จนมุมแล้วโจรเหี้ยมจ่อ ยิงดับแม่ค้าอาหารตามสั่งนครปฐม ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาทและพระเลี่ยมทอง ตร.แกะรอยวงจรปิดตามลากคอได้พร้อมของกลาง สารภาพติดพนันงอมแงมหาเงินไปเล่นพนัน ขี่จยย.ตระเวนหาเหยื่อจนสบโอกาสลงมือกับแม่ค้าเคราะห์ร้าย อ้างผู้ตายถือมีดจะต่อสู้เลยชิงยิงดับอนาถ หลังก่อเหตุขี่รถหนีไปอีกอำเภอ แต่สุดท้ายหนีไม่พ้นเงื้อมมือกฎหมาย
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่ สภ.เมืองนครปฐม พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.บุญญฤทธิ์ รอดมา รอง ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ไพบูลย์ แพรสีนวล ผกก.สภ.เมืองนครปฐม ชุดสืบสวน ภาค 7 ชุดสืบสวน ภ.จว.นครปฐม และชุดสืบสวน สภ.เมืองนครปฐม ร่วมกันแถลงจับกุมนายวัชราวุธ บุญเรืองรอด อายุ 31 ปี ชาว อ.สามชุก จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงนางน้ำอ้อย เวสสะภักดี อายุ 49 ปี แม่ค้าขายอาหารตามสั่ง อยู่บ้านเลขที่ 99/11 หมู่ 9 ต.หนองงูเหลือม อ.เมือง จ.นครปฐม ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 1 องค์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่เช็กภาพวงจรปิดโดยแกะรอยจากภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพิสูจน์ทราบว่าคนร้ายใช้พาหนะใด สวมใส่เสื้อผ้าหรือรองเท้าแบบใด หมายเลขทะเบียนรถที่ใช้ จนสามารถนำไปสู่กระบวนการสืบสวน ออกหมายจับและติดตามจับกุมคนรายได้ พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท 1 เส้น พระเลี่ยมทอง 1 องค์ อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 8 นัด รถจักรยานยนต์ฮอนด้ารุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กถ 7307 สุพรรณบุรี
ยิงชิงทอง – ตำรวจนครปฐมบุกจับนายวัชราวุธ บุญเรืองรอด อายุ 31 ปี พนักงานร้านผ้าม่าน คนร้ายก่อเหตุยิงแม่ค้าขายอาหารตามสั่งจนเสียชีวิต ชิงสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท สารภาพติดการพนันต้องการชิงทรัพย์เท่านั้น เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.
สอบสวน ผู้ต้องหาในเบื้องต้นให้การว่า มีอาชีพเป็นพนักงานร้านผ้าม่านแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ก่อนก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนหาเหยื่อตั้งแต่เช้า ในเขตใกล้เคียงและในพื้นที่ดังกล่าว โดยบ้านของนางน้ำอ้อยผู้ตายขับวนมาดูลาดเลาแล้วหลายรอบ เมื่อสบโอกาสจึงบุกเข้าก่อเหตุทันที ส่วนสาเหตุที่ต้องลงมือยิงอ้าง ผู้ตายถือมีดพร้าพยายามต่อสู้จึงยิงจนล้มลง ก่อนกระชากสร้อยแล้วขึ้นรถจักรยานยนต์ขี่หลบหนีไป
เมื่อคนร้ายขี่รถไปถึงพื้นที่ ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน แวะเปลี่ยนล้อรถและเปลี่ยนเสื้อผ้าอำพรางตัว แล้วสวมใส่หมายเลขทะเบียน ก่อนมุ่งหน้าหลบหนีไปกบดานที่บ้านใน จ.สมุทรปราการ อีกทั้งยังเผยว่าเป็นคนติดการพนันต้องการเงินไปเล่นพนัน แต่ไม่ได้ยุ่งยาเสพติด
“สำหรับผู้ต้องหาบุคคลนี้ถือเป็นภัยต่อสังคมมาก ถือเป็นเรื่องอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ พฤติกรรมของคนร้ายเป็นที่เหิมเกริมไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย เจอใครก็หมายจะชิงทรัพย์ถือเป็นบุคคลอันตราย หากใครขัดขืนก็จะใช้อาวุธปืนยิง หนำซ้ำคนร้ายยืนยันว่าไม่เคยรู้จักกันมาก่อนกับผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน สารภาพว่าทำไปเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น เนื่องจากติดการพนัน” พล.ต.ท.ธนายุตม์กล่าว
ด้าน น.ส.ปิยณัฐ เวสสะภักดี ลูกสาวผู้ตาย เปิดเผยว่า ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นที่ตำรวจสามารถรู้ตัวและจับกุมคนร้าย ต่อไปจะไม่ต้องมาระแวงระวังกับการใช้ชีวิต เพราะตนเองมีลูกเล็ก ขอบคุณตำรวจทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องที่ร่วมมือจนสุดความสามารถและติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เมื่อคืนมีความรู้สึกเหมือนแม่มาลา แม่มาหา แต่แม่มาแบบนิ่งๆ ไม่ได้ร้องไห้ ปกติจะได้กลิ่นธูปในช่วงงานศพก็จะทราบว่าแม่มาตามความเชื่อ แต่เมื่อคืนเป็นความรู้สึกที่หลับๆ ตื่นๆ มีความรู้สึกว่าแม่มาลา ส่วนผู้ต้องหาไม่อยากให้มีเวรกรรมต่อกันขอให้อโหสิกรรมกันไป
