บิ๊กบี้เพิ่มมาตรการดูแล ขอชาวบ้านช่วยเป็นหูตา เดินหน้าเจรจาสันติภาพ

เจ้าหน้าที่รฟท.ยังผวาบึ้มไม่กล้ากู้รางรถไฟ อ.สะเดา จ.สงขลา รอ ‘อีโอดี’ ขยายพื้นที่ตรวจสอบให้ปลอดภัยดีก่อน คาดต้องล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อย 2 วัน ขณะที่กองกำลัง 3 ฝ่ายระดมเดินเท้า บินโดรนตรวจสอบป้องกันความปลอดภัย 24 ช.ม. พร้อมจัดตั้งเครือข่ายประชาชนริมทางรถไฟช่วยเป็นหูเป็นตาแจ้งเหตุผิดปกติ ‘บิ๊กบี้’ ย้ำ กำชับทหารเพิ่มมาตรการป้องกันเข้ม แต่ยังต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนต้องร่วมมือและช่วยป้องกัน เฝ้าสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติรีบแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ ถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งเหตุระเบิด ขบวนรถไฟ ว่า สถานการณ์ทุกอย่างจะต้องเข้าไปตรวจสอบ และต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ต้องช่วยหาพยานหลักฐานต่างๆ โดยเป็นการให้ความร่วมมือและช่วยเหลือกันระหว่างหน่วยงาน ส่วนของทหารจะเพิ่มในเรื่องการระวังป้องกัน

“ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องช่วยกันดูแลสถานการณ์ แต่ยังต้องเป็นหน้าที่ของประชาชนต้องร่วมมือและช่วยป้องกัน ต้องช่วยกันเฝ้าสังเกตว่ามีอะไรผิดปกติ ก็ต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ โดยเฉพาะสื่อมวลชน ในการเผยแพร่ข่าวแจ้งเตือนประชาชน ในสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทย และทุกคนจะต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี” ผบ.ทบ. กล่าว

เมื่อถามว่า มีความคืบหน้าการพูดคุยเพื่อสันติสุขหรือไม่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ กล่าวว่า คงไม่มีอะไรแต่สำหรับวันนี้น่ามีเรื่องที่ดี เนื่องจากผู้แทนคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขของไทยจะมีการไปพูดคุยที่ประเทศมาเลเซีย ทุกประเทศต้องการสันติสุข และไม่มีประเทศไหนไม่มีปัญหา เพราะฉะนั้นทุกอย่างต้องอาศัยการพูดคุย หารือ และเจรจา เหมือนความขัดแย้งในยุโรปที่พยายามยอมรับการเจรจา

วันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด (อีโอดี) ยังคงลงพื้นที่สแกนตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเส้นทางรถไฟหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ซึ่งเหตุเกิดใกล้จุดแรกที่คนร้ายลอบวางระเบิดรถไฟสินค้าขบวน 707 จนพลิกตกไหล่ทาง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.ท่าโพธิ์ ช่วงระหว่างสถานีรถไฟคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่ของการรถไฟเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 4 คน อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยขยายพื้นที่ตรวจเส้นทางรถไฟออกไปจากจุดเกิดเหตุอีกอย่างน้อย 1 กิโลเมตร ตามคำร้องของเจ้าหน้าที่รถไฟ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีระเบิดหลงเหลืออยู่

จุดบึ้ม – ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจจุดเกิดระเบิด ระหว่างเข้าเคลียร์พื้นที่เส้นทางรถไฟที่ถูกลอบวางระเบิด 2 ครั้ง พร้อมขยายพื้นที่ตรวจสอบออกไปอีก 1 กิโลเมตร ที่รางรถไฟระหว่างสถานีคลองแงะ-ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.

นอกจากนั้นยังร่วมกับตำรวจในพื้นที่รวมทั้งฝ่ายปกครองเข้าไปคุมพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมงต่อเนื่องไปจนกว่าการตรวจสอบพื้นที่และการซ่อมแซมรางรถไฟจะแล้วเสร็จและกลับมาเดินรถตามปกติ ผลพวงของระเบิดซ้ำลูกสองทำให้แผนการเข้าไปกู้ขบวนรถไฟที่ตกรางและการซ่อมแซมรางต้องล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อย 2 วัน เนื่องจากทางหน่วยซ่อมบำรุงทางและหน่วยยกรถของการรถไฟ ยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเคลียร์พื้นที่อย่างละเอียดจนมั่นใจว่าปลอดภัยสูงสุด ถึงจะเริ่มเข้าไปกู้ขบวนรถและซ่อมแซมรางได้ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่รถไฟได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ชั่วคราว เพื่อรอการส่งมอบพื้นที่จาก เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง

รายงานข่าวแจ้งว่า พบวัตถุพยานทั้งชิ้นส่วนถังแก๊สปิกนิก ขนาด 4 ก.ก. แบตเตอรี่ ขนาด 1.5 โวลต์ สีแดง ชิ้นส่วนสายไฟ สีขาว ชิ้นส่วนปลั๊กตัวผู้และปลั๊กตัวเมีย ชิ้นส่วนเหล็กเส้นตัดคละขนาด 8 มิลลิเมตร ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 เก็บไปตรวจสอบแล้ว ส่วนการเดินรถเส้นทางชุมทางหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์ ยังคงต้องงดการเดินรถทุกขบวน อาทิ รถไฟขบวนท่องเที่ยวระหว่างประเทศกัวลาลัมเปอร์-หาดใหญ่ เที่ยวแรกในวันที่ 10 ธ.ค. ทางการรถไฟมาเลเซียแจ้งยกเลิก โดยเปลี่ยนแผนเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์มาแค่สถานีปาดังเบซาร์ และจะขนถ่ายผู้โดยสารด้วยรถบัสจากสถานีปาดังเบซาร์ไปยังหาดใหญ่แทน

ด้านนายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สงขลา เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ ปกครองและภาคเอกชนประชุม เพื่อกำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยทั้งสถานที่ราชการ สถานีรถไฟ ศูนย์การค้า สถานีขนส่ง เนื่องจากกลุ่มก่อเหตุมีเป้าทำลายด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว

ขณะที่นายกิตติพงษ์ อำพันธ์ นายอำเภอระแงะ พร้อม พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.ทพ.45 พ.ต.ท.ชาติ นพชำนาญ รอง ผกก.ป.สภ.ระแงะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังทั้ง 3 ฝ่าย ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 45 ตำรวจ สภ.ระแงะ สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน และกำลังภาคประชาชน จัดกำลังบูรณาการปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัย ขบวนรถไฟประจำสถานี ดูแลความปลอดภัยในเขตความรับผิดชอบ ไปจนสุดปลายทางที่สถานีสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

บรรยากาศที่สถานีรถไฟตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันนี้ยังคงเปิดเดินรถตามปกติทั้ง 14 ขบวน ทั้งขาขึ้นและขาล่อง ดูแลความปลอดภัยบริเวณสถานีรถไฟ บนขบวนรถ และลาดตระเวนเส้นทางรถไฟในพื้นที่เสี่ยง ทั้งนี้เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่เลือกใช้บริการกับการรถไฟ และเพื่อ สร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ส่วน ผู้โดยสารยังคงใช้บริการรถไฟทุกขบวนทั้งขาขึ้นและขาล่องตามปกติ

โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 รับผิดชอบดูแลเส้นทางรถไฟตั้งแต่เขตรอยต่อ อ.รือเสาะ จนถึงเขตรอยต่อ อ.เจาะไอร้อง ในการป้องกันกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเข้ามาก่อเหตุเพื่อหวังให้เจ้าหน้าที่การรถไฟ รวมทั้งประชาชนที่ใช้บริการเกิดความหวาดผวา ทั้งนี้ได้จัดกำลังคุมเข้มรับผิดชอบโดยการแบ่งกำลังออกลาดตระเวนเดินเท้าตรวจสอบความเรียบร้อยเป็นประจำทุกวัน และใช้เครื่องบินโดรนตรวจจับวัตถุต้องสงสัยควบคู่กับการเดินเท้าลาดตระเวน โดยลาดตระเวนเส้นทาง ระยะทาง 24 กิโลเมตร ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฝ้าระวังป้องกันเหตุรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นจากกลุ่มผู้ไม่หวังดี

นอกจากนี้ยังจัดตั้งเครือข่ายประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ตลอดแนวทางรถไฟเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันสอดส่องดูแล เพื่อเป็นแนวทางในการป้องกันอีกทางหนึ่ง เนื่องจากพื้นที่ อ.ระแงะ ผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีความพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ความรุนแรงอยู่นอกจากนั้นบนรถไฟยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ และ อส.คอยดูแลบนขบวนรถไฟตลอดเส้นทางทั้งขาขึ้นและขาล่อง ในขณะที่ระหว่างทางมีกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ออกลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟ และในจุดเสี่ยงทั้ง 2 ข้างทาง รวมถึงจุดล่อแหลมให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันทั้งชีวิตและทรัพย์สิน สร้างความมั่นใจแก่ประชาชน

นายวชิรกรณ์ เต๊ะซา เสมียนรถไฟสถานีรถไฟตันหยงมัส กล่าวว่า ในส่วนของขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงปลายทางสถานีรถไฟสุไหงโก-ลก ยังวิ่งตามปกติ สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางจากสถานีสุไหงโก-ลก ไปยังสถานีกรุงเทพฯ ยังคงบริการให้กับประชาชนตามปกติ

ด้าน พ.อ.ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผบ.ฉก.ทพ.45 เปิดเผยว่า มาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทางรถไฟเป็น 1 ใน 10 มาตรการเชิงรับที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำหนดให้หน่วยในพื้นที่ได้ปฏิบัติภารกิจ หลังจากที่เกิดเหตุที่ อ.สะเดาแล้ว ทาง ผบ.ทบ. แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสกำชับในเรื่องของมาตรการในการรักษาความปลอดภัย เส้นทางรถไฟให้กับหน่วยในพื้นที่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนที่โดยสารรถไฟเป็นประจำ

พ.อ.ทวีรัตน์กล่าวอีกว่า ในห้วงเทศกาลปีใหม่ที่จะมาถึง ผู้บังคับบัญชาให้เน้นย้ำให้หน่วยเพิ่มความเข้มในการปฏิบัติภารกิจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน รวมทั้งเป็นภารกิจหลักของหน่วยในพื้นที่อยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน