เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ของไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ทั้งผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยรักษาใน ร.พ. ผู้ป่วยอาการหนัก และเสียชีวิต เป็นไปตามการคาดการณ์ช่วงขาขึ้นของการระบาดลักษณะ สมอล เวฟ โดยเฉพาะ กทม. ปริมณฑล จังหวัดท่องเที่ยวภาคตะวันออก และภาคใต้ จึงแนะนำให้ประชาชนเร่งเข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น โดยข้อมูลการศึกษาการใช้จริงในไทยช่วงที่มีการระบาดของโอมิครอนในเชียงใหม่ วัคซีนจะลดความรุนแรงและการเสียชีวิตร้อยละ 89 ในผู้ที่รับวัคซีน 3 เข็ม และกลุ่มที่ได้ 4 เข็ม ไม่พบภาวะรุนแรงหรือการเสียชีวิตเลย ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนยี่ห้อใด ขอให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน 4 เข็ม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เพื่อลดความรุนแรงและอัตราการเสียชีวิต ขณะนี้วัคซีนได้เตรียมพร้อมแล้วในทุกพื้นที่ ปลัดสธ.สั่งการให้ทุกจังหวัดเปิดหน่วยบริการที่ง่ายและสะดวก แม้จะไม่ได้ลงทะเบียนนัดล่วงหน้า ขอเน้นย้ำว่า ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 อยู่ในช่วงขาขึ้น ประชาชนควรเร่งเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังจากเข็มสุดท้าย 4 เดือน
นพ.ธเรศกล่าวต่อว่า กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างการหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญถึงเรื่องประสิทธิผลของวัคซีนรุ่นใหม่ หรือวัคซีน 2 สายพันธุ์ หากพบว่าผลการศึกษาสามารถป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 อย่างชัดเจน ก็จะเร่งดำเนินการจัดหามาให้บริการประชาชนในปีหน้า
ด้านศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การระบาดของ โควิด-19 เป็นไปตามฤดูกาลในรอบของปี ในระลอกนี้ การระบาดจะเริ่มตั้งแต่กลางพ.ย.เป็นต้นมา และจะขึ้นสูงสุดหลังปีใหม่หรือม.ค. และจะไปเริ่มลดลงตั้งแต่กลางก.พ.เป็นต้นไป จนเหลือน้อยมากในมี.ค. และจะไปขึ้นการระบาดรอบใหม่ของปีในฤดูฝนหรือมิ.ย.-ก.ย. เป็นไปตามฤดูกาลของโรคทางเดินหายใจ จึงจำเป็นจะต้องกระตุ้นภูมิต้านทานให้สูงขึ้นในขณะนี้ แทนที่จะรอไปถึงม.ค.หรือก.พ. ซึ่งอยู่ในช่วงขาลง
“สำหรับวัคซีนในบ้านเรา ถึงแม้จะเป็นสายพันธุ์เดิม การกระตุ้นในระดับเซลล์ เพื่อลดความรุนแรงของโรค สามารถทำได้ดีมาก และเนื่องจากการลดความรุนแรงของโรคขึ้นอยู่กับจำนวนเข็มที่ฉีด มากกว่าชนิดของวัคซีนที่ฉีด ดังนั้นขณะนี้อยู่ในขาขึ้นตามฤดูกาล จึงอยากให้ทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นอย่างน้อย 4 เข็ม โดยเข้ารับการฉีดให้เร็วที่สุดไม่รอจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ หรือรอวัคซีนรุ่นใหม่” ศ.นพ.ยง กล่าว
นพ.วัชรนันท์ ถิ่นนัยธร รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ในจ.ตรัง มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ เนื่องจากเริ่มมีกิจกรรมการรวมตัวของประชาชนช่วงใกล้ปลายปี มีการจัดงานมหกรรม งานแสดงสินค้า หรืองานประจำปี เพิ่มขึ้น ประชาชนเริ่มถอดหน้ากากอนามัย ประกอบกับมีการผ่อนคลายมาตรการการป้องกันโรคต่างๆ ของจังหวัด ทำให้กิจการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ร้านอาหาร และกิจกรรมการรวมตัวต่างๆ กลับมาเปิดให้บริการประชาชนโดยปกติ จึงต้องเร่งสร้างภูมิคุ้มกันและกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนโดยเร็ว ขณะนี้จ.ตรังรับมอบวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จากสธ. 18,000 โดส โดยกระจายไปยังร.พ.รัฐทั่วทั้งจังหวัดแล้ว เพื่อเร่งสร้างภูมิคุ้มกันเชิงรุกในระดับหมู่บ้าน โดยเน้นกลุ่มเด็กเล็ก และกลุ่ม 608 เพื่อลดอาการรุนแรงและเสียชีวิต
