เมื่อวันที่ 9 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี การเริ่มฉีดวัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้ม สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ขวบ วันที่ 12 ต.ค.นี้ ว่า เด็กมีโอกาสติดเชื้อสูงมากเพราะต้องเดินทางไปโรงเรียน หากในบ้านมีผู้สูงอายุ ที่ยังไม่รับวัคซีน เด็กก็เป็นตัวกระจายเชื้อได้ ตอนนี้มีผู้ปกครองลงทะเบียนให้เด็กกลุ่มนี้ ฉีดประมาณ 4 แสนราย ล็อตแรกของวัคซีนเด็กมี 5 แสนโดส ถ้ามีความต้องการของผู้ปกครองเพิ่มก็จะสั่งเพิ่ม
ด้าน นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวถึงกรณีต่างประเทศตรวจพบโอมิครอนกลายพันธุ์ตัวใหม่ BQ.1.1 และ XBB สามารถแพร่เชื้อได้เร็ว และดื้อภูมิคุ้มกันมากกว่าทุกสายพันธุ์ ว่า ยังไม่พบสายพันธุ์ดังกล่าวในไทย หากพบสัญญาณว่าตัวใดมีปัญหา จะจับตาเป็นพิเศษ ขณะนี้ไทยยังไม่มีสัญญาณการกลายพันธุ์ที่ต้องกังวล
ขณะที่น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ โดยได้ให้อำนาจหัวหน้าส่วนราชการ สั่งการในสังกัด ปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการหรือกลับมาปฏิบัติราชการ ณ สถานที่ตั้งได้ตามที่เห็นสมควร พร้อมให้ส่วนราชการสนับสนุนการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง รวมถึงจัดเตรียมสถานที่หรือพื้นที่ที่ส่วนราชการจัดไว้เป็นที่ทํางานร่วม (co – working space) และอุปกรณ์สํานักงาน ตามที่เห็นสมควรแก่กรณี การปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ จะต้องไม่กระทบต่อประสิทธิภาพ และการให้บริการแก่ประชาชน มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 65 โดยแนวทางดังกล่าวสอดคล้อง กับชีวิตวิถีใหม่ (New Normal)
