เผยปิกอัพสีดำพาหนะซุกคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจสภ.เมืองนราธิวาสพบเป็นรถอีซูซุ 4 ประตู รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียนจังหวัดตรัง ไม่ได้ถูกขโมยมา ติดไฟแนนซ์นำไปขายเต็นท์รถจากนั้นก็ขายต่อที่พัทลุง พบล่าสุดเมื่อต้นเดือนต.ค.ที่แยกทางหลวง ในตัวเมืองนราธิวาส โดยหญิงสาวชาวปัตตานีขับมาพร้อมกับผู้ชายและโดนใบสั่ง เนื่องจากไม่มีใบขับขี่ จนถึงขณะนี้ยังไม่เสียค่าปรับ ตร.เร่งควานหาตัว เผยยอดผู้บาดเจ็บล่าสุด 45 ราย เร่งช่วยเหลือเยียวยา

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พ.ย. พล.ต.ต.ปราบพาล มีมงคล รอง ผบช.ภ.9 รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล ผกก.สภ.เมืองนราธิวาส เดินทางไปยังแฟลตข้าราชการตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ถ.สุริยะประดิษฐ์ เขตเทศบาล เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส หลังคนร้ายลอบวาง ระเบิดคาร์บอมบ์ได้รับความเสียบหาย มีนายตำรวจเสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กองช่างเทศบาลเมืองนราธิวาส และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.นราธิวาส นำเครื่องไม้เครื่องมือรวมถึงรถตัก รถยก ช่วยกันขนย้ายซากรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิด ออกไปไว้ที่บริเวณสภ.เมืองนราธิวาส รวมทั้งช่วยกันขนย้ายและเก็บกวาดซาก ปรักหักพัง เคลียร์พื้นที่จากอานุภาพของระเบิด

ในส่วนของข้าราชการตำรวจและครอบครัว ที่บ้านพักได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้นั้น พล.ต.ต.ปราบพาล ได้ประสานไปยัง กกท. จ.นราธิวาส เพื่อขอใช้ห้องพักชั่วคราว ภายในสนามฟุตบอล ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวได้พักอาศัย จำนวน 40 ห้อง รองรับเจ้าหน้าที่ได้ 120 คน นอกจากนี้ ยังใช้บ้านพักของ สภ.ตันหยง อีกจำนวนหนึ่งไว้รองรับผู้ที่ไม่มีที่อยู่อาศัย ซึ่งเจ้าหน้าที่ บางส่วนก็มีบ้านพักของตนเองอยู่แล้ว ซึ่งคาดว่า ไม่เดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัยอย่างแน่นอน

แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พักอาศัย อยู่ที่แฟลตตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนที่ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ พันธะนิยะ หรือผู้กองอ๊อด รองสวป.ปฏิบัติหน้าที่ รอง สว.จร. เสียชีวิตจากเหตุนี้ ได้พบเห็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุกำลังเดินออกจากบริเวณแฟลต หลังจากนำรถกระบะคาร์บอมบ์มาจอดทิ้งไว้ โดยเรียกคนร้าย แต่คนร้ายเดินออกไปหน้าตาเฉย ไม่สนใจและเหลียวหลังหันหน้ามาพูดคุยกับ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ แต่อย่างใด ขณะที่ ร.ต.อ.สุทธิรักษ์ กำลังเดินเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ ก็เกิดระเบิดขึ้นทำให้เสียชีวิตคาที่

ในส่วนของกล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ไล่เส้นทาง 3 มุมเมืองที่มุ่งสู่ เขตเทศบาล คือ บริเวณด่านจุดตรวจร่วมปลักบ้าน ที่มุ่งหน้ามายัง อ.ยี่งอ จุดตรวจริมน้ำ ที่มุ่งหน้ามาจาก อ.ตากใบ และจุดตรวจโคกเคียน ที่มุงหน้า มาจาก อ.บาเจาะ เนื่องจากทั้ง 3 จุดตรวจ คนร้าย ต้องขับรถคาร์บอมบ์ผ่านที่ใดที่หนึ่ง

ส่วนจุดเกิดเหตุนั้น วงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน กำลังนำภาพไปเปรียบเทียบกับรูปพรรณสัณฐานของคนร้าย ที่ขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คนร้ายอีก 1 คน ที่มารอรับคนร้าย หลังจากนำรถคาร์บอมบ์ ไปจอดภายในแฟลตแล้วเสร็จ ก่อนที่จะขี่จยย.หลบหนีไป

ในส่วนของรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู รุ่นดีแมคซ์ ทะเบียน กค 6961 ตรัง ที่คนร้ายใช้เป็นคาร์บอมบ์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง นายหนึ่งเปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 6 ต.ค.2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงออกใบสั่งให้ น.ส.ฟาตียะ อายุ 32 ปี ชาว อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ในข้อหาขับรถยนต์โดยไม่มีใบอนุญาต ที่บริเวณทางหลวงแยกสะปอม ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส ซึ่งขณะเขียนใบสั่งนั้น พบเห็นผู้ชายนั่งรถกระบะ คู่กับน.ส.ฟาตียะ 1 คน ซึ่งล่าสุดพบว่าใบสั่งดังกล่าว น.ส.ฟาตียะ ยังไม่ได้เสียเงินค่าปรับ จำนวน 400 บาท แต่อย่างใด








Advertisement

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดี กำลังเร่งตรวจสอบประวัติของรถกระบะคาร์บอมบ์คันดังกล่าวว่า น.ส.ฟาตียะซึ่งเป็นเจ้าของรถได้ขายด้วยการโอนลอย หรือให้ใครยืมไปก่อนที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะซุกซ่อนระเบิดไปก่อเหตุที่แฟลตตำรวจหรือไม่ ควบคู่กับจะประสานขอความร่วมมือน.ส.ฟาตียะ มาให้ข้อมูลอีกครั้ง หากพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็จะปล่อยตัวไป

ส่วนทางด้านศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือเยียวยา จ.นราธิวาส สรุปตัวเลขผู้ได้รับบาดเจ็บ จากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดแฟลตเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส มีจำนวนทั้งสิ้น 45 คน เสียชีวิต 1 คน เพื่อให้การช่วยเหลือเยียวยาในเบื้องต้น โดยผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 10,000 บาท สาหัส 50,000 บาท เสียชีวิต 500,000 บาท

ซากบอมบ์ – เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหารตรวจสอบที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์แฟลตตำรวจสภ.เมืองนราธิวาส พบเจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ 40 ครอบครัว ขณะที่ผู้บาดเจ็บยอดพุ่งถึง 45 ราย เมื่อวันที่ 23 พ.ย.

ช่วงเช้าวันเดียวกัน พล.ต.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคง ภายในภาค 4 ส่วนหน้า ลงพื้นที่ตรวจสอบ ที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่เกิดขึ้น พร้อมให้สัมภาษณ์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด พร้อมทั้งประณาม ผู้ก่อเหตุ ซึ่งในส่วนของนายกรัฐมนตรีนั้น ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้ามาดำเนินการ ช่วยเหลือเยียวยา โดยเมื่อวานนี้ ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่และดำเนินการพร้อมสำรวจในเรื่องนี้ แล้ว นอกจากนี้ เป็นการดำเนินการด้านกฎหมาย และยกระดับมาตรการการดูแลความปลอดภัย เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีความมั่นใจในชีวิตและทรัพย์สิน

สำหรับความคืบหน้าทางคดีนั้น พล.ต.ปราโมทย์เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ความคืบหน้ามาบ้างแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างขยายผล เบื้องต้นพบว่ารถยนต์คันเกิดเหตุ เป็นรถยนต์ที่ไม่ได้ถูกโจรกรรมมา ซึ่งจะต้องตรวจสอบความเชื่อมโยงระหว่างเจ้าของรถยนต์กับ ผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นก็ต้องเป็นกลุ่มก่อเหตุ ความรุนแรง แต่ทั้งนี้ไม่ได้ตัดประเด็นของการเมือง ภัยแทรกซ้อน และกลุ่มขบวนการ ซึ่งต้องดำเนินการเพื่อขยายผลต่อไป

พล.ต.ปราโมทย์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคาร์บอมบ์เป็นรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมคซ์ สีดำ ป้ายทะเบียน กค 6961 ตรัง จดทะเบียนวันที่ 8 มีนาคม 2550 มีผู้ครอบครองรถ คือ ชายคนหนึ่ง ที่มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ต.เกาะสุกร อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งได้นำรถยนต์มาขายให้เต็นท์รถแห่งหนึ่งใน อ.เมืองตรัง เมื่อปี 2564 ก่อนที่เต็นท์รถจะนำไปขายต่อ ที่จังหวัดพัทลุง ซึ่งมีผู้พบเห็นรถคันนี้ครั้งสุดท้าย เมื่อวันที่ 6 ต.ค. 65 เวลา 16.52 น. ขณะขับผ่าน ด่านตรวจ ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส โดยมีผู้หญิง เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่พยายามติดต่อหญิงสาวคนขับรถเข้าพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ เป็นรถหนีไฟแนนซ์

รองผอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวด้วยว่าการก่อเหตุครั้งนี้ เป็นการก่อเหตุที่มีการวางแผนมาอย่างดี ที่มุ่งทำลายชีวิตและทรัพย์สิน รวมถึงความรู้สึกต่อจิตใจของประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มนักเรียน ผู้ปกครอง และที่สำคัญ ด้านเศรษฐกิจ ซึ่งหลังจากนี้เพื่อเป็นการป้องกันและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต้องเพิ่มมาตรการ เข้มตามจุดตรวจ จุดสกัด โดยประชาชนเองอาจจะไม่ได้รับความสะดวกสบายมากนัก แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับทุกคน

ขณะเดียวกันบริเวณที่เกิดเหตุช่วงเช้า เจ้าหน้าที่ชุดกองวิทยาการพิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติม พร้อมรวบรวม หลักฐาน โดยระเบิดที่เกิดขึ้น เป็นระเบิด แรงดันสูงบรรจุในถังแก๊สครัวเรือนขนาด 15 ก.ก. น้ำหนักวัตถุระเบิดประมาณ 80-100 ก.ก. ใช้เหล็กปล้องอ้อยและเหล็กเส้นกลม ตัดเป็นสะเก็ดระเบิด จุดชนวนด้วยวงจรระเบิด แบบหน่วงเวลาด้วยระบบดิจิตอล คนร้ายได้ชุกระเบิดในรถยนต์กระบะสองตอน 4 ประตูยี่ห้อดีแมคซ์สีดำ ทะเบียน กค 6961 ตรัง ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นมีการนำไปขายเต็นท์ในพื้นที่ จังหวัดตรัง เจ้าหน้าที่รอตรวจสอบขยายผลเพิ่มเติม

แรงระเบิดดังกล่าว ทำให้รถยนต์และ รถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่ภายในแฟลตตำรวจ จำนวน 2 ตึก จำนวน 4 ชั้น ได้รับความเสียหายจำนวนมาก บางคันถูกไฟลุกไหม้จนเหลือเพียงแค่ซาก ขณะที่หลังคาอาคารที่พักยุบตัว ห้องพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถูกแรงอัดกระจกแตกกระจาย จนไม่สามารถเข้าไปอาศัยได้ โดยเฉพาะบริเวณชั้น 1 และ 2

สำหรับบรรยากาศที่ ร.ร.อนุบาลนราธิวาส ยังเปิดการเรียนการสอนตามปกติ โดย นายสมชาย สุวรรณราช ผู้อำนวยการ กล่าวว่า เมื่อวานหลังเกิดเหตุทุกคนตกใจ แต่วันนี้ เปิดปกติ โดยภาพรวมมีขวัญและกำลังใจดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอาคารแฟลตเป็นที่พัก 4 ชั้น จำนวน 2 ตึก ได้รับความเสียหายร้อยละ 70 โดยนอกจากเจ้าหน้าที่ช่วยกันเก็บกวาดภายนอกแล้ว ภรรยาเจ้าหน้าที่ตำรวจต่างเร่งเข้าไปเก็บกวาดสิ่งของภายในห้องพัก เนื่องจาก มีของใช้ส่วนตัว

น.ส.อิศรา แสงสุขเนี่ยว อายุ 29 ปี ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในแฟลตดังกล่าว เปิดเผยว่า ในส่วนของ ชั้นสองนั้นเจ้าของห้องมาทำความสะอาดห้อง เก็บกวาดกันเอง เนื่องจากเป็นห้องส่วนตัว มีของใช้ที่สำคัญและมีทรัพย์สินอยู่บ้าง ซึ่งตนอยู่ ชั้นสองมีลูกอายุ 2 ขวบ เมื่อวานตอนเกิดเหตุอยู่ด้วยกันกับลูก ได้ยินเสียงระเบิด แต่โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด และเมื่อวานก็ได้พาลูกไปหาหมอแล้ว จากนั้นก็ได้เข้าพักบ้านพี่สาวและกลับมาเก็บกวาดในวันนี้

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของข้าราชการตำรวจ และครอบครัวที่พักอาศัยอยู่ในแฟลตตำรวจ จำนวน 70 ราย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรนราธิวาสมีการประสานไปยัง กกท. จ.นราธิวาส เพื่อขอใช้ห้องพักชั่วคราวภายในสนามฟุตบอล ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและครอบครัวได้พักอาศัย จำนวน 40 ราย นอกจากนี้ยังขอใช้แฟลตตำรวจของ สภ.ตันหยง อีกบางส่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เบตง และหน่วยกำลังในพื้นที่ อส. ชรบ.(ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน) ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ที่มาติดต่อสถานที่ราชการอย่างละเอียดป้องกัน ไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำ ขณะที่กำลังฝ่ายปกครองลาดตระเวนรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน ตลอด 24 ช.ม. ป้องกันการลักลอบเข้ามาก่อเหตุ

สำหรับในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก.สภ.เบตง ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัด ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุด ตรวจสอบบุคคล และยานพาหนะที่ เข้า-ออก เมืองเบตง ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ และรถยนต์ อย่างละเอียด รวมถึงบุคคลที่มีสัมภาระที่น่าสงสัย ก่อนที่จะเข้าไปติดต่อสถานราชการ สภ.เบตง หรือที่บ้านพัก แฟลตตำรวจ ของ สภ.เบตง และขอความร่วมมือเปิดเบาะรถจักรยานยนต์ และแขวนหมวกกันน็อกทุกครั้ง จอดรถในจุดที่กำหนด ก่อนจะมาติดต่อราชการ

นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถของหน่วยงานราชการทุกคัน ก่อนที่จะขับเข้าไปจอดใน สภ.เบตง. รวมถึงแฟลตตำรวจ และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายซ้ำรอยขึ้นมาอีก ขณะที่หน่วยกำลัง ฝ่ายปกครอง อส. ชรบ.ได้ตั้งด่านตรวจสอบพาหนะทุกชนิดที่เข้า-ออก รอยต่อเมืองเบตงและรักษาความปลอดภัย ครู นักเรียนบริเวนหน้าโรงเรียนและ ลาดตระเวนรอยต่อประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายลักลอบ เข้ามาก่อเหตุในเขตเมือง และขอความร่วมมือ พี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยว ร่วมกันเป็นหู เป็นตา สอดส่องดูแลบุคคลและวัตถุต้องสงสัย ป้องกันผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน