แฟนหนุ่มโผล่แจงเหตุ ‘ส.ต.ท.หญิง’ทำร้ายทหารรับใช้หญิง เผยคบหาเป็นแฟนกันได้7-8 เดือน ขณะที่ส.ท.หญิงรู้จักกับส.ต.ท.หญิงมานาน 7 ปีแล้ว แฉประวัติชอบยั่วโมโหส.ต.ท.หญิง จึงโดนทำร้าย ตนพยายามห้ามปราม ระบุส.ท.หญิงพูดไม่หมด ห่วงตกเป็นเครื่องมือคนอื่น รองโฆษกตร.เผยสอบหมอราชบุรีเซ็นใบรับรองแพทย์ตรวจร่างกายผู้เสียหายแล้ว ด้าน‘กมธ.ป.ป.ช.’สอบ ‘ส.ต.ท.หญิง’ อ้างมีสามีเป็นส.ว. ชี้มีข้อพิรุธหลายอย่าง รวมทั้งสอบเข้าเป็นตำรวจ ฝากลูกจ้างเป็นทหาร นำไปช่วยราชการภาคใต้
จากกรณีส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม ผบ.หมู่ กก. 4 บก.ส.1 กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกายน.ส. เอ อดีตนายทหารยศสิบโท ทั้งตบตีตามร่างกาย ใช้เครื่องชอร์ตไฟฟ้าตามร่างกาย ใช้ไม้หน้าสามตีที่ใบหน้า ต่อมาญาติยื่นขอประกันตัวผู้ต้องหา แต่ศาลไม่อนุญาต จึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำกลางราชบุรี ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่รัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล(ก.ก.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ(กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร แถลงกรณีส.ต.ท.หญิง ผบ.หมู่ กก.4 บก.1 ซึ่งอ้างว่าเป็นภรรยาสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ทำร้ายร่างกายทหารหญิงรับใช้นั้นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญที่กมธ.พิจารณาแล้วว่าควรจะนำเข้ามาพิจารณาสอบหาความจริง ตอนนี้เจ้าพนักงานตำรวจได้ดำเนินคดี และเชื่อว่าจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด ในส่วนของตำรวจ ส.ต.ท.หญิงคนดังกล่าว โดยปกติแล้วการรับข้าราชการตำรวจจะต้องมีกรรมการการรับ แต่กรณีนี้ค่อนข้างจะคลุมเครือว่าเข้าด้วยวิธีใด ซึ่งกรณีความรู้ความสามารถที่ขาดแคลน เช่น การเงินนั้น มีจำนวนมากที่จะต้องเปิดรับเข้าไป หรือเป็นการรับเฉพาะคนหรือไม่ หรือมีเส้นสายเป็นจริงตามคำกล่าวอ้างว่า มีส.ว.ที่เป็นสามีสามารถฝากได้ เรื่องดังกล่าวสามารถเห็นได้ทั่วไปที่มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ฝากลูกเข้าทำงานเป็นทหาร หรือนักการเมืองต่างๆ ฝากลูกเข้ามาเป็นตำรวจ ซึ่งระบบแบบนี้เป็นระบบอุปถัมภ์ ไม่ใช่ระบบที่จะสร้างการแข่งขันเข้าสู่การรับข้าราชการได้อย่างเป็นธรรม
นายธีรัจชัยกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่มีการตั้งพนักงานร้านกาแฟไปเป็นทหาร ซึ่งเอาไปเข้าในโรงเรียนกองกำลังพลทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยได้ และมีช่วงหนึ่งไปอยู่ในโรงเรียนช่างทหาร และมีข่าวออกมาว่าเอาไปช่วยราชการ แต่ไม่ปรากฏว่าไปที่ไหน แต่กลับนำไปรับใช้ ซึ่งข้อเท็จจริงที่ปรากฏตามสื่อมีการนำไปใช้ 2 ปีอย่างทรมานและมีการทำร้ายสารพัดรูปแบบ ซึ่งเดิมการนำคนไปรับใช้นายทหารใหญ่ก็ผิดแล้ว แต่การที่นำไปรับใช้ตามที่ ส.ต.ท.หญิง อ้างว่าเป็นภรรยาส.ว. และได้ทารุณกรรมจนเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งนี้ กมธ.จะเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นต่อไป
วันเดียวกัน นายคมสิทธิ์ จังพานิช ญาตินักการเมืองท้องถิ่น อ.โพธาราม จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ตนคบหาเป็นแฟนกับส.ต.ท.กรศศิร์ ประมาณ 7-8 เดือนแล้ว เคยเห็นอย่างในคลิปที่เขาทำร้ายเอ สาเหตุตนไม่ได้คุยกัน แต่ถามเอว่าเป็นอะไร ทำไมต้องเป็นแบบนี้ เอบอกว่านุชป่วยเป็นโรคซึมเศร้า เพราะเออยู่กับเขามา 6-7 ปี แต่ตนเพิ่งคบกัน มีโอกาสได้เที่ยวกันที่หัวหิน เป็นครั้งแรกที่เห็นเหตุการณ์นุชตบตีเอ รู้สึกตกใจ จึงเข้าไปห้าม จนเขาสงบลง และกินยานอนหลับแล้วจึงเรียกเอมาถาม และเล่าให้ฟังว่า เวลานุชมีอาการแบบนี้จากการเครียด โกรธ ดูง่ายๆ จากในคลิป ตนไม่ได้อยู่กับนุชตลอด เพราะเขาต้องไปทำงาน
ส่วนงานตนก็เยอะ โดยเอเป็นคนขับรถ ให้นุช เพราะนุชขับรถไม่เก่ง เส้นทางไม่ค่อยรู้จักมากนัก เอจะรู้ว่าอะไรที่ควรทำ ไม่ควรทำ จะรู้ที่จะทำให้เขาโมโห และเคยสอนเอบ่อยๆ ว่า ทำไมเอไม่หยุด ปากก็บอกว่ารักนุช แต่ก็ยังทำซ้ำๆ กัน
“จากที่เคยอยู่ เด็กคนนี้น่าจะชอบแสงสี เวลาออกไปร้านเหล้า แล้วมีความสุข สนุกมาก เรียกว่าแอ๊วนักร้อง เป็นศัพท์ที่ไม่ค่อยได้ยิน เลยถามเอว่า แอ๊วนักร้องคืออะไร ก็เหมือนกับที่เราไปอ่อยผู้ชายในร้านอาหาร ขอเพลงแล้วเอาเงินไปให้ อาจเชิญมาดื่มที่โต๊ะ มานั่งคุยกับเขา ส่วนเงินก็ขอยืมนุช เขามีข้อตกลงกันคือไปกินเที่ยวแต่ละครั้ง ถ้ามียอดเงินเท่าไหร่จะต้องหารกันคนละครึ่ง แต่ผมเห็นเขาไปเที่ยวกันบ่อย ก็คงไม่พอเงินเดือน เงินเดือนประมาณหมื่นกว่าบาท”
นายคมสิทธิ์กล่าวต่อว่า เอเป็นคนชักนำให้ตนรู้จักนุช ได้เจอกันที่ร้านอาหาร เขาเดินเข้ามาหาขอแลกเงิน โดยตนเป็นเพื่อนเจ้าของร้าน ก็เอะใจตอนหลังว่าเคานต์เตอร์คิดเงินห่างจากตนประมาณ 10 กว่าก้าว ทำไมไม่แลก ส่วนตัวลึกๆ รู้แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นอย่างไร ส่วนเขาจะโกหกที่จะชอบว่าเขาบ่อยๆ คือ แถ เคยบอกว่าอย่าแถ พอแถแล้วนุชจะโมโห ตนก็ห้าม เพราะรู้ปัญหาเกิดจากอะไร ไปยั่วยุให้เขาโกรธ ไปยั่วยุทำไม เลยถามว่าทำไมไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้
“นุชเคยตีผมที่คอนโดฯ แต่ผมนิ่ง เขาก็หยุด แต่พออีกวันเขาก็เป็นคนปกติ แต่แค่ว่าให้เขาหลับก่อน เพราะหลับยาก ต้องกินยานอนหลับทุกวัน มียากล่อมประสาทที่ใช้มา ระยะเวลานาน อยากให้ถามเอว่าโดนไล่ออกไปกี่ครั้งแล้ว ก็ไม่ไป พอไล่เสร็จจะมีแต่ คำขอโทษ และขอโอกาส”
นายคมสิทธิ์กล่าวอีกว่า ตอนแรกเห็นให้ข่าวว่านุชเป็นคนทำเขา แต่แปลกใจว่าทำไมไม่พูดถึงตน ทั้งที่ตนก็ทำ เลยสรุปจะรอดูก่อนว่าเด็กคนนี้จะทำอะไรอีก แต่ด้วยพฤติกรรมที่แปลกๆ ว่าทำไมถึงพูดไม่หมดที่มีคลิปเกิดขึ้น ตนยังไม่รู้จักเขา คลิปแรกและคลิปหลังตนไม่รู้เรื่อง และที่เคยทำร้ายเอนั้น ตนไม่ได้ถ่ายคลิปไว้ ตนยืนยันความบริสุทธิ์ใจและยอมรับว่าตีเขาจริง เคยเอาไม้ตีจริง เหตุเกิดตามที่เขาพูด ตนลูกผู้ชายคนหนึ่ง มีข้อสงสัยเด็กคนนี้ว่าทำไมให้ข่าวแบบนี้ เลยเกิดคำถามว่าเกิดอะไร หรือเขาเป็นเครื่องมือของใคร เป็นสิ่งที่สงสัยข่าวออกแต่ละวันไม่ซ้ำกัน คิดว่ามีคนอยู่เบื้องหลังเอ แต่เบื้องหลังคืออะไร ทำไปทำไม ได้ประโยชน์อะไร สิ่งที่ทำแต่ละอย่างไม่มีประโยชน์กับตัวเองเลย
“ส่วนกรณีส.ว.นั้น วันแรกเป็นส.ว.ท่านหนึ่ง ให้ข่าวอีกทีเป็นส.ว.อีกท่านหนึ่ง แต่ระยะเวลาที่คบกับนุชก็ยังไม่เคยเจอส.ว.ท่านใดเข้ามาในชีวิต เพราะอดีตตนไม่รู้ แต่รู้ว่าเขาทำงานในสภาฯ การอ้างของเอเป็นการอ้างว่าเป็นเมียของส.ว.ท่านนั้นๆ ถ้าพิสูจน์ได้จริง ทำไมไม่เอาหลักฐานมายืนยัน แล้วเอตั้งชื่อว่าเมียส.ว. ทำไมไม่เอารูปมาลง มีคลิปมั้ย หรือเป็นแค่การดึงดูดความสนใจ ส่วนเรื่องส.ว.ผมไม่รู้ เพราะเวลาที่อยู่ด้วย ระยะเวลา 7-8 เดือน ผมคบกันเปิดเผยไปไหนมาไหน นุชมาบ้าน สวัสดีพ่อแม่ เอก็ไปด้วยกันตลอด ปัจจุบันยังเห็นเขาทำงานอยู่ที่สภา บางทีจะมีเรื่องของ กอ.รมน. เห็นมีการส่งทางไลน์ ทางโทรศัพท์มาด้วย ทำงานทางโทรศัพท์เท่าที่เห็น ส่วนที่มีการบอกว่านุชอยู่แต่บ้านไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก ให้ถามเอว่าได้ขับรถให้เขาไปไหนกี่ครั้ง เอเป็นคนขับรถพานุชเข้ากรุงเทพฯ ไปเรื่องงานตลอด ให้เอนึกย้อนใหม่นะว่าให้ข่าวไปนั้นเอรู้ทุกเรื่อง เอให้ข่าวแบบหนึ่ง พี่ขอร้องเอกี่ครั้ง เคยหยุดมั้ย และครั้งนี้ทำเกินไปแล้ว”
นายคมสิทธิ์กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีมาทำงานให้ที่บ้านด้วยนั้นก็ใช่ เพราะเอขอร้อง บอกว่าเงินเดือนทหารไม่พอใช้จ่าย และขอทำงานด้วย ตนจ่ายงานให้ทำไป เริ่มต้นให้ไปดูหน้างานกับลูกน้องก่อน ทำเท่าที่ทำได้ และโทร.เช็กกับลูกน้องบอกว่าไม่เห็นทำอะไรเลย ได้แต่เดินไปมา และคุยโทรศัพท์ เลยปรึกษากับนุชว่าอนาคตอาจจะมีปัญหาเพราะในทีมทำงานกันหมด ค่าแรงเท่ากัน แต่เอไม่ทำ แต่ค่าแรงเท่ากัน เลยเปลี่ยนงานให้เอทำเรื่องบัญชี แต่มีข้อตกลงว่าถ้าทำงานได้ ไม่มีปัญหาจะจ่ายเงิน คุยทดลองงาน 3 เดือน ช่วงแรกได้เงิน แต่พอช่วงหลังมีความเสียหาย เลยไม่ได้เงิน
“ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็ว่ากันไปตามกระบวนการกฎหมาย ผมผิด ยอมรับว่าตีเขา แต่เด็กคนนี้เมื่อไหร่จะหยุด พี่เตือนว่าไม่รู้กำลังจะทำอะไร แต่คิดในใจว่ากำลังตกเป็นเครื่องมือของคนอื่น ถ้าไม่รีบหยุดตอนนี้จะลำบากคนเดียว จำคำพี่ไว้ ขอให้หยุดเถอะนะน้อง เพราะกำลังตกเป็นเครื่องมือเขาอยู่”
วันเดียวกัน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้าเพิ่มเติมกรณีตำรวจสันติบาลหญิงทำร้ายร่างกายทหารหญิงได้รับบาดเจ็บ ว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวผู้เสียหายเข้าพบแพทย์ศัลยกรรมตรวจร่างกายเพิ่มเติมและสอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจร่างกายผู้เสียหายที่ร.พ.ราชบุรี ส่งของกลางตรวจพิสูจน์ นำตัว ผู้ต้องหาส่งตรวจสุขภาพจิตที่ร.พ.ราชบุรี และสอบสวนปากคำแพทย์ผู้รักษาสุขภาพจิตของผู้ต้องหาที่ร.พ.ยันฮี ประกอบสำนวนการสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า และในวันที่ 23 ส.ค. ผู้เสียหาย พร้อมทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนสภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาพร้อมพวก รวม 2 คน ในฐานความผิดร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายสาหัส สถานที่เกิดเหตุเป็นคอนโดฯแห่งหนึ่งย่านอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 4-10 ส.ค.2565 และพนักงานสอบสวนรับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว จากนั้นได้สอบสวนปากคำผู้เสียหาย พาผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุ และนำตัว ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ร.พ.ชะอำ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของคอนโดฯ ที่เกิดเหตุ และจะรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป
“ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดี และในวันที่ 25 ส.ค.65 พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และขอยืนยันว่าได้ดำเนินการตามมาตรฐานเดียวกัน ภายใต้กรอบกฎหมายที่ได้ให้อำนาจไว้ ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์เหนือใคร และกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องการกระทำผิดส่วนตัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดภาพรวมทั้งหมดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ”