ชาวนา-ไร่1พัน ครม.เทงบด่วน
ครม.เคาะวงเงิน 7 พัน ล้านบาท เยียวยาน้ำท่วม ใช้เกณฑ์ประชาชนที่โดนน้ำท่วม 1 เดือนได้รับ 5,000 บาท/ครัวเรือน น้ำท่วม 2 เดือนได้รับ 6,000 บาท/ครัวเรือน และท่วมนาน 3 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 7,000 บาท/ครัวเรือน ชงคลังเตรียมงบ พร้อมให้มหาดไทยเร่งจ่ายถึงประชาชน เผยเป็นคนละส่วนกับการดูแลค่าเสียหาย ของครัวเรือน
เมื่อวันที่ 8 พ.ย. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติมาตรการเยียวยาประชาชนที่โดนผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม วงเงินรวม 7 พันล้านบาท โดยใช้งบประมาณกลางฉุกเฉินออกมาดูแลประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ เนื่องจากช่วงที่ประสบปัญหาน้ำท่วมนั้น ส่งผลให้ประชาชนเสียโอกาสในการประกอบอาชีพ
นายสันติกล่าวว่า สำหรับการเยียวยานั้น กระทรวงมหาดไทยจะเป็นผู้ดูแล และกระทรวงการคลังจะเร่งรัดติดตามในด้านงบประมาณ เพื่อให้เม็ดเงินไปถึงประชาชนที่ได้รับผลกระทบรวดเร็วที่สุด แบ่งเป็น ประชาชนที่โดนน้ำท่วม ระยะเวลา 1 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท/ครัวเรือน ส่วนประชาชนที่โดนน้ำท่วม 2 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 6,000 บาท/ครัวเรือน และที่โดนน้ำท่วมนาน 3 เดือน จะได้รับเงินเยียวยา 7,000 บาท/ครัวเรือน ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยจะต้องรายงานมายังกระทรวงการคลังว่ามีจำนวนครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อนจำนวนเท่าใด ซึ่งเข้าใจว่าจะได้รับข้อมูลเร็วๆ นี้
“การจ่ายเงินเยียวยาในครั้งนี้ เป็นไปตามคำสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่กำกับดูแลกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจะเป็นการเพิ่มกำลังใจให้กับประชาชน จากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น ซึ่งการจ่ายเงินดูแลดังกล่าว จะเป็นคนละส่วนกันกับการดูแลค่าเสียหายของครัวเรือน” นายสันติกล่าว
ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ภายหลังการประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุมนอกรอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวตามที่รัฐบาลสามารถช่วยเหลือได้ โดยมีข้อสรุปเบื้องต้นใน 2 ส่วนคือ 1.การสนับสนุนค่าบริหารจัดการและการพัฒนาคุณภาพเกษตรกร ไร่ละ 1 พันบาท จำนวนไม่เกิน 20 ไร่ และ 2.การประกันราคาข้าว ยืนยันว่ามีงบประมาณเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และนายกฯ ยังยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวอย่างต่อเนื่องต่อไป
ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ปริมาณน้ำในแม่น้ำชี และตามลำห้วยคลองสาขาแม่น้ำชี ในพื้นที่ อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ ที่เกิดน้ำท่วมหนักในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคม เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำในแม่น้ำชีและคลองสาขาต่างๆ เริ่มลดแห้งลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดสะพานบนถนนเชื่อม บ้านหางเรียง หมู่ 8-บ้านป่าไม้แดง หมู่ 7 ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ หักกลางทรุดตัวตรงช่วงกลางสะพาน รถทุกชนิดไม่สามารถใช้สัญจรผ่านได้ ส่วนเสาตอม่อรับน้ำหนักสะพานทั้งด้านซ้ายและขวา 2 ต้นได้ทรุดตัวไปกว่า 2 เมตร หลังเกิดเหตุทางเทศบาลตำบลลุ่มลำชีได้ร่วมกับผู้ใหญ่บ้านปิดเส้นทาง ห้ามรถทุกชนิดผ่าน พร้อมทั้งติดสัญญาณไฟกะพริบและป้ายเตือนให้ประชาชนเลี่ยงการสัญจรเพื่อไม่เกิดเป็นอันตราย แต่ยังพบว่ายังมีชาวบ้านในพื้นที่นำรถอีแต๋นพยายามขับผ่านสะพานที่ทรุดตัวและหัก ซึ่งน่าเป็นห่วงจะเกิดอันตรายได้
นายทัน ชอบปะรัง อายุ 47 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านหาเรียง ต.ลุ่มลำชี อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บอกว่าสะพานเริ่มทรุดตัวหลังน้ำท่วมหนักมาตั้งแต่กลางเดือนกันยายน 2565 ที่ผ่านมา เมื่อน้ำลดลงมีผู้ใช้รถใช้ถนนผ่านเส้นทางนี้มากขึ้น เสาตอม่อสะพานเกิดทรุดตัวหนักเมื่อค่ำวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา และหักลงเมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา เส้นทางนี้ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลัดไปยังตัว อ.บ้านเขว้า ระยะทางประมาณ 13 ก.ม. มีชาวบ้าน 3 หมู่บ้าน กว่า 1 พันครัวเรือน ประชากรมากกว่า 3 พันคนได้รับความเดือดร้อนเมื่อสะพานแห่งนี้หักลง อยากให้หน่วยงานรับผิดชอบมาช่วยแก้ไขโดยเร็วด้วย
Advertisement
ต่อมานายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ จงไกรจักร ปลัดอำเภอ (เจ้าพนักงานปกครองชำนาญการพิเศษ) รักษาราชการแทนนายอำเภอบ้านเขว้า นายธวัชชัย จันทร์เจริญ นายกเทศมนตรีตำบลลุ่มลำชี พร้อมคณะ ผู้บริหารฯ นายอำนาจ ค่ายสูงเนิน ปลัดฝ่ายความมั่นคงอำเภอบ้านเขว้า พร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้าน ม.7, 8 ลงพื้นที่ตรวจดูสะพานที่ขาด เพื่อที่จะได้หาแนวทางและประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งซ่อมแซมเพื่อที่จะให้พี่น้องประชาชนได้สัญจรไปมาได้ตามปกติ โดยการแก้ไขเบื้องต้นแขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิได้เร่งประสานขอสะพานเหล็กชั่วคราว ขนาดความยาว 30 เมตร มาติดตั้งให้ประชาชนสัญจรผ่านไปมาชั่วคราวแล้ว คาดว่าจะติดตั้งได้ในสัปดาห์นี้
