อาลัย‘ครูแบมแบม’สังเวย เร่งนำร่างส่งกลับหล่มสัก ดับพุ่ง154-มีดาราเกาหลี กทม.เข้ม‘วันลอยกระทง’

ช็อกซ้ำ-สังเวยแออัดงานเทศกาล สะพานแขวนพังถล่มที่อินเดีย ตายอย่างน้อย 141 ศพ สูญหาย อีกหลายร้อยคน ขณะที่โศกนาฏกรรมอิแทวอน เกาหลีใต้ อาลัย ‘ครูแบมแบม’ หนึ่งในสาวไทยที่เสียชีวิต เร่งช่วยเหลือนำศพกลับบ้านหล่มสัก เพชรบูรณ์ พ่อแม่สุดเสียใจสูญเสียลูกสาว คนเดียว ส่วนยอดตายพุ่งเป็น 154 ราย สลด ‘อี จีฮัน’ ดาราหนุ่มเกาหลี แฟนคลับแห่อาลัย ด้าน ‘ชัชชาติ’ สั่งคุมเข้มวันลอยกระทง ห่วงจุดเสี่ยงริมน้ำ จำกัดจำนวนคนเข้างาน ปลัดมหาดไทยก็สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศเข้มงวดเช่นกัน

เมื่อวันที่ 31 ต.ค. สำนักข่าวยอนฮัป ประเทศเกาหลีใต้ รายงานความคืบหน้าโศกนาฏกรรมเหยียบกันตายในงานฮัลโลวีนย่านอิแทวอน ย่านสถานบันเทิงชื่อดังกรุงโซล เมื่อค่ำวันเสาร์ที่ 29 ต.ค. ว่ายอดผู้เสียชีวิต เพิ่มเป็นอย่างน้อย 154 ราย เบื้องต้นระบุ อัตลักษณ์ได้แล้ว 153 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวเกาหลีใต้ 128 ราย ในจำนวนนี้เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษา 6 ราย และชาวต่างชาติ 26 ราย มาจากอิหร่าน 5 ราย, จีน 4 ราย, รัสเซีย 4 ราย, สหรัฐอเมริกา 2 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, ฝรั่งเศส, ออสเตรเลีย, นอร์เวย์, ออสเตรีย, เวียดนาม, คาซัคสถาน, อุซเบกิสถาน, ศรีลังกา และไทย ประเทศละ 1 ราย แต่ตัวเลขอาจสูงขึ้น เนื่องจากมีผู้บาดเจ็บสาหัสที่อาการยังน่าเป็นห่วงมากถึง 33 คน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 116 คน มีบาดแผลฟกช้ำเล็กน้อย ไม่เป็นอันตรายต่อชีวิต

อาลัยคับคั่ง – ประชาชนร่วมวางดอกไม้ที่ทางเข้าสถานีรถไฟใต้ดินในย่านอิแทวอน ของ กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เพื่อไว้อาลัยแก่เหยื่อในโศกนาฏกรรมเทศกาลฮัลโลวีน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 154 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวต่างชาติ 26 ราย และมีผู้บาดเจ็บอาการสาหัสอีก 33 คน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังเร่งสอบสวนหาสาเหตุ แต่สันนิษฐานว่าอาจมีผู้คนในฝูงชนสะดุดล้ม เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นซอยแคบมีความลาดชัน ประกอบกับจำนวนผู้ร่วมงานหนาแน่น ส่งผลให้คนที่เดินตามกันมาติดๆ ล้มระเนระนาดจนเกิดความโกลาหล หลายคนพยายามหนีตาย และยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้าย เหตุการณ์วันฮัลโลวีนย่านอิแทวอนถือเป็นหายนะที่เลวร้ายที่สุดของเกาหลีใต้ในรอบ 8 ปี นับตั้งแต่เหตุการณ์เรือข้ามฟาก เอ็มวี เซวอล พลิกคว่ำเมื่อปี 2557 ระหว่าง เดินทางจากเมืองอินชอนไปเกาะเชจู มีผู้เสียชีวิต 304 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนมัธยมศึกษา

ส่วนสำนักงานตำรวจเกาหลีใต้ยังแถลงว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจ ว่าบกพร่องต่อการควบคุมฝูงชน โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ 137 นาย ถูกส่งไปประจำการเพื่อดูแลความเรียบร้อยย่านอิแทวอน แต่เพราะ ผู้ร่วมงานมีมากกว่าเมื่อ 2 ปีก่อนทำให้การรับมือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

ด้านสื่อท้องถิ่นระบุว่าตำรวจพุ่งเป้าไปที่การปราบปรามการใช้ยาเสพติดมากกว่าควบคุมฝูงชน จึงไม่ทันรับมือกับเหตุที่เกิดขึ้น “หายนะครั้งนี้สามารถควบคุม หรือป้องกันได้ แต่กลับไม่ได้รับการดูแล และไม่มีใครแสดงความรับผิดชอบตั้งแต่แรก” ศาสตราจารย์อี ยองจู ผู้เชี่ยวชาญจาก แผนกไฟและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยโซล” ให้สัมภาษณ์

ส่วนชาวเน็ตหลายคนแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ควบคุมดูแลฝูงชนอย่างจริงจัง มิหนำซ้ำยังปล่อยให้ผู้คนจำนวนมากจากสถานีรถไฟใต้ดินอิแทวอน เข้าไปในซอยจุดเกิดเหตุทั้งที่คนแน่นขนัด เชื่อว่าโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นเป็นเพราะทางการไม่มีแผนควบคุมฝูงชนที่มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนายอี ซังมิน รมว.กิจการภายในเกาหลีใต้ ระบุว่าเหตุฝูงชนล้มทับและเหยียบกันไม่ใช่ปัญหา เพราะสามารถแก้ไขได้ด้วยการประจำการตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงให้ครอบคลุมต่อการปฏิบัติหน้าที่ในบริเวณดังกล่าว

ขณะที่ประธานาธิบดียุน ซอกยอล ผู้นำเกาหลีใต้ พร้อมด้วยนางคิม คอนฮี ภริยา เดินทางไปจุดเกิดเหตุย่านอิแทวอน วางดอกไม้ที่แท่นไว้อาลัยบริเวณโซลพลาซ่า หน้าศาลาว่าการกรุงโซล จากนั้นโค้งตัวคำนับหยุดนิ่งแสดงความอาลัย โดยมีประชาชนจำนวนมากทยอยเดินทางมาวางดอกไม้ และไว้อาลัยที่หน้าศาลาว่าการกรุงโซลอย่างต่อเนื่อง

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดียุนประกาศอาลัยทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. ถึงวันเสาร์ที่ 5 พ.ย. ซึ่งย่านอิแทวอน รวมถึงร้านค้า และสถานบันเทิงทั้งหมดในพื้นที่จะถูกปิดชั่วคราวในช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่เก็บหลักฐาน ด้านนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อกซู แถลงให้สัญญาว่าจะสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการเปลี่ยนแปลงเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยในอนาคต

สำนักข่าวเอสบีเอสนิวส์เผยแพร่แถลงการณ์ของบริษัท 935 เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ยืนยันว่า “อี จีฮัน” นักแสดงในสังกัดวัย 24 ปี เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมอิแทวอน พร้อมข้อความอาลัย ต่อมาไม่นานบรรดาแฟนคลับร่วมโพสต์เสียใจและอาลัยต่อความสูญเสีย สำหรับอี จีฮันเข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Produce 101 ซีซั่น 2 ทางช่อง Mnet เมื่อปี 2017 ในฐานะเด็กฝึกจากค่าย Pan Entertainment ก่อนผันตัวเป็นนักแสดงในเวลาต่อมา โดยเดบิวต์งานแสดงผ่านเว็บดราม่า Today Was Another Nam Hyun Day ในปี 2019

เซ่น‘อิแทวอน’ – อี จีฮัน นักแสดงชาวเกาหลีใต้ หนึ่งในผู้เสียชีวิตเหตุการณ์อิแทวอน ส่วนภาพเล็กขวา ศิษย์เก่าสาขาภาษาเกาหลี คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร่วมไว้อาลัย ‘ครูแบมแบม’ น.ส.นัฐธิชา มาแก้ว ที่เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมครั้งนี้

วันเดียวกัน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) โพสต์แสดงความเสียใจต่อการจากไป และร่วมไว้อาลัยกับครอบครัวน.ส.นัฐธิชา มาแก้ว หรือครูแบมแบม ศิษย์เก่าสาขาภาษาเกาหลี รุ่นที่ 9 ของคณะ เป็นคนไทยที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมอิแทวอน พร้อมระบุว่าขณะนี้ครอบครัวครูแบมแบมแจ้งว่ายังไม่ให้ข้อมูลใดๆ เพราะยังไม่ได้รับหลักฐานชัดเจน ขณะเดียวกันมีผู้มาโพสต์แสดงความเสียใจจำนวนมาก

จากการสอบถามพ่อแม่ของครูแบมแบมเปิดเผยว่า สถานทูตไทยที่เกาหลีใต้ประสานงานมาแล้วเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ใช้เวลา 3-4 วันนำร่างกลับมาประเทศไทย โดยกระบวน ดังกล่าวมีค่าใช้จ่าย 400,000 บาท ทางครอบครัวเตรียมยืมเงินญาติใกล้ชิดแล้ว ผู้ตายเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของครอบครัว ทางครอบครัวประสงค์จะนำร่างกลับทำพิธีทางศาสนาที่ จ.เพชรบูรณ์

สำหรับครูแบมแบมเดิมประกอบอาชีพรับจ้างสอนภาษาเกาหลี แต่หยุดพักการสอนไป เนื่องจากสถานการณ์โควิด กระทั่งเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เดินทางไปศึกษาต่อภาษาเกาหลีที่มหาวิทยาลัยซอกัง หลักสูตร 6 เดือน ก่อนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ต่อมานายกฤษณ์ คงเมือง ผวจ.เพชรบูรณ์ สั่งการให้นายอำเภอหล่มสัก พร้อมด้วยพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทีมแพทย์จิตวิทยา เดินทางไปบ้านเลขที่ 40 หมู่ 9 ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก เพื่อช่วยเหลือ เบื้องต้นแก่ครอบครัวน.ส.ณัฐธิชา หรือครูแบมแบม ในการนำศพกลับมาที่ประเทศไทย หากติดขัดปัญหาเรื่องใดทางจังหวัดจะเข้าไปดูแลอย่างเร่งด่วน ส่วนพ่อแม่ยังอยู่ในอาการที่โศกเศร้าเสียใจเป็นอย่างมากที่สูญเสียลูกสาวคนเดียว

นายอัมพร มีแสง นายก อบต.หนองไขว่ กล่าวว่ามีความคุ้นเคยกับครอบครัวนี้มานานแล้ว ผู้เสียชีวิตเป็นลูกสาวคนเดียวของครอบครัว เป็นเด็กขยันและชอบความเป็นเกาหลีมาก ตอนเรียนที่มหาวิทยาลัยก็เรียนภาษาเกาหลี หลังจากจบแล้วทำงานและได้ไปเรียนภาษาเพิ่มเติมที่เกาหลีใต้ ทราบมาว่าไปสมัครงานไว้ที่เกาหลีใต้ แต่ก็มาประสบเหตุเสียชีวิตเสียก่อน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงโศกนาฏกรรมอิแทวอนว่า ถือเป็นบทเรียนที่สำคัญมากและเป็นเรื่องที่น่าสนใจ แจ้ง น.ส.ทวิดา กมลเวชช และ นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากวันลอยกระทงที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. เป็นเรื่องคล้ายคลึงกัน จึงต้องมีมาตรการเรื่องทางเข้าออกอย่างชัดเจน มีเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจนับจำนวนคน ถ้าเป็นไปได้จะใช้กล้อง ซีซีทีวีช่วยจับ มีศูนย์บัญชาการบริเวณทางเข้าทางออก เน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นอันดับหนึ่ง ไม่เน้นขายของ รวมทั้งไม่ให้มีการละเล่นในพื้นที่จัดงาน ให้ออกห่างจากพื้นที่และจัดในที่โล่ง

ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่าเราไม่กังวลเรื่องการเบียดกันจนเสียชีวิต เพราะการเบียดและตกน้ำอันตรายกว่า ทุกเขตที่จัดงานจะต้องทำแผน กทม.พยายามออกมาตรการเข้มงวดที่สุด หากเห็นว่าแออัด ก็ให้รอและหมุนเวียนกันเข้า ห่วงที่สุดคือคลองโอ่งอ่างอยู่ริมน้ำ แต่มีกล้องซีซีทีวีคอยจับความหนาแน่นของประชาชนเข้าออก หากตรวจจับได้ว่ามีความหนาแน่นเกินไป จะไม่ให้เข้า ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือรอจนกว่าจะเข้าได้อย่างปลอดภัย

“สิ่งที่เราเห็นจากเหตุการณ์ที่เกาหลีใต้ จะพบว่าประชาชนทำซีพีอาร์ได้ ซึ่งกทม.สอนเรื่องนี้ และในอนาคตจะให้โรงเรียนสังกัดกทม. มีหลักสูตรเกี่ยวกับการทำซีพีอาร์อย่างจริงจัง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ แต่พอเกิดเรื่องมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ถือว่ามีความสำคัญ” ผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

ส่วนนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่าคาดวันลอยกระทงจะมีประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก จึงสั่งการทุกจังหวัดและอำเภอจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ตรวจตราและเข้มงวดกวดขันผู้ประกอบการ และผู้จัดงานให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ป้องกันพกพาอาวุธ วัตถุระเบิด และยาเสพติดเข้าไปในสถานที่จัดงาน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบระบบความปลอดภัย ระบบป้องกันอัคคีภัยของอาคารที่ใช้เป็นสถานบริการ ร้านอาหาร โรงแรม สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และสถานที่จัดงานลอยกระทง รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบกิจการคำนึงถึงความปลอดภัยของวัสดุอุปกรณ์ที่จะนำมาใช้ประกอบการแสดงดนตรี หรือการแสดงอื่นใดเพื่อความบันเทิง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของผู้เข้าใช้บริการ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกตำรวจ กล่าวว่า พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบกำกับดูแลความปลอดภัยสถานที่จัดกิจกรรม ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปจำนวนมาก โดยเฉพาะคืนวันที่ 31 ต.ค. วันฮัลโลวีน หลายพื้นที่จัดกิจกรรม มีนักท่องเที่ยวไปร่วมจำนวนมาก เช่น กทม. พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต

โฆษกตำรวจกล่าวว่า ผบ.ตร.ยังสั่งการให้ตำรวจเพิ่มความเข้มประสานผู้ประกอบการ ผู้จัดงาน เข้าไปตรวจตามสถานที่จัดงาน ตรวจสถานบริการ ทางเข้าออก ทางหนีไฟ การจำกัดคนเข้าใช้บริการตามมาตรการสาธารณสุข ไม่ให้แออัดจนเกินไป โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน ต้องเพิ่มดูแลความปลอดภัยในทุกมิติ รวมทั้งตรวจตราอาวุธตามสถานบริการเพื่อป้องกันเหตุร้าย

ฮัลโลวีน – บรรยากาศงานเทศกาลวันฮัลโลวีน ถนนข้าวสาร กทม. เต็มไปด้วยความคึกคัก มีนักท่องเที่ยวแต่งตัวด้วยชุดแฟนซี รับกับเทศกาลอย่างสนุกสนาน ซึ่งเจ้าหน้าที่ติดตั้งป้ายเรืองแสง 4 ภาษาบอกทิศทางออก หากเกิดเหตุการณ์ชุลมุน เมื่อวันที่ 31 ต.ค.

ค่ำวันเดียวกัน ที่ถนนข้าวสาร เขตพระนคร กทม. มีการจัดงานฮัลโลวีน ประกวดแต่งกายผีชิงเงินรางวัลมูลค่ารวม 30,000 บาท บรรยากาศสนุกสนานคึกคัก มีตำรวจ สน.ชนะสงคราม ตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตพระนครมาดูแลความปลอดภัย ตั้งจุดคัดกรองเข้า-ออก จัดเตรียมความพร้อมถ้ามีเหตุฉุกเฉินต้องอพยพผู้คน โดยควบคุมจำนวนอยู่ที่ 10,000 คน ถ้ามีผู้เข้าใช้บริการจำนวนมาก เจ้าหน้าที่เขตอาจปิดสถานที่

วันเดียวกัน บีบีซีรายงานว่า เกิดโศกนาฏกรรมสะเทือนใจที่ประเทศอินเดีย สะพานแขวนข้ามแม่น้ำมัจฉุพังถล่มในเมืองโมรพี รัฐคุชราต ทางตะวันตกของประเทศ เมื่อเวลาราว 18.40 น. วันอาทิตย์ที่ 30 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนกว่า 500 คนที่กำลังสัญจรไปมาบนสะพาน ร่วงตกลงสู่แม่น้ำ พบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 141 ราย ช่วยเหลือไว้ได้ 177 คน หลายสิบคนได้รับบาดเจ็บ และหน่วยกู้ภัยยังออกค้นหาผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวน แต่สันนิษฐานว่าเพราะมีผู้คนออกมาเฉลิมฉลองเทศกาลดิวาลี เทศกาลแห่งแสงไฟเป็นจำนวนมาก จนอาจเป็นเหตุให้สะพานรับน้ำหนักไม่ไหว

สะพานมรณะ – ชาวบ้านมุงดูเจ้าหน้าที่ค้นหาผู้ประสบภัยจากเหตุสะพานแขวนข้ามแม่น้ำมัจฉุในเมืองโมรพี รัฐคุชราต ประเทศอินเดีย พังถล่มเมื่อเย็นวันที่ 30 ต.ค. เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 141 ราย ช่วยเหลือได้แล้ว 177 คน ยังมีผู้สูญหายอีกหลายร้อยคน

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมที ผู้นำอินเดีย ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนรัฐคุชราต รัฐบ้านเกิดเป็นเวลา 3 วัน แถลงเสียใจอย่างสุดซึ้ง พร้อมประกาศให้เงินเยียวยาผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต

สำหรับเมืองโมรพีเคยประสบหายนะครั้งใหญ่มาแล้ว จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงเมื่อปีพ.ศ.2543 ส่งผลให้เขื่อนแตก น้ำไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่ชุมชนทั่วทั้งรัฐคุชราต รวมถึงเมืองโมรพี มีผู้เสียชีวิตมากถึง 20,000 ราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน