ขี่จยย.ประกบยิงพึ่งกองปราบช่วยจับมือปืนรับโทษ

2 ครอบครัวร้องกองปราบฯ ‘5 ปี’ คดีไม่คืบ เหตุจยย.ประกบยิงดับหนุ่มวัย 19 และ 17 บนถนนรังสิต-นครนายก แต่ยังหาตัวคนร้ายไม่เจอ เลยเข้าร้องกองปราบฯ พ่อเหยื่อปืนเปิดใจสู้จนหลังชนฝา หวังกองปราบฯ เป็นที่พึ่งสุดท้าย ทนายนำหลักฐานและวงจรปิด ที่ครอบครัวคนตายรวบรวมมาให้ตำรวจด้วย

เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายสุวิเชียร กันทะสา อายุ 47 ปี พร้อมด้วยว่าที่ ร.ต.หญิง เมธินี ยุทธนา อายุ 29 ปี และนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ เดินทาง เข้าพบ พ.ต.อ.สมบัติ มาลัย ผกก.(กลุ่มงานสอบสวน) บก.ป. เพื่อร้องขอความเป็นธรรมกรณีนายฉัฐบุตร กันทะสา หรือ ดรีม อายุ 19 ปี บุตรชายของนายสุวิเชียร และนายลัทธพล ยุทธนา หรือไม้ อายุ 17 ปี น้องชายของว่าที่ ร.ต.หญิง เมธินี ที่ถูกคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบยิงจนเสียชีวิต บนถนนรังสิต-นครนายก บริเวณจุดกลับรถกรุงกวี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 24 พ.ย. 2560 คดีผ่านมานานกว่า 5 ปี แต่ไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร

ร.ต.หญิง เมธินี เปิดเผยว่า เหตุเกิดมาถึง 5 ปี ค่อนข้างจะยาวนาน คดีอื่นๆ ไม่มีกล้องวงจรปิด ตำรวจยังสามารถตามจับคนร้ายได้ แต่ทำไมคดีนี้มีหลักฐาน ทั้งกล้องวงจรปิด และหลักฐานอื่นๆ แต่กลับไม่สามารถออกหมายจับ หรือตามจับตัวคนร้ายได้ เมื่อไปสอบถามความคืบหน้า ก็ได้รับคำตอบเพียงว่า ผู้รับผิดชอบคดีย้ายไปที่อื่นแล้ว จึงไม่สามารถตามความคืบหน้าได้

ขณะที่นายสุวิเชียร กล่าวว่า ตนอัดอั้นมาตลอด 5 ปี แต่ก็ยืนยันว่าจะสู้จนลมหายใจสุดท้าย เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกชาย โดยเชื่อว่ากองปราบฯ น่าจะเป็นความหวังสุดท้ายที่จะช่วยให้ตามจับกุมคนร้ายได้ อย่างไร ก็ตามตนต้องขอบคุณ ร.ต.หญิง เมธินี ที่ช่วยจุดประกายความหวังให้กลับมาเป็นกระแส อีกครั้ง ที่ผ่านมาตนเคยทวงถามไปที่ สภ.ธัญบุรี ก็ได้รับคำตอบเพียงว่า กำลังดำเนินการ ต้องรอ ให้คนร้ายนำอาวุธปืนที่ใช้ยิงลูกชายตนออกมา ก่อเหตุอีกครั้ง ถามจริงๆ ว่า ใครจะเอาปืนกระบอกนี้ออกมายิงอีก

5 ปีไม่คืบ – ญาตินายฉัฐบุตร กันทะสา อายุ 19 ปี และนายลัทธพล ยุทธนา อายุ 17 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมกรณีทั้งคู่ถูกคนร้ายขี่จยย.ประกบยิงเสียชีวิตในท้องที่สภ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นาน 5 ปี แต่คดีไม่คืบหน้า ที่บก.ป. เมื่อวันที่ 5 ส.ค.

“ผมต่อสู้มาตลอด 5 ปี ทุกวันนี้สิ่งที่อยากได้ยินมากที่สุดคือคำพูดจากปากตำรวจว่า จับคนร้ายได้แล้ว เพื่อที่ลูกชายของตนจะได้รับ ความเป็นธรรมกลับคืนมา กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย อยากให้เอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ นี่คือสิ่งที่อยู่ในก้นบึ้งหัวใจที่ตนอยากจะพูด” นายสุวิเชียรกล่าว

ด้านนายไพศาล กล่าวว่า ได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งกล้องวงจรปิด ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งมีเส้นทาง หลบหนีของคนร้ายทั้งคู่ รวมถึงรูปพรรณสัณฐาน เสื้อผ้า รถจักรยานยนต์คันที่ใช้ด้วย เชื่อว่าหลักฐานตรงนี้ก็เพียงพอที่จะออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัย หรือออกหมายจับ แต่ผ่านมา 5 ปี คดีกลับไม่คืบหน้า พยานหลักฐานทั้งหมดผู้เสียหายเป็นฝ่ายหามาให้ ถือว่าบกพร่อง ต่อหน้าที่ ตนยืนยันว่าจะตามคดีนี้ให้ถึงที่สุดและทำให้เห็นว่า ตำรวจดีที่ทำงานยังมีอยู่








Advertisement

เบื้องต้น พ.ต.อ.สมบัติได้ขอสอบปากคำญาติผู้เสียชีวิตพร้อมกับทนาย ก่อนว่ามีพยานหลักฐานใดอีกบ้างที่จะให้กองปราบฯ เข้าไปดำเนินการต่อได้ พร้อมยืนยันว่าจะเข้าไปดำเนินการอย่างเต็มที่ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน