เน้น‘กลุ่มเสี่ยง’คนงานต่างชาติ
สธ.นำร่องกทม. และภาคละ 2 จังหวัด รวม 8 จังหวัด จัดระบบเฝ้าระวังโควิด ด้วยการติดตามผู้ป่วยในร.พ. เฝ้าระวังระบาดในชุมชน เฝ้าระวังสายพันธุ์ ประชากรกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง เน้นจังหวัดท่องเที่ยว มีแรงงานต่างชาติเยอะ ติดตามข้อมูลไปถึงปลายปี เพื่อประเมินสถานการณ์ หากพบสัญญาณเตือนอาจยกระดับมาตรการ แต่จะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน
เมื่อวันที่ 2 ต.ค. นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ามาตรการเฝ้าระวังโควิดหลังจากนี้ จัดระบบเฝ้าระวัง 3 ระบบที่ทุกจังหวัดต้องมี คือ 1.ติดตามผู้ป่วยที่เข้ารักษาในร.พ. 2.การระบาดในชุมชน และ 3.เฝ้าระวังสายพันธุ์ ต่อไปจะเพิ่มระบบที่ 4 คือการเฝ้าระวังในประชากรเสี่ยงและสถานที่เสี่ยง เพื่อให้ระบบที่มีเข้มข้นมากขึ้น โดยจะติดตามข้อมูลในจังหวัดท่องเที่ยว จังหวัดที่มีความเสี่ยงที่จะระบาด มีแรงงานต่างชาติเยอะ
รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า เบื้องต้นเลือกมา 8 จังหวัด เช่น กทม. และจังหวัดอื่นภาคละ 2 จังหวัด แต่อาจจะติดตามข้อมูลในจังหวัดอื่นๆ ที่มีความพร้อม หรือจังหวัดที่เห็นความสำคัญอาจทำคู่ขนานกันไป คาดว่าอาจเก็บข้อมูลไปจนถึงปลายปี 2565 เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยย้ำว่ามาตรการนี้จะไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน
นพ.โสภณกล่าวอีกว่า 8 จังหวัดนี้จะเป็นเหมือนสัญญาณเตือน หากมีโอกาสเกิดการระบาดในระยะข้างหน้า รวมถึงเฝ้าระวังเชื้อว่าจะเป็นสายพันธุ์เดิม หรือสายพันธุ์ใหม่ เพื่อให้ระบบเฝ้าระวังสมบูรณ์มากขึ้น โดยจะสรุปข้อมูลเป็นรายสัปดาห์เหมือนโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวังอื่นๆ เช่นโรคไข้หวัดใหญ่ เพราะโรคไม่ได้เปลี่ยนแปลงเร็วเหมือนช่วงแรก เพราะคนมีวัคซีน บางส่วนติดเชื้อตามธรรมชาติ ดังนั้น ความเสี่ยงที่จะระบาดเร็วก็จะน้อยลง เว้นแต่จะมีเชื้อใหม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าการติดตาม 8 จังหวัด จะดูข้อมูลอะไร เพื่อประเมินว่าสถานการณ์นิ่งหรือไม่ นพ.โสภณกล่าวว่าดูได้จาก 1.อัตราตรวจพบเชื้อ เช่น เก็บตัวอย่างมาแล้วพบติดเชื้อสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ และ 2.นำเชื้อที่ได้ไปตรวจหาสายพันธุ์ว่าต่างจากเดิมหรือไม่ หากมีการติดเชื้อในเปอร์เซ็นต์ที่สูง ก็อาจมีการยกระดับมาตรการได้ ปัจจุบันเราเข้มงวดบางกิจกรรม เช่น ขนส่งสาธารณะ สถานพยาบาล สถานดูแลผู้สูงอายุและเด็ก ดังนั้น ถ้ามาตรการไม่เพียงพอ เกิดการระบาดก็อาจขยับให้เข้มข้นขึ้นได้ อย่าลืมว่าทั่วโลกมอง โควิดเป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจหนึ่ง ซึ่งประเทศต่างๆ ไม่มีอะไรที่เป็นพิเศษ แต่ไทยถือว่ามาตรการเยอะสุดเมื่อเทียบกับหลายประเทศ
