มือมีดอ้างจำผิดคน-บุกแทงหนุ่มดับ

อุกอาจหน้าห้างดังภูเก็ต ตร.ระดมล่า-โร่มอบตัว

เจ้าของร้านอาหารดวงซวยถูกบุกแทงดับหน้า ห้างดังเมืองภูเก็ต เผยคนร้ายเช้าลงมือก่อเหตุ ตกเที่ยงก็ติดต่อเข้ามอบตัวอ้างจำผิดคน ตั้งใจจะมาลงมือกับคู่กรณีที่เคยขับรถปาดหน้ากัน เข้าไปสอบถามแล้วด้วย ผู้ตายก็ตอบปฏิเสธว่าไม่ใช่อย่างเดียว จนทำให้บันดาลโทสะ ถึงกับลงมือแบบไม่ยั้งแทงจนมีดงอ แล้วก็เดินหลบหนีกลับบ้านไป เมื่อเห็นข่าวว่าแทงผิดตัว ทำให้สำนึกผิดรีบติดต่อเข้ามอบตัวทันที ด้านตร.ก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะยังสงสัยในพฤติการณ์ เพราะก่อนก่อเหตุก็เห็นยืนพูดคุยกันอยู่นาน จนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเรื่องแทงผิดตัว

เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 29 ต.ค. พ.ต.ท.สากล ไกรนรา สว.(สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต รับแจ้งมีผู้ถูกมีดแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิด ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าโกรเซอรี่ ถนนอ๋องซิมผ่าย ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.ฉัตรชัย ชูหนู รอง ผกก.ป.

เบื้องต้นทราบชื่อคนเจ็บคือนายเจริญ (สงวนนามสกุล) เจ้าของร้านอาหารใน โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าบริเวณหน้าท้องจำนวนหลายแผล ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต ต้อง ช่วยเหลือทำ CPR ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน สุดท้ายคนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ส่วนคนร้ายนั้นทราบว่าเป็นชาย แต่ยังไม่ทราบลักษณะรูปพรรณสัณฐาน พลเมืองดีระบุว่า หลังก่อเหตุแล้วคนร้ายก็วิ่งหลบหนีไปบริเวณด้านข้างห้าง โดยทิ้งเสื้อเจ๊กเกตสีดำและกระเป๋าของคนเจ็บไว้ด้วย เมื่อตรวจสอบภายในห้างก็ยังไปพบกางเกงและเสื้อที่เชื่อว่าน่าเป็นของคนร้ายถูกซุกซ่อนไว้ภายในร้านเครื่องเล่นเด็กอีกด้วย จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บนำไปตรวจสอบต่อไป

นอกจากนี้ บริเวณจุดเกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ซีอาร์วี ทะเบียน ขง 7773 ภูเก็ต ของผู้ตายจอดอยู่ มีเศษเหรียญชนิดต่างๆ ตกอยู่ท่ามกลางกองเลือด พร้อมกับมีมีดปลายแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตรสภาพคดงอตกอยู่ใกล้ๆ กัน ถัดไปที่ด้านข้างของห้างก็พบ เสื้อคลุมสีดำของคนร้ายตกอยู่ใกล้กับกระเป๋าหนังสะพายสีน้ำตาลของผู้ตาย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบภายใน พบเงินสดเป็นธนบัตรชนิด 20, 50, 100 และ 500 บาทอยู่เป็นจำนวนมาก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

แทงผิดตัว – ภาพวงจรปิดนาทีนายปัณณวิชญ์ เทพบุตร (ภาพเล็ก) กะซวกแทงนายเจริญ (ขอสงวนนามสกุล) หนุ่มเคราะห์ร้ายเสียชีวิตหน้าห้างดังกลางเมืองภูเก็ต ก่อนมอบตัวสารภาพเข้าใจผิดคิดว่าเป็นคู่กรณีที่เคยมีเหตุวิวาท เมื่อวันที่ 29 ต.ค.

จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของห้าง พบภาพผู้ตายกำลังเดินเข็นรถใส่ของมาที่ท้ายรถ จากนั้นก็มีคนร้ายเดินเข้ามาทัก ทำทีชวนคุย ช่วยขนของขึ้นรถ ก่อนชักอาวุธมีดออกมากระหน่ำแทงไม่ยั้งจนนายเจริญล้มฟุบลง แล้วคนร้ายก็กระชากเอากระเป๋าสะพายของผู้ตายวิ่งหลบหนีไป

ต่อมาเมื่อเวลา 12.00 น. วันเดียวกัน นายปัณณวิชญ์ เทพบุตร อายุ 32 ปี ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต จากนั้นจึงนำตัวนายปัณณวิชญ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยเริ่มต้นจากบริเวณหน้าห้าง ที่นายปัณณวิชญ์นำรถจักรยานยนต์ถอดแผ่นป้ายทะเบียนมาจอดไว้ จากนั้นก็ไปยังจุดก่อเหตุลงมือแทงนายเจริญล้มฟุบริมถนนหน้าห้าง จากนั้นก็นำกระเป๋าสะพายและเสื้อแจ๊กเกตสีดำไปวางไว้บริเวณร้านขายของข้างห้าง ก่อนนำไปชี้จุดที่ร้านเครื่องเล่นเด็กที่นำเสื้อผ้าไปซ่อนเอาไว้ ก่อนหลบหนีไปทางด้านหลังห้าง โดยเดินเข้าไปในซอยกอไผ่ ตัดออกไปซอยฮับเอก และเดินผ่านบริเวณปั๊มน้ำมันตรงข้ามโรงเรียนเทศบาลเมืองภูเก็ต ถ.พูนผล ต.ตลาดใหญ่ ก่อนกลับเข้าบ้านพักในหมู่บ้านพนาสนธิ์ซิตี้ (เทพอนุสรณ์) ต.วิชิต ซึ่งเป็นบ้านพักของตนเอง ก่อนติดต่อขอเข้ามอบตัวดังกล่าว

สอบสวนนายปัณณวิชญ์ให้การว่า ที่ตน ก่อเหตุครั้งนี้ก็น่าจะเป็นการแทงผิดตัว เพราะว่าจำคนผิด เนื่องจากผู้ตายมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับคนที่มีปัญหาขับรถปาดหน้ากับตน รู้เพียงชื่อว่าตานิด ก่อนจะลงมือตนก็เข้าไปสอบถามแล้ว แต่ถูกผู้ตายตอบปฏิเสธไม่ใช่อย่างเดียว ทำให้ตนเกิดบันดาลโทสะ เลยกระหน่ำแทงแบบไม่ยั้งจนเสียชีวิต กระทั่งเมื่อกลับมาถึงบ้านเปิดข่าวดูจึงรู้ว่าผิดคน ด้วยความสำนึกผิดก็เลยรีบติดต่อมอบตัวดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นการแทงผิดตัว เพราะก่อนก่อเหตุก็เห็นมีการพูดคุยกันอยู่นาน จนไม่น่าจะใช่เหตุบังเอิญ ก็จะต้องสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไป

ด้านพ.ต.อ.สราวุธเปิดเผยว่า สอบสวน ผู้ต้องหาอ้างว่า เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว เคยมีเหตุทะเลาะวิวาทกับคนชื่อนิดมาก่อน เหตุเกิดบริเวณถนนขวาง ต.วิชิต อ.เมืองภูเก็ต เมื่อมาพบนายเจริญมีลักษณะรูปร่างคล้ายกับนายนิดซึ่งเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันมาก่อน จึงเข้าไปสอบถาม แต่นายเจริญก็ปฏิเสธว่าตนไม่ใช่ ทำให้ผู้ต้องหาเกิดบันดาลโทสะ จึงใช้มีดแทงนายเจริญอย่างไม่ยั้งก่อนหลบหนีไป เมื่อทราบข่าวทำให้เกิดสำนึกผิด จึงติดต่อเข้ามอบตัวดังกล่าว ซึ่งผู้ต้องหาจะให้การอย่างไร ก็จะต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงกันต่อไปว่า มีสาเหตุมาจากเรื่องใดกันแน่