เป้าหมายสะอาด-เพียงพอ-ปลอดภัย

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เปิดเผยว่า ภายหลังเข้าเฝ้าถวายสักการะสมเด็จพระสังฆราช และกราบทูลรายงานผลการพัฒนาส้วมวัดและศาสนสถานทุกประเภท ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาส้วมวัดทั่วประเทศ และส่งเสริมให้มีผู้รับผิดชอบดูแลทำความสะอาดส้วมวัดและศาสนสถาน หรือนักบริบาลสุขา เพื่อสร้างผู้มีความรู้ในการจัดการส้วมสาธารณะ มีพฤติกรรมการใช้ส้วมที่ถูกต้อง ลดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรค ซึ่งผลการดำเนินงานพบว่า ส้วมวัดผ่านการประเมินตามมาตรฐานส้วมสาธารณะระดับประเทศ (HAS) ร้อยละ 61 พร้อมทั้งส่งเสริมให้มีนักบริบาลสุขา โดยผ่านการอบรม จำนวน 3,162 คน ตลอดจนพัฒนาวัดให้มีการจัดการส้วมสาธารณะที่ดี จนสามารถผ่านเกณฑ์ประเมินระดับดีเด่น จำนวน 322 แห่ง

สำหรับการพัฒนาส้วมวัดและส้วมในศาสนสถาน ทุกประเภทให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้นนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการร่วมกัน กระทรวงสาธารณสุขจึงขอเชิญชวนทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งภาคประชาชน ร่วมกันเป็นนักบริบาลสุขา โดยช่วยกันพัฒนาส้วมวัด และส้วมในศาสนสถานทุกประเภท ให้สะอาด เพียงพอ และปลอดภัย ไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การขับเคลื่อนพัฒนาส้วมวัด กรมอนามัยได้กำหนด เป้าหมายและแผนดำเนินงาน ดังนี้ 1) จัดทำระบบการประเมินและกำกับติดตามการพัฒนาส้วมวัด 2) สร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายส้วมสาธารณะไทย เพื่อร่วมกันพัฒนาส้วมวัดที่พบว่า ร้อยละ 38.9 ยังไม่ผ่านมาตรฐาน 3) ส่งเสริมให้มี นักบริบาลสุขาหรือจิตอาสาในการดูแลความสะอาดส้วมวัดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจัดอบรมนักบริบาลสุขา และ 4) ให้วัดทั่วประเทศมีการประเมินตนเองผ่านระบบการประเมิน และพัฒนา กำกับ ติดตามการพัฒนาส้วมวัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน