วันที่ 7 พ.ย. นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีสามีครูพร ผู้เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์ จากเหตุสะเทือนขวัญที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อ.นาวาง จ.หนองบัวลำภูเรียกร้องความเป็นธรรม หลังลูกอายุครรภ์ 8 เดือน ไม่ได้รับการเยียวยาว่า ตนรู้สึกเสียใจกับครอบครัวครูพรที่ได้สูญเสียคนที่รักไป ซึ่งเข้าใจความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาลจึงเร่งดำเนินการพิจารณาเยียวยาผู้เสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างด่วนที่สุด โดยก็ได้มีการมอบเงินเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิตไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.ทั้ง 36 ราย

นายสมศักดิ์กล่าวว่า ส่วนกรณีลูกในครรภ์ของครูพร ที่ไม่ได้รับเงินเยียวยานั้น เป็นเพราะติดในเรื่องข้อกฎหมาย ความเป็นสภาพบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 15 คือ สภาพบุคคลเริ่มแต่เมื่อคลอดและอยู่รอดเป็นทารก จึงทำให้ลูกในครรภ์ไม่ได้สิทธิรับค่าตอบแทน แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ซึ่งตนก็ได้สั่งการให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ หาทางอื่นในการช่วยเหลือเยียวยาไปแล้ว เพื่อเป็นการทดแทน โดยขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เสนอว่า จะเพิ่มการเยียวยาจากกรณีครูพรเป็นพลเมืองดี ก็จะทำให้ได้รับการพิจารณาเงินเยียวยาเพิ่มขึ้น

“วันที่ 15 พ.ย.นี้ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองอุทธรณ์ จะมีการประชุมเพื่อกลั่นกรองการอุทธรณ์ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และเสนอคณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และ ค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา วันที่ 23 พ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายเพิ่มเติม ในเหตุการณ์นี้ จำนวน 25 ราย ซึ่งเป็นการอุทธรณ์เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตที่ทรมาน โดยกรณีครูพรก็จะได้รับการพิจารณาด้วย ซึ่งอาจจะได้รับการเยียวยาเพิ่ม แต่รายละเอียดต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะกรรมการ” รมว.ยุติธรรมกล่าว

ด้านนายวีรศักดิ์ โชติวานิช อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ และรองโฆษกสภาทนายความ ให้ความเห็นกรณีดังกล่าวว่า ผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์หนองบัวลำภูถือเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ซึ่งมีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาตามพ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยจะได้รับเงินสูงสุดประมาณ 2 แสนบาทจากกรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรม และตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ก็มีกองทุนเยียวยาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเงินเยียวยาทั้ง 2 ส่วนนี้ผู้เสียหายหรือทายาทสามารถรับได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้ศาลตัดสิน เพราะเป็นเรื่องที่รัฐต้องดูแลพลเมืองเต็มที่ อีกทั้งเป็นเหตุสะเทือนขวัญและผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก

นายวีรศักดิ์กล่าวต่อว่า ผู้เสียหายที่มีสิทธิ์ได้รับเงินเยียวยาต้องมีสภาพเป็นบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุไว้ว่า สภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่คลอด และอยู่รอดมาเป็นทารก แม้จะอยู่รอดเพียง 1 วินาทีก็ถือว่าครอบคลุมตามหลักกฎหมาย แต่กรณีที่เด็กเสียชีวิตก่อนคลอด ไม่ถือว่าเป็นบุคคล พ่อไม่สามารถเรียกร้องแทนลูกได้ แต่ศาลก็จะนำมาประกอบสำนวนในการพิจารณาเงินเยียวยาที่พ่อเรียกร้องค่าเสียหายแทนแม่

“กรณีเด็กที่เสียชีวิตก่อนคลอดก็เป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ ซึ่งการพิจารณาเงินเยียวยา เชื่อว่ารัฐไม่ได้ละเลยหรือทิ้ง แต่นำมาประกอบการพิจารณาให้เงินเยียวยาแล้ว”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน