โลกอาลัย ‘ควีน’เสด็จสวรรคต

‘ชาร์ลส์ที่3’ขึ้นครองราชย์ไทยร่วมเสียใจกับอังกฤษ
ลดธงครึ่งเสา3วันไว้อาลัย

โลกโศกาดูรสิ้น ‘สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2’แห่งสหราชอาณาจักร เสด็จสวรรคต ด้วยอาการสงบณ พระตำหนักแบลมอรัล สกอตแลนด์ ด้าน ‘สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3’ พระราชโอรสขึ้นเสวยราชย์สืบต่อสันตติวงศ์ทันที ขณะที่ผู้นำชาติมหาอำนาจทั้ง‘ไบเดน-ปูติน-มาครง- สีจิ้นผิง-โมที’ต่างแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งชี้เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ประเทศไทยร่วมเสียใจด้วย รัฐบาลสั่งลดธงครึ่งเสาถวายความอาลัยเป็นเวลา 3 วัน ‘ประวิตร-ประยุทธ์’ รุดลงนามไว้อาลัย ‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ

ควีนอลิซาเบธที่ 2 สวรรคต
วันที่ 9 ก.ย. บีบีซีรายงานว่า สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร พระชนมพรรษา 96 พรรษา เสด็จสวรรคตแล้วที่พระตำหนักแบลมอรัล สกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น สร้างความเศร้าโศกให้กับพสกนิกรชาวอังกฤษและประชาคมโลก

การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เกิดขึ้นภายหลังแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮมที่ระบุถึงความกังวลต่อพระพลานามัยของคณะแพทย์ ซึ่งขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถวายการดูแลอย่างใกล้ชิด

พระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถก่อนเสด็จสวรรคต ได้แก่ พระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งหมดในสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ได้แก่ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ พร้อมคามิลลา พระมเหสี, เจ้าหญิงแอนน์ พระราชกุมารี, เจ้าชายแอนดรูว์, และเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด พร้อมโซฟี เคาน์เตสแห่งเวสเส็กซ์ รวมถึงพระราชนัดดาอย่างเจ้าชาย วิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ส่วนเจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเส็กซ์ เสด็จไปเข้าเฝ้าสมเด็จ พระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 หลังสวรรคตแล้ว

บักกิงแฮมแถลงทรงไปสงบ
แถลงการณ์ของสำนักพระราชวังบักกิงแฮม ประกาศเมื่อราว 18.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นว่า สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตอย่างสงบในช่วงบ่ายที่พระตำหนัก แบลมอรัล ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ประทับอยู่ที่พระตำหนักดังกล่าวในช่วงเย็นและเสด็จกลับกรุงลอนดอนในวันที่ 9 ก.ย.

รายงานระบุว่า รัชสมัยของสมเด็จพระราชินี นาถอลิซาเบธที่ 2 เต็มไปด้วยเหตุการณ์สำคัญมากมาย อาทิ การปฏิรูปประเทศจากจักรวรรดิอังกฤษไปสู่เครือจักรภพ การสิ้นสุดของสงครามเย็น รวมถึงการเข้าและออกจากสมาชิกภาพแห่งสหภาพยุโรปหรืออียู

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงดำรงตำแหน่งประมุขของสหราชอาณาจักร มีนายกรัฐมนตรีดำรงตำแหน่ง 15 คน เริ่มตั้งแต่วินสตัน เชอร์ชิล มาจนถึงคนล่าสุดอย่างนางลิซ ทรัสส์ และทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจอย่างครบถ้วน อาทิ การให้นายกรัฐมนตรีเข้าเฝ้าเพื่อทูลรายงานอย่างไม่เคยขาดทุกสัปดาห์ตลอดรัชสมัยของพระองค์

‘ชาร์ลส์ที่ 3’ ขึ้นครองราชย์
ต่อมา พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์พระองค์ใหม่แห่งอังกฤษ ตรัสภายหลังพระราชมารดาสวรรคต ที่พระตำหนักแบลมอรัลว่า การสวรรคตของพระราชมารดาผู้ทรงเป็นที่รักเป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าอย่างใหญ่หลวงสำหรับพระองค์และครอบครัวของพระองค์ และจะเป็นที่รับรู้อย่างสุดซึ้งทั่วโลก

เราโศกเศร้าอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของสมเด็จพระราชินีนาถผู้ทรงเป็นที่ยึดมั่นและพระราชมารดาผู้ทรงเป็นที่รักยิ่ง ข้าพเจ้าทราบว่าการสูญเสียพระองค์จะเป็นที่รับรู้อย่างสุดซึ้งทั่วประเทศ อาณาจักรและเครือจักรภพ และโดยประชาชนทั่วโลกนับไม่ถ้วน” พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ตรัสและว่า พระองค์และครอบครัวพระองค์จะทรงสบายพระทัยและได้รับกำลังพระทัยเมื่อทราบถึงความเคารพและความรักอย่างลึกซึ้งที่พระราชินีนาถอลิซาเบธทรงได้รับอย่างกว้างขวาง

‘ลิซ ทรัสส์’ถวายจงรักภักดี
ขณะที่นายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เมื่อวันอังคารที่ 6 ก.ย. ว่า พระองค์ทรงเป็นศิลาที่อังกฤษยุคใหม่ที่ได้รับการจารึก ผู้พระราชทานความมั่นคงและความแข็งแกร่งที่เราต้องการแก่เรา

นายกรัฐมนตรีทรัสส์กล่าวถึงพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ว่า “เราถวายความจงรักภักดีและอุทิศแด่พระองค์เช่นเดียวกับที่พระราชมารดาของพระองค์ที่ทรงอุทิศแก่คนจำนวนมากเป็นเวลานาน และเมื่อยุคแห่งสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ล่วงเลยไป เราเข้าสู่ยุคใหม่ในประวัติศาสตร์งดงามของประเทศของเรา ตรงตามพระราชประสงค์ในพระองค์ ด้วยการเปล่งคำว่า “God Save the King” (พระผู้เป็นเจ้าทรงปกปักรักษาพระราชา)

ขณะเดียวกัน ที่พระราชวังบักกิงแฮมในกรุงลอนดอน ประชาชนที่รอติดตามความคืบหน้าพระอาการของสมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธที่ 2 เริ่มร้องไห้ขณะทราบข่าวการสวรรคต มีการลดธงชาติจากยอดพระราชวังลดลงครึ่งเสา และเจ้าหน้าที่ติดประกาศการสวรรคตอย่างเป็นทางการด้านนอกพระราชวัง ประชาชนเดินทางมาวางดอกไม้และถวายความอาลัยด้านนอกพระราชวังบักกิงแฮม พระตำหนักวินด์เซอร์ ตลอดจนที่ประทับอื่นของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 และโบสถ์หลายแห่ง อย่างไม่ขาดสาย เช่นเดียวกับคนทั่วโลกที่วางดอกไม้และเขียนข้อความถวายความอาลัยที่สถานทูตอังกฤษและมหาวิหารต่างๆ

ผู้นำทั่วโลกร่วมอาลัยควีน
ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส เป็นผู้นำโลกที่ถวายอาลัยโดยรำลึกถึง “สมเด็จพระราชินีนาถผู้ทรงพระเมตตา” ซึ่งเป็น “มิตรแห่งฝรั่งเศส”

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ซึ่งเคยพบสมเด็จพระราชินีนาถเป็นครั้งแรกเมื่อ 40 ปีก่อน กล่าวว่า พระองค์ทรงเป็นมากกว่าพระราชินี พระองค์ทรงเป็นผู้กำหนดยุคสมัย พร้อมรำลึกถึงการเยือนสหราชอาณาจักรในฐานะประธานาธิบดีเมื่อปี 2564 ว่า พระองค์ทรงทำให้เราหลงรักด้วยพระปรีชา ทรงทำให้เราขับเคลื่อนด้วยพระเมตตา และแบ่งปันความรอบรู้ของพระองค์แก่เราด้วยน้ำพระทัย

“ควีนอลิซาเบธที่ 2 ทรงเป็นรัฐสตรีผู้มีศักดิ์ศรีอันหาที่เปรียบมิได้ ทำให้รากฐานของพันธมิตรระหว่างสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกาลึกซึ้งยิ่งขึ้น พระองค์ช่วย ทำให้ความสัมพันธ์ของเรามีความพิเศษ” นายไบเดนเสริม

‘สี จิ้นผิง’ระบุสูญเสียครั้งใหญ่
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน แสดงความเห็นอกเห็นใจอย่างจริงใจต่อรัฐบาลและประชาชนอังกฤษ และเสริมว่า การจากไปของพระองค์เป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวงต่อประชาชนอังกฤษ

นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ผู้นำแคนาดา กล่าวโดยกลั้นน้ำตาว่า พระองค์รักและมั่นคงอย่างลึกซึ้งต่อประชาชนแคนาดา ความสง่างามและความตั้งพระทัยแน่วแน่ของพระองค์บำรุงขวัญพวกเราทุกคนในโลกที่สับสน ข้าพเจ้าจะระลึกถึงการสนทนากับพระองค์ผู้ทรงรอบคอบ อยากรู้อยากเห็น เกื้อกูล สนุกสนาน และอีกมากมายนานัปการ

“พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ข้าพเจ้าชื่นชอบในโลกใบนี้ และข้าพเจ้าจะระลึกถึงพระองค์อย่างยิ่ง” นายทรูโดกล่าว

นางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวว่า ความเห็นพระทัยและพระปรีชาในการเชื่อมต่อกับคนทุกรุ่นที่ผ่านมาของพระองค์ พร้อมคงความหยั่งรากลึกในประเพณีสำคัญสำหรับพระองค์ เป็นตัวอย่างของความเป็นผู้นำที่แท้จริง

พระประยูรญาติในยุโรปอาลัย
สมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซาน เดอร์แห่งเนเธอร์แลนด์ ลูกพี่ลูกน้องลำดับชั้นที่ห้าในสมเด็จพระราชินีนาถ ตรัสว่า พระองค์และสมเด็จพระราชินีมักซิมาทรงรำลึกสมเด็จพระราชินีนาถผู้ทรงแน่วแน่และอัจฉริยภาพ ด้วยความเคารพอย่างสุดซึ้งและความรักอย่างยิ่งใหญ่

สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 16 กุสตาฟแห่งสวีเดน พระญาติห่างๆ ในสมเด็จพระราชินีนาถ ตรัสว่า “พระองค์ทรงเป็นที่รักต่อครอบครัวของข้าพเจ้าเสมอและเป็นความสัมพันธ์อันล้ำค่าในประวัติครอบครัวของข้าพเจ้าที่มีร่วมกัน”

สมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิป และสมเด็จ พระราชินีมาตีลด์แห่งเบลเยียม ตรัสว่า สมเด็จพระราชินีนาถทรงเป็นบุคคลผู้มีชื่อเสียงพิเศษ ผู้ทรงเกียรติ กล้าหาญ และอุทิศ ตลอดรัชสมัยในพระองค์

นายโอลัฟ ช็อลทซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ถวายความเคารพต่อพระอารมณ์ขันน่าอัศจรรย์ในสมเด็จพระราชินีนาถ และระบุในแถลงการณ์ว่า “ความมุ่งมั่นของพระองค์ในการปรองดองระหว่างเยอรมนี-อังกฤษหลัง ความน่าสะพรึงกลัวของสงครามโลกครั้งที่สองจะยังไม่มีวันลืม”

‘เซเลนสกี-ปูติน’เสียใจสุดซึ้ง
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที แห่งอินเดีย ทวีตข้อความรำลึกถึงการเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถที่น่าจดจำ ระหว่างการเยือนสหราชอาณาจักร 2 ครั้ง ว่า “ข้าพเจ้าจะไม่มีวันลืม ความอบอุ่นและพระเมตตาของพระองค์ ระหว่างการเข้าเฝ้าครั้งหนึ่ง พระองค์ทรงเผยผ้าเช็ดหน้าที่นายมหาตมา คานธี ผู้นำการต่อสู้เรียกร้องเอกราชแก่อินเดีย ถวายแด่พระองค์ในพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ข้าพเจ้าจะชื่นชมพระอิริยาบถนั้นตลอดไป”

นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ผู้นำญี่ปุ่น แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งว่า “การสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ ผู้ทรงนำอังกฤษผ่านช่วงวุ่นวายหลายครั้งในโลก เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ไม่เพียงต่อประชาชนอังกฤษ แต่ต่อประชาคมระหว่างประเทศด้วย”

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ทวีตข้อความว่า นี่เป็นความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้งที่ตนทราบถึงความสูญเสียที่ไม่สามารถแก้ไขได้

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ซึ่งมีโอกาสพบสมเด็จพระราชินีนาถหลายครั้ง แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ว่า “เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานนี้ของสหราชอาณาจักรมีความเชื่อมโยงกับพระนามของสมเด็จพระราชินีนาถอย่างแยกไม่ออก”

เลขาฯ ยูเอ็นชี้ทรงอุทิศพระองค์
นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวว่า สมเด็จพระราชินีนาถทรงสร้างความมั่นใจตลอดหลายทศวรรษของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ รวมถึงการปลดปล่อยอาณานิคมของแอฟริกาและเอเชียและวิวัฒนาการของเครือจักรภพ และยกย่องการอุทิศพระองค์ตลอดชีวิตเพื่อรับใช้ประชาชนอย่างไม่เปลี่ยนแปลง โลกจะจดจำความจงรักภักดีและความเป็นผู้นำของพระองค์ตราบนานเท่านาน

นายกรัฐมนตรีแอนโทนี แอลบานีส ผู้นำออสเตรเลีย ระบุในแถลงการณ์ว่า หลายคนไม่เคยรู้จักโลกโดยไร้พระองค์

“แม้จะผ่านกระแสและความวุ่นวายหลายปี แต่พระองค์ทรงเป็นพระองค์และทรงแสดงความเหมาะสมเหนือกาลเวลาและความสุขุมสงบอย่างยืนยง ทรงเฉลิมฉลองช่วงเวลาดีๆ ของเรา ทรงยืนเคียงข้างเราในช่วงเวลาย่ำแย่ ทรงสำราญ รุ่งโรจน์ แต่แน่วแน่เช่นกัน” นายแอลบานีสกล่าว

กำหนดการเบื้องต้นพิธีบรมศพ
บีบีซีรายงานรายละเอียดของกำหนดการเบื้องต้นในช่วงที่ยังไม่ได้รับการยืนยันทั้งหมดหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ อลิซาเบธที่จะมีขึ้นในวันที่ 9 ก.ย. ว่า พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะตรัสทางโทรทัศน์ทั่วประเทศเป็นครั้งแรกในฐานะประมุขแห่งรัฐพระองค์ใหม่ แต่ยังไม่ได้รับการยืนยันเวลาที่ชัดเจน

ส่วน 12.00 น. จะลั่นระฆังเพื่อเทิด พระเกียรติแด่สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธ ที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ มหาวิหารเซนต์พอล และพระตำหนักวินด์เซอร์ ต่อมา เวลา 13.00 น. จะยิงปืนสลุต 96 ลูก ตามพระชนมพรรษา 96 พรรษา ในสวนสาธารณะไฮด์ปาร์ก และสถานที่ทุกแห่งในอังกฤษ และ 18.00 น. จะจัดพิธีสวดภาวนาและรำลึกหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่มหาวิหารเซนต์พอล ซึ่งจัดสรรที่นั่งแก่ประชาชนทั่วไปตามลำดับก่อนหลัง 2,000 ที่นั่ง และคาดว่านายกรัฐมนตรีทรัสส์ และ นายซาดิก ข่าน นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน จะเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้ จะเปิดการถ่าย ทอดสดพระราชดำรัสองค์แรกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทางโทรทัศน์ภายในมหาวิหารเซนต์พอลด้วย หากเวลาตรงกับพิธีดังกล่าว

ประกาศชาร์ลส์ที่ 3 กษัตริย์ใหม่
สำหรับวันเสาร์ที่ 10 ก.ย. พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงได้รับการประกาศเป็นกษัตริย์อย่างเป็นทางการ (ในทางปฏิบัติทรงเป็นประมุขพระองค์ใหม่แล้วหลังสมเด็จพระ ราชินีนาถอลิซาเบธสวรรคต) พิธีดังกล่าว จะจัดขึ้นที่พระราชวังเซนต์เจมส์ในกรุงลอนดอนต่อคณะพิธีการในนามของสภาการขึ้นครองราชย์ ภายในพิธีจะประกาศการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธ และอ่านประกาศตามราชประเพณี

จากนั้น พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงพบกับสภาการขึ้นครองราชย์อีกครั้ง และจะทรงประกาศเป็นครั้งแรกในฐานะกษัตริย์ และจะถวายสัตย์ปฏิญาณจะทรงธำรงรักษาคริสตจักรแห่งสกอตแลนด์ หลังสิ้นเสียงแตรสรรเสริญ จะทรงได้รับการประกาศเป็นกษัตริย์พระองค์ใหม่อย่างเป็นทางการ และจะมีการยิงปืนสลุตทั่วกรุงลอนดอน ธงจะได้รับการเชิญขึ้นสู่ยอดเสาเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เพื่อประกาศความเป็นกษัตริย์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ก่อนลดธงครึ่งเสาตามเดิม

ส่วนพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธจะประทับที่มหาวิหารเซนต์ไจลส์ ในนครเอดินบะระ สกอตแลนด์ ขณะจัดเตรียมสำหรับพระราชพิธีพระบรมศพซึ่งน่าจะใช้เวลาราว 10 วัน ขณะที่หีบพระบรมศพจะได้รับการเชิญขึ้นเครื่องบินพระที่นั่งกลับกรุงลอนดอน เพื่อให้ประชาชนหลายแสนคนถวายความอาลัยเป็นเวลา 4 วัน หีบพระบรมศพจะประทับที่เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ อาคารเก่าแก่ที่สุดในพื้นที่ของรัฐสภาอังกฤษ

‘ป้อม’ส่งสารถึงนายกฯอังกฤษ
วันเดียวกัน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีสารถึง นางอลิซาเบท ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร ดังนี้

รองนายกรัฐมนตรีได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และประชาชนชาวไทย ผมขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งในช่วงเวลาที่เศร้าโศกนี้

สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ทรงอุทิศพระวรกายและทรงเอาพระทัยใส่ประชาชนสหราชอาณาจักรและประชาคมทั่วโลกอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์เป็นที่สรรเสริญและชื่นชมไปทั่วโลก และจะเป็นที่จดจําตลอดไป การเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ.2515 และ พ.ศ.2539 จะเก็บเป็นความทรงจำในใจของคนไทย และในช่วงเวลาแห่งความสูญเสียนี้ ชาวไทยขอร่วมระลึกถึง และสวดภาวนากับรัฐบาลสหราช อาณาจักร และประชาชนสหราชอาณาจักร

นายอนุชาเปิดเผยว่า วันเดียวกันนี้ เวลา 14.30 น. พล.อ.ประวิตรเดินทางไปลงนามแสดงความเสียใจต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย และในวันเดียวกัน เวลา 16.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ก็เดินทางไปลงนามแสดงความเสียใจในโอกาสเดียวกันนี้ด้วย

ลดธงครึ่งเสา 3 วัน-ถวายอาลัย
นายอนุชาเปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรสั่งการให้ส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจทุกแห่งลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 3 วัน ในวันที่ 9,12,13 ก.ย.

ด้านกระทรวงการต่างประเทศ ออกแถลงการณ์ว่า กระทรวงการต่างประเทศและประชาชนชาวไทย ขอแสดงความอาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ตลอดพระชนม์ชีพ สมเด็จพระราชินี นาถอลิซาเบธที่ 2 ได้ทรงอุทิศพระองค์ด้วยพระปรีชาสามารถและความมุ่งมั่นแน่วแน่ที่จะยังประโยชน์ต่อพสกนิกรชาวบริติช สหราช อาณาจักร เครือจักรภพ และสัมพันธไมตรี อันใกล้ชิดระหว่างราชอาณาจักรทั้งสอง

กระทรวงการต่างประเทศ และประชาชนชาวไทย ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับมิตรชาวบริติชและประชาคมระหว่างประเทศในการน้อมรำลึกถึงพระองค์และร่วมแสดงความอาลัยต่อการสูญเสียครั้งใหญ่นี้

‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’น้อมรำลึก
ขณะเดียวกัน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กว่า การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ถือได้ว่าเป็นการสูญเสียประมุขผู้เป็นที่รักและเคารพที่สุดพระองค์หนึ่งของโลก

การครองราชย์ข้ามศตวรรษของพระองค์เปี่ยมล้นไปด้วยเกียรติภูมิและศักดิ์ศรี ทรงทุ่มเทและทรงงานให้กับสหราชอาณาจักรและประชาชนของท่าน พระองค์ไม่เพียงเป็นศูนย์รวมจิตใจของพสกนิกรชาวอังกฤษเท่านั้นแต่ยังคงได้รับการยอมรับจากประชาชนนับล้านคนทั่วโลก

ประชาชนไทยมีโอกาสเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทพระองค์ท่านในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศไทยในปี พ.ศ.2515 และ 2539 ที่เป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองราชอาณาจักรให้แน่นแฟ้นขึ้น

ข้าพระพุทธเจ้าขอร่วมกับพสกนิกรชาวไทยน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อพระราชวงศ์ รัฐบาลสหราชอาณาจักร รวมถึงประชาชนทุกคนในการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้

ด้านน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวว่า ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมรำลึกถึงพระมหา กรุณาธิคุณ และแสดงความอาลัยอย่างหาที่สุดมิได้ต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินี นาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งนับเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของราชวงศ์ รัฐบาล และประชาชนของอังกฤษ

พระองค์ทรงเป็นพระประมุขแห่งสหราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ และทรงครองสิริราชสมบัติมายาวนาน เป็นที่ชื่นชมและยกย่องด้วย พระจริยวัตรอันงดงาม ประกอบกับการทรงงานที่มุ่งมั่นและทุ่มเทเพื่อพสกนิกรของท่าน ทำให้พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างให้ผู้คนทั่วโลกเคารพนับถือ

ข้าพระพุทธเจ้ายังคงจำเกียรติประวัติอันสูงสุดที่ได้รับพระราชทานพระราชวโรกาสให้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร เมื่อปี พ.ศ.2555 พระเมตตาและน้ำพระราชหฤทัยที่มีต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและราชอาณาจักรไทยของพระองค์ ยังคงตราตรึงในหัวใจอย่างมิรู้ลืม

อาลัยควีน – ประชาชนชาวอังกฤษจำนวนมากร่ำไห้ถวายความอาลัยสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 แน่นขนัดหน้าพระราชวังบักกิงแฮมในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 9 ก.ย. หลังควีนสวรรคต ขณะพระชนมพรรษา 96 พรรษา เมื่อบ่ายวันที่ 8 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น

2 รัชกาล – ภาพเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ประทับเคียงข้างสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ในพิธีฉลองครองราชย์ 70 ปี เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนควีนสวรรคตเมื่อบ่ายวันที่ 8 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ได้สืบสันตติวงศ์ทรงพระนามพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3