เมื่อเวลา 08.15 น. วันที่ 11 ก.ย. ร.ต.อ.จรูญ ชาลีเอ่น พนักงานสอบสวนสภ.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี รับแจ้งจากชาวบ้านที่ขายของอยู่ผัง 13 ตลาดพรมแดนไทย-ลาว ช่องเม็ก พบวัตถุต้องสงสัยพันด้วยเทปกาวสีดำวางทิ้งไว้ข้างร้านขายผักในตลาด จึงพร้อมด้วยทหารพรานกองร้อย 2301 กรมทหารพรานที่ 23 ประจำช่องเม็กเข้าตรวจสอบ พบวัตถุรูปร่างสี่เหลี่ยมพันรอบด้วยสายเทปกาวไฟฟ้า และมีสายไฟจำนวน 2 เส้น โผล่ออกมาจากวัตถุดังกล่าว ทำคล้ายต่อวงจรเป็นระเบิดแสวงเครื่อง เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารสังเกตดูสายไฟทั้งสองเส้น ไม่พบมีการต่อขั้วบวกขั้วลบ เหมือนระเบิดแสวงเครื่องทั่วไป จึงใช้มีดมาตัดเทปกาวที่ใช้พักสายไฟออก ก็พบเป็นแบตเตอรี่สำรองใช้กับโทรศัพท์มือถือที่เสียแล้วจำนวน 6 อันมาพัดติดกันไว้ คาดว่าผู้ทำต้องการสร้างสถานการณ์ให้พ่อค้าแม่ค้าตกใจ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นจุดการค้าของตลาดชายแดนช่องเม็ก มีความขัดแย้งของผู้ค้าขายสินค้าในบริเวณนั้นด้วยกัน เจ้าหน้าที่จะติดตามจับผู้ที่สร้างสถานการณ์ครั้งนี้มาดำเนินคดีต่อไป
ด้านพ.ต.อ.จุมพล สุวนาม ผกก.สภ.ช่องเม็ก เปิดเผยว่า ไม่ใช่ระเบิด เป็นเครื่องเพาเวอร์แบงก์เก่า จำนวน 4 ชิ้นที่ถูกมัดรวมกันด้วยพลาสติกสีดำ ด้านในมีสายต่อพ่วงสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ธรรมดา ซึ่งสายไฟฟ้าไม่ได้ต่อพ่วงลักษณะคล้ายระเบิด แต่วัสดุห่อหุ้มถ้าดูผิวเผินชาวบ้านอาจจะมองว่าคล้ายจึงแตกตื่นและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ คาดว่าเจ้าของเพาเวอร์แบงก์อาจจะนำมาทิ้งที่ถังขยะ แต่ทิ้งไม่ลงถัง ทำให้เพาเวอร์แบงก์ถูกวางไว้ในลักษณะทิ้งไว้ริมถนน ซึ่งเป็นไปได้ที่ชาวบ้านอาจจะเข้าใจผิด ส่วนที่เพจดังกล่าวระบุว่าอาจจะมีความขัดแย้งของผู้ค้าในชายแดนช่องเม็กนั้นเป็นสิ่งที่น่าตกใจว่า มันไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรเลย
ซุกบึ้ม – จนท.เข้าตรวจสอบวัตถุคล้ายระเบิดแสวงเครื่อง มีคนนำมาซุกซ่อนไว้บริเวณตลาดชายแดนช่องเม็ก แปลง 13 ต.ช่องเม็ก อ.ช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี พบเป็นเพาเวอร์แบงก์เก่าหุ้มด้วยพลาสติกสีดำ ดูคล้ายเป็นระเบิด คาดคนทำต้องการสร้างสถานการณ์ เมื่อ 11 ก.ย.
ด.ต.ประถม สังข์ทอง รองผบ.หมวด ตชด.ที่ 2261 หัวหน้าชุดที่ลงพื้นที่ไปเก็บกู้ เผยว่า ตนเป็นคนมอบให้ทหารพรานใช้มีดปลายแหลมแกะพลาสติกสีดำออก พบเป็นก้อนเพาเวอร์แบงก์ ลักษณะบวมแล้ว 4 ก้อน มีสายไฟที่ต่อขั้วบวกขั้วลบ เพื่อใช้ในการชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือ จากการสอบถามชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงทราบว่าเมื่อช่วงเช้า พบว่ามีคนในพื้นที่ถือเล่นไปมาอยู่ มั่นใจว่าไม่มีคนพยายามสร้างสถานการณ์แต่อย่างใด ซึ่งการที่เพจดังนำข้อความไปลงเช่นนั้นก็อาจจะทำให้ประชาชนแตกตื่นก็เป็นได้ เพราะเป็นพื้นที่ตลาดการค้าชายแดน มีการค้าขายระหว่างประเทศ จึงยืนยันว่าวัตถุที่พบไม่มีการเชื่อมโยงการสร้างสถานการณ์
ขณะที่นายสมบูรณ์ ทวีผล ผู้ใหญ่บ้านเหล่าอินแปลง หมู่ 3 เขตเทศบาลตำบลช่องเม็ก กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่าผู้ค้ามีความขัดแย้งกันในพื้นที่นั้นว่า ตนไม่มั่นใจว่าจะมีความขัดแย้งจริงหรือไม่ เพราะผู้ค้าในพื้นที่มีคนมาจากหลากหลายแห่ง แต่ก็มีการค้าขายกันปกติ ไม่เคยมีเหตุการณ์รุนแรง
