คลื่นยักษ์ซัด‘เรือรบสุโขทัย’จม ระดมช่วยกลางทะเลประจวบฯ ผบ.ทร.รุดเยี่ยม75ชีวิตที่ขึ้นฝั่ง อ่าวไทยคลั่ง-อับปางหลายลำ
คลื่นยักษ์จม‘ร.ล.สุโขทัย’ระดมหา 31 ทหารสูญหาย กลางทะเลประจวบฯ พลทหารเล่านาทีคลื่นซัด กระจายหายคนละทิศละทาง ห่วงเพื่อนที่ไร้ชูชีพ กองทัพเรือยันมีชูชีพทุกนาย โฆษกทร.เผยเหตุอับปาง โดนคลื่นสูง 4 เมตรซัดเข้าเรือจนเครื่องดับ น้ำทะลักทำเรือเอียงก่อนจม ลูกเรือ 106 นาย ช่วยขึ้นฝั่งแล้ว 75 ผบ.ทร.รุดเยี่ยมคนเจ็บ เผยคลื่นอ่าวไทยคลั่งหนักล่มเรือหลายลำ
รล.สุโขทัยล่มกลางอ่าวไทย
เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงกรณีเรือหลวงสุโขทัยจมจากคลื่นลมแรง ขณะลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรือ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 ธ.ค. ต่อเนื่องวันที่ 19 ธ.ค. พร้อมความช่วยเหลือกำลังพลและการค้นหากำลังพลที่สูญหายว่า กองทัพเรือตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพล และกู้เรือหลวงสุโขทัย พร้อมทั้งส่งเรือและอากาศยาน ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์แบบซีฮอว์ก เครื่องบินลาดตระเวนแบบดอร์เนีย รวมถึงชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน
พล.ร.อ.ปกครองกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือกำลังพลบนเรือที่มีอยู่ทั้งสิ้น 106 นาย ซึ่งปัจจุบันมีกำลังพลที่ได้รับความช่วยเหลือและ นำขึ้นฝั่ง ณ ท่าเรือบางสะพาน เรียบร้อยแล้ว มี 75 นาย โดย 11 นายถูกส่งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลบางสะพาน อีก 61 นายอาศัยอยู่ที่ศูนย์พักพิงของ อบต.แม่รำพึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่วนกำลังพลอีก 2 นายอยู่บนเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” กำลังเดินทางไปยังท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ขณะที่เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงกระบุรี รวมถึงอากาศยานของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ ที่ร่วมกันปฏิบัติภารกิจในการลาดตระเวนค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลือในช่วงเช้า เรือหลวงกระบุรีสามารถเข้าไปช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย เพิ่มอีก 1 นาย ขณะสวมชูชีพลอยคออยู่กลางทะเล
ช่วยขึ้นฝั่ง 75-ยังหาย 31
ทั้งนี้เรือและอากาศยานยังคงทำการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลที่เหลืออีก 31 นาย โดยได้กำหนดพื้นที่ค้นหา ขนาดพื้นที่ 20X15 ตารางไมล์ ซึ่งอยู่ทางใต้ห่างจากจุดที่เรือหลวงสุโขทัยจมลง ประมาณ 18 ไมล์ทะเล โดยคำนวณจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลม รวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่ากำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว
พล.ร.อ.ปกครองกล่าวด้วยว่า สรุปการดำเนินการในขณะนี้ ตรวจพบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบภัยได้แล้ว 75 นาย คงเหลือกำลังพลที่ยังต้องค้นหาและช่วยเหลืออีก 31 นาย ทั้งนี้ ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 0-3818-2435 และ 08-4002-3554
โฆษกกองทัพเรือกล่าวอีกว่า จากการที่นำเสนอข่าวว่าพบกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย 10 นาย เสียชีวิต 1 นาย และอยู่ในสภาพอิดโรย 9 นายนั้น จากการตรวจสอบ ขอยืนยันว่าไม่ใช่กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย แต่เป็นลูกเรือจากเรือสินค้าอนุภูมิ ซึ่งได้อับปางลงเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.65 ที่ผ่านมา จากเหตุคลื่นลมแรงเช่นกัน
เรือรบจม – ภาพนาทีเรือรบหลวงสุโขทัย ถูกคลื่นยักษ์ ซัดจมอับปางกลางทะเล จ.ประจวบคีรีขันธ์กองทัพเรือระดมเรือและฮ.กู้ภัยเร่งช่วยเหลือ ลูกเรือกำลังพลบาดเจ็บหลายราย และยังค้นหาอีก 31 นาย เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.
Advertisement
เหตุคลื่นแรงซัดจนระบบไฟดับ
พล.ร.อ.ปกครองยังกล่าวถึงกรณีเรือหลวงสุโขทัยล่ม ว่า เรือหลวงสุโขทัยประสบเหตุเรือมีอาการเอียง เนื่องจากมีคลื่นลมแรง จนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ จนทำให้เครื่องไฟฟ้าดับ และส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน เป็นเหตุให้เรือไม่สามารถควบคุมเรือได้ และทำให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียงในเวลาต่อมา เมื่อกองทัพเรือได้รับแจ้งเหตุจึงได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 ลำ พร้อมชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ
พล.ร.อ.ปกครองกล่าวต่อว่า เรือหลวงกระบุรีได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพล 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง ต่อมาเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพาน 2 ลำ และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี เรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล ต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิคอปเตอร์แบบซีฮอว์ก 2 ลำเดินทางมาถึง พร้อมทั้งปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล 8 แพ ขณะที่เรือหลวงสุโขทัยเริ่มจมจากทางท้ายเรือถึงป้อมปืนหัว และจมลงใต้ผิวน้ำในเวลา 23.30 น. เนื่องจากคลื่นลมแรงทำให้มีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก
ทร.ระดมเรือ-ฮ.ออกค้นหา
ขณะที่พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) เปิดเผยว่า วันนี้คลื่นลมก็ยังแรงอยู่ และเราส่งเรือไปช่วย ทั้งเรือหลวงกระบุรี เรือประจวบคีรีขันธ์ 4 และเรือประจวบคีรีขันธ์ 5 กำลังกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ บริเวณโดยรอบพื้นที่เกิดเหตุ รวมทั้งมีเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบินดอร์เนียร์ ออกบินลาดตระเวน ค้นหากำลังพล ทั้งนี้ก่อนที่เรือจะจมลงไปในทะเลนั้น ยืนยันว่ากำลังพลทั้ง 110 คนอยู่ครบทุกนาย จนกระทั่งเรือจมลงไปแล้ว จึงทำให้กำลังพลกระจัดกระจายกันออกไป คนละทิศละทาง อีกทั้งยังมีลมแรง ทำให้เรือเล็กลงไปช่วยไม่ได้ และยืนยันว่ากำลังพลมีเสื้อชูชีพทุกนาย โดยเรือหลวงกระบุรีได้นำเสื้อชูชีพไปเสริมให้ทั้งหมด
ด้านพล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้เรียกนายทหารระดับสูงประชุมด่วนในเช้าวันเดียวกันนี้ พร้อมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับเจ้าหน้าที่ทหารในจุดเกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางค้นหากำลังพลที่ยังสูญหาย เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ ซึ่งขณะนี้ยังมีอุปสรรคในเรื่องคลื่นลมแรงในอ่าวไทย
ผบ.ทร.เยี่ยมลูกเรือสุโขทัย
จากนั้นเวลา 13.00 น. พล.ร.อ.เชิงชายเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากสัตหีบ จ.ชลบุรี ไปยังท่าเรือน้ำลึกบางสะพาน เพื่อดูความคืบหน้าในการค้นหาลูกเรือรบหลวงสุโขทัยที่สูญหาย โดยพล.ร.ท.วิชัย ล้อชูสกุล ผบ.กองทัพเรือภาคที่ 1 รายงานว่า เมื่อวานที่ผ่านมากระแสลมน่าจะถึง 34 นอต คลื่นสูง 4-5 เมตร ซึ่งหลังจากเรือเอียงความปลอดภัยของลูกเรือทั้งหมด 106 นาย ได้สวมเสื้อชูชีพ ส่วนการเข้าไปช่วยเหลือจะลำบากมาก เพราะเรือที่เข้าไปช่วยเป็นเรือกระบุรี ไม่ใช่เป็นเรือกู้ซ่อม แต่เป็นเรือรบเหมือนเรือหลวงสุโขทัย ค่อนข้างอันตราย แต่ต้องเข้าไปช่วยคนก่อน ซึ่งขณะนี้สามารถช่วยเหลือมาได้แล้ว 75 นาย คนล่าสุดในวันนี้ พบห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 ไมล์ จึงสั่งการให้ชุดประดาน้ำของทหารเรือขึ้นไปกับเฮลิคอปเตอร์ เพื่อค้นหาผู้ที่ลอยคออยู่ในทะเลอ่าวไทย
ต่อมา พล.ร.อ.เชิงชาย พร้อมคณะได้เดินทาง ไปที่โรงพยาบาลบางสะพานเพื่อเยี่ยมกำลังพลที่บาดเจ็บ 15 นาย บาดเจ็บสาหัส 4 นาย โดยผบ.ทร.สั่งการให้นำผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 นาย ส่งต่อทางเฮลิคอปเตอร์ไปที่ โรงพยาบาลพระปกเกล้า และโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ สัตหีบ หลังจากนั้นได้เดินทางไปที่ศูนย์พักคอยเพื่อเยี่ยมกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยและเข้าพักอยู่ภายในศูนย์จำนวน 60 นาย เพื่อให้กำลังใจ
พล.ร.อ.เชิงชายกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คงต้องดูว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ในเบื้องต้นจากการสอบถามผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่ามีน้ำเข้ามาในตัวเรือปริมาณมาก ทางเรือก็พยายามที่จะปั๊มออกตามขั้นตอนในการปฏิบัติ แต่ด้วยสภาพคลื่นลมแรงทำให้น้ำเข้ามามาก ระบบที่สำคัญเช่นระบบเครื่องไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์และเครื่องจักร ได้สูญเสียไปเรื่อยๆ จนกระทั่งสุดท้ายไม่สามารถที่จะ สูบน้ำออกจากเรือได้ทัน จึงไม่สามารถที่จะรักษาเรือไว้ได้ ส่วนการกู้เรือที่จมต้องดูว่ามีสภาพอย่างไร และต้องดูในเรื่องของน้ำมันซึ่งที่อยู่ในเรืออาจจะเกิดเป็นสภาวะแวดล้อมมี ต้องปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญในการนำเรือขึ้นมา ทั้งอุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้ ซึ่งมีเทคนิคการใช้บอลลูนซึ่งสูบน้ำออกจากเรือก่อน และใช้บอลลูนดันให้ลอยขึ้นมาได้อย่างไร
ลูกเรือเผยนาทีคลื่นซัดจม
ที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ท.ภัทราวุฒิ มาราม ลูกเรือเรือหลวงสุโขทัย กล่าวว่า ได้รับบาดเจ็บฟกซ้ำที่ใบหน้าและมีบาดแผลที่แขนทั้งสองข้าง จากเหตุชุลมุนช่วงที่น้ำเข้าเรือจนเรือเอียง คลื่นซัดเรือจนเรือโยนไปมา ทั้งนี้เรือหลวงกระบุรีพยายามจะเข้าให้การช่วยเหลือแต่ไม่สามารถทำได้ เพราะคลื่นแรงจนเรือกระแทกกัน ต้องรอจนเรือจมจึงจะช่วยเหลือลูกเรือได้สำเร็จ คลื่นสูง 4-5 เมตร ตนรับราชการมาเกือบ 2 ปีครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่คลื่นลมแรงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา
พ.จ.อ.ธวัชชัย เตระวัตร กล่าวด้วยว่า ตัวเองบาดเจ็บ นิ้วมือข้างขวาหัก ชาที่แขน เบื้องต้นอาการปลอดภัยแล้ว โดยช่วงเกิดเหตุได้พยายามลงไปปิดประตูผนึกเพื่อไม่ให้น้ำเข้าเรือ ขณะนั้นน้ำท่วมถึงอก เรือใกล้จมแล้ว ตนได้พยายามช่วยเพื่อนได้ 4 คน ขณะเกิดเหตุคลื่นแรงทำให้ต้องกระแทกกับเรือ จนบาดเจ็บดังกล่าว
พลทหาร ธันวา ศรีมงคล อายุ 25 ปี กล่าวว่า ในขณะเกิดเหตุคลื่นลมแรงมาก ตนเองได้ลงเรือยางกับทหารด้วยกันหลายคน และ ต่อมาได้รับความช่วยเหลือจนปลอดภัย ส่วนเพื่อนทหารด้วยกันหลายคนที่อยู่ในทะเล ยังไม่ทราบว่าได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาหรือยัง
ขณะที่พลทหารนายหนึ่งที่รอดชีวิต เปิดเผยนาทีเรือจมว่า ถูกคลื่นซัดจนตนและเพื่อนกระจัดกระจายแยกหายไปกับคลื่น โชคดีที่ตนยังมีเสื้อชูชีพ แต่เพื่อนบางคนไม่มีเสื้อชูชีพ ส่วนบางคนต้องอาศัยเกาะชูชีพของเพื่อนลอยคอเพื่อรอรับการช่วยเหลือ และเห็นเพื่อนจมหายไปต่อหน้าต่อตา
เร่งเยียวยาจิตใจกำลังพล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมแพทย์ทหารเรือได้เข้าดูแลสุขภาพจิตครอบครัวเรือหลวงสุโขทัย โดยได้จัดชุดช่วยเหลือเยียวยาจิตใจผู้ประสบภาวะวิกฤต MCATT กองสุขภาพจิต ปฏิบัติหน้าที่ดูแลครอบครัวกำลังพล เรือหลวงสุโขทัย ที่สโมสรสัญญาบัตรกองเรือยุทธการ เมื่อ 19 ธ.ค.65
ล่าสุด มีรายงานว่า กรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ได้ออกประกาศคำเตือนเพื่อการเดินเรือ ที่ 91/2022 และที่ 92/2022 แจ้งชาวเรือหลีกเลี่ยงพื้นที่ค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยรอบบริเวณ เรือหลวงสุโขทัย อัปปาง ตำบลที่ 11 องศา 00 ลิปดาเหนือ ลอง 99 53 ลิปดาตะวันออก สำหรับรายละเอียดการปฏิบัติเพิ่มเติม สำนักงานโฆษกกองทัพเรือ จะแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
คลื่นลมแรงทำล่มหลายลำ
วันเดียวกัน ศปก.ศรชล.ภาค 1 รายงานว่า จากสภาพอากาศภาคใต้ฝั่งตะวันออกที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่งผลต่อการเดินเรือทุกประเภท โดยในเวลา 03.25 น. ได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากกัปตันเรือ ANUPHUM เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ พิกัดห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 5.7 ไมล์ทะเล หรือประมาณ 9.5 ก.ม. มีเรือ PATARAVARIN 88 ช่วยเหลือลูกเรือ 10 คนที่ลอยคอในทะเลได้แล้ว นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานสถานการณ์เรือเมื่อวานนี้จากศรชล.ภาค 2 ช่วงเช้ามืด เรือประมง ส.นพรัตน์ 4 อับปางพิกัดห่างไป 30 ไมล์ทะเล (56 ก.ม.) ตะวันตกเฉียงใต้จากเกาะแสมสาร ลูกเรือได้รับการช่วยเหลือทั้งหมดกลับเข้าเกาะแสมสารแล้ว
ยังมีรายงานกรณี “เรือสันทัดสมุทร 2” เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ และลูกเรือ 9 คน ขอความช่วยเหลือเรือถูกคลื่นลมจมลงบริเวณพิกัดห่างจากสถานีเรือสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 35 ไมล์ทะเล (65 ก.ม.) ต่อมา ลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือแล้ว ช่วงเวลาใกล้เคียงกันศรชล.ภาค 2 ได้รับแจ้งว่า “เรือทรัพย์สุนันท์” เรือประมงประเภทอวนครอบหมึก พร้อมลูกเรือ 5 คน ขอความช่วยเหลือเรือถูกคลื่นลมกำลังจม บริเวณพิกัดห่างจากปากร่องน้ำสงขลา ระยะ 19 ไมล์ทะเล ประมาณ 35 ก.ม. และเรือบรรทุกน้ำมันชื่อ “ภัทรพัณณ์” ประสบเหตุเกยตื้นบริเวณใกล้ปากร่องน้ำทะเลสาบสงขลา สภาพเรือติดตื้นเฉพาะบริเวณท้ายเรือ ส่วนหัวเรือยังคงลอยอยู่ กระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลา 23.33 น. ร.ล.สุโขทัย อับปางบริเวณพิกัดระยะห่าง 16 ไมล์ทะเล (30 ก.ม.) ทางทิศตะวันออกของ อ.บางสะพาน
