ลวงคุยงานขยี้ในพูลวิลล่าหรู เหยื่อแจ้งความ-แต่คดีไม่คืบ รุดร้อง‘ทนายตั้ม’ช่วยติดตาม

โดนหลานอดีตรัฐมนตรีลวงคุยงานแล้วมอมยาขืนใจ นักร้อง-ดาราสาวหวั่นคดีไม่คืบ รุดร้องเรียน ‘ทนายตั้ม’ ช่วยติดตามความคืบหน้า ระบุคู่กรณีอ้างรู้จักกับนายตำรวจใหญ่ด้วย เผยก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายติดต่อขอโปรไฟล์และพาไปพูดคุยในพูลวิลล่ากลางกรุง พร้อมชักชวนดื่มโซจู จากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย พี่สาวเห็นน้องหายไปนานผิดปกติจึงตามจีพีเอสมือถือไปพบในสภาพสะลึมสะลือ เหยื่อสาวเอะใจสงสัยถูกล่วงละเมิดทางเพศเลยไปตรวจผลยืนยันถูกขืนใจจริง นอกจากนี้ยังพบสารยานอนหลับด้วย ด้านทนายตั้มพาเจ้าทุกข์บุกจี้คดีถึงสน.โชคชัย

เมื่อวันที่ 24 ส.ค. น.ส.เอ (นามสมมติ) ศิลปินนักแสดงสาว อายุ 21 ปี เข้าพบทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังถูกหลานของอดีตรัฐมนตรีลวงไปล่วงละเมิดทางเพศ และได้แจ้งความกับพนักงานสอบ สน.โชคชัย แล้ว แต่เกรงว่าคดีจะไม่คืบหน้า เพราะคู่กรณีเป็นหลานอดีตรัฐมนตรีชื่อดังคนหนึ่ง และอ้างว่ารู้จักนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนาย

สำหรับความเป็นมาของเรื่องนี้ น.ส.เอกล่าวว่า ตนเป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และ นักแสดง ก่อนเกิดเหตุคู่กรณีซึ่งมีธุรกิจบันเทิง ปั้นนักแสดงศิลปินและไอดอล รวมถึงนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จากต่างประเทศ ได้ติดต่อมาจ้างงานผ่านทางไอจี และขอให้ส่งโปรไฟล์งานผ่านทางไลน์ จากนั้นก็นัดพบพูดคุยเรื่องงานกันที่ล็อบบี้ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. แต่เมื่อไปถึง คู่กรณีกลับพาไปคุยงานที่รีสอร์ต ซึ่งเป็นพูลวิลล่า อยู่ในซอยนาคนิวาส 2 โดยตนไปพบคู่กรณีเพียงลำพัง และดื่มโซจูไป 2 ขวด จากนั้นก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย

น.ส.เอกล่าวว่าระหว่างนั้นพี่สาวเริ่มผิดสังเกตว่าขาดการติดต่อไป จึงออกตามหาโดยดูจากจีพีเอสในมือถือ จนพบว่าถูกพาไปที่ รีสอร์ต และรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย จึงตามไป เมื่อไปถึงพบคนขับรถของคู่กรณี แต่อีกฝ่ายกลับบ่ายเบี่ยงอ้างว่าเป็นเพียงรปภ.และไม่ให้เข้าไปภายใน พี่สาวจึงได้แจ้งตำรวจให้ช่วยเข้าไปเคาะห้องพาตัวน้องสาวออกมา แต่ตำรวจไม่ทำให้ เนื่องจากรีสอร์ตดังกล่าวเป็นรีสอร์ตของนายตำรวจใหญ่

น.ส.เอกล่าวต่อว่าจนกระทั่งเวลาประมาณตี 2 ตนเริ่มได้สติ พี่สาวจึงรีบบอกให้ออกมาจากรีสอร์ตและกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านตนก็สลบหมดสติจนเช้า และเมื่อตื่นขึ้นมา พี่สาวก็ถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นแต่ตนจำอะไรไม่ได้เลย จึงรู้สึกผิกปกติ พี่สาวจึงให้ตนไปอาบน้ำและสำรวจร่างกายตัวเองให้ละเอียด ปรากฏว่าตนพบว่ามีสารคัดหลั่ง ลักษณะคล้ายอสุจิติดอยู่ จึงคิดว่าน่าจะมีเรื่องไม่ดี เกิดขึ้น จึงตัดสินใจไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แพทย์ระบุว่าพบสารคัดหลั่งอสุจิในช่องคลอดจริง และยังพบตัวยานอนหลับชนิดหนึ่ง แต่ปริมาณน้อยมาก คาดว่าอาจเพราะมาตรวจร่างกายหลังผ่านเหตุการณ์ไปเกิน 24 ชั่วโมงแล้ว แต่ในรายงานผลของแพทย์นิติเวช กลับไม่มีระบุว่าพบยานอนหลับดังกล่าว ทำให้ตนรู้สึกไม่มั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่

น.ส.เอกล่าวต่อว่าหลังเกิดเหตุได้โทรศัพท์ไปสอบถามคู่กรณี ก็ยอมรับว่าแอบเอายาบางอย่างใส่ให้กินจริง แต่จำไม่ได้ว่ายาอะไรบ้าง เพราะในขณะนั้น คู่กรณีอ้างว่าตนมีอาการคลื่นไส้ พร้อมกับห้ามไม่ให้ตนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลด้วย ก่อนที่จะบอกว่าชอบตนและไม่ปฏิเสธเรื่องการล่วงละเมิดทางเพศ

หลานรมต. – ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด พานักแสดงสาวอายุ 21 ปี ผู้เสียหาย ไปติดตามความคืบหน้าคดีถูกหลานชายอดีตรัฐมนตรี ลวงไปวางยาแล้วล่วงละเมิดทางเพศ ที่สน.โชคชัย เมื่อ 24 ส.ค.








Advertisement

สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ น.ส.เอยอมรับว่าคิดน้อยไปมาก เพราะปกติเวลาไปคุยงานหรือขายงานเพื่อขอสปอนเซอร์มาทำเพลง มักจะคุยในพื้นที่ที่เป็นส่วนตัวอยู่แล้ว จึงไม่ได้เอะใจอะไรเลย ประกอบกับฝ่ายชายดูเป็นคนสุภาพ และตลอดการคุยงานก็ไม่ได้ทำตัวเจ้าชู้หรือพยายามจะพูดจาในเชิงชู้สาวกับตนเลยจึงคิดว่าไม่มีอะไร แต่พอเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนก็ตัดสินใจลุกขึ้นสู้ เพราะเราคือ ผู้เสียหาย ก่อนหน้าจะมาร้องเรียนกับทนาย ษิทราตนนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.โชคชัย ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราไว้แล้ว และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกคู่กรณีไปแล้ว ซึ่งคู่กรณีพยายามติดต่อมา แต่ตนปฏิเสธที่จะพูดคุย ที่เดินทางมาพบนาย ษิทราในวันนี้เพื่อขอให้เป็นทนายติดตามคดีให้ต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับหลานของอดีตรัฐมนตรีคนนี้มีครอบครัวและลูกอยู่แล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. วันเดียวกัน ที่สน.โชคชัย นายษิทรา พร้อมดาราสาว เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พรทวี สมวงศ์ ผกก.สน.โชคชัย เพื่อติดตามความคืบหน้าคดีที่ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่สน.โชคชัย เมื่อ วันที่ 11 ส.ค. แต่คดียังไม่มีความคืบหน้า

นายษิทรากล่าวว่าหลังเกิดเหตุผู้เสียหาย ได้พยายามติดต่อสอบถามคู่กรณีว่าในวันเกิดเหตุฝ่ายชายได้ล่วงละเมิดหรือไม่ ซึ่งฝ่ายชายก็ยอมรับว่าล่วงละเมิดจริง แต่อ้างฝ่ายหญิงยินยอม ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะขณะเกิดเหตุผู้เสียหายไม่รู้สึกตัว แม้แต่หลังเกิดเหตุยังไม่มั่นใจว่าตนถูกกระทำอย่างใดอย่างหนึ่งหรือไม่ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถาม และไปตรวจร่างกายพบยานอนหลับชนิดหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่า ผู้เสียหายถูกมอมยา แต่ฝั่งคู่กรณีพยายามติดต่อและข่มขู่ เมื่อเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กลับถูกนายตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งมีตำแหน่งรองผู้กำกับการพูดจาไม่ดีและสั่งห้ามเป็นข่าวหรือปรึกษาทนาย โดยอ้างว่าจะทำให้เรื่องยุ่งยาก ซึ่งการกระทำ ดังกล่าว ทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าคดีนี้มีพิรุธ เกรงว่าผู้เสียหายจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจพาผู้เสียหายมาติดตามความคืบหน้า และยืนยันผู้เสียหายจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อไม่ให้คู่กรณีไปกระทำในลักษณะเช่นนี้กับผู้หญิงรายอื่นๆ อีก

ด้านพ.ต.อ.พรทวี ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า ตั้งแต่ได้รับแจ้งความจากผู้เสียหาย พนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนมีการสอบปากคำผู้เสียหายไว้แล้ว แต่ทางผู้เสียหายต้องการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำเพิ่มเติมใน 2-3 ประเด็น จึงสั่งการให้ดำเนินการทันที โดยพร้อมยืนยันตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนขั้นตอนในการ ออกหมายเรียกผู้ถูกกล่าวหาหรือคู่กรณีมาสอบปากคำนั้น ยังไม่สามารถกระทำได้เนื่องจากขณะนี้ยังสอบปากคำผู้เสียหายไม่เสร็จสิ้น

ต่อมาเมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.อ.พรทวี เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุไปแล้วตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. โดยให้ ผู้ถูกกล่าวหา เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาข่มขืนกระทำชำเราฯ ในช่วงต้นสัปดาห์หน้า หลังจากรับแจ้งความร้องทุกข์แล้วนั้น ได้จัดพนักงานสอบสวนหญิง สอบสวนปากคำผู้เสียหาย และพี่สาวผู้เสียหายถึงเหตุการณ์โดยละเอียด เมื่อได้รับผลการตรวจร่างกายจากโรงพยาบาล นำไปประกอบการพิจารณาไว้แล้ว พร้อมทั้งสอบปากคำเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและแคชเชียร์ของรีสอร์ตไว้แล้ว

ผกก.สน.โชคชัยกล่าวด้วยว่าที่ผ่านมาทางตำรวจได้มีการประชุมติดตามเร่งรัดคดีทั้งฝ่ายสอบสวน และฝ่ายสืบสวนแล้วถึง 2 ครั้ง ก่อนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหามาสอบสวนตามกฎหมาย ขอยืนยันจะสอบสวนด้วยความรอบคอบ รวดเร็วและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน