ม็อบชาวพม่าชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมาในไทย คัดค้านรัฐบาลทหารเมียนมาสั่งประหาร 4 นักกิจกรรม รวมถึงส.ส.เมียนมา ผิดปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง วอนอาเซียนและรัฐบาลไทยเคลื่อนไหวต่อท่าทีรัฐบาลเผด็จการทหารพม่า โฆษกบัวแก้วแสดงความเสียใจต่อครอบครัวทั้ง 4 ชีวิต ชี้อาจสร้างความวุ่นวายมากขึ้น พท.ออกแถลงการณ์ประณามยืนยันสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนในการเรียกร้องประชาธิปไตย จี้รัฐบาลไทยแสดงจุดยืนอย่างจริงจังและชัดเจน

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 26 ก.ค. ที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ถ.สาทรเหนือ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ กลุ่มแรงงานชาวเมียนมาประมาณ 200 คน รวมตัวชุมนุมเพื่อต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมา ชูธงชาติ เมียนมา ป้ายข้อความและรูปภาพของนาง ออง ซาน ซู จี นายจ่อ มิน ยู และนายเพียว เซยา ตอ ส.ส.เมียนมา เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ และยื่นหนังสือข้อเรียกร้องต่อสถานทูตเมียนมา

โดยระบุว่า ตามที่สื่อหลายสำนักรายงานเมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมาว่า กองทัพพม่าประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเพื่อประชา ธิปไตย 4 คน รวมถึงนายจ่อ มิน ยู แกนนำคนสำคัญ และนายเพียว เซยา ตอ ส.ส.พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) โดยทั้ง 4 คนถูกตัดสินว่ากระทำความผิดฐานก่อการร้ายภายใต้การพิจารณาคดีแบบปิดลับ

ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (UDHR) และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) เป็นตราสารหลักด้านสิทธิมนุษยชนของนานาชาติ ได้รับรองสิทธิในชีวิตในฐานะสิทธิสูงสุดที่ไม่สามารถถูกพรากไปได้โดยอำเภอใจ รวมถึงไม่อนุญาตให้ลิดรอนได้

แม้แต่ในสถานการณ์ความขัดแย้งทางอาวุธและเหตุฉุกเฉินสาธารณะอื่นๆ ที่คุกคามความอยู่รอดของชาติ การใช้โทษประหารชีวิตถือเป็นการพรากสิทธิในชีวิต จึงควร งดเว้นหรือยกเลิกไป และไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม โทษดังกล่าวไม่ควรถูกนำมาใช้เป็นบทลงโทษกับการกระทำความผิดทางอาญาที่เป็นการละเมิด ICCPR โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มต่อต้านการเมือง

พวกเราในฐานะเพื่อนประชาชนจึงขอประณามการประหารชีวิตดังกล่าวที่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง และ มีข้อเรียกร้องเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในอนาคต ดังนี้ 1.กองทัพพม่าต้องคืนอำนาจให้ประชาชนตามวิถีทางประชาธิปไตยและยุติบทบาทการควบคุมอำนาจโดยเร็ว 2.ประชาคมอาเซียนต้องยืนหยัดและมีมาตรการอย่างเฉียบขาดชัดเจน ให้กองทัพพม่าเคารพในสิทธิมนุษยชนสิทธิเสรีภาพของประชาชน

3.รัฐบาลไทยต้องแสดงออกท่าทีที่ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการปราบปรามประชาชนที่เห็นต่างจากกองทัพพม่า รวมถึงการใช้โทษประหารชีวิตกับประชาชนที่เห็นต่างจากกองทัพ และควรมีบทบาทร่วมกับประชาคมอาเซียนในการฟื้นฟูประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในพม่า 4.กลไกของสหประชาชาติและประชาคมระหว่างประเทศ ควรมีบทบาทมากขึ้นในการยุติความรุนแรงและฟื้นฟูประชาธิปไตยคืนสู่พม่าโดยเร็ว

รัฐบาลไทยต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยกับการปราบปรามประชาชนที่เห็นต่างของกองทัพพม่า รวมถึงการใช้โทษประหารชีวิตกับประชาชนที่เห็นต่างจากกองทัพ และควรมีบทบาทร่วมกับประชาคมอาเซียนในการฟื้นฟูประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในพม่า

ต้านเผด็จการ – ชาวเมียนมา ในประเทศไทยจำนวนมากชุมนุมที่หน้าสถานทูตประจำประเทศไทย ถนนสาทร กรุงเทพฯ ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมียนมาสั่งประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวประชาธิปไตย 4 คน เมื่อวันที่ 26 ก.ค.

ระหว่างนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนตัวลงมาบนถนนสาทร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปิดช่องการจราจร ช่วงหน้าสถานทูต 1 ช่องทาง ต่อมา พ.ต.อ.ธนโชติ ฤกษ์ดี ผกก.สน.ยานนาวา พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมนึก ภู่ประภา สวป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันและปราบปราม ประกาศแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมขึ้นไปบนทางเท้าและให้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่จำกัด และให้ยุติกิจกรรมทันที ทางแกนนำจึงประกาศยุติการชุมนุมและให้ผู้ชุมนุมแยกย้ายกันกลับในเวลา 14.40 น.

หญิงสาวชาวเมียนมาให้สัมภาษณ์ถึงการออกมาร่วมชุมชุนในครั้งนี้ว่า เราไม่พอใจ กับการที่ผู้นำเมียนมาก่อความรุนแรงกับประชาชน ไม่บอกเหตุผลว่าทำไมถึงประหารชีวิต และรัฐบาลต้องการอะไร ยืนยันชาว เมียนมาไม่ยอมแน่นอน เพราะสิ่งที่รัฐบาลทำจะทำให้ชาวเมียนมาลุกขึ้นมาโต้กลับ

ด้านนายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตอบต่อคำถามจากสื่อมวลชนกรณีทางการเมียนมาประหารชีวิตนักโทษ 4 รายว่า เราเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย 4 ชีวิต ซึ่งสร้างความวุ่นวายใจที่มากขึ้นต่อปัญหาในเมียนมา และมีความกังวลอย่างมากต่อ เหตุการณ์ใดๆ ที่อาจขัดขวางหนทางสู่สันติภาพในเมียนมา การใช้กำลังและความรุนแรงไม่สามารถแก้ไขความเห็นต่างทางการเมืองได้ ขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเมียนมาแสวงหาแนวทางแก้ไขและคลี่คลายความ ขัดแย้งทางการเมืองนี้ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดการสูญเสียชีวิต และธำรงไว้ซึ่งสิทธิในการดำรงชีวิตอย่างสันติของประชาชนเมียนมา ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและ ผู้ใกล้ชิดของผู้ที่ถูกประหารชีวิตทั้ง 4 ราย

วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกแถลงการณ์กรณีการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหว เพื่อประชาธิปไตยชาวเมียนมา ระบุว่า ตามที่ปรากฏรายงานข่าวการประหารชีวิตนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยจำนวน 4 รายในประเทศเมียนมานั้น

พรรคเพื่อไทยขอแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อกรณีดังกล่าว ตลอดจนการกระทำอันรุนแรงทุกรูปแบบต่อประชาชนชาวเมียนมา ขอส่งกำลังใจร่วมแสดงความอาลัยกับประชาชนชาวเมียนมาต่อการสูญเสียดังกล่าว รวมทั้งเป็นอีกหนึ่งเสียงของประชาคมโลกที่คัดค้านการกระทำเช่นนี้ ท้ายนี้ พรรคเพื่อไทยขอแสดงจุดยืนอันแน่วแน่ในเรื่องการมีสิทธิอันชอบธรรมของประชาชนในการเรียกร้องประชาธิปไตย รวมไปถึงสิทธิของประชาชนในการพึงได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย โดยเฉพาะสิทธิในการประกันตัวไม่ว่าในประเทศใดรวมทั้งในประเทศไทย

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ขอประณามการตัดสินประหารชีวิตนักกิจกรรม และนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในประเทศเมียนมา เพียงเพราะความเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง และต้องการปราบผู้ต่อต้านรัฐประหารให้ไม่กล้าลุกขึ้นมาต่อต้าน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยประกาศจุดยืนคัดค้าน การกระทำดังกล่าว ทั้งต่อกองทัพเมียนมา และในเวทีโลกด้วยความจริงจังและชัดเจน เพราะนี่คือการละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชนระดับสากลขั้นรุนแรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน