ตุ๋นเหยื่อกู้เงิน ผ่านเว็บ-แอพ

ตร.บุกทลาย 2 แก๊งคอลฯ รายใหญ่ ตุ๋นเหยื่อให้กู้เงิน โดยรายแรกถูกปอศ.ลุยค้น 6 จุด จับ 10 ผู้ต้องหา สร้างแอพฯ แอบอ้างกระทรวงการคลัง ชักชวนกู้เงิน ออกอุบายให้จ่ายเงินค้ำประกัน ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียม เดือนเดียวมีเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้าน อีกแก๊งถูกปอท.จับ 5 ผู้ต้องหา ผุดเว็บฯ แอบอ้างบัตรกรุงไทยให้กู้เงิน หลอกลวงวิธีเดียวกัน เงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้าน

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการพล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พ.ต.อ. ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 ปอศ. นำกำลังร่วมกับตำรวจกองปราบปราม ตำรวจน้ำ ตชด. บุกทลายแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติหลอกลวงกู้เงิน ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 6 จุด จ.เชียงราย จ.ปทุมธานี จ.สมุทรสาคร จ.มุกดาหาร และ จ.ระยอง จับกุมนายพงศา แสนดี อายุ 25 ปี, นายสุวิทย์ ยําหาญ อายุ 28 ปี, นายอากุ๋ย แลเซอ อายุ 41 ปี และน.ส.นวมน พรถาวรสุข อายุ 34 ปี พร้อมแจ้งข้อหากับผู้ต้องหาในเรือนจำที่เกี่ยวข้องกับคดีอีก 6 ราย คือนายสมชาย แซ่โอ๋ อายุ 26 ปี, นายธีรวุฒิ สุธีกุล อายุ 26 ปี, น.ส.ทิพย์นภา แซ่โซ อายุ 36 ปี, นายอาเป้า ลาหู่ อายุ 39 ปี, นายศิริชัย พรมศิริอนันท์ อายุ 42 ปี และนายสมัดร์ชา อาร์กาเฮน อายุ 42 ปี

สืบเนื่องจากผู้เสียหายเข้าร้องทุกข์ บก.ปอศ. ว่ากู้เงินผ่านแอพฯ บีบาท และดีดี แคช อ้างว่าอยู่ภายใต้การกำกับของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ก่อนถูกหลอกเอาเงินค่าดำเนินการ และค่าธรรมเนียม มีผู้หลงเชื่อจำนวนมาก ต่อมาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบกลุ่มคนร้ายนำชื่อหน่วยราชการมาแอบอ้างทำแอพฯ เงินกู้ ส่งข้อความโฆษณาเชิญชวนกู้ยืมเงิน และลิงก์เข้าแอพฯ ไปตามเพจเฟซบุ๊กต่างๆ เมื่อมีผู้หลงเชื่อ จะออกอุบายเรียกเก็บเงินค้ำประกัน ค่าเอกสาร ค่าธรรมเนียม ร้อยละ 10 ของเงินกู้ แต่เมื่อโอนเงินเข้าไปแล้วกลับไม่ได้เงินกู้

จากการตรวจสอบยังทราบว่ากลุ่มคนร้ายทำกันเป็นขบวนการ ยักย้ายถ่ายเทเงินสดเป็นทอดๆ นำไปซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รถไถนา ทองคําแท่ง จากนั้นส่งออกไปให้นายทุนที่ประเทศกัมพูชา ช่วงระยะเวลาแค่ 1 เดือน มีเงินหมุนเวียนกว่า 400 ล้านบาท จึงรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 16 คน สอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ อ้างถูกว่าจ้างจากนายทุนให้เปิดบัญชีธนาคาร โดยไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้อะไร

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การภาคเสธ อ้างว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องกับการหลอกลวงเงินเหยื่อ แต่ยอมรับว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนคนหนึ่งให้เปิดบัญชีธนาคารให้ โดยไม่ทราบว่าจะถูกนำไปใช้ทำอะไร เบื้องต้นจึงนำตัวส่ง กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

แก๊งข้ามชาติ – ตำรวจปอศ.บุกทลายแก๊งข้ามชาติ เปิดแอพฯ กู้เงินออนไลน์เถื่อน ตรวจค้น 6 จุดในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้ผู้ต้องหา 4 คน และอายัดตัวอีก 6 คนในเรือนจำ ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดี พบมีเงินหมุนเวียน 400 ล้านบาท เมื่อ 23 ส.ค.

วันเดียวกัน พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) พ.ต.อ. ศิริวัฒน์ ดีพอ รองผบก.ปอท. พ.ต.อ.วัชรพันธ์ ศิริพากย์ ผกก.1 ปอท. พ.ต.อ.พิเชษฐ์ คําภีรานนท์ ผกก.3 ปอท. พร้อมด้วยนายพีระพงศ์ พิตรพิบูลพาทิศ ตัวแทนบริษัท เคทีซี นาโน จํากัด ร่วมแถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างเป็นบริษัทเงินกู้หลอกเงินเหยื่อ ตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุด อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จับกุมนายสราวุธ ฉิมพิทักษ์ อายุ 46 ปี, น.ส.พิทยา วงค์ชัย อายุ 38 ปี, น.ส.กาญจนา พุทธโกมล อายุ 33 ปี, น.ส.เจนนิสา พุทธโกมล อายุ 22 ปี และนายกิตติคุณ ปิยะจันทร์ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 51 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 63 เล่ม คอมพิวเตอร์ 8 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ 1 เครื่อง ซิมการ์ดโทรศัพท์ 220 อัน และเครื่องรูดบัตรเครดิต 9 เครื่อง

พล.ต.ต.ศารุติเปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายสร้างเว็บไซต์แอบอ้างเป็นบริษัทเคทีซีฯ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษัท บัตรกรุงไทย จํากัด (มหาชน) หลอกลวงเงินชาวบ้านที่ต้องการแหล่งกู้เงิน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อเข้าไปที่เว็บไซต์ กลุ่มคนร้ายจะติดต่อพูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ อ้างเป็นฝ่ายสินเชื่อพูดจาโน้มน้าวให้ยอมโอนเงินให้ก่อน อ้างเป็นค่าประกันเงินกู้ และค่าธรรมเนียมต่างๆ หลังโอนเงินไปแล้วก็ไม่ได้รับเงินกู้ตามที่ตกลงกันไว้

ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ กล่าวว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายนี้มีนายทุนชาวต่างชาติ มีสำนัก งานอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ส่วน 5 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมทําหน้าที่จัดหาบัญชีเพื่อรับโอนเงินจากผู้เสียหาย ทำหน้าที่ถอนเงินจากธนาคารต่างๆ ในจ.ฉะเชิงเทรา จากนั้นส่งเงินให้หัวหน้าแก๊ง มียอดเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 100 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน