ขณะเข้าค่ายซ้อมกีฬาในหอพัก นายอำเภอรุดเยี่ยม-เร่งคดี‘พ่อแม่’ยันเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
แจ้งจับครูพละโรงเรียน ในกุฉินารายณ์ กาฬสินธุ์ ก่อเหตุวางยาข่มขืนน.ร.หญิงม.1 วัย 13 ปี นักวิ่งทีมโรงเรียนขณะเข้าค่ายฝึกซ้อมกรีฑา แฉออกอุบายเรียกมานวดในห้องพัก แล้วหลอกให้เด็กดื่มน้ำผสมอะไร บางอย่างจนไม่ได้สติ ตื่นขึ้นมา พบตัวเอง ไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เจ็บอวัยวะเพศ ตรวจพบบริเวณอวัยวะเพศฉีกขาด คดีไม่คืบหน้า นอภ.ลงพื้นที่เยี่ยม เร่งฟื้นฟูจิตใจ ผอ.โรงเรียนยันเป็นครูจ้างเหมา ตร.เผยผู้ต้องหาติดต่อขอ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นให้การภาคเสธ ยอมรับว่าทำ ให้เด็กดื่มน้ำ ไม่ได้วางยา ไม่ได้ข่มขืน ไม่ได้สอดใส่
จากกรณีนักเรียนหญิงชั้น ม.1 อายุ 13 ปี ชาวอ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งไปเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตัวอ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และเป็นนักกีฬาชมรมวิ่งของโรงเรียน ถูกครูชายสอนวิชาพละเรียกไปหาที่ห้องพัก เพื่อให้นวด ก่อนหลอกให้ดื่มน้ำผสมอะไรบางอย่างจนสลบ พอตื่นขึ้นมาไม่ได้ใส่เสื้อผ้า เจ็บอวัยวะเพศ ตรวจร่างกายพบอวัยวะเพศฉีกขาดคาดว่าจะถูกข่มขืน หลังเกิดเหตุผู้ปกครองพาไปแจ้งความที่สภ.กุฉินารายณ์ แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ขณะเดียวกันมีคนโพสต์ข้อความบนโลกโซเชี่ยลระบุว่าเด็กที่ถูกครูข่มขืนยังคิดสั้น และไม่ได้มีคนเดียวที่โดน แต่ยอมความเพราะครูคนนี้ เส้นใหญ่ หลังมีการโพสต์มีคนแสดงความ คิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ และแชร์จำนวนมากนั้น
รุดเยียวยา – นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นำเจ้าหน้าที่ รุดช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวด.ญ.อายุ 13 ปี ชั้น ม.1 แจ้งจับครูพละวางยาในน้ำดื่ม จนหมดสติและข่มขืน ล่าสุดผู้ต้องหาติดต่อจะขอมอบตัว เมื่อวันที่ 24 ต.ค.
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 24 ต.ค. นายวีรดนย์ ศิริ นายอำเภอกุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยผอ.โรงเรียนดังกล่าว และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว เด็กหญิง 13 ปี ที่บ้านในอ.นาคู โดยวันนี้พบเพียงตาและยายของเด็ก เนื่องจากแม่และ เด็กหญิงอยู่ที่ร.พ.นาคู เพื่อไปฟื้นฟูสภาพจิตใจ โดยมีญาติจำนวนหนึ่งมาให้กำลังใจ
นายวีรดนย์กล่าวว่า หลังทราบเรื่อง ได้รายงานไปทางจังหวัด พร้อมประสาน นายอำเภอพื้นที่ และสอบถามไปยังโรงเรียนดังกล่าว ก่อนจะเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยเฉพาะการเยียวยา และฟื้นฟูสภาพจิตของเด็ก เนื่องจากยังอยู่ ในความเครียด เสียขวัญ ล่าสุดญาติพาตัว ไปฟื้นฟูสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลแล้ว ในส่วนของคดี ทางอำเภอจะประสานงานกับหน่วยงานด้านความยุติธรรมทุกภาคส่วน และประสานกับตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ ขอให้ผกก.สภ.กุฉินารายณ์เข้ามาดูแลคดีอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน สะเทือนใจ และสังคมให้ความสนใจ และจะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือต่อไป
ด้านผอ.โรงเรียนกล่าวว่า สำหรับครูชายคนดังกล่าว อายุ 45 ปี เป็นครูในโรงเรียนของเราจริง เข้ามาทำงานเป็นครูจ้างเหมา ตำแหน่งครูธุรการ ประมาณช่วงปี 2551 กระทั่งปัจจุบันทำหน้าเป็นครูสอนพละ โดยสอนกรีฑา และดูแลชมรมกีฬาของโรงเรียนด้วย เท่าที่ทราบครูคนนี้ไม่มีพฤติกรรมที่เสียหายในเรื่องเกี่ยวกับลวนลามเด็ก กระทั่งล่าสุด มีเรื่องนี้เกิดขึ้น เบื้องต้นยังไม่ได้สอบถามครูคนนี้ จากการตรวจสอบในช่วงวันเกิดเหตุเป็นการจัดกิจกรรมเข้าค่ายฝึกซ้อมกรีฑาของสมาคมกีฬาจ.กาฬสินธุ์ มีนักเรียนชมรมกีฬาของโรงเรียนร่วมหลายคน เด็กที่ถูกกระทำ พักที่หอพัก ซึ่งครูคนดังกล่าวเป็นเจ้าของหอ และจัดขึ้นเองโดยพลการ ไม่ได้ขออนุญาต และไม่ผ่านทางโรงเรียน ซึ่งทางโรงเรียนจะตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ รวมทั้งเรื่องล่วงละเมิดเด็กด้วย จากนั้นจะรายงานไปยังอบจ.กาฬสินธุ์ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ส่วนเรื่องคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ส่วนตาของเด็กหญิงวัย 13 ปี เล่าว่า ครอบครัวของตนอยู่ที่อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ติดกับอ.กุฉินารายณ์ หลานสาวเพิ่งไปเรียนต่อชั้น ม.1 ในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ ปกติหลานจะเช่าหอพัก ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนต่อที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะน้องเป็นนักกีฬาวิ่ง และเข้าชมรมกีฬาของโรงเรียน จึงจำเป็นต้องนอนพักหอ เพราะตอนเย็นต้องซ้อมกีฬา และไม่อยากเดินทางไกล ทราบว่าหอพักดังกล่าวห่างจากโรงเรียน 2 ก.ม. และเป็นของครูชายที่สอนสุขศึกษาในโรงเรียน และยังเป็นครูที่ดูแลชมรมวิ่งด้วย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นวันจันทร์ที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา มีเพื่อนของหลานสาวโทร.มาบอกที่บ้านว่า น้องถูกครูผู้ชายที่สอนสุขศึกษา และดูแลหอพักดังกล่าวข่มขืน ให้มารับน้องที่บ้านของเพื่อน ระหว่างนั้นตนและแม่ของเด็กพยายามสอบถามหลานถึง เรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถคุยได้ เนื่องจากหลานเอาแต่ร้องไห้ ทีแรกไม่ยอมเล่าอะไรให้ฟัง มีความเครียดมาก ต่อมาจึงยอมเล่าให้ฟังว่าถูกครูคนดังกล่าวเรียกให้ไปหา บอกว่าไปนวดให้หน่อย และน้องก็ไปนวดที่หอนอนแล้วสักพัก ครูเอาน้ำอะไรบางอย่างให้น้องดื่ม คาดว่าน่าจะเป็นยาสลบ หรือ ยานอนหลับ แล้วน้องก็หลับไป ตื่นมาอีกที น้องไม่มีเสื้อผ้าติดตัว และเจ็บบริเวณอวัยวะเพศ
“หลังทราบเรื่อง เพื่อความมั่นใจ แม่ และญาติจึงพาตัวหลานไปตรวจร่างกายที่ โรงพยาบาล เมื่อวันอังคารที่ 18 ต.ค. หลังตรวจร่างกายเสร็จ แพทย์แจ้งว่าอวัยวะเพศและปากมดลูกมีร่องรอยฉีกขาด พร้อมให้ไปแจ้งความดำเนินคดี ทางแม่และญาติก็ไป แจ้งความที่สภ.กุฉินารายณ์ และต้องการให้ดำเนินคดีถึงที่สุด จนถึงปัจจุบันคดียังไม่ คืบหน้า หลังเกิดเหตุ ครูชายคนดังกล่าวพร้อมด้วยผอ.โรงเรียนพยายามมาพูดคุยไกล่เกลี่ย แต่ทางแม่และญาติไม่พร้อมจะคุย และอยากเอาเรื่องให้ถึงที่สุด” ตาของเด็กกล่าว
ด้านญาติอีกรายของเด็กหญิงวัย 13 ปี กล่าวว่า ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าครูซึ่งทำหน้าที่สอนเด็กจะกระทำกับเด็กครั้งนี้ ญาติอุตส่าห์ส่งลูกหลานไปเรียน และเล่นกีฬา อยากให้เป็นนักกีฬาทีมชาติ แต่กับมาเจอ แบบนี้ ผิดหวังอย่างมาก อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด
พล.ต.ต.สุวรรณ์ เชี่ยวนาวินธวัช ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของคดีว่า คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ผู้ปกครองของเด็กเข้าแจ้งความที่สภ.นาคู เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำให้มาแจ้งความที่ สภ.กุฉินารายณ์ เนื่องจากเหตุเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ ซึ่งส่งตัวเด็กไปตรวจที่ โรงพยาบาล เพื่อหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิด เบื้องต้นครูชายผู้ถูกกล่าวหาติดต่อกับพนักงานสอบสวนสภ.กุฉินารายณ์ เพื่อจะขอเข้ามามอบตัวแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุวันเวลา บอกเพียงว่าอาจจะเข้ามาเย็นวันนี้ หรืออาจจะวันพรุ่งนี้
พล.ต.ต.สุวรรณ์กล่าวอีกว่า เท่าที่สอบถามเบื้องต้นกับเจ้าตัวยังให้การภาคเสธ โดยยอมรับว่าให้เด็กดื่มน้ำ แต่ไม่ได้ใส่ยาอะไร พร้อมทั้งยอมรับว่าลงมือทำจริง แต่ไม่ได้ข่มขืน เพราะยังไม่ได้สอดใส่ และจะขอให้การอย่างละเอียดกับตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวน หากผู้ต้องหาเข้ามามอบตัวจะสอบปากคำอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ส่วนเด็ก พนักงานสอบสวนจะต้องสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และ ผู้ปกครองก่อนถึงจะสามารถแจ้งข้อหาได้
