สมคิดฟื้นนโยบายแม้ว-พปชร.แย้มบัตรคนจนเวอร์ชั่นสอท.สว.ให้จับตาหลังเอเปคระอุแน่

ก้าวไกลเปิด 19 นโยบาย ‘สวัสดิการไทยก้าวหน้า’ ดูแลทุกช่วงอายุ แจงยิบที่มางบฯ มีเงินจ่าย ทำได้จริง ‘พิธา’ยันไม่ร่วมงานพปชร. พรรคสืบอำนาจเผด็จการ ‘สมคิด’นำพรรคสร้างอนาคตไทยบุกอุบลฯ เปิดตัว 32 ว่าที่ผู้สมัครส.ส.อีสาน เขินชาวบ้านเรียกนายกฯ ลั่นสานต่อนโยบายยุคทักษิณ-พปชร. ให้ดีกว่าเดิม พักหนี้เกษตรกรทั้งต้นทั้งดอก 5 ปี แย้มบัตรคนจนเวอร์ชั่น สอท. ‘ราเมศ’ ลั่น ปชป.-ภท. ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีกแล้ว เผยเล็งถกวิปรัฐ-ฝ่ายค้านแก้ปัญหาสภาล่ม ‘วีระกร’ คาดตู่ยุบสภา 10 มี.ค.66 ‘วันชัย’จับตาสิ้นปี รัฐบาลสิ้นอำนาจ เชื่อหลังเอเปค การเมืองระอุแน่

สมคิดนำสอท.ลุยอีสาน
เวลา 09.30 น. วันที่ 5 พ.ย. ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา ม.อุบลราชธานี พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) นำโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรค ลง พื้นที่พบประชาชนภาคอีสาน และเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ภาคอีสาน และขึ้นเวทีปราศรัยครั้งแรกในภาคอีสาน โดยมีนายสุพล ฟองงาม รองหัวหน้าพรรคและประธานภาคอีสาน นายสนธิรัตน์ สนธิ จิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายวิเชียร ชวลิต รองหัวหน้าพรรค นายปองพล อดิเรกสาร สมาชิกพรรค ประชาชนในพื้นที่ ร่วมงานกว่า 1,500 คน

ทันที ที่นายสมคิด มาถึง ประชาชนนำผ้าขาวม้ามาผูกเอวตามธรรมเนียมอีสาน และตะโกน “นายกฯ สมคิด” ทำให้นายสมคิด ยิ้มเขิน ก่อนเริ่มมีพิธีบายศรีสู่ขวัญต้อนรับ ผูกข้อต่อแขน รับขวัญ เป็นสิริมงคลให้นายสมคิด และผู้บริหารพรรค โดยมีผู้เฒ่าที่ขึ้นไปทำพิธีผูกข้อ คือ คุณพ่อหมี สาเลศ อายุ 84 ปี ชาว อ.บุญฑริก คุณแม่เพ็ญศรี บุญเลิศสว่าง อายุ 75 ปี ชาว อ.วารินชำราบ และพราหมณ์ พรมมา ธิมาทา ที่ชาวอุบลฯเคารพนับถือ พร้อมตัวแทนพี่น้องจากทั่วภาคอีสาน 19 คน ขึ้นผูกข้อต่อแขนรับขวัญ ท่ามกลางบรรยากาศเป็นกันเอง

เปิดตัว 32 ว่าที่ผู้สมัครสส.
ส่วนว่าที่ผู้สมัคร ส.สภาคอีสาน 12 จังหวัด 32 คน ที่มีการเปิดตัว ประกอบด้วย จ.อุบลฯ น.ส.โยธากาญจน์ ฟองงาม นายเชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ นายสุทธิชัย จรูญเนตร น.ส.ตวงทิพย์ จินตะเวช นายเสกสรร กอคูณ นายจำลอง พรมสวัสดิ์ นายวิชัย สวัสดิภาพ, จ.ยโสธร ไนายสนุก สิงห์มาตร นายชื่น วงษ์เพ็ญ, จ.ขอนแก่น นายวิเนตร ดอนเส นายจิรายุ โชติศิลา, มุกดาหาร นายทวีศักดิ์ ปทุมลี นายวิริยะ ทองผา, จ.สกลนคร นายชัยมงคล ไชยรบ นายเชิดชัย สิงห์มหันต์ นายไพบูลย์ มาตยาคุณ

จ.มหาสารคาม น.ส.นงลักษณ์ ทุงจันทร์ นายอัษฎา วนาทรัพย์ดำรง นายประวัติ กองเมืองปัก นายประสาทพร สีกงพล, จ.หนองบัวลำภู นางศรัณยา สุวรรณพรหม, จ.ชัยภูมิ นายราชัน วรรณจงคำ นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ น.ส.สุนทรี ชัยวิรัตนะ, จ.อุดรธานี นายโกเมนทร์ ทีฆธนานนท์ นายชัยฤทธิ์ เขาวงศ์ทอง นายมนตรี พึ่มชัย นายมานิต อินคำคา, จ.กาฬสินธุ์ นายสิทธิศักดิ์ พัฒนชัย นายวิทยา ภูมิเหล่าแจ้ง, จ.สุรินทร์ น.ส.จินตนา กลั่นแก้ว และจ.บุรีรัมย์ นายประกิจ พลเดช

ชูสมคิดคนดีคนเก่ง-เลิกแบ่งสี
เวา 10.00 น. นายสุพลกล่าวปราศรัยว่า ตนตัดสินใจมาอยู่ สอท.จะเล่นการเมืองเที่ยวนี้ เป็นสงครามครั้งสุดท้าย และจะเป็นพรรคสุดท้าย ที่มาร่วมงานเพราะต้องการคนเก่ง คนดี มืออาชีพที่จะทำให้ประเทศไปรอด แคนดิเดตนายกฯ ใครมีความสามารถ มีประสบการณ์ มีผลงาน พูดได้เต็มปากว่าเป็นคนดี พิสูจน์แล้วเป็นรองนายกฯ เป็นรมว.คลัง แก้วิกฤตมามากมาย จะมีใครดีกว่านายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ พรรคจะมาแก้ปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจเป็นอันดับแรก และก้าวข้ามความขัดแย้ง เป็นอันดับสอง

“ผมนี่แหละประธานเสื้อแดง แต่ ไม่ได้บอกให้เผาบ้านเผาเมือง ให้ไปเรียกร้องประชาธิปไตย ไล่เผด็จการ ผมขอโทษ พี่น้องประชาชนผิดไปแล้ว วันนี้ประเทศจะแบ่งสีไม่ได้ พอได้แล้ว ทหารที่อ้างว่าถ้าไม่เผาเมืองก็ไม่ปฏิวัติ ใช้เหตุเพื่อห้ามคน ตีกันแต่อยู่คนเดียวมา 8 ปี วันนี้เราต้องมาร่วมกันสร้างอนาคตไทย” นายสุพลกล่าว พร้อมถามชาวบ้านว่าจะเอาใครเป็นนายกฯ ชาวบ้านพากันตะโกน “สมคิด”

ตั้งกระทรวงน้ำ-ดันราคาข้าว
ด้านนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ปราศรัยว่า สอท. และนายสมคิด มาอุบลฯ เป็นที่แรกของภาคอีสาน ไม่ได้มาแบบเล่นๆ แต่มาครบทีมใหญ่เพื่อบอกว่าจะปักหลักสร้างอนาคตไทยในอีสาน และจ.อุบลฯ ถ้าอยากออกจากความลำบากต้องสนับสนุน สอท. หนึ่งกากบาทคืออำนาจของพี่น้องแล้ว ถ้าเลือกคนที่ไม่ใช่ก็จะได้รัฐบาลที่ไม่ใส่ใจ น้ำก็ท่วมไป ขายข้าวไม่ได้ ไฟฟ้าแพง ต้องเลือกคนที่ทำงานจริง มีนโยบายที่จะแก้จน

สิ่งแรกที่ สอท.จะทำคือแก้ปัญหา น้ำแล้ง น้ำท่วม ทำให้จ.อุบลฯ ออกจากความยากจน เราจะประกาศตั้งกระทรวงน้ำ จากนั้นจะแก้ปัญหาหนี้สิน เตรียมเงินไว้ 3 แสนล้านบาทไว้แก้หนี้ แก้ความยากจน และจะแก้ปัญหาราคาข้าว มัน ตกต่ำ จะทำให้ข้าวหอมมะลิเกิน 15,000 บาทต่อตัน กดราคาปุ๋ยให้เหลือครึ่งเดียว แก้ปัญหาค่าไฟฟ้าแพง

สมคิดปัดฝุ่นนโยบายยุคแม้ว
จากนั้น นายสมคิดกล่าวเปิดนโยบายว่า 3 ปีมานี้เหมือนฟ้าดินเมตตาตน ทำให้สุขภาพฟื้นคืน ตอนพรรคไทยรักไทยถูกยุบตนเป็นหนึ่งในนั้นที่ถูกแบน 5 ปี 6 ปีเต็มในรัฐบาลนั้น ทำทุกอย่างไม่ได้เพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่ทำเพื่อหัวใจของเรา การ กลับมาครั้งนี้สิ่งแรกเลยนโยบายใดๆ ที่ในอดีตตนเป็นคนกำกับดูแลและสร้างขึ้นมาจะสานต่อและทำให้ดีขึ้นกว่าเดิมอีก เราเคยพักหนี้เกษตรกร สิ่งที่จะทำต่อนั้นคือจะพักหนี้ทั้งต้นทั้งดอก 5 ปี มากกว่านั้นการพักดอกต้องเติมเงินใหม่ ต้องมีสินเชื่อใหม่ ที่ต้องไม่เอาไปหักดอกและต้น เราจะเติมเงินกองทุนหมู่บ้านให้เต็ม นโยบายโอท็อปจะสานต่อ เอาการท่องเที่ยวเข้าไปในหมู่บ้าน

ขณะเดียวกัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เราคิดขึ้นมา ยังไม่บอกวันนี้เอาไว้เป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน ตนไม่ได้อยู่พรรค พลังประชารัฐ (พปชร.) และไม่เคยอยู่พปชร. แต่คิดสิ่งที่ดีกว่าเดิมได้ วันนี้คนอีสาน เกษตรกรทั่วประเทศไม่มีเงินแล้ว เราจะใช้นโยบายปุ๋ยคนละครึ่ง เกษตรกรครึ่ง รัฐบาลครึ่ง และจะประกาศอุตสาหกรรมเกษตรสีเขียวที่นี่ เกษตรแปรรูป ที่จะทำให้คนอีสานอยู่ได้ รวมถึงมีการบริหารจัดการเรื่องน้ำมันและธนาคารชุมชน จะเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลต่อไป

ไม่แลนด์สไลด์แต่จะสร้างสึนามิ
“ถ้าเชื่อสมคิดมั่นใจพรรค เลือกสร้างอนาคตไทยพรรคเดียว ให้รู้ว่าพรรคที่ไม่ซื้อหัวละ 50 จะอยู่ไม่ได้ เราจะสู้ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เราไม่สร้างแลนด์สไลด์ แต่เราจะสร้างสึนามิเลย มา จ.อุบลฯ ไม่ได้มาพูดเล่นๆ แต่ต้องการให้เสียงของตนไปทั้งอีสาน อย่าดูถูกคนอีสาน อย่าคิดว่าเงินซื้อได้” นายสมคิดกล่าวและว่า สอท.ถูกปรามาสว่าเป็นพรรคเล็ก กำลังไม่มี แต่ นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส บอกพวกตนว่าพยายามทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการและมวลชนจะยืนอยู่ข้างหลังตน ตนเชื่อคำนั้น

โยนถามตู่-ยุบสภาหลังเอเปค
นายสมคิดให้สัมภาษณ์การลงพื้นที่ จ.อุบลฯ เป็นพื้นที่ของเพื่อไทย(พท.) จะเจาะไข่แดงได้อย่างไรว่า เราจะขายชุดความคิดที่เป็นนโยบาย คนตัดสินใจคือประชาชน จะเจาะได้หรือไม่อยู่ที่สิ่งที่เราเสนอให้ประชาชน นโยบายที่ตนประกาศไปแล้วใครจะเอาไปใช้ก็ไม่ได้ว่าอะไร ขอให้ทุกคนร่วมมือร่วมใจกัน

ฃเมื่อถามว่ามองการเมืองหลังเอเปค อย่างไร หลายฝ่ายประเมินจะมีการเปลี่ยนแปลง นายสมคิดกล่าวว่า ทำเอเปคให้ดีที่สุดก่อน เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เป็นการประชุมที่เป็นหน้าตาของประเทศ ส่วนการเมืองจะเป็นอย่างไรให้ปล่อยเป็นไปตามธรรมชาติ หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นเชื่อว่าทุกพรรคพร้อมหมด เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะมีการยุบสภาหลังเอเปค ตามที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพปชร.เคยระบุ นายสมคิดกล่าวว่า นั่นพล.อ.ประวิตร สื่อต้องไปถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม ต้องถามให้ถูกคน

จับตาหลัง 23 พ.ย.
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาฯ สอท. ให้สัมภาษณ์หลังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส. ภาคอีสาน ว่า ที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อีสานครั้งแรกที่อุบลฯ เพราะเป็นพื้นที่ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงได้

เมื่อถามว่าถึงการเมืองไทยหลังเอเปค นายสนธิรัตน์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงที่หลังเอเปคจะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเมื่อไรก็ได้ ที่สังเกตได้คือหลังเอเปคน่าจะมีการตัดสินใจทางการเมืองหลายเรื่อง การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้หลายลักษณะ ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงในพรรคต่างๆ หรือเกิดความชัดเจนทางการเมืองของกลุ่มต่างๆ ไปถึงการยุบสภา สิ่งที่ตนคิดว่าน่าจะเกิดได้ก็คือเสียงในสภา ที่เริ่มสะท้อนถึงความเป็นเอกภาพ หลัง เอเปคเป็นสถานการณ์ที่น่าจับตา

เมื่อถามว่าถ้ายุบสภาจริง แต่กฎหมายเลือกตั้งยังไม่เสร็จ จะเป็นอุปสรรคในการเลือกตั้งหรือไม่ นายสนธิรัตน์กล่าวว่าคิดว่า 23 พ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยสิ่งที่ยื่นไว้ น่าจะมีความชัดเจนถึงความพร้อมในการเลือกตั้ง คงต้องติดตามดูวันที่ 23 พ.ย.

กก.เปิดนโยบายสวัสดิการชุดใหญ่
เวลา 09.30 น. ที่บริเวณศูนย์เด็กเล็ก ในวัดลาดพร้าว นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค พร้อมสมาชิกพรรค กล่าวเปิดงานแถลงนโยบายชุดที่ 2 “สวัสดิการไทยก้าวหน้า” นายพิธากล่าวว่า ชุดนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า เป็น 1 ใน 9 ชุดนโยบายของพรรคก้าวไกล เสมือนจิ๊กซอว์ที่ต้องนำมาต่อกับชิ้นอื่นๆ จึงจะกลายเป็นภาพประเทศไทยก้าวหน้าที่สมบูรณ์ จะขาด ชิ้นใดชิ้นหนึ่งไม่ได้

ชุดนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้าเกี่ยวข้องกับปากท้องโดยตรง ขณะเดียวกันก็เชื่อมโยงนโยบายด้านอื่นๆ เช่น การเมือง เพราะการทำสวัสดิการต้องใช้งบประมาณมาก ต้องอาศัยการจัดสรรงบใหม่ เอางบความมั่นคงมาเป็นงบสวัสดิการ เฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ ซึ่งจะเป็นเช่นนั้นได้ประเทศก็ต้องเป็นประชาธิปไตยสมบูรณ์ อำนาจต้องเป็นของประชาชน

ครอบคลุมทุกช่วงอายุ
ชุดนโยบายสวัสดิการไทยก้าวหน้า แบ่งตาม 5 ช่วงวัย และมีทั้งหมด 19 นโยบาย ได้แก่ วัยเกิด ประกอบด้วย 1.ของขวัญแรกเกิด 3,000 บาท ให้พ่อ-แม่ซื้อสิ่งของจำเป็นในการเลี้ยงลูก 2.เงินเด็กเล็กเดือนละ 1,200 บาท 3.สิทธิลาคลอด 180 วัน พ่อแม่แบ่งกันได้ และ 4. ศูนย์ดูแลเด็กใกล้บ้านและที่ทำงาน, วัยเติบโต ประกอบด้วย 5.เรียนฟรี อาหารฟรี มีรถรับส่ง 6.คูปองเปิดโลก ให้เด็กและเยาวชนได้เรียนรู้นอกห้องเรียน 7.ยกเลิกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มผ้าอนามัย และนำร่องแจก ผ้าอนามัยฟรีในโรงเรียน

วัยทำงาน ประกอบด้วย 8.ค่าแรงขั้นต่ำปรับขึ้นทุกปี เริ่มต้นวันละ 450 บาท รัฐช่วย SME 6 เดือนแรก 9.สัญญาจ้างเป็นธรรม ทำงานไม่เกิน 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 10.แรงงานทุกกลุ่มตั้งสหภาพได้ สอดคล้องหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ 11.ประกันสังคมถ้วนหน้า เจ็บป่วยได้เงินชดเชยและค่าเดินทางหาหมอ 12.เรียนเสริมทักษะ-เปลี่ยนอาชีพ ฟรีไม่จำกัด ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์และคูปองเรียนเสริม, วัยสูงวัย ประกอบด้วย 13.เงินผู้สูงวัยเดือนละ 3,000 บาท สร้างระบบดูแลผู้ป่วยติดเตียง 14.ค่าทำศพถ้วนหน้า 10,000 บาท, ทุกอายุ ประกอบด้วย 15.บ้านตั้งตัว 350,000 หลัง รัฐช่วยผ่อน-จ่ายค่าเช่า 16.น้ำประปาดื่มได้ทุกพื้นที่ 17.เติมเงินให้ท้องถิ่น เพิ่มขนส่งสาธารณะ 18.เน็ตฟรี 1 GB ต่อเดือน และ 19.เงินคนพิการเดือนละ 3,000 บาท

ที่มางบใช้จ่าย-ทำได้จริง
ด้านน.ส.ศิริกัญญากล่าวว่า แหล่งที่มาของงบ 650,000 ล้านบาท ภายในปีงบประมาณ 2570 ที่ต้องนำมาสร้างระบบสวัสดิการตามข้อเสนอของพรรค ก.ก. โดยถือเป็นความรับผิดชอบของพรรคที่ต้องแจกแจงที่มารายได้ทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมากับประชาชน เพื่อยืนยันว่าสวัสดิการทั้งหมด “มีเงินจ่าย ทำได้จริง” ในส่วนหลักการสำคัญของพรรค ในการจัดหางบประมาณ คือต้องไม่สร้างผล กระทบต่อคนหมู่มาก โดยการเริ่มต้นที่การตัดลดงบประมาณที่ไม่จำเป็น เช่น ลดขนาดกองทัพ และเรียกคืนธุรกิจกองทัพ ลดงบกลาง ลดโครงการที่ไม่จำเป็น

การเพิ่มประสิทธิภาพและความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีที่มีอยู่แล้ว เช่น การจัดเก็บภาษีรายได้นิติบุคคลที่เป็นธรรมระหว่างทุนใหญ่กับผู้ประกอบการรายย่อย และการพิจารณาภาษีก้าวหน้าประเภทใหม่ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำ เช่น ภาษีที่ดินรวมแปลง ในกรณีบุคคลครอบครองที่ดินจำนวนมากที่กระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมดทั่วประเทศ และ ภาษีความมั่งคั่ง ด้วยการเก็บภาษีความมั่งคั่งแบบขั้นบันไดจากบุคคลที่มีทรัพย์สินสุทธิเกิน 300 ล้านบาท

ยันไม่ร่วมงานพปชร.
นายพิธาให้สัมภาษณ์ถึงกระแส พท.จับขั้วกับพปชร. แล้วพรรคก.ก.จะร่วมรัฐบาลกันได้หรือไม่ว่า ไม่วิจารณ์ พท. เพราะพรรคของตนคือพรรค ก.ก. และยังไม่มีการหารือกับ กก.บห.พรรคว่าเงื่อนไขจะเป็นอย่างไร ถึงเวลาถ้าคณิตศาสตร์การเมืองผลมันออก มีใบสั่งจากประชาชนแล้วว่าต้องทำอย่างไร ค่อยว่ากันว่าเงื่อนไขคืออะไร ก็ต้องคุยกันในคืนวันที่ผลเลือกตั้งออก แต่การร่วมกับพรรคพลังประชารัฐเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว อุดมการณ์ต่างกันและสืบทอดจากอำนาจเผด็จการ ส่วนการจับมือกับพรรคอื่นตอนนี้ฟันธงไม่ได้ ต้องรู้ว่าเงื่อนไขของเรามีอะไรที่ยอมได้หรือไม่ได้ ไม่มีการเจรจาใต้โต๊ะ แต่พูดได้ว่าพรรคที่มาจากระบบรัฐประหาร การสืบทอดอำนาจเราไม่มีวันเข้าร่วมแน่นอน ส่วนพรรคที่อยู่ตรงกลางต้องดูอีกที เราต้องอยู่กับความเป็นจริงทางการเมือง แต่ที่แน่ๆ ถ้ามาจากการสืบทอดอำนาจไม่ได้มาจากประชาชน มีการคอร์รัปชั่น เราไปด้วย ไม่ได้อยู่แล้ว กระแสข่าวการจับขั้ว ของพท.กับพปชร. เป็นสมมติฐานที่ไม่ต้องไปถึงขนาดนั้น เพราะยังไม่เห็นความชัดเจนจาก พท. ซึ่งก็ยินดีกับพท. แต่เราไม่ร่วมงานกับพปชร.เมื่อถึงกระแสข่าวที่ พล.อ.ประวิตร อาจแยกมาทำงานกับพล.อ.ประยุทธ์ ที่รวมไทยสร้างชาติ จะลดทอนการตัดสินใจที่จะร่วมงานกับ พท. และพปชร.หรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ตอบไม่ได้ แต่ทำงานกันไม่ได้แน่นอนเป็นนายกฯ คนละครึ่ง บริหารไม่ได้เป็นเรื่องที่แน่นอน

ลั่นปชป.-ภท.ไม่ต้องเกรงใจกัน
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป. กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย(ภท.) โจมตีปชป. และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรค ว่า โดยหลักการเรื่องร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พรรคและนักการเมืองมืออาชีพจะเข้าใจถึงกระบวนการของฝ่ายนิติบัญญัติ ทุกวาระย่อมมีการโต้แย้ง ไม่เห็นด้วยได้ ไม่อยากให้บิดเบือนกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติ ที่สมาชิก ภท.กล่าวหานายจุรินทร์ เล่นนอกเกมนั้น คนที่พูดไม่เข้าใจกฎเกณฑ์กติกาในระบบประชาธิปไตยเลย นายจุรินทร์ไม่เคยด้อยค่าใคร หรือพรรคใด เป็นนักการเมืองมายาวนานทราบหลักเกณฑ์กติกาบ้านเมืองดี ที่ภท.กล่าวหา ปชป.ไปรับงานมา อยากให้ออกมาพูดให้ชัดว่ารับงานใคร เมื่อประชาชนบอกว่าเขาเป็นห่วงลูกหลานนี่คืองานที่ปชป.ต้องรับมาทำ ที่หัวหน้าภท.กระแหนะกระแหนว่าให้ไปคุยกับ เสาไฟฟ้า ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นคำพูดของคนระดับหัวหน้าพรรค ที่บอกว่าไม่มีมรรยาทก็บอกหลายครั้งแล้วว่า หลักการความถูกต้องอยู่เหนือทุกสิ่ง ทุกคนรู้ทั้งรู้ว่าเรื่องกัญชาจะสร้างปัญหาให้สังคมแล้วให้เห็นด้วย พรรคจะไม่ทำโดยเด็ดขาด

“ที่อ้าง ภูมิใจไทยชนะเลือกตั้งยกจังหวัด จังหวัดนั้นจังหวัดนี้ในภาคใต้ อยากบอกว่าให้ใจเย็นๆ เวลานี้ไม่มีใครกลัวใคร เมื่อเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง จังหวัดพังงาก็เช่นกัน มีอะไรอีกเยอะให้จับตาดูดีๆ ตอนนี้ประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีกต่อไปแล้ว” โฆษกปชป.กล่าว

เล็งถกวิป 2 ฝ่ายแก้สภาล่ม
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส. นครศรีธรรมราช ปชป. รองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการประชุมสภาที่ล่มไปเมื่อ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา พท.ต้องการให้ยกเลิกการประชุมสภาในวันศุกร์ ว่า วิปรัฐบาลก็ต้องหารืออีกครั้ง โดยวิปรัฐบาลจะประชุมในวันที่ 7 พ.ย. เวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบคงต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาหารือ และต้องพูดคุยกับฝ่ายค้านว่าการประชุมสภาวันศุกร์เป็นวาระพิเศษ

ส่วนใหญ่ประธานสภาจะนัดพิจารณาวาระเรื่องรายการของกมธ. ซึ่งยังค้างอยู่มาก และรายงานส่วนใหญ่จะไม่มีการลงมติ ก็ไม่ต้องมีการตรวจสอบองค์ประชุม แต่การประชุมสภา 4 พ.ย.ที่ผ่านมา มีกรณีฝ่ายค้านหยิบยกประเด็นที่ไม่เห็นชอบกับรายงานของกกมธ.จึงต้องให้ลงมติและตรวจสอบองค์ประชุม ดังนั้น ก็ต้องหารือกันให้ชัดเจน ถ้าไม่ร่วมมือกันก็ต้องมีปัญหา เพราะส.ส.ลงพื้นที่ และช่วงวันศุกร์ก็จะเจอปัญหาเรื่องเที่ยวบิน

“เนื่องจากเรามีเวลาจำกัดในช่วงปลายสมัยและยังมีวันหยุดประชุมเอเปคอีก ส่วนตัวจึงเห็นว่าการประชุมวาระพิเศษยังเป็นเรื่องจำเป็น จึงเป็นเรื่องที่วิป 2 ฝ่ายต้องหารือกัน และการประชุมนัดพิเศษก็เพื่อเร่งพิจารณารายงานของกมธ. เมื่อสภาพิจารณาเสร็จแล้วก็จะเป็นประโยชน์กับประชาชนเพราะต้องเสนอไปยังรัฐบาลต่อไป” นาย ชินวรณ์กล่าว เมื่อถามว่าต้องไปหารือกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาหรือไม่ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น นายชินวรณ์ กล่าว่า ต้องคุยกับ 2 ฝ่ายก่อน คือฝ่ายค้านกับรัฐบาลเพื่อให้เกิดความชัดเจน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ นายชวนก็ต้องเห็นด้วยที่จะให้มีการประชุมนัดพิเศษในวันศุกร์

พปชร.รับสส.ต้องลงพื้นที่
นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พปชร. กล่าวถึงสภาล่ม 4 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ปกติญัตติที่เป็นรายงานการศึกษาของ กมธ.ไม่ค่อยมีการลงมติ หากไม่มีเสียงคัดค้าน แต่กรณีญัตติปิดอ่าวมาหยา นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พท.ไม่เห็นด้วย ขอให้ลงมติ จึงต้องนับองค์ประชุมเพื่อลงมติ ทำให้สภาล่ม ส.ส.อยู่ไม่ครบ เนื่องจากเป็นสัปดาห์สุดท้ายที่จะมีการทอดกฐิน ส.ส.หลายคนรีบลงพื้นที่ไปร่วมงานในจังหวัดตัวเอง

“จะไม่ขยันได้อย่างไรเพราะใกล้ครบวาระรัฐบาล ต้องขยันลงพื้นที่เป็นพิเศษ ใกล้เลือกตั้งแล้ว การประชุมวันศุกร์ถ้าเป็นญัตติไม่น่าสนใจของทุกฝ่าย ส.ส.จะไปลงพื้นที่ดีกว่า”

คาดยุบสภา 10 มี.ค. 66
ส่วนการคาดการณ์ ส.ส.จะทยอยลาออกตั้งแต่ 24 ธ.ค.เป็นต้นไป เพื่อให้ทันเงื่อนไขเป็นสมาชิกพรรค 90 วัน กรณีรัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปีนั้น นายวีระกรกล่าวว่า คิดกันไปเอง ถึงอย่างไรพล.อ.ประยุทธ์ ยุบสภาแน่ คาดว่าจะเป็นช่วงวันที่ 10 มี.ค.2566 หรือบวกลบ 10 วัน ประมาณปลาย ก.พ.ถึง 20 มี.ค.2566 เป็นเทคนิคกฎหมาย ไม่มีรัฐบาลใดอยู่ครบ 4 ปีเต็ม แต่ กกต.ตื่นตูมไปประกาศกฎ 180 วัน ควบคุมการหาเสียงนักการเมือง ตั้งสมมติฐานรัฐบาลจะอยู่ครบวาระ 4 ปีเต็ม ที่ผ่านมาไม่มีรัฐบาลใดอยู่ครบ 4 ปี ถ้าไม่มีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นส่วนใหญ่ยุบสภาก่อนครบวาระ 1-3 สัปดาห์ เพื่อให้มีเงื่อนเวลาสังกัดสมาชิก 30 วัน

“อย่าไปกลัวว่าจะมีส.ส.ลาออกก่อน รัฐบาลต้องการเป็นรัฐบาลทุกวินาที ส.ส.ก็อยากเป็นส.ส.ทุกวินาทีเช่นกัน แต่ตามเทคนิคจะยุบก่อนครบวาระเล็กน้อย พล.อ.ประยุทธ์ไม่อยู่ครบ 4 ปีเต็ม เพื่อแก้เผ็ด ส.ส.ไม่ให้ย้ายพรรคได้ทัน เพราะท่านไม่เล่นการเมือง ไม่มีการเมืองในสมอง” นายวีระกรกล่าว

ส่วนพปชร.จะชู พล.อ.ประยุทธ์เป็น นายกฯ ต่อหรือไม่นั้น นายวีระกรกล่าวว่า ยังไม่มีความคืบหน้า พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร เป็นพี่น้องกัน เกรงใจกันมาก การจะไปพูดทำร้ายจิตใจอีกคนคงไม่มี แต่ทั้ง 2 คนควรไปตกลงกันว่าใครจะเป็นนายกฯ ในนาม พปชร. ถึงอย่างไรก็ต้องคุยกัน

วันชัยจับตาสิ้นปี-รบ.สิ้นอำนาจ
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “สิ้นปี..สิ้นอำนาจ” ระบุ ถ้าจะไล่เรียงปฏิทินการเมืองกับการนับถอยหลังแห่งอำนาจ มองดูแล้วเหลือเวลาอีกไม่นานเลย พ.ย.นี้ก็มีประชุมเอเปค จากนั้นต้น ธ.ค. ถึง 10 ธ.ค. เป็นวันชาติและเป็นวันรัฐธรรมนูญ จากนั้นเตรียมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เตรียมเที่ยวเตรียมพักผ่อน รัฐบาลและผู้มีอำนาจก็อยู่ในภาวะเช่นเดียวกัน สิ้นปีเตรียมสิ้นอำนาจ เพราะใกล้จะเลือกตั้งเต็มที จะมีช้าหรือมีเร็วก็ไม่เกิน มี.ค. 2566

“เห็นมั้ยว่าอำนาจเก่ากำลังจะไป อำนาจใหม่กำลังจะมา และในสถานการณ์ที่เปิดสภาสมัยประชุมนี้ อุบัติเหตุทางการเมืองก็พร้อมจะเกิดขึ้นได้เสมอ เลยจากการ ประชุมเอเปคไปจะไม่มีใครไว้หน้าใคร แตกเป็นแตก หักเป็นหัก มุ่งหาอำนาจใหม่ นี่คือปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้มีเรื่องได้ ทุกขณะ” นายวันชัยระบุ

รัฐบาลไม่ได้อยู่ยาวต้องยุบสภา
นายวันชัยระบุ ที่ผ่านมาเรื่องสุราเสรี ก็หวิดไปหวิดมา แต่ชี้ให้เห็นว่าอำนาจมันเปราะบางเต็มที กู้ยืมเพื่อการศึกษาเสรีที่ผ่านมาก็ทุลักทุเล ทั้งกัญชาเสรีก็จะเปิดศึกรบกันหนักระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ชนวนระเบิดพร้อมเกิดขึ้น ทั้งเรื่องขายที่ดินขายชาติก็จะพลอยเป็นชนวนระเบิดที่ตามมาเป็นระลอก อาจต้องถอดสลักตีกรรเชียงหนี เรียกว่าสถานการณ์ทางการเมืองในสภาปลายสมัยจะอีนุงตุงนัง ร้อนระอุแรงขึ้น

“ที่หวังจะยืดอยู่ยาวก็อาจต้องยุบเสียก่อนก็เป็นไปได้ ยิ่งตอนนี้แต่ละพรรคกำลังจัดทัพรับศึกเตรียมไพร่พลลงเลือกตั้ง ที่ว่าจะร่วมเป็นร่วมตายกันต่อไปนั้นดูจะไม่ใช่เสียแล้ว ปล่อยให้ตายกันไป แต่กำลังจะมีไพร่พลที่รอจังหวะฉวยโอกาสไปอยู่กับอำนาจใหม่ มิตรแท้และศัตรูถาวรจะมีให้เห็นก็ตอนใกล้เลือกตั้ง หงายไพ่หรือเปิดถ้วยมาก็จะได้ฮาครืน ทำไมมันเป็น อย่างนั้น” นายวันชัยระบุ


ตรวจน้ำ – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ใช้เวลาช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ยกคณะไปตรวจบึงน้ำหนองหาร จ.สกลนคร สั่งกำชับเรื่องกำจัดวัชพืช เก็บกักน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง และพัฒนาปรับปรุงพื้นที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 5 พ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน