เมื่อวันที่ 10 ต.ค. พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพ แห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่สปสช.เริ่มเปิดให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองพื้นที่กทม. 2.3 แสนรายที่ได้รับผลกระทบจากการยกเลิกสัญญากับร.พ.เอกชน 9 แห่ง ให้ลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำแห่งใหม่ โดยสามารถใช้เวลาตรวจสอบและเลือกเฟ้นหาหน่วยบริการที่ถูกใจได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องรีบร้อนลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการประจำ เพราะ สปสช.ได้ร่วมกับกทม. สภาเภสัชกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมหน่วยบริการปฐมภูมิในกทม.ไว้อย่างเพียงพอ ล่าสุดขณะนี้มีหน่วยบริการปฐมภูมิที่พร้อมรองรับดูแลแล้ว 858 แห่ง แยกเป็น ศูนย์บริการสาธารณสุข (ศบส.) 69 แห่ง คลินิกชุมชนอบอุ่น 214 แห่ง ร้านยา 526 แห่ง และคลินิกเวชกรรม 49 แห่ง เพื่อให้ประชาชนได้เลือกตามความสะดวก โดยหน่วยบริการปฐมภูมิทั้งหมดจะมีแม่ข่ายส่งต่อเข้ารับการรักษากรณีที่เจ็บป่วยรุนแรงหรือเป็นโรคซับซ้อน
“สามารถเลือกหน่วยบริการได้ผ่าน 4 ช่องทาง คือ 1.สายด่วน สปสช. 1330 กด 6 2.ที่ สปสช.ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. 3.ไลน์ สปสช. @nhso เลือกเมนู เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง และ 4.แอพพลิเคชั่น สปสช. เลือกเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ ย้ำว่าไม่จำเป็นต้องรีบลงทะเบียนในระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกหน่วยบริการ สปสช.ให้สิทธิเป็น VIP สามารถไปรับบริการในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ในระบบ สปสช.” พญ.ลลิตยากล่าว
ด้าน น.ส.สุนันท์ ศรีถนอมวงศ์ อายุ 67 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวกทม. ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองที่ได้รับผลกระทบกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาที่สปสช. เพื่อมาลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการใหม่ให้ตัวเองและครอบครัว 4 คน เดิมทุกคนมีสิทธิรักษาที่ร.พ.เพชรเวช หลังจากทราบว่าสปสช.ประกาศยกเลิกสัญญาก็ตกใจ เพราะตัวเองและพี่สาวเป็นผู้ป่วยเรื้อรัง ทั้งเบาหวานและความดัน และก็มีนัดหาหมอในวันนี้ด้วย ทำให้ช่วงเช้าจึงลองเดินทางไปรับบริการที่ร.พ.ราชวิถี แต่ได้รับแจ้งว่าสิทธิเต็มแล้ว เจ้าหน้าที่ร.พ.ราชวิถีจึงได้แนะนำให้มาที่สปสช.เพื่อเลือกหน่วยบริการใหม่ก่อน จึงนั่งรถประจำทางมาที่นี่ เพราะใจก็อยากทำเรื่องให้เสร็จ เวลาใช้สิทธิก็จะได้ใช้สิทธิไม่ยุ่งยาก วันนี้เลือกลงทะเบียนที่คลินิกย่านลาดพร้าวที่อยู่ใกล้บ้าน หากอาการไม่ดียังไงก็จะส่งต่อไปที่ร.พ.กลาง ซึ่งมองว่ายังดี เพราะอย่างน้อยยังใช้สิทธิบัตรทองได้ หากยาหมดก็ยังได้หาหมอได้รับยาต่อเนื่อง
นางมะลิลา ธูปนนท์ อายุ 73 ปี ชาวกทม. กล่าวว่า วันนี้มากับสามีเพื่อมาลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการปฐมภูมิ โดยมาที่สปสช.เพราะทำผ่านระบบออนไลน์ไม่เป็น โดยเลือกลงทะเบียนที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 13 ที่ใกล้บ้าน จากเดิมเคยรับบริการที่ร.พ.แพทย์ปัญญาตั้งแต่เริ่มใช้สิทธิบัตรทอง ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการดูแลและให้บริการดี สามีก็รับการรักษามาหลายโรคและก็ผ่าตัดที่นี่ ตัวเองก็รักษาที่นี่ด้วยภาวะปวดหลัง เมื่อสปสช.ยกเลิกสัญญากับร.พ.ก็ยอมรับว่ารู้สึกกังวลใจ เป็นห่วงการรักษาที่ต้องต่อเนื่อง
