพิษกัญชาในเด็กจะทำให้พฤติกรรมผิดเพี้ยน ที่สงสัยคือเหตุใดจึงนำร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชง เข้าสภา 8 มิ.ย.2565 ก่อนปลดล็อกกัญชาจากยาเสพติดเพียงวันเดียว เพราะไม่สามารถออกกฎหมายควบคุมได้ทัน แทนที่นายอนุทินจะออกประกาศกฎกระทรวงเลื่อนปลดล็อก 9 มิ.ย.2565 ออกไปก่อน แต่ไม่ทำ ถือว่าจงใจให้เกิดช่องว่างของกฎหมาย นำชีวิตเด็ก เยาวชนไปเสี่ยงอันตราย

นายอนุทินส่งเสริมการผลิตกัญชา อ้างรองรับกัญชาเพื่อการแพทย์ ผูกให้วิสาหกิจชุมชน 1 แห่ง ทำร่วมกับร.พ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล 1 แห่ง แต่อย.ไม่ได้รับซื้อในจำนวนที่คาดไว้เพราะหมอไม่ใช้ นักวิจัยไม่เขียนโครงการ จึงต้องหาช่องทางปล่อยของ และมีความพยายามเพิ่มดีมานด์กัญชาเพื่อการแพทย์ ตั้งเป้าจัดตั้งคลินิกกัญชาทางการแพทย์ ภายในปี 2567 ร.พ.สังกัดสำนักงานปลัด สธ. และกรมวิชาการต้องมีคลินิกกัญชาทั้งหมด สถานพยาบาลเอกชนต้องมีคลินิกกัญชาเขตสุขภาพละ 10 แห่ง

กูเฮงฉะกัญชาเสรีที่สุดโต่ง
นายกูเฮง ยาวอหะซัน ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาชาติ (ปชช.) อภิปรายว่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาใหญ่ที่สุดคือยาเสพติด ที่นราธิวาสลูกหลานที่อยู่ในคุกมาจากยาเสพติดทั้งนั้น วันนี้เปิดกัญชาเสรีบ้านของตนจะเละขนาดไหน นอกจากจะละเมิดศาสนา ยังมีเรื่องศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย ทั่วโลกกำลังมองว่าเราทำอะไรกันอยู่ คนไทยไปต่างประเทศถูกจับจ้องว่านำสิ่งเสพติดเข้าไป

“ชาวบ้านบอกผมว่าท่านอย่าเป็น ส.ส.ที่กินกล้วย เพราะวันนี้มี ส.ส.ของเรากินกล้วยผสมกัญชา กัญชาอาจร้ายแรงกว่ากล้วยใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ฝากรัฐมนตรียุติหรือชะลอเรื่องนี้ อย่าเพิ่งให้กัญชาแพร่ระบาดในสังคม การใช้กัญชาเสรีที่สุดโต่งจะเป็นซอฟต์เพาเวอร์ใน 3 จังหวัดใต้ แต่คน 3 จังหวัด มองว่าจะกลายเป็นแลนด์สไลด์เพาเวอร์ จะเป็นพรรคไหนคงคิดเองได้” นายกูเฮงกล่าว

โวย 36 รมต.ไม่มีใครอยู่ฟัง
ขณะที่ นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. ประท้วงการทำหน้าที่ประธานของนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา เนื่องจากรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายทั้ง 11 คน ไม่อยู่ในที่ประชุม โดยไม่มีรัฐมนตรีคนใดจาก 36 คน อยู่ฟังเลย ซึ่งนายศุภชัย ชี้แจงว่า นายอนุทิน และนายศักดิ์สยาม แจ้งไปรับประทานอาหาร แต่จะฟังการอภิปรายตลอด รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ด้วย

นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พท. อภิปรายถึงความล้มเหลวการแก้โควิด-19 ของนายอนุทินว่า รัฐบาลพยายามสร้างภาพคุม โควิด-19 ได้ แต่ขณะนี้โรงพยาบาลรัฐหลายแห่งปฏิเสธรับผู้ป่วยไปร.พ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล มักได้ยาแก้ปวด แก้แพ้ ฟ้าทะลายโจร ไม่ได้โมลนูพิราเวียร์อ้างว่าหมด ในกลุ่มไลน์แพทย์ยืมยากันให้วุ่น แต่รัฐมนตรีบอกยามีเหลือเฟือ มีความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงยาโมลนูฯ ผู้หลักผู้ใหญ่เข้าถึงได้ง่ายได้เร็ว แต่ชาวบ้านเข้าไม่ถึง วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าค้างสต๊อก 30 ล้านโดส วงเงิน 1 หมื่นล้าน รอวันหมดอายุ เพราะป้องกันสายพันธุ์โอมิครอนไม่ได้ แทนที่จะเลิกสั่งแต่ครม.แค่ลดจำนวนซื้อและซื้อมาเติมตลอดปี ล่าสุดสั่งเพิ่มมาอีก 22 ล้านโดส เป็นแอสตร้าฯ 55 ล้านโดส

โต้ยิบ – นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ซึ่งถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคนแรกจากทั้งหมด 11 คน ชี้แจงโต้ข้อกล่าวหาฝ่ายค้าน โดยยืนยันสามารถควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และดำเนินนโยบายกัญชาเสรีเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจ ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 19 ก.ค.

อนุทินโต้แก้โควิดล้มเหลว
เวลา 14.40 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สสาธารณสุข ชี้แจงยืนยันการแก้โควิด-19 สถานการณ์ดีขึ้นเรื่อยๆ ระบบสาธารณสุขไทยไม่ได้ล้มเหลว เร่งจัดหาวัคซีนและฉีดให้ประชาชนกว่า 140 ล้านโดส หรือมากกว่า 70% ของจำนวนประชากร ที่นพ.สุรวิทย์พยายามด้อยค่าวัคซีนที่ผลิตจากจีนและวัคซีนแอสตร้าฯ ยืนยันไม่มีวัคซีนเหลือ หรือรอหมดอายุเททิ้ง และมียารักษาเพียงพอ ข้อมูลนพ.สุรวิทย์ เป็นเท็จ โหดร้ายและเหี้ยมโหดที่มาด้อยค่าวัคซีน เพียงเพื่อตอบสนองการเมือง

เมื่อออกประกาศกระทรวง คนที่ยังใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็เสี่ยงผิดกฎหมาย จึงไม่มีช่องว่างช่องโหว่ ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง กระทรวงศึกษาการใช้กัญชาทางการแพทย์เป็นอย่างดี ตนจึงเข้ามาต่อยอด นี่คือนโยบายของรัฐบาลไม่มีการสนับสนุนเพื่อนันทนาการ การนำกัญชา กัญชงไปใช้ในทางที่ผิดจะไม่เกิดขึ้นในรัฐบาลชุดนี้ มั่นใจร่างพ.ร.บ.กัญชากัญชงจะควบคุมการใช้ในเยาวชนและการใส่ในอาหารได้ ระหว่างที่กฎหมายยังไม่ประกาศใช้ กระทรวงมีกลไกควบคุมการใช้ โดยออกประกาศกระทรวง ซึ่งรัฐบาลกำชับเจ้าหน้าที่บังคับใช้ประกาศกระทรวงอย่างเคร่งครัด

แจงคลิปกัญชา-พูดติดตลก
นพ.สุรวิทย์ใช้สิทธิพาดพิง ยืนยันข้อมูลอภิปรายมาจากกระทรวงสาธารณสุขย้อนไปตรวจสอบได้ และต้องให้ประชาชนตัดสินข้อมูลที่นายอนุทินชี้แจงเป็นความจริงหรือไม่ ขณะที่ นพ.วาโย ย้ำว่า สรุปนายอนุทินมีอำนาจออกประกาศกระทรวงขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายอีก 120 วันหรือไม่ หากทำได้ทำไมไม่ทำ จะได้ไม่ต้องออกประกาศกระทรวงมากมายควบคุม

นายอนุทินชี้แจงว่า ประกาศกระทรวงรัฐมนตรีต้องทำตามคำแนะนำของ ป.ป.ส. ที่ขอให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจาฯ 120 วัน ซึ่งมาตก 9 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ทุกอย่างทำกระบวนการและหลักการ ส่วนเรื่องวิดีโอคลิป ตนบอกว่าให้สูบกัญชาในบ้านห้ามออกไปข้างนอก เหมือนรายละเอียดในร่างพ.ร.บ.กัญชาของพรรคก.ก. ยอมรับว่าพูดติดตลกบ้าง ถ้าทำให้ไม่สบายใจก็ขอโทษคราวหน้าจะระมัดระวัง

ปช.ถลกศักดิ์สยาม-เขากระโดง
จากนั้นเวลา 15.50 น. เป็นการอภิปราย นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม โดยนายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ส.ส.นราธิวาส ปช. อภิปรายการครอบครองที่ดินเขากระโดง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ 5,083 ไร่ ของรฟท. โดยรัฐมนตรีและพวกพ้องยังทำธุรกิจและพักอาศัยอยู่ตรงนี้ ทั้งที่กฤษฎีกา ป.ป.ช. อสส.ก็วินิจฉัยให้เป็นที่ของรฟท. ให้เพิกถอนเอกสารสิทธิ และฟ้องให้เพิกถอน แต่พยายามยื้อ

โฉนดเลขที่ 3466 และ 3564 ที่อัยการบอกให้เพิกถอน เป็นที่ตั้งของหจก.หลายบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ทั้ง บริษัท ศ ที่บริจาคเงินให้ภท. 4.7 ล้านบาท หจก.บ บริจาค 4.8 ล้านบาท ส่วนคดีที่ศาลพิพากษาที่ดินของนายเอ ปี 61 แต่ไม่มีการบังคับคดี ซึ่งพบข้อมูลนายศักดิ์สยามโอนหุ้น หจก.บ 119 ล้านบาท ให้นายเอ โดยนายเอบริจาคให้ ภท. ขณะที่ บริษัท ศ ที่มีกรรมการผู้จัดการคือ นาย อ นามสกุลเดียวกับรัฐมนตรี ก็ยืมเงินจากนายเอต่อเนื่องจากปี 61-63 ทั้งที่นายเอเคยเป็นพนักงานบริษัทเท่านั้น

ก้าวไกลแฉนอมินีถือหุ้น
นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. อภิปรายว่า นายศักดิ์สยามยืมชื่อนอมินีมาถือครองหุ้น ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ขัดรัฐธรรมนูญ ปกปิดทรัพย์สิน ทรยศต่อประชาชน ธุรกิจที่ว่านี้คือ หจก.นี้ได้งานจากคมนาคมในยุค คสช. มูลค่ารวม 400 กว่าล้านบาท ม.ค.2561 ก็โอนหุ้นนี้ทั้งหมด ขายจริงหรือแค่เปลี่ยนชื่อเลี่ยงกฎหมาย โดยโอนหุ้นให้นายเอ เช่นกัน นอกจากซุกหุ้นแล้วนายศักดิ์สยาม ยังนำ หจก.บุรีเจริญ มาเป็นคู่สัญญากับรัฐ รับงานในกระทรวงคมนาคมที่ตัวเองเป็นรัฐมนตรี มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท หลายงานผิดปกติ

ภท.ประท้วง-ป้องศักดิ์สยาม
เวลา 17.45 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการ ปช. อภิปรายว่า นายศักดิ์สยามไม่มีคุณสมบัติป็นรัฐมนตรีหลายประเด็น อาทิ การขัดกันแห่งผลประโยชน์ เอาห้างหุ้นส่วนเข้าทำสัญญากับรัฐ ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไร้คุณธรรม จริยธรรม ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ก้าวก่าย แทรกแซง เอื้อพวกพ้อง ใช้อำนาจเพื่อให้ตัวเองและพวกพ้อง และมีส่วนได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆ ของรัฐ ซึ่งเกี่ยวโยงกับการถือครองที่ดินเขากระโดง และการถือหุ้น หจก.เจริญบุรี และหจก.ศิลาชัย

ตลอดการอภิปรายของพ.ต.อ.ทวี ส.ส.ภท. ประท้วงเป็นระยะ อาทิ นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายรังสิกร ทิมาตฤกะ ส.ส.บุรีรัมย์ ประท้วงอภิปรายวนเวียน ซ้ำซากกับฝ่ายค้านคนอื่น

ขณะที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ที่ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม วินิจฉัยในทิศทางเดียวกันกับการประท้วงของส.ส. ภท. ทำให้นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ประท้วงนายศุภชัย ให้ทำหน้าที่ประธานอย่างเป็นกลาง ทำให้นายศุภชัยสวนกลับ ยืนยันไม่เคยเอนเอียง ก่อนวินิจฉัยให้พ.ต.อ.ทวี อภิปรายต่อจนจบ

กก.ซัดแผนMR-Mapผลาญงบ
เวลา 18.50 น. นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ก.ก. อภิปรายถึงโครงการ MR-Map หรือแผนแม่บทยุทธศาสตร์การคมนาคมใหม่ทั้งประเทศ มีทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูงและมอเตอร์เวย์ ปัญหาหลักคือความซ้ำซ้อน เกินจำเป็นและไม่คุ้มค่า ใช้งบสูงถึง 5.7 ล้านล้านบาท ที่รัฐบาลเร่งดันรถไฟความเร็วสูงทำเพื่อกลุ่มทุน ตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ยุคไปชิดชอบบุรี งบซ่อมถนนใน จ.บุรีรัมย์ นำโด่ง มีการดึงงบไปถึงชิดชอบบุรีก่อนเสมอ ตั้งแต่บ้านนายศักดิ์สยาม ทางเข้าสนามบอลและทางเข้าสนามแข่งรถ เงินเหลือถึงแบ่งให้ชาวบุรีรัมย์

เวลา 19.30 น. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.อนุพงษ์ นายนิพนธ์ และนายศักดิ์สยาม ว่า ร่วมมือวางแผนขายชาติ ให้ต่างชาติมาซื้อที่ดินได้ รัฐบาลชุดขายชาติกิน กำลังจะออกกฎหมายขายชาติ

ทั้งนี้ การอภิปรายจะมีต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 22 ก.ค. และลงมติ 23 ก.ค.

ธรรมนัสดีลกลุ่ม 16 คว่ำป๊อก-สันติ
นายพีระวิทย์ เรื่องลือดลภาค หัวหน้าพรรคไทยรักธรรม เผยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) มาหารือกับนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม 16 บริเวณหลังห้องประชุมสภา ถึงแนวทางการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยมีข้อสรุปร่วมกันว่าจะจัดหนัก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง และมีแนวโน้มโหวตคว่ำทั้ง 2 คน แต่ขอฟังการอภิปรายก่อน ส่วนจะมีใครเพิ่มเติมหรือไม่นั้นจะมีการแถลงจากพรรคเล็กรายวัน ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้พูดคุยกับสมาชิกกลุ่ม 16 และคุยกันว่าจะโหวตอย่างไรก็ว่าตามกัน

พีระวิทย์รับดีลเสี่ยเฮ้ง
นายพีระวิทย์ เผยด้วยว่า ระหว่างอภิปรายช่วงหนึ่งได้พบปะกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ซึ่งเจรจาโน้มน้าวให้โหวตไว้วางใจ แต่ตนขอรับฟังการอภิปรายก่อน กลุ่ม 16 จะแถลงจุดยืนวันต่อวัน และจะโพสต์เฟซบุ๊กแจ้งว่ารัฐมนตรีกี่คนที่น่าเป็นห่วง ขณะนี้การชี้แจงของนายอนุทินเรื่องกัญชาเสรี หากจะผิดก็ผิดร่วมกันทั้งสภาที่โหวตรับหลักการร่างกฏหมาย ส่วนประเด็นของนายศักดิ์สยาม รอการชี้แจงที่ดินเขากระโดง

ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. หัวหน้ากลุ่ม 16 กล่าวถึงการพูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส ว่า เป็นการสอบถามถึงทิศทางทางการเมือง ซึ่งร.อ.ธรรมนัสยืนยันว่าจะโหวตไปทิศทางเดียวกับฝ่ายค้าน ยกเว้นพล.อ.ประวิตร ส่วนกลุ่มพรรคเล็กขอฟังการอภิปราย เพราะต้องมีมติกับกลุ่ม 16 ซึ่งจะประชุม 22 ก.ค.นี้ โดยมุ่งเน้นไปที่ 5-6 รัฐมนตรีที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ โดยเฉพาะนายสันติ เรื่องท่อส่งน้ำอีอีซี รวมถึงพล.อ.อนุพงษ์ ที่มีปัญหาเรื่องมนุษยสัมพันธ์ ส่วนตัวได้ส่งสัญญาณไปยังพล.อ.อนุพงษ์ และคิดว่าจะมีการปรับตัว

ป๊อกเคลียร์ใจสส.พปชร.
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีข่าวสะพัดน่าเป็นห่วงคะแนนโหวต พล.อ.อนุพงษ์ นั้น ขณะนี้สถานการณ์ดีขึ้นไม่น่าเป็นห่วง เนื่องจากบ่าย 19 ก.ค. ที่รัฐสภา แกนนำพปชร.รายหนึ่ง พาพล.อ.อนุพงษ์ ไปนั่งพูดคุย กับส.ส.พปชร. นานกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อรับฟังปัญหาและเคลียร์ใจในการทำงานกับ ส.ส. ถือเป็นครั้งแรกที่พล.อ.อนุพงษ์ มานั่งรับฟังเสียงส.ส.พปชร. อย่างใกล้ชิด และย้ำกับส.ส ถึงความสัมพันธ์ของ 3 ป.ว่ายังเหมือนเดิม

ที่ประเมินกันว่าเสียงโหวตน่าห่วง เป้าหมายน่าจะไปตกที่รัฐมนตรี ปชป. มากกว่า จากปัญหาในพรรค เช่น กรณีนายจุรินทร์ และนายนิพนธ์ ที่มีข่าวว่านายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และนายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จะไม่โหวตให้ รวมถึงนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมฯ ที่ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับพรรคนานแล้ว

สะพัดสส.รีดรมต.หัวละ 2 ล.
ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่ม 16 ว่า ขณะนี้ยังมีการพูดคุยต่อรองเจรจากับรัฐมนตรีที่มีรายชื่อถูกอภิปราย โดยมีการเรียกรับเงิน 1-2 ล้านบาท เพื่อแลกกับการยกมือโหวตไว้วางใจ แต่รัฐมนตรีของภท.ไม่จ่ายเงินให้ เพราะมั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด อีกทั้งยังมั่นใจเสียงของพรรคและเสียงงูเห่าจากฝ่ายค้าน

ส่วนการโหวตล่าสุดกลุ่ม 16 หารือกันว่าอาจมีการลงมติไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ เพิ่มอีก 1 คน ซึ่งครั้งแรกมีรัฐมนตรีที่จะถูกโหวตคว่ำ 5 คน ส่วนการลงมติให้ พล.อ.ประยุทธ์ และนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน จะผ่านแน่นอน เพราะนายสุชาติคลียร์กับกลุ่ม 16 ในส่วนนายกฯและตนเองลงตัวแล้ว รวมถึงนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ก็เคลียร์ตัวเองแล้วเช่นกัน ยกเว้น พล.อ.อนุพงษ์ และนายสันติ โดยคาดรัฐมนตรีที่จะได้คะแนนน้อยที่สุดหรือบ๊วย คือ พล.อ.อนุพงษ์

ตู่เย้ยซักฟอกไม่มีอะไรใหม่
เวลา 20.36 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวก่อนเดินทางกลับหลังฟังอภิปรายวันแรกว่า ไม่ค่อยต่างกันเท่าไร ไม่ค่อยต่างจากครั้งก่อน วันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ครั้งที่แล้วเป็นการอภิปรายทั่วไป ดูแล้วไม่ต่างกัน ตนจะใช้เวลาตอบเป็นเรื่องๆไป รัฐมนตรีแต่ละคนตอบได้เองอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ไม่ได้วิตกประเด็นใดในเวลาที่เหลือ 2-3 วันใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมผ่านอะไรมาเยอะแยะแล้ว ไม่เฉพาะเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เป็นนายกฯนะ”

เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจพล.อ.อนุพงษ์ หรือไม่ ที่ถูกพุ่งเป้า นายกฯ กล่าวว่า ก็ใจถึงใจอยู่แล้ว เมื่อถามว่าคิดว่าจะผ่านไปด้วยดีหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “คิดว่าเป็นอย่างนั้น ผมเชื่อมั่นในตัวท่าน”

ไม่อนุญาตตั้งแคมป์หน้าสภา
วันเดียวกัน สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (สผ.) เผยแพร่เอกสารระบุ ว่าที่ ร.ต.ยุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ในฐานะโฆษกประจำ สผ. ชี้แจงว่า ตามที่กลุ่มราษฎรมีหนังสือขออนุญาตใช้พื้นที่ลานกว้างหน้ารัฐสภา (ฝั่งประตู ส.ส.) จัดกิจกรรม “แคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์” นั้น สผ.ในฐานะผู้ว่าจ้างก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ยังไม่ได้รับมอบพื้นที่ตามสัญญาจ้างจากบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้รับจ้างก่อสร้าง ประกอบกับระเบียบรัฐสภาว่าด้วยการบริหารจัดการพื้นที่และอาคารรัฐสภา พ.ศ.2545 กำหนดหลักการไว้ว่า การใช้งานพื้นที่หรืออาคารรัฐสภาต้องเป็นไปเพื่อการปฏิบัติหน้าที่นิติบัญญัติ หรือการบริหารราชการฝ่ายรัฐสภา ด้วยเหตุนี้ สผ. จึงยังไม่อาจอนุญาตตามความประสงค์ในขณะนี้ได้

สภาประชาชน – กลุ่มราษฎรจัดกิจกรรม ‘แคมป์ปิ้งฟังสภา จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลประยุทธ์’ และเปิดให้ประชาชนร่วมลงมติ คู่ขนานการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ในสภาผู้แทนฯ ที่ลานกว้างหน้ารัฐสภา (ฝั่งประตู ส.ส.) เมื่อวันที่ 19 ก.ค.

กลุ่มราษฎรลั่นปักหลักต่อ
เวลา 17.00 น. ทางกลุ่มผู้ชุมนุมยังคง ปักหลักอยู่ที่หน้ารัฐสภา ยืนยันจะชุมนุมไม่ไปไหน จนกว่าจะถึง 23 ก.ค. วันลงมติ ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมมีการจัดกิจกรรม อาทิ ปราศรัย แสดงดนตรี เสวนาสรุปการอภิปราย และมีถ่ายทอดสดการจัดกิจกรรมอีกด้วย

นายเอเลียร์ ฟอฟิ ตัวแทนจากคณะราษฎร ให้สัมภาษณ์ว่า การไม่ส่งมอบพื้นที่ระหว่างผู้รับเหมากับทางราชการไม่ใช่เหตุผลในการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการชุมนุม เรายืนยันจะจัดต่อไป โดยจะปักหลักอยู่ที่นี่แน่นอน ส่วนกล่องลงมติมาจาก 34 จังหวัด กำลังทยอยมา ศุกร์ที่ 22 ก.ค. เวลา 17.00 น. พวกเราจะเปิดกล่องมติ ขานออกเสียงออกมา โดยที่จะแบ่งจุดขานออกเสียงเป็น 5 จุด คือ 5 ภูมิภาค

ศาลยกคำร้องปล่อย‘ใบปอ-บุ้ง’
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอ่านคำสั่งในคำร้องขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ และน.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือผักบุ้ง จำเลยที่ 2-3 คดีหมายเลขดำ อ.765/2565 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องน.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์กับพวก 8 คนเป็นจำเลยในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และมาตรา 116 ในคดีทำโพลขบวนเสด็จ ที่บริเวณห้างสยาม พารากอน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2565

ก่อนหน้านี้ จำเลยที่ 2-3 ถูกเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวเนื่องจากผิดเงื่อนไข เเละมีการยื่นประกันหลายครั้ง พร้อมทั้งยื่นอุทธรณ์ เเต่ที่ผ่านมาศาลยกคำร้อง

โดยวันนี้ ศาลอ่านคำสั่งพิเคราะห์แล้ว เห็นว่าคำร้องประกอบคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 2 และที่ 3 ปรากฏข้อความเพียงว่าระหว่างพิจารณาคดีที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ จำเลยที่ 2 และที่ 3 ป่วยมีอาการปวดท้อง หน้ามืดวิงเวียน ศาลจึงแจ้งหน่วยฉุกเฉินทางการแพทย์จากภายนอกมาตรวจในห้องพิจารณา หลังตรวจแจ้งต่อศาลว่าจําเป็นต้องส่งไปพบแพทย์เป็นการด่วน

ศาลจึงมีคําสั่งให้ส่งตัวจําเลยที่ 2 และที่ 3 ไปโรงพยาบาลเลิดสิน ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ศาลอาญากรุงเทพใต้ จึงเป็นเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวจําเลยที่ 2 และที่ 3 ไปเพื่อรับการรักษาให้พ้นจากภัยอันตรายถึงแก่ชีวิตและเป็นเหตุที่ศาลสามารถพิจารณาอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้ และคำร้องยินยอมเป็นผู้กำกับดูแลของพี่สาวของจำเลยที่ 3 ก็ปรากฏข้อความเพียงว่าผู้ร้องประสงค์จะรับเป็นผู้กำกับดูแลจําเลยที่ 2 และที่ 3 ในระหว่างที่ศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณา โดยจะกําชับมิให้ จําเลยที่ 2 และที่ 3 ทำกิจกรรมหรือกระทําการใดที่อาจเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จะกำชับมิให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 โพสต์เชิญชวนปลุกปั่นยั่วยุชักจูงประชาชนให้เข้าร่วมชุมนุมในสื่อโซเชี่ยลมีเดียหรือร่วมชุมนุมที่อาจก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง และจะกำชับให้จำเลยที่ 2 และ 3 ปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นใดตามที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาได้กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด

โดยผู้ร้องแจ้งว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 ยินยอมให้ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EM) และ ยินยอมให้จํากัดระยะเวลาการเดินทางเว้นแต่เหตุทางการรักษาพยาบาล การศึกษาหรือเหตุ จําเป็นเร่งด่วนประการอื่นเท่านั้น

โดยที่คำร้องทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวก็ยังคงไม่ปรากฏข้อความหรือข้อเท็จจริงอื่นใดที่จะแสดงให้เห็นว่าหากจําเลยที่ 2 และที่ 3 ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างพิจารณาแล้วจะสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อห้ามและคำสั่งศาลได้อย่างเคร่งครัด

ส่วนกรณีที่ผู้ร้องซึ่งเป็นพี่สาวของจำเลยที่ 3 ประสงค์จะเป็นผู้กำกับดูแลของจำเลยที่ 2 และที่ 3 โดยจะกำกับดูแลและกำชับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ดังกล่าวนั้นก็เป็นหน้าที่ของผู้กำกับดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราวที่มีหน้าที่จะต้องดำเนินการเช่นนั้นอยู่แล้ว และกรณีที่จำเลยที่ 2 และ 3 ป่วย ศาลมีคำสั่งให้ส่งตัวส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลเลิดสินก็ปรากฏว่าสุขภาพโดยรวมของจำเลยที่ 2 และที่ 3 ยังเป็นปกติตามบันทึกข้อความของแพทย์ผู้ตรวจรักษา กรณีจึงยังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงให้ยกคำร้อง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน