อ้างพิษโควิดทำหมดตัว ลงมือในกรุง-เผ่นอุบลฯ
บช.น.ตามจับได้แล้วโจรควงปืนบีบีกันชิงทองรูปพรรณมูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาทจากร้านทองในโลตัสพัฒนาการ เผยชุดจับกุมตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามตะครุบตัวคาแมนชั่นกลางเมืองอุบลฯ พบเป็นเจ้าของร้านอาหารย่านลาดพร้าว- วังหิน สารภาพติดหนี้พนัน-หนี้นอกระบบ เผยนำทองไปขายที่ร้านทองหลายแห่งใน อ.อรัญประเทศและกาสิโนในประเทศกัมพูชา
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผบช.น., พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น., พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบช.น., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5, พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รองผบก.น.5, พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.คลองตัน, พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สส.บก.น.5, พ.ต.ต.ภัคธนสันต์ เก่งเขตรกิจ สว.กก.สส.บก.น.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คลองตัน แถลงจับกุมนายประภากร หรือกร ศรีสมบูรณ์ อายุ 42 ปี จับกุมได้ที่ ห้องพักเลขที่ 210 ชั้น 2 ฝันดีแมนชั่น ซอยชยางกูร 38 ถนนชยางกูร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
พร้อมกันได้ตรวจยึดของกลาง ประกอบด้วย สร้อยข้อมือทองคำจี้ รูปหัวใจ พบในขวดโลชั่นทาผิวจำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำจี้ รูปปี่เซียะ พบในขวดโลชั่นทาผิวจำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำลายลูกคิดพลอย พบในขวดโลชั่นทาผิว จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำจี้เลข 8 พบในขวดโรลออน จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำจี้กุหลาบหัวใจเลข 9 พบในขวดโรลออน จำนวน 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำลายดอกพิกุล พบในขวดแป้ง จำนวน 1 เส้น ตะขอทองคำรูปตัว S พบในขวดแป้ง จำนวน 1 ชิ้น ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 500 บาท พบในกระเป๋ากางเกงข้างหน้าซ้าย ตัวที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่ จำนวน 1 ฉบับ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 50 บาท พบในกระเป๋ากางเกงข้างหน้าซ้ายที่ผู้ต้องหาสวมใส่อยู่ จำนวน 1 ฉบับ ธนบัตรรัฐบาลไทย ฉบับ 1,000 บาท จำนวน 12 ฉบับ และโทรศัพท์มือถือรวม 3 เครื่อง
ปล้นทอง – ตำรวจสืบสวน บก.น.5 บุกจับนายประภากร ศรีสมบูรณ์ อายุ 42 ปี เจ้าของร้านเหล้าที่กทม.เจอพิษโควิด ใช้ปืนบีบีกันปล้นร้านทองได้ทองคำหนัก 45 บาท ขณะหนีไปกบดานที่อพาร์ตเมนต์ ในจ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 20 ก.ค.
พล.ต.ท.สำราญ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 ก.ค.65 เวลาประมาณ 19.40 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ได้รับแจ้ง ผ่านวิทยุผ่านฟ้าว่ามีเหตุชายไทยไม่ทราบชื่อ ใช้วัตถุสีดำ คล้ายอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก ก่อเหตุชิงทรัพย์สร้อยคอทองคำที่ร้านทองพรสุพรรณ ภายในห้างสรรพสินค้าโลตัส พัฒนาการ แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ออกตรวจที่เกิดเหตุและกล้องวงจรปิดพบเป็นชายไทย ไม่ทราบชื่อ สวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวแถบสีแดง สวมหมวกแก๊ปด้านหน้าสีขาว-ด้านหลังสีดำ สวมรองเท้าผ้าใบ สีดำ สะพายกระเป๋าเป้สีเทา ได้ใช้วัตถุสีดำ คล้ายอาวุธปืน ห่อด้วยผ้าขนหนูสีขาว-ฟ้า ข่มขู่พนักงานภายในร้าน ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท 27 เส้น, เป็น สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 3 บาท 6 เส้น รวมจำนวน 34 เส้น น้ำหนักรวม 45 บาท
ด้านพ.ต.อ.จิรกฤต กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าหลังชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนบีบีกันชิงทองมาได้แล้ว ได้หลบหนีออกจากห้างสรรพสินค้าโดยใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซูเมอร์เอ็กซ์ สีเทา ไม่ติดแผ่น ป้ายทะเบียน หลบหนีไปตามถนนพัฒนาการ จากนั้นทิ้งรถจักรยานยนต์ดังกล่าวที่ซอยพัฒนาการ 51 มุ่งหน้าศรีนครินทร์ เปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นได้ใช้รถแท็กซี่อีก 5 คันเพื่อหลบหนีการจับกุม
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ใช้เทคนิคการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากการไล่ติดตามกล้องวงจรปิด จนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายประภากร หรือกร อายุ 42 ปี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ โดยศาลอาญาพระโขนงได้อนุมัติหมายจับ ต่อมาวันที่ 19 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวนายประภากร ที่ห้องพักเลขที่ 210 ชั้น 2 ฝันดีแมนชั่น ซอยชยางกูร 38 ถนนชยางกูร อ.เมือง จ.อุบลราชธานี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง ก่อนหน้านี้ เคยเป็นเจ้าของร้านเหล้าชื่อ มาย เวย์ บริสโต บาร์ (My Way Bistro Bar) ย่านลาดพร้าววังหิน แต่ถูกจับฝ่าฝืนเปิดจำหน่ายสุราช่วงโควิดและทำให้ลูกค้าที่ดื่มสุราถูกจับกุม จึงทำให้ขาดรายได้ จนต้องไปกู้นอกระบบ อีกทั้งติดหนี้สินการพนันออนไลน์ จึงได้วางแผนโพสต์อยู่ในเฟซบุ๊กแผนปล้น 100 ครั้ง คิดหนี 150 ครั้ง เนื่องจากดูหนังโจรกรรมมาค่อนข้างเยอะ เริ่มขโมยรถจักรยานยนต์ต่อสายตรงมา ขโมยรถจักรยานยนต์แถวย่านรามอินทรา แล้วมาก่อเหตุดังกล่าว ก่อนนะนำของกลางไปขายร้านทองย่านอ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนหลบหนีไปที่จ.อุบลราชธานี แล้วถูกจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสน.คลองตัน ดำเนินคดีตามกฎหมาย
