อันตราย-ใช้ดื่มกับเหล้า ตร.สั่งปส.เข้มแหล่งขาย

รองผบ.ตร.เตือนใช้ ‘ยาลิ้นฟ้า’ วัยรุ่นเสพแลบอวดสีกัน ระบุอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตจากอาการช็อกหยุดหายใจ หากใช้เสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พร้อมสั่งบช.ปส.สืบสวนเอาผิดกับสถานพยาบาลหรือแหล่งที่ลักลอบขายโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ เผยก่อนหน้านี้ สธ.ก็ออกมาแจ้งเตือนผู้ขาย ผู้เสพ และผู้โฆษณา ชี้มีโทษหนักคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 7 แสนบาท

เมื่อวันที่ 17 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า จากที่ปรากฏเป็นข่าวจากสื่อต่างๆ กรณีวัยรุ่นบางกลุ่ม นิยมใช้ยาลิ้นฟ้าว่า ยาลิ้นฟ้า คือยาโรฮิบนอล ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของยาในกลุ่มฟลูนิแทรซิแพม (Flunitrazepam) หรืออาจเป็นกลุ่มยาลักษณะเดียวกัน จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถือเป็น ยาควบคุม ไม่มีขายทั่วไป ต้องสั่งจ่ายยาโดย คำสั่งแพทย์เท่านั้น

พล.ต.อ.รอยกล่าวต่อว่ากรณีดังกล่าว พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. มีความห่วงใยต่อเยาวชนที่ถูกชักจูงให้ใช้ยาประเภทนี้ รวมถึงฝากให้ผู้ปกครอง หมั่นดูแลบุตรหลานในครอบครัว เพราะยาดังกล่าวถ้าหากมีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น นำไปมอมผู้อื่นให้หมดแรงต่อสู้ จำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพื่อก่ออาชญากรรม โดยส่วนใหญ่ใช้ผสมในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ออกฤทธิ์กดประสาทแรงขึ้น ขณะนี้พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นได้มีการนำไปเสพเพื่อให้เกิดอาการมึนและอวดลิ้นที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า

“ขอเตือนว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก อาจเกิดผลข้างเคียง จนถึงแก่ชีวิตได้ เช่น หยุดหายใจ หากเสพปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่สูงมาก” พล.ต.อ.รอยระบุ

พล.ต.อ.รอย เปิดเผยอีกว่า ผู้ที่ลักลอบ จำหน่ายยาฟลูนิแทรซิแพมและยาต้องห้ามชนิดอื่น และผู้ที่นำไปใช้เสพ ผู้จำหน่าย หรือโฆษณาเชิญชวน ถือว่ามีความผิด จะถูกจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงกฎหมายบทอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ตนได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ให้เร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการสืบสวนเอาผิด กับสถานพยาบาล หรือแหล่งจำหน่ายใดๆ ในทุกช่องทาง ที่ลักลอบจำหน่ายหรือจ่ายยาดังกล่าวให้กับกลุ่มเยาวชนโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ และจะถูกดำเนินคดีทั้งเรื่องการโฆษณาขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต

ก่อนหน้านี้ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีวัยรุ่นบางกลุ่มนิยมใช้ยาลิ้นฟ้า ว่า ยาลิ้นฟ้า คือยาโรฮิบนอล ซึ่งเป็นชื่อทางการค้าของยาในกลุ่มฟลูนิแทรซิแพม (Flunitrazepam) หรืออาจเป็นกลุ่มยาลักษณะเดียวกัน จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ถือเป็นยาควบคุม ไม่มีขายทั่วไป ต้องจ่ายยาโดยแพทย์เท่านั้น หากสถานพยาบาลใดจ่ายยาดังกล่าวต้องทำรายงานส่งไปที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) โดยยาดังกล่าวออกฤทธิ์ในการบรรเทาอาการวิตกกังวล สงบประสาท ทำให้นอนหลับ สูญเสียความทรงจำชั่วขณะ คลายกล้ามเนื้อ ต้านการชัก และกดระบบการหายใจ ในทางการแพทย์จึงนิยมใช้เป็นยานอนหลับ ยานำสลบ และสงบประสาทก่อนผ่าตัด

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า ยาดังกล่าวมีผู้นำไปใช้ในทางที่ผิด เช่น นำไปมอมผู้อื่นให้หมดแรงต่อสู้ จำสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ เพื่อก่ออาชญากรรม โดยส่วนใหญ่ใช้ผสมในเครื่องดื่ม โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพื่อทำให้ Flunitrazepam ออกฤทธิ์กดประสาทแรงขึ้น ขณะนี้ พบว่ามีการนำไปเสพเพื่อให้เกิดอาการมึนและอวดลิ้นที่เปลี่ยนเป็นสีฟ้า จึงขอเตือนว่าเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างมาก อาจเกิดผลข้างเคียง จนถึงแก่ชีวิตได้ เช่น หยุดหายใจ หากเสพปริมาณมาก หรือเสพร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่สูงมาก ทั้งนี้ ผู้ที่ลักลอบจำหน่ายยาฟลูนิแทรซิแพมและ ผู้ที่นำไปใช้เสพ ผู้จำหน่าย โฆษณาเชิญชวน ถือว่ามีความผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยโทษสำหรับผู้ขายผู้เสพ ผู้โฆษณา หรือชวนผู้อื่นมาเสพ มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 7 แสนบาท โดย สธ.จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน