‘เบนซิน-โซฮอล์’ลดอีกลิตร80สต.
สะพัด ‘บิ๊กตู่’ สั่งเบรกสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานแถลงข่าวขึ้นค่าเอฟทีไฟฟ้า ที่กกพ.มีมติให้ปรับขึ้นหน่วยละ 4.72 บาทมากสุดเป็นประวัติการณ์ เริ่มตั้งแต่งวดเดือนก.ย.-ธ.ค.2565 คาดต้องการให้ทบทวนใหม่ตามข้อเสนอของหลายๆฝ่าย ขณะเดียวกันเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ก็ลดลง ต่อเนื่อง เช้าวันนี้ตั้งแต่ตี 5 ลดอีกลิตรละ 80 สตางค์
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้แจ้งด่วนยกเลิกการแถลงข่าวชี้แจงตอบข้อซักถามค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) งวดใหม่เดือนก.ย.-ธ.ค.2565 ในเวลา 10.00 น. โดยเป็นการแจ้งยกเลิกก่อนถึงเวลาแถลงตามกำหนดการจริงประมาณครึ่งชั่วโมง ซึ่งมีกระแสข่าวว่ามีตัวแทนรัฐบาลที่อ้างคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ประสานให้บอร์ดกกพ. ทบทวนตัวเลขอัตราค่าเอฟทีที่จะปรับขึ้นอีกครั้ง ซึ่งนับเป็นติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 จากครั้งแรกมีกำหนดการแถลงเมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กกพ. ได้ทำหนังสือแจ้งมติการปรับขึ้นค่าเอฟทีไปยัง 3 การไฟฟ้า ทั้งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทราบแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. ตามพ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน ที่ต้องแจ้งก่อนวันปรับค่าเอฟทีจริงเป็นเวลา 30 วัน ตามมติ กกพ. เมื่อวันที่ 27 ก.ค.2565 ที่เห็นชอบให้ค่าเอฟทีงวดใหม่ช่วงเดือนก.ย.-ธ.ค.2565 ที่ปรับขึ้นจากงวดก่อน 68.66 สตางค์/หน่วย เป็นอัตรา 93.43 สตางค์/หน่วย เมื่อรวมค่าไฟฐานเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 4.72 บาท/หน่วยนับว่าเป็นอัตราสูงสุด (นิวไฮ) เป็นประวัติการณ์ของค่าไฟฟ้าของประเทศไทย จากงวดปัจจุบันเรียกเก็บในอัตรา 3.79 บาท/หน่วย เพื่อสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิงจริง แต่ยังไม่ได้ชำระหนี้ค่าเชื้อเพลิงให้กับกฟผ. อีกประมาณ 1.7 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เป็นที่จับตามองกันว่าการเลื่อนกำหนดการแถลงข่าวถึงสองครั้งติดต่อกัน อาจทำให้ทบทวนมติปรับขึ้นค่าเอฟทีครั้งนี้ตามข้อห่วงใยของหลายฝ่าย จนนำไปสู่การยกเลิกมติดังกล่าวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือไม่ โดยโจทย์ที่รัฐบาลต้องการให้กกพ. ดำเนินงานมี 2 แนวทางคือ ต่ออายุมาตรการดูแลผู้ใช้ไฟที่ไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือนประเภทบ้านอยู่อาศัยและประเภทกิจการขนาดเล็ก (ไม่รวมส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ) ได้รับส่วนลดค่าไฟฟ้าจากการลดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) ที่ 0.2338 บาทต่อหน่วย หรือให้จ่ายค่าไฟเท่าเดิมถึงสิ้นปีนี้ แต่รัฐบาลไม่จัดสรรงบประมาณให้ กกพ.จึงดำเนินการไม่ได้ และขอให้กกพ.พิจารณาสูตรคำนวณค่าไฟใหม่ ภายใต้เกณฑ์ใครใช้ไฟน้อยให้จ่ายค่าไฟอัตราต่ำ ใครใช้ไฟมากให้จ่ายค่าไฟสูง แต่กกพ.ไม่สามารถทำได้ทันทีเช่นกัน เพราะต้องใช้เวลาปรับสูตร อาจต้องเปิดรับฟังความเห็นผู้มีส่วนได้เสีย และอาจต้องเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
วันเดียวกัน รายงานข่าวแจ้งว่า พีทีที สเตชั่นปรับราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิดลง 80 สตางค์/ลิตร ส่งผลให้ราคาเบนซินอยู่ที่ 44.86 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 37.45 บาท/ลิตร อี 20 อยู่ที่ 36.34 บาท/ลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 37.18 บาท/ลิตร พรีเมียม แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.14 บาท/ลิตร อี85 อยู่ที่ 32.94 บาท/ลิตร ส่วนพรีเมียมดีเซล บี7 ลดลง 1 บาท/ลิตรอยู่ที่ 46.16 บาท/ลิตร มีผลวันที่ 6 ส.ค.2565 เวลา 05.00 น.เป็นต้นไป
ขณะที่ กลุ่มดีเซลชนิดอื่นคงเดิม โดยดีเซล บี 7 อยู่ที่ 34.94 บาท/ลิตร ดีเซล บี10 อยู่ที่ 34.94 บาท/ลิตร ดีเซล บี20 อยู่ที่ 34.94 บาท/ลิตร โดยราคาขายปลีกข้างต้น ยังไม่รวมภาษีบำรุงกรุงเทพมหานคร
