ญาติโวยทำเกินกว่าเหตุ ตร.น้ำยืนยิงวิสามัญฯ หนุ่มคลั่งขับเก๋ง ไปจอดหน้าโรงพัก ปาประทัดไล่ทุบรถตำรวจ-รถของกลาง รองผกก.เข้าระงับเหตุถูกฟาดเจ็บ ชักปืนยิงขายังไม่หยุด นายดาบเข้าช่วยถูกตีหัวเจ็บอีกนาย ยิงขาอีกข้างยังไม่ยอมสงบกอดปล้ำกับนายดาบจนปืนลั่นอีกนัดเจาะหน้าท้องหนุ่มคลั่งจนสิ้นฤทธิ์ในที่สุด ตร.รีบหามส่งโรงพยาบาลแต่สิ้นใจในเวลาต่อมา ผู้การอุบลฯ รุดตรวจที่เกิดเหตุสั่งเก็บหลักฐานให้ครบถ้วนเพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายมั่น (ขอสงวนนามสกุล) และญาติพี่น้อง ขอรับศพนายวัน (นามสมมติ) อายุ 32 ปี ลูกชายที่แผนกนิติเวชโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบลราชธานี ที่เสียชีวิตจากเหตุถูกตำรวจ สภ.น้ำยืน วิสามัญฯ หลังอาละวาดบุกปาประทัดลูกบอล และใช้ไม้เบสบอลเหล็กทุบทำลายรถจักรยานยนต์ รถยนต์ของกลาง รถสายตรวจ ซึ่งจอดไว้บริเวณหน้าโรงพักเสียหาย และตีตำรวจที่เข้าไประงับเหตุบาดเจ็บ 2 นาย เมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา

น.ส.อัญชลี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี น้องสาวของผู้ตายเล่าว่า รับทราบเหตุการณ์จากบิดาที่โทรศัพท์ไปแจ้งว่าพี่ชายเข้าไปอาละวาดในโรงพัก ก่อนถูกตำรวจใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนหน้านี้พี่ชายเคยมีอาการทางจิตเวช แต่รักษาจนหายดีแล้วทำงานเป็นช่างไฟฟ้าในโรงงานที่ จ.ระยอง ปกติพี่ชายเป็นคนเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร และไม่มีครอบครัว

จนเมื่อเดือนก่อนทราบจากทางบ้านว่า พี่ชายเก็บข้าวของจากจังหวัดระยองกลับมาอยู่ที่บ้านที่ อ.น้ำยืน ไม่ทราบว่าพี่ชายมีความเครียดเรื่องอะไร แต่ที่ผ่านมาเป็นคนดีทำงานหาเงินส่งมาให้พ่อแม่ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนอะไรให้กับครอบครัว และไม่รู้ว่าอาการป่วยของพี่ชายกำเริบหรือไม่ สิ่งที่อยากจะร้องขอคือความเป็นธรรมให้กับพี่ชาย คืออยากเห็นภาพวันเกิดเหตุจากกล้องวงจรปิด ถ้าการกระทำของเจ้าหน้าที่ไม่เกินกว่าเหตุจะไม่ติดใจอะไร

ด้านพ.ต.อ.สุพจน์ จงอุตส่าห์ ผกก.สภ.น้ำยืน กล่าวถึงภาพเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุจากกล้องวงจรปิดของสภ.น้ำยืน ว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมเป็นประจักษุพยานหลักฐานในคดีนี้ แต่ไม่สามารถนำออกมาเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องความลับในสำนวนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหาใคร เพราะอยู่ระหว่างรอผลการชันสูตรศพของแพทย์ รวมทั้งความเห็นการตรวจรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่ 2 นาย ที่ถูกตีด้วยไม้เบสบอล หลังได้พยานหลักฐานครบถ้วนต้องแจ้งข้อหาตำรวจสองนายที่เข้าระงับเหตุฐานฆ่าผู้อื่นโดยอ้างเหตุป้องกันตัวขณะปฏิบัติหน้าที่ ส่วนผู้เสียชีวิตต้องดูว่า ทำผิดในข้อหาใดจะได้แจ้งข้อหาต่อไปในภายหลังด้วย

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 7 ก.ย. นายวันผู้ตายขับรถยนต์นิสสันอัลเมร่า สีขาว ทะเบียน 2 ขข 5626 กรุงเทพมหานคร ไปจอดบริเวณลานเสาธงหน้าสภ.น้ำยืน ก่อนจะหยิบเอาประทัดลูกบอลหลายลูกออกมาจุดปาเข้าใส่ตัวอาคารโรงพัก ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำงานอยู่พากันแตกตื่นจากเสียงดัง จากนั้นส่งเสียงร้องเอะอะโวยวายด่าตำรวจอย่างไม่รู้สาเหตุ เจ้าหน้าที่พยายามเข้าเจรจาให้สงบสติอารมณ์ แต่ไม่เป็นผล นายวันหยิบไม้เบสบอลเหล็กยาวประมาณ 50 เซนติเมตร ออกจากรถ วิ่งไล่ตีตำรวจที่พยายามจะเข้ามาใกล้จนต้องพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นผู้ตายหันไปใช้ไม้เบสบอลทุบทำลายประตูกระจกทางเข้าสถานี ทุบรถจักรยานยนต์ รถยนต์ของกลาง และรถประจำพนักงานสอบสวนเวรได้รับความเสียหายยับเยิน

รับศพคลั่ง – ญาติรับศพหนุ่มอายุ 32 ปี ป่วยจิตเวชคลุ้มคลั่งบุกปาระเบิดใส่ สภ.น้ำยืน ไม้เบสบอลทุบรถ และไล่ทำร้ายตำรวจ ก่อนถูกวิสามัญฆาตกรรม ครอบครัวร้องขอความ เป็นธรรม สงสัยกระทำเกินกว่าเหตุ ที่ร.พ.สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 8 ก.ย.

ช่วงดังกล่าว พ.ต.ท.วุฒิกร ยืนสุข รองผกก.ป. พยายามเข้าไประงับเหตุหยุดนายวันไม่ให้ทำลายทรัพย์สินของผู้อื่น แต่อีกฝ่ายใช้ไม้เบสบอลไล่ตีที่แขนซ้ายจน พ.ต.ท.วุฒิกร เสียหลักล้มลง จึงตัดสินใจใช้ปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. ยิงเข้าไปที่ต้นขาของนายวัน 1 นัด แต่ยังหยุดอาการคลุ้มคลั่งไม่ได้ และยังตรงจะเข้าทำร้ายอีก ด.ต.สุทัศน์ ศิลาชัย ซึ่งปฏิบัติงานด้านธุรการ รีบเข้าช่วยจนถูกนายวันใช้ไม้เบสบอลตีเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้ง จึงตัดสินใจใช้ปืนขนาดเดียวกันยิงไปที่ต้นขาอีกข้าง เพื่อหวังหยุดอาการคลั่งของนายวัน แต่ไม่สำเร็จ ทำให้เกิดการปล้ำต่อสู้กัน และเกิดเสียงปืนดังเป็นนัดที่ 3 กระสุนปืนถูกบริเวณหน้าท้องของผู้ก่อเหตุ ทำให้นายวันที่ถูกกระสุนปืนเข้าที่ขาข้างละ 1 นัด และหน้าท้อง 1 นัด รวม 3 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เริ่มมีอาการสงบลง เจ้าหน้าที่รีบพาส่งรักษาตัวที่ร.พ.น้ำยืน แต่นายวันทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในช่วงค่ำวันเดียวกัน

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี พร้อมพ.ต.อ.สุพจน์ และเจ้าหน้าที่พฐ. เข้าเก็บหลักฐาน เพื่อใช้ประกอบสำนวนการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เบื้องต้นยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ใด เพราะอยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน

พล.ต.ต.สถาพร เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเหตุจาก ผกก.สภ.น้ำยืน รีบรุดลงพื้นที่เกิดเหตุกำชับให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากพยานที่เห็นเหตุการณ์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย สำหรับสาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ ยังไม่ทราบชัดเจน แต่จากการสอบถามบิดาของผู้ก่อเหตุยอมรับว่า ลูกชายเป็นผู้ป่วยจิตเวช หลังรักษาหายเมื่อปลายปีก่อนไปทำงานที่ต่างจังหวัด และเพิ่งกลับมาบ้านไม่ถึงเดือนก็มาก่อเหตุ

ในวันเกิดเหตุ นายมั่นบิดาของผู้ตายเผยว่า ก่อนลูกจะมาถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ตอนเที่ยงยังอยู่ที่บ้าน ตกเย็นมีเจ้าหน้าที่ไปแจ้งว่า ลูกชายมาก่อเหตุที่โรงพักและถูกยิงบาดเจ็บจึงรีบเดินทางมาดูอาการลูกชาย ปรากฏว่าเสียชีวิตไปแล้ว ส่วนสาเหตุไม่ทราบแน่ชัด ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดใดมาก่อน แต่เมื่อ 6-7 ปีก่อน เคยเป็นผู้ป่วยจิตเวช ด้านทางอารมณ์โมโหร้าย ต้องรักษาตัวที่ร.พ.จิตเวชพระศรีมหาโพธิ์ อ.เมือง จ.อุบล ราชธานี กระทั่งหายเป็นปกติแล้วไปทำงานที่ จ.ระยอง ประมาณ 6 ปี เพิ่งลาออกจากงานกลับมาอยู่ที่บ้านได้เกือบ 1 เดือน ก่อนมาเกิดเหตุนี้ขึ้น เรื่องที่เกิดขึ้นส่วนตัวคิดว่าเจ้าหน้าที่กระทำเกินกว่าเหตุ เพราะลูกชายไม่มีอาวุธปืน หรือมีด มีเพียงไม้เบสบอล และประทัดลูกบอลเท่านั้น ไม่น่าจะยิงจนถึงแก่ความตาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน