ชี้โทษรุนแรง-เกรงหนีจ่อฟันตม.-วีซ่านร.เฒ่า

นายทุนจีน ‘ตู้ห่าว’ นอนคุก ศาลไม่ให้ประกันเจ้าของผับยาเสพติด ‘จินหลิง’ ชี้โทษสูงเกรงหลบหนี‘บิ๊กเด่น’ ตั้ง ผบช.น. เป็นหัวหน้าสอบสวนปม รองผบก.น.6 ช่วยเหลือผู้ต้องหา ปล่อยรถหรูผับจินหลิงและเงิน 8 ล้าน ย้ำโยงถึงใครเพิ่มอีกไม่มีละเว้น ‘บิ๊กโจ๊ก’ ลั่นไม่เกิน 3 สัปดาห์ปิดคดีได้ จ่อเรียกพ.ต.อ.หญิงเมีย ตู้ห่าวมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับทรัพย์สินของผัวมังกรหรือไม่ พร้อมสั่งสอบตม.ที่ออกวีซ่านักเรียนให้ชาวแก๊งทั้งที่มีอายุเกิน 50 ปี ทุกราย

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร เปิดเผยถึงคดีนายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ นักธุรกิจชาวจีนเจ้าของผับยาเสพติดจินหลิง ว่า เซ็นคำสั่งแต่งตั้งให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริง โดยมี พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กำกับดูแล กรณี พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ รอง ผบก.น.6 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือนายตู้ห่าว นายทุนจีนสีเทาปล่อยรถหรู 4 คัน แลกกับเงิน 8 ล้านบาท

หากพยานหลักฐานไปถึงใครต้องดำเนินคดีทั้งหมด หากไม่มีมูลแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากมีการแจ้งข้อกล่าวหาแสดงว่ามีมูลอยู่ ส่วนรายละเอียดไม่อยาก ก้าวล่วงให้เป็นไปตามพยานหลักฐาน ส่วนจะมีระดับใหญ่กว่า รองผบก.น.6 หรือไม่ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงภาพลักษณ์ของตำรวจที่มีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดและเกี่ยวข้องในคดีนี้ ว่า อยู่ที่มุมมอง ส่วนตัวยืนยันว่าตอนนี้ตั้งใจทำอย่างตรงไปตรงมาใครผิดว่าไปตามผิด ถ้ามองในแง่ดีเหมือนเป็นการเก็บกวาดบ้านทำให้ ภาพลักษณ์ดีขึ้น อยากให้มองในมุมมองนี้ตอนนี้การทำงานทำด้วยความตรงไปตรงมาพยานหลักฐานถึงใครก็ว่าไปตามนั้น

ด้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เปิดเผยผลสอบปากคำนายตู้ห่าว เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธและขอไปให้การในชั้นศาล ถือว่าเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหา แต่เรายืนยันว่ามีหลักฐานที่ชัดเจน พร้อมคัดค้านประกันตัว หลังจากนี้จะมีการดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินและยึดทรัพย์ สินของเครือข่ายนายตู้ห่าวทั้งหมด และเร่งทำคดีดังกล่าวให้จบภายใน 3 สัปดาห์ พร้อมกับชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดให้กับสังคมได้ รับทราบ รวมถึงจะมีการรวบรวมหลักฐาน เพื่อที่จะขยายผลไปถึงกลุ่มทุนจีนสีเทาที่ ใหญ่กว่า

ส่วนความสัมพันธ์ของนายตู้ห่าวที่มีความเชื่อมโยงกับอดีตรัฐมนตรี และบุคคลที่เกี่ยวข้องในพรรคการเมืองต้องสอบสวนรวบรวมหลักฐานให้ได้ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนก่อน แต่จะไม่มีการเชิญตัวมาสอบปากคำ การรวบรวมหลักฐานเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องให้มีความชัดเจน หากพบผิดจะมีการออกหมายจับทันที

นอนคุก – ตำรวจควบคุมตัวนายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ หรือตู้ห่าว นักธุรกิจผับจีน ผู้ต้องหาคดียาเสพติด ไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ ญาติยื่นหลักทรัพย์ประกันตัว แต่ศาลไม่อนุญาต ก่อนส่งไปคุมขังที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เมื่อวันที่ 24 พ.ย.

ส่วนกรณีภรรยาของนายตู้ห่าว ซึ่งมียศเป็น “พ.ต.อ.หญิง” เจ้าหน้าที่จะเชิญมาให้ปากคำ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินและทรัพย์สินของนายตู้ห่าวหรือไม่ หากพบผิดจะดำเนินคดีโดยไม่ละเว้น แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนกรณีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่ปล่อยให้คนจีนเข้ามา โดยออกวีซ่าเป็นนักศึกษานั้นจะมีการเรียกมาสอบปากคำทั้งหมดถึงรายละเอียดของวีซ่าดังกล่าว เนื่องจากนักเรียนแต่ละคนมีอายุมากกว่า 50 ปี

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวนคุมตัวนายตู้ห่าวส่งฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยผู้ต้องหามีอาการเคร่งเครียด ขณะที่ทนายความของนายตู้ห่าวได้เตรียมหลักทรัพย์ เตรียมยื่นขอประกันตัวต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อขอปล่อยตัวชั่วคราว ทั้งนี้ ยังไม่มีการเปิดเผย รายละเอียดว่าหลักทรัพย์เป็นอะไร

พ.ต.อ.วุฒิชัย ไทยวัฒน์ รองผบก.น.6 รรท.ผกก.สน.ยานนาวา ระบุว่า ตำรวจยื่นคำร้องขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ฝากขังนาย ตู้ห่าว เรื่องการสอบสวนมีคณะกรรมการสอบสวนดำเนินการอยู่ และระหว่างการฝากขังผู้ต้องหาดูไม่มีอาการเครียดหรือวิตกกังวลอะไร เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน พร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัวในชั้นศาลด้วยเช่นกัน

ต่อมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวนนำตัว นายชัยณัฐร์ หรือ ตู้ห่าว กรณ์ชายานันท์ ยื่นคำร้องฝากขังครั้งเเรกต่อศาลเป็นเวลา 12 วัน ระหว่างวันที่ 24 พ.ย.-5 ธ.ค. ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับ ยาเสพติด, ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติด และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย เเละ พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ.2509 ซึ่งการออกหมายจับดังกล่าวมาจากการที่ทางตำรวจ นครบาลได้เข้าตรวจสอบผับจินหลิง

โดยศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตฝากขังได้ นายชัยณัฐร์ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว ต่อมาญาติของผู้ต้องหายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง ยาเสพติดของกลางมีจำนวนมาก และพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงไม่อนุญาต ยกคำร้อง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์นำตัวผู้ต้องหาไปคุมขังยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน