เมื่อวันที่ 25 ต.ค. ที่บช.ภาค 4 พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล รองผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษกบช.ภ. 4 แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหายาเสพติดพร้อมของกลางจำนวนมาก ขณะที่ตำรวจสภ.เมืองหนองคายตั้งจุดตรวจสกัดเพื่อป้องปรามปัญหาอาชญากรรม ที่ด่านตรวจหนองสองห้อง ฝั่งขาออกหนองคาย พื้นที่ต.ค่ายบกหวาน อ.เมืองหนองคาย พบรถเก๋งโตโยต้า อแวนซ่า สีดำ ทะเบียน ญร- 6237 กรุงเทพมหานคร ขับมุ่งหน้ามาที่ด่าน แต่ก่อนถึงด่านตรวจประมาณ 50 เมตร กลับเลี้ยวเข้าไปในปั๊มน้ำมันกะทันหัน เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจเห็นพิรุธ จึงติดตามไปตรวจสอบในรถขณะจอดอยู่ในปั๊ม พบน.ส.ภาสินี บุญที อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/10 ม.8 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นั่งที่เบาะหน้าข้างคนขับ ส่วนคนขับชื่อนายพันธุ์ลภ ช้างเจริญ อายุ 30 ปี หลังจอดรถได้หลบหนีไป ตรวจค้นในรถเก๋งคันดังกล่าวพบยาอีสีส้ม สีเขียว สีเหลือง บรรจุในถุงพลาสติกใส 15 ถุง รวม 15,000 เม็ด และยาอีชนิดผงบรรจุในซองเกลือแร่ยี่ห้อหนึ่ง 470 ซอง และยาเสพติดยี่ห้อ Frimin บรรจุในถุงพลาสติกสีเขียวและสีแดง 347 แผง และยาเสพติดเคตามีน 10 ถุง รวม 10 ก.ก. รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท
จับแก๊งยา – พล.ต.ต.พุฒิพงษ์ มุสิกูล รองผบช.ภาค 4 ในฐานะโฆษกตำรวจภาค 4 แถลงจับกุมแก๊งยาเสพติดมารับยาแถวชายแดนจ.หนองคายเจอด่านเจ้าหน้าที่ นายพันธุ์ลพ ช้างเจริญ ขับรถหลบเข้าปั๊มน้ำมันทิ้งน.ส.ภาสินี บุญที ภรรยา ไว้ในรถให้ถูกจับกุม แล้วทิ้งรถหลบหนีก่อนติดต่อขอมอบตัวในวันรุ่งขึ้น เมื่อ 25 ต.ค.
เบื้องต้นน.ส.ภาสินีรับสารภาพว่า ยาเสพติดทั้งหมดเป็นของตัวเองกับนายพันธุ์ลภซึ่งเป็นแฟนกัน มีผู้จ้างวานราคา 50,000 บาท ขนยาเสพติดทั้งหมดจากจ.หนองคายไปส่งที่จุดหมายในพื้นที่ภาคกลาง แต่มาเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจ แฟนจึงขับรถเข้าในปั๊มและแฟนก็ทิ้งรถหลบหนีไป ต่อมานายพันธุ์ลภติดต่อขอเข้ามอบตัวกับตำรวจสภ.เมืองหนองคาย เนื่องจากเป็นห่วงภรรยา เจ้าหน้าที่จึงไปรับตัวนายพันธุ์ลภที่ริมถนนในพื้นที่ต.ค่ายบกหวาน สอบสวนนายพันธุ์ลภรับสารภาพว่า เคยถูกจับในคดียาเสพติดและติดคุกที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก ทำให้รู้จักกับนายตูมตาม เมื่อพ้นโทษออกมาก็ยังติดต่อกัน และนายตูมตามว่าจ้างให้ขนยาเสพติดชนิดต่างๆ ไปส่งในพื้นที่ภาคกลาง รับจ้างมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งละ 50,000 บาท ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวไว้ดำเนินคดี พร้อมแจ้งข้อหา
