รตอ.ดับ-บาดเจ็บอีก31 บิ๊กเด่นบินด่วนลงดูเอง

คาร์บอมบ์ถล่มแฟลตตำรวจเมืองนราธิวาส พังทรุดลงมาพินาศ 8 ห้อง เผยร.ต.อ. โดนแรงอัดตายอนาถ ตร.และครอบครัวบาดเจ็บอีก 31 ราย เผยคนร้ายแต่งชุดตร.ขับปิกอัพ สีดำที่ประกอบระเบิดเข้าไปจอดไว้กลางถนนกึ่งกลางระหว่างตึก ก่อนจะเกิดเสียงตูมสนั่น เบื้องต้นคาดเป็นแบบแสวงเครื่องใส่ไว้ในแก๊สหุงต้มขนาด 50 กิโล แต่ยังไม่ชัดจุดชนวนโดยวิธีใด ‘บิ๊กเด่น’ ผบ.ตร.บินด่วนไปตรวจที่เกิดเหตุจี้คดีด้วยตัวเอง

เมื่อเวลา 12.50 น. วันที่ 22 พ.ย. พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมือง จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ ภายในแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ถ.สุริยะประดิษฐ์ เทศบาลเมืองนราธิวาส อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวช่วงเวลาประมาน 12.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังเข้าไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบกลุ่มควันและไฟกำลังลุกไหม้รถที่จอดอยู่ในพื้นที่แฟลตตำรวจ จึงได้ระดมรถดับเพลิง เข้าฉีดน้ำสกัดกั้น เพื่อไม่ให้ไฟลุกลามเข้าไปยังแฟลต และบริเวณใกล้เคียง ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ภายในตัวอาคารพังเสียหายยับเยิน เบื้องต้นพบ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธนิยะ รอง สว.จร.สภ.เมืองนราธิวาส เสียชีวิตระหว่างนำส่ง ร.พ.นราธิวาส และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง

คาร์บอมบ์ – สภาพแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ถนนสุริยะประดิษฐ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส พังพินาศเสียหาย ถูกคนร้ายซุกระเบิดในรถกระบะสีดำขับมาจอดหน้าแฟลตก่อนเกิดระเบิดสนั่น ทำให้ ร.ต.อ.เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 31 ราย เมื่อวันที่ 22 พ.ย.

จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่ามีคนร้าย 1 คน แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขับรถยนต์กระบะประกอบระเบิดหรือคาร์บอมบ์มาจอดไว้ภายในบริเวณแฟลตข้าราชการตำรวจก่อนเกิดเหตุการณ์ระเบิดขึ้น ทำให้อาคารที่พักข้าราชการตำรวจพังลงมาเกือบทั้งแถบ ได้รับความเสียหายบริเวณกว้าง

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจในบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ปิดกั้นและเคลียร์พื้นที่โดยรอบทันที เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน หรืออาจถูกกลุ่มผู้ไม่หวังดีก่อเหตุซ้ำอีก พร้อมประสานหน่วยอีโอดี ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พร้อมคณะเตรียมบินด่วนไปตรวจที่เกิดเหตุ หลังได้รับรายงานมีคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ กลางเมืองนราธิวาส และอีกหลายจุด แรงระเบิดทำให้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 31 คนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัว

ต่อมาหลังจากเพลิงสงบลงเจ้าหน้าที่ชุด อี.โอ.ดี. ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และผู้ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พบอาคารแฟลต 2 ชั้นหลังเก่าด้านขวามือที่มีการต่อเติมเป็นเพิงหน้าบ้านพัก เพื่อเจ้าหน้าที่ใช้จอดรถถูกอานุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย 8 หลังจากจำนวน 10 หลัง และอานุภาพของระเบิดยังส่งผลให้หลังคากระเบื้องชั้น 2 ได้รับความเสียหายไปด้วย โดยมีรถยนต์และรถ จยย.ของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหายอีกจำนวนหลายคัน








Advertisement

จากการตรวจสอบรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้ออีซูซุ สีดำไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ที่คนร้ายได้ลอบนำระเบิดมาซุกไว้ภายในรถ จอดอยู่ที่บริเวณกึ่งกลางลานถนนภายในแฟลต ที่ด้านซ้ายมือเป็นแฟลต 4 ชั้น ด้านขวามือเป็นแฟลตหลังเก่า 2 ชั้น และด้านหน้าเป็นแฟลต 4 ชั้น ที่ปลูกสร้างเป็นลักษณะรูปตัวยู ถูกอานุภาพของระเบิดเหลือเพียงตัวถัง ใส่ส่วนของชิ้นส่วนรถยนต์ได้กระเด็นไปตกที่ต่างๆ ทั้งบริเวณเรือนจำ ภายในโรงเรียนนราสิขาลัย ปั๊มจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิง บนถนนและบนสะพานลอย ซึ่งเป็นรัศมีกว่า 200 เมตร โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของถังแก๊สหุงต้ม เหล็กเส้นตัดสั้น ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่า เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้ม หนัก 50 ก.ก. ที่ทำงานสมบูรณ์ ยังไม่พบการจุดชนวนด้วยวิธีใด

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้บริเวณแฟลตตำรวจคนร้ายใส่เสื้อคอปก สีเทา ใส่กางเกงขายาวสีดำ หรือสีกรม ใส่เข็มขัดสนามพกอาวุธสั้นที่เอว ใส่ถุงมือสีดำ ตัดผมรองทรงรถที่เอามาตั้งเป็นรถกระบะดีแมคซ์ สีดำ 4 ประตู หลังจากนั้น มีชายอีกคนขับรถ จยย.รุ่นเวฟสีแดง ใส่เสื้อลายสกอต กางเกงสีน้ำเงินใส่หมวกกันน็อก จอดรถ จยย.ติดเครื่องยนต์มารอรับหน้าแฟลตแล้วขี่รถหลบหนีไป

ล่าสุด เจ้าหน้าที่มีการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุในรัศมีหลายร้อยเมตร เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ ต่อมามีรายงานว่าพบว่ามีระเบิดอีก 1 ลูก ที่หน้าโรงเรียนอนุบาลนราธิวาส แต่ไม่ระเบิด ส่วนอีกลูกเป็นวัตถุต้องสงสัย ที่ตลาดบางนาก เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเข้าเก็บกู้

สำหรับผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีทั้งหมด 31 ราย ในจำนวนนี้ มีทั้งประชาชน ตำรวจ และเยาวชนรวมอยู่ด้วย

ด้านนายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม รับทราบรายงานเหตุการณ์คาร์บอมบ์ภายในแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาสแล้ว สั่งการ ผบ.ตร.ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ย้ำให้เร่งดำเนินการสืบสวนหาสาเหตุ และดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุโดยเร็ว

“นายกรัฐมนตรี แสดงความห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ พร้อมแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต กำชับให้ส่วนราชการในพื้นที่ดูแลช่วยเหลืออย่างเต็มที่ สำหรับพื้นที่เกิดเหตุให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดตรวจสอบให้ละเอียด หวั่นเกิดอันตรายตามมา พร้อมกันพื้นที่ไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าไปในบริเวณที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ไม่ว่าที่ไหนๆ ของประเทศไทย ประชาชนต้องปลอดภัย และขอให้ฝ่ายความมั่นคงเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้มากขึ้น” นายอนุชากล่าว

คาร์บอมบ์ – พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. บินด่วนไปตรวจสอบเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ทำให้ตำรวจเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บอีก 31 ราย โดยสั่งการเร่งติดตามคนร้ายและหาจุดบกพร่อง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ พร้อมด้วยพล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะรีบบินด่วนลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมสั่งการให้เร่งช่วยเหลือครอบครัวข้าราชการตำรวจ หรือ ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ดังกล่าว รวมถึงเตรียมเรียกประชุมฝ่ายสืบสวนคลี่คลายคดี

เมื่อเวลา 17.50 น. วันเดียวกัน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ และพล.ต.ท.สำราญได้เดินทางมาดูจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดคาร์บอมบ์ภายในแฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่ ถ.สุริยะประดิษฐ์ เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส โดยมี พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.นราธิวาส, พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส, น.อ.พงษ์ศักดิ์ ทองไสย ผบ.ฉก.นย.ทร., พ.ท.อำนาจ ภู่ทอง ผบ.ฉก.ทร.33 คอยให้การต้อนรับและนำดูจุดเกิดเหตุ

พล.ต.ท.นันทเดชได้รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ ซึ่งกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ในบริเวณแฟลตตำรวจสามารถบันทึกภาพของคนร้ายเอาไว้ได้ โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการดูลาดเลามาแล้วหลายครั้ง ซึ่งประเมินได้จากการแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์กล่าวระหว่างดูจุดเกิดเหตุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียหายหนัก โดยมีรถยนต์ส่วนตัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จอดไว้ 2 ฝั่งของอาคารแฟลต 2 ชั้นและ 4 ชั้น ได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน โดยเฉพาะอาคารแฟลต 2 ชั้นได้รับความเสียหายทั้งชั้นบนและชั้นล่างถึง 8 ห้อง นอกจากนี้ ยังมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สหุงต้มหนัก 50 ก.ก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาจากวงจรไอ.ซี.ไทเมอร์ รวมทั้งเศษชิ้นส่วนของเหล็กเส้นตัดสั้น ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ได้แสดงความเสียใจผ่านคณะเจ้าหน้าที่ที่นำดูจุดเกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เปิดเผยภายหลังเดินออกมาจากดูจุดเกิดเหตุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นค่อนข้างรุนแรง มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 26 ราย สาหัส 2 ราย ซึ่งนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 ราย ได้รับรายงานจากผบช.ภ.9 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและความคืบหน้าเกี่ยวกับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ เบื้องต้นจะแก้ไขซ่อมแซมเรื่องบ้านพักอาศัยให้ เจ้าหน้าที่ได้อยู่ก่อน นานแล้วที่เหตุรุนแรงไม่ได้เกิดขึ้นในเมือง ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุน่าจะมีการมาสำรวจก่อน พร้อมทั้งแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่จึงไม่มีใครสงสัย ซึ่งเหตุที่เกิดขึ้นถือเป็นบทเรียน เรามาตั้งมาตรการป้องกันเฝ้าระวังไม่ให้เกิดขึ้นมาซ้ำ

ต่อมาพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ได้เดินทางไปยังสภ.เมืองนราธิวาส เพื่อเป็นประธานในการประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในเรื่องของการติดตามเร่งรัดทางคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่มีประจักษ์พยานหลักฐานที่ชัดเจนอยู่แล้วในการติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ รวมทั้งมาตรการป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้เกิดเหตุการณ์เกิดขึ้นซ้ำ รวมไปถึงการซ่อมแซมที่พักอาศัยต้องแล้วเสร็จโดยเร่งด่วน

อย่างไรก็ตาม หลังจากประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแล้วเสร็จ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์เพื่อเยี่ยมปลอบขวัญให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัว รวมถึงประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บจำนวน 10 คน ที่ห้องรักษาตัวอาคารประชารัฐ ชั้น 1 และชั้น 3 พร้อมทั้งได้มอบกระเช้าของขวัญและเงินจำนวนหนึ่ง ก่อนที่ผบ.ตร.จะเดินทางกลับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน