เมื่อวันที่ 6 ก.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวกรณีการทลายเครือข่ายหลอกลงทุน P Miner ตรวจยึดของกลางได้จำนวนมาก

พล.ต.ท.กรไชยกล่าวว่า สืบเนื่องจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมา ผู้ต้องหากับพวกร่วมกันโฆษณาชักชวนหลอกลวงประชาชนทั่วไปผ่านเฟซบุ๊ก และกลุ่มไลน์ห้างหุ้นส่วนจำกัด พี มายเนอร์ คริปโตเคอร์เรนซี่ กรุ๊ป ให้สมัครเป็นสมาชิก และร่วมลงทุนขุดเหรียญ และเทรดเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ ตามโครงการต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 30 โครงการ โดยแต่ละโครงการจะมีจำนวนเงินการลงทุน และได้รับผลกำไรที่แตกต่างกัน บางโครงการอ้างว่าได้กำไรมากถึงร้อยละ 82 ต่อเดือน หรือได้กำไรร้อยละ 1,000 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินตามกฎหมายจะพึงจ่ายได้

ยึดทรัพย์ – พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. แถลงตำรวจไซเบอร์ทลายเครือข่ายหลอกลงทุน พี มาย เนอร์ ตรวจยึดของกลางได้จำนวนมากทั้งบ้านหรู เครื่องประดับ และ รถราคาแพง ที่บช.สอท. เมืองทองธานี เมื่อ วันที่ 6 ก.ย.

“เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไปแล้ว จะได้รับหนังสือสัญญาการลงทุน ซึ่งในสัญญาจะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นชื่อโครงการที่ลงทุน จำนวนเงินที่ลงทุน ระยะเวลาที่ลงทุน จำนวนครั้งและจำนวนผลตอบแทนที่จะได้รับเงินกลับมา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือว่ามีการลงทุนจริง ทั้งนี้ในช่วงแรกๆของการเริ่มลงทุน ผู้เสียหายจะได้รับผลตอบแทนกลับมาบางส่วนจริง กระทั่งเดือนส.ค.ที่ผ่านมา ผู้เสียหายไม่ได้รับเงินปันผลจากการลงทุนแต่อย่างใด ผู้ต้องหาอ้างเหตุขัดข้องต่างๆ และไม่สามารถติดต่อได้ในเวลาต่อมา ผู้เสียหายเชื่อว่าถูกหลอกลวงจึงมาแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมายนำมาสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา 2 ราย คือนายกิติกร อินต๊ะ ซีอีโอบริษัท พี มายเนอร์ คริปโตเคอร์เรนซี่ กรุ๊ป และน.ส.ณัฐวดี พรหมปัญญา แฟนสาว ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ก่อนตรวจค้นบ้านพักของ ผู้ต้องหาในพื้นที่ จ.เชียงใหม่”

พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รอง ผบก.สอท.1 กล่าวว่า เบื้องต้นตรวจยึดของกลางที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดหลายรายการ เช่น รถยนต์เบนท์ลีย์ เบนเทย์ก้า, ลัมโบกินี ฮูราคาน, เฟอร์รารี่ สไปเดอร์, ปอร์เช่ 718 บ็อกสเตอร์, บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กซ์โฟร์, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮาร์ลีย์ เดวิดสัน, เครื่องขุดเหรียญดิจิทัล 50 เครื่อง อีกทั้งยังสามารถอายัดเงินในบัญชีของขบวนการผู้ต้องหาได้ 117 บัญชี อายัดเงินในบัญชีได้กว่า 112 ล้านบาท อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความผ่านระบบรับแจ้งความออนไลน์ thaipoliceonline.com แล้ว 341 ราย ความเสียหายกว่า 439 ล้านบาท ทั้งนี้ยังมีผู้เสียหายบางส่วนเข้าแจ้งความกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ อีก 500 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน